มีภาพเพิ่มเติมด้านล่างนะคะ
เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจว่าสถานการณ์ ณ วันนั้น
ไม่ปลอดภัยต่อสวัสดิภาพของนักศึกษาอย่างไร
-----------
เรื่องสืบเนื่องจากกระทู้ดังที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ทุกท่านให้ความสนใจและสนับสนุนให้เกิดความถูกต้องค่ะ
เมื่อวานนี้ได้รับโทรศัพท์สายตรง จาก ผจก.ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ของบริษัทรถยนต์
เชิญร่วม "พูดคุย" ที่ห้องประชุมเล็กๆ ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในวันนี้
วันนี้ดิฉันกับรุ่นพี่และรุ่นน้องไม่กี่คน เดินทางไปพบตามที่นัดหมาย
ฝั่งบริษัทรถยนต์มีตัวแทน 5 คนรวม ผจก.คนดังกล่าว กับพนักงาน 4 คน ที่ไม่ได้พูดชื่อจริงและตำแหน่ง
ก่อนการ "พูดคุย" ฝั่งบริษัทได้ขอและย้ำว่า ขอไม่ให้เราบันทึกภาพ เสียงและวิดีโอ (มีเหตุผลของเขาเพิ่มเติมด้านล่าง)
ซึ่งแน่นอนว่าทางดิฉัน ไม่ยอม ด้วยเหตุผลที่ว่าหากมีข้อโต้แย้งในข้อเท็จจริงที่หนูสรุปด้านล่าง
ทางดิฉันควรจะมีหลักฐานยืนยันความจริง ซึ่งเราไม่บิดเบือนอยู่แล้ว
ดังนั้นหากเข้าใจตรงกัน ก็คงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เราต้องนำคลิปเสียงมายืนยันความบริสุทธิ์ใจของเรา
โอเค ดังนั้น หากท่านใดมีข้อเคลือบแคลงใจใดๆ กับข้อความด้านล่าง (แบบที่เรามี) ก็ให้ทราบว่าเขาชี้แจงมาเท่านี้นะคะ
เริ่มค่ะ การ "พูดคุย" ในวันนี้ยาว 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งพิจารณาและสรุปใจความได้ดังนี้
1. จุดประสงค์ของการพบกันครั้งนี้ ต้องการทำสองอย่างคือ ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เขามี และให้บุคคลเพิ่มเติมกลุ่มหนึ่ง (ไม่ใช่พนักงาน) มากล่าวคำขอโทษ (เรื่องคำพูดที่สร้างความไม่พอใจเท่านั้น)
2. บุคคลที่มากล่าวขอโทษ 4 คน ฝ่ายหญิง 3 คนอ้างตัวเป็นเจ้าของกลุ่มออแกไนเซอร์ฟรีแลนซ์พาเที่ยว ไม่เกี่ยวกับบริษัทผลิตรถยนต์ ฝ่ายชาย 1 คนเป็นดีเจฟรีแลนซ์ (คนที่ถ่ายรูปคู่กับตำรวจที่นำขบวน) สรุปคือทั้งหมดทั้งมวลที่มาขอโทษ ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทผลิตรถยนต์เลย
3. ตัวแทนบริษัทผลิตรถยนต์ชี้แจงว่า "จากหลักฐานที่มี" และ "พูดกันตามเหตุและผล" พนักงานของบริษัทรถยนต์ "ไม่ มี ส่วน เกี่ยว ข้อง กับ เรื่อง ที่ เกิด ขึ้น" ดังนั้นจึงจะไม่มีการแถลงอะไรใดๆ จากบริษัท
4. มีการนำคลิป CCTV จากร้านขนมหม้อแกง ประมาณ 2 นาที ส่องไปยังบริเวณที่จอดรถ ขยับไม่ได้ บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เห็นแต่รถทัวร์แต่งลาย-ลำโพง การเอาคลิปมาเพื่อแสดงว่า "ได้มีการลงไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว" แต่อธิบายอะไรไม่ได้เพราะไม่มีเสียง
5. การไปเที่ยวครั้งนี้ เป็นการเที่ยวประจำปีของบริษัท ที่ไม่มีทั้งพนักงานระดับสูงหรือ Supervisor เดินทางไปด้วย และไม่มีการเขียนโครงการอย่างเป็นทางการ ว่ากันง่ายๆ พนักงานไปกันเองพร้อมกับออแกไนเซอร์พาเที่ยวเท่านั้น
6. ออแกไนเซอร์ที่แสดงตัววันนี้ทั้ง 3 คน ไม่สามารถบอกตัวตนบริษัทของตนเองได้ กล่าวคือพูดว่า "ไม่มีชื่อบริษัท" แล้วถามว่าจะติดต่องานนำเที่ยวต้องทำอย่างไร ได้คำตอบว่า ก็โทรติดต่อใครก็ได้แล้วก็จะเรียกๆ กันมาทำงานให้เอง ทำให้เห็นวิสัยของการเลือกผู้ดูแลการเดินทางของบริษัทรถยักษ์ใหญ่ที่ดูไม่มีที่มาที่ไป
........
(*เพิ่มเติม : แต่จากการสืบทราบแล้วว่าออแกไนเซอร์ 'พูดไม่จริง' ออแกไนเซอร์ไปในนามองค์กร มีชื่อ มีแฟนเพจ)
........
7. บริษัทชี้แจงว่าเราจะเพิ่มความเข้มงวดของการจัดจ้างคนที่ทำงานส่วนนี้ให้มากขึ้น แต่ยืนยันว่า พนักงานบริษัทผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่เดินทางไป 6 คัน ณ จุดเกิดเหตุ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการดื่มเหล้าบนรถ การใช้วาจาหยาบคายกับกลุ่มนักศึกษา หรือส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งให้ใช้เสียงลำโพงดังๆ เลยยยยยยยยยยยย
8. จากการพูดคุยสั้นๆ ระหว่าง 4 คนที่มาขอโทษ แบ่งเป็นฝ่ายออแกไนเซอร์ กับฝ่ายดีเจ พูดไม่ตรงกันในเรื่องการดื่มเหล้าบนรถ ฝ่ายออแกไนเซอร์บอกว่าดื่มเฉพาะขณะรถจอด แต่ฝ่ายดีเจยอมรับว่ามีการดื่มขณะเดินทางก่อนที่จะมาถึงร้านขนมหม้อแกง
9. เรื่องกรณีเสียงดังลั่นทุ่ง ฝ่ายออแกไนเซอร์อ้างว่าขณะที่เราไปเจรจาที่รถ คิดว่าเสียงได้เบาลงแล้วจึงไม่ได้มาที่รถและฟังการเจรจา และเมื่อเสียงดังขึ้นมาอีก ก็ไม่ได้กลับมาที่รถอีก โดยอ้างว่ามัวแต่ดูแลลูกทัวร์ที่ซื้อของฝากอยู่
10. ดีเจที่เปิดเพลง ยอมรับว่าทั้งดีเจทั้งพนักงานต่างมีส่วนที่ทำให้เกิดเสียงดัง "เป็นความต้องการของลูกค้าด้วย" แต่บริษัทก็ยังยืนกรานความบริสุทธิ์ของพนักงานทุกคน
สรุปค่ะ
วันนี้เรารับช่อดอกไม้ขอโทษจากคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทผลิตรถยนต์เลย และส่วนบริษัทรถยนต์ก็ไม่ได้กล่าวคำขอโทษใดๆ แทนพนักงาน เพราะชี้แจงว่า ลูกทัวร์ที่เป็นพนักงานทั้งหมด 6 คัน ไม่ได้กระทำการใดๆ ที่ผิดต่อเราหรือคนรอบข้างเลย
'ดังนั้นทุกคนที่รอฟังความเคลื่อนไหว ไม่ต้องรอคำแถลงใดๆ จากทางบริษัท เพราะจะไม่มี เพราะบอกว่าพนักงานไม่เกี่ยว'
เราจึงมีความรู้สึก 3 อย่างที่จะบอกคือ
1. รู้สึกผิดหวัง : ผิดหวังที่บริษัทไม่มีคำตอบอะไรให้สังคม
2. รู้สึกไม่พอใจ : ไม่พอใจที่บริษัทบอกเพียงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่เป็นทริปในนามบริษัท
3. รู้สึกไม่ปลอดภัย : ไม่ปลอดภัยที่ได้รับการติดต่อโทรศัพท์มือถือและทราบชื่อจริง โดยได้เหตุผลเพียงว่า "ก็ไลน์ๆ ต่อกันมา"
สวัสดีค่ะ
---------------
เพิ่มเติมเรื่องการอัด-เผยแพร่คลิปจากฝ่ายนั้น
เหตุผลที่เขาขอร้องให้งดบันทึกและขอสงวนการเผยแพร่
เขาบอกว่ากระทู้ความคิดเห็นที่มีคลิปภาพเสียงวิดีโอ จะทำให้เกิดความเห็นทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายที่เห็นต่าง
ทั้งยังแสดงความเป็นห่วงว่าคนที่แชร์ต่อๆ ไปจะเป็นผู้นำพากระทู้ไป ซึ่งอาจจะไปสู่การฟ้องร้องได้ ซึ่งเขาก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ในที่นี้หนูจึงหลีกเลี่ยงไม่ใส่ความคิดเห็นอะไรเลยในวันนี้ (ชื่อบริษัทยังไม่พูดเลยค่ะ) พูดเฉพาะข้อเท็จจริงอย่างเดียว
เพราะนี่ก็เป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัย ขณะที่พวกเราเรียกร้องอะไรก็ตาม เราก็ต้องรักตัวเองด้วยค่ะ
-----------------------
เพิ่มเติมภาพค่ะ
มีผู้เกี่ยวข้อง ออแกไนเซอร์ชุดชมพูมาขอโทษแค่ 3-4 คน
(โกหกว่าไม่มีชื่อบริษัท แต่สืบทราบได้แล้วว่ามี)
คนอื่นที่ยกพวกเดินเข้ามาด้วยกริยาและวาจาหยาบคาย ขับไล่รถนักศึกษา
(เขายืนยันว่าตรวจสอบแล้ว) ไม่ใช่พนักงาน
มีแค่นี้จริงจริ๊ง
จะไม่พูดอะไรมาก มีแต่ภาพบรรยากาศให้ชมค่ะ
ซูมๆๆๆๆๆๆๆ หมวกใบเดียวกับที่แจกตอนลงทะเบียนทริปนี้เลยนะคะ
แต่ยังคงให้คำตอบว่า "พนักงานของเขาไม่เกี่ยว"
((ภาคต่อกระทู้กรุ๊ปทัวร์เสียงดัง)) ความคืบหน้า "ที่ไม่ค่อยจะคืบหน้า" จากการพูดคุยกับกลุ่มตัวแทนบริษัทรถยนต์ชื่อดัง
เพื่อให้ทุกท่านได้เข้าใจว่าสถานการณ์ ณ วันนั้น
ไม่ปลอดภัยต่อสวัสดิภาพของนักศึกษาอย่างไร
-----------
เรื่องสืบเนื่องจากกระทู้ดังที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ
ก่อนอื่นต้องขอบคุณที่ทุกท่านให้ความสนใจและสนับสนุนให้เกิดความถูกต้องค่ะ
เมื่อวานนี้ได้รับโทรศัพท์สายตรง จาก ผจก.ฝ่ายทรัพยากรบุคคล ของบริษัทรถยนต์
เชิญร่วม "พูดคุย" ที่ห้องประชุมเล็กๆ ณ โรงแรมแห่งหนึ่งในวันนี้
วันนี้ดิฉันกับรุ่นพี่และรุ่นน้องไม่กี่คน เดินทางไปพบตามที่นัดหมาย
ฝั่งบริษัทรถยนต์มีตัวแทน 5 คนรวม ผจก.คนดังกล่าว กับพนักงาน 4 คน ที่ไม่ได้พูดชื่อจริงและตำแหน่ง
ก่อนการ "พูดคุย" ฝั่งบริษัทได้ขอและย้ำว่า ขอไม่ให้เราบันทึกภาพ เสียงและวิดีโอ (มีเหตุผลของเขาเพิ่มเติมด้านล่าง)
ซึ่งแน่นอนว่าทางดิฉัน ไม่ยอม ด้วยเหตุผลที่ว่าหากมีข้อโต้แย้งในข้อเท็จจริงที่หนูสรุปด้านล่าง
ทางดิฉันควรจะมีหลักฐานยืนยันความจริง ซึ่งเราไม่บิดเบือนอยู่แล้ว
ดังนั้นหากเข้าใจตรงกัน ก็คงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่เราต้องนำคลิปเสียงมายืนยันความบริสุทธิ์ใจของเรา
โอเค ดังนั้น หากท่านใดมีข้อเคลือบแคลงใจใดๆ กับข้อความด้านล่าง (แบบที่เรามี) ก็ให้ทราบว่าเขาชี้แจงมาเท่านี้นะคะ
เริ่มค่ะ การ "พูดคุย" ในวันนี้ยาว 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งพิจารณาและสรุปใจความได้ดังนี้
1. จุดประสงค์ของการพบกันครั้งนี้ ต้องการทำสองอย่างคือ ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เขามี และให้บุคคลเพิ่มเติมกลุ่มหนึ่ง (ไม่ใช่พนักงาน) มากล่าวคำขอโทษ (เรื่องคำพูดที่สร้างความไม่พอใจเท่านั้น)
2. บุคคลที่มากล่าวขอโทษ 4 คน ฝ่ายหญิง 3 คนอ้างตัวเป็นเจ้าของกลุ่มออแกไนเซอร์ฟรีแลนซ์พาเที่ยว ไม่เกี่ยวกับบริษัทผลิตรถยนต์ ฝ่ายชาย 1 คนเป็นดีเจฟรีแลนซ์ (คนที่ถ่ายรูปคู่กับตำรวจที่นำขบวน) สรุปคือทั้งหมดทั้งมวลที่มาขอโทษ ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทผลิตรถยนต์เลย
3. ตัวแทนบริษัทผลิตรถยนต์ชี้แจงว่า "จากหลักฐานที่มี" และ "พูดกันตามเหตุและผล" พนักงานของบริษัทรถยนต์ "ไม่ มี ส่วน เกี่ยว ข้อง กับ เรื่อง ที่ เกิด ขึ้น" ดังนั้นจึงจะไม่มีการแถลงอะไรใดๆ จากบริษัท
4. มีการนำคลิป CCTV จากร้านขนมหม้อแกง ประมาณ 2 นาที ส่องไปยังบริเวณที่จอดรถ ขยับไม่ได้ บอกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ เห็นแต่รถทัวร์แต่งลาย-ลำโพง การเอาคลิปมาเพื่อแสดงว่า "ได้มีการลงไปตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว" แต่อธิบายอะไรไม่ได้เพราะไม่มีเสียง
5. การไปเที่ยวครั้งนี้ เป็นการเที่ยวประจำปีของบริษัท ที่ไม่มีทั้งพนักงานระดับสูงหรือ Supervisor เดินทางไปด้วย และไม่มีการเขียนโครงการอย่างเป็นทางการ ว่ากันง่ายๆ พนักงานไปกันเองพร้อมกับออแกไนเซอร์พาเที่ยวเท่านั้น
6. ออแกไนเซอร์ที่แสดงตัววันนี้ทั้ง 3 คน ไม่สามารถบอกตัวตนบริษัทของตนเองได้ กล่าวคือพูดว่า "ไม่มีชื่อบริษัท" แล้วถามว่าจะติดต่องานนำเที่ยวต้องทำอย่างไร ได้คำตอบว่า ก็โทรติดต่อใครก็ได้แล้วก็จะเรียกๆ กันมาทำงานให้เอง ทำให้เห็นวิสัยของการเลือกผู้ดูแลการเดินทางของบริษัทรถยักษ์ใหญ่ที่ดูไม่มีที่มาที่ไป
........
(*เพิ่มเติม : แต่จากการสืบทราบแล้วว่าออแกไนเซอร์ 'พูดไม่จริง' ออแกไนเซอร์ไปในนามองค์กร มีชื่อ มีแฟนเพจ)
........
7. บริษัทชี้แจงว่าเราจะเพิ่มความเข้มงวดของการจัดจ้างคนที่ทำงานส่วนนี้ให้มากขึ้น แต่ยืนยันว่า พนักงานบริษัทผลิตรถยนต์ทั้งหมดที่เดินทางไป 6 คัน ณ จุดเกิดเหตุ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องการดื่มเหล้าบนรถ การใช้วาจาหยาบคายกับกลุ่มนักศึกษา หรือส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งให้ใช้เสียงลำโพงดังๆ เลยยยยยยยยยยยย
8. จากการพูดคุยสั้นๆ ระหว่าง 4 คนที่มาขอโทษ แบ่งเป็นฝ่ายออแกไนเซอร์ กับฝ่ายดีเจ พูดไม่ตรงกันในเรื่องการดื่มเหล้าบนรถ ฝ่ายออแกไนเซอร์บอกว่าดื่มเฉพาะขณะรถจอด แต่ฝ่ายดีเจยอมรับว่ามีการดื่มขณะเดินทางก่อนที่จะมาถึงร้านขนมหม้อแกง
9. เรื่องกรณีเสียงดังลั่นทุ่ง ฝ่ายออแกไนเซอร์อ้างว่าขณะที่เราไปเจรจาที่รถ คิดว่าเสียงได้เบาลงแล้วจึงไม่ได้มาที่รถและฟังการเจรจา และเมื่อเสียงดังขึ้นมาอีก ก็ไม่ได้กลับมาที่รถอีก โดยอ้างว่ามัวแต่ดูแลลูกทัวร์ที่ซื้อของฝากอยู่
10. ดีเจที่เปิดเพลง ยอมรับว่าทั้งดีเจทั้งพนักงานต่างมีส่วนที่ทำให้เกิดเสียงดัง "เป็นความต้องการของลูกค้าด้วย" แต่บริษัทก็ยังยืนกรานความบริสุทธิ์ของพนักงานทุกคน
สรุปค่ะ
วันนี้เรารับช่อดอกไม้ขอโทษจากคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริษัทผลิตรถยนต์เลย และส่วนบริษัทรถยนต์ก็ไม่ได้กล่าวคำขอโทษใดๆ แทนพนักงาน เพราะชี้แจงว่า ลูกทัวร์ที่เป็นพนักงานทั้งหมด 6 คัน ไม่ได้กระทำการใดๆ ที่ผิดต่อเราหรือคนรอบข้างเลย
'ดังนั้นทุกคนที่รอฟังความเคลื่อนไหว ไม่ต้องรอคำแถลงใดๆ จากทางบริษัท เพราะจะไม่มี เพราะบอกว่าพนักงานไม่เกี่ยว'
เราจึงมีความรู้สึก 3 อย่างที่จะบอกคือ
1. รู้สึกผิดหวัง : ผิดหวังที่บริษัทไม่มีคำตอบอะไรให้สังคม
2. รู้สึกไม่พอใจ : ไม่พอใจที่บริษัทบอกเพียงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่เป็นทริปในนามบริษัท
3. รู้สึกไม่ปลอดภัย : ไม่ปลอดภัยที่ได้รับการติดต่อโทรศัพท์มือถือและทราบชื่อจริง โดยได้เหตุผลเพียงว่า "ก็ไลน์ๆ ต่อกันมา"
สวัสดีค่ะ
---------------
เพิ่มเติมเรื่องการอัด-เผยแพร่คลิปจากฝ่ายนั้น
เหตุผลที่เขาขอร้องให้งดบันทึกและขอสงวนการเผยแพร่
เขาบอกว่ากระทู้ความคิดเห็นที่มีคลิปภาพเสียงวิดีโอ จะทำให้เกิดความเห็นทั้งฝ่ายสนับสนุนและฝ่ายที่เห็นต่าง
ทั้งยังแสดงความเป็นห่วงว่าคนที่แชร์ต่อๆ ไปจะเป็นผู้นำพากระทู้ไป ซึ่งอาจจะไปสู่การฟ้องร้องได้ ซึ่งเขาก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ในที่นี้หนูจึงหลีกเลี่ยงไม่ใส่ความคิดเห็นอะไรเลยในวันนี้ (ชื่อบริษัทยังไม่พูดเลยค่ะ) พูดเฉพาะข้อเท็จจริงอย่างเดียว
เพราะนี่ก็เป็นเหตุผลเรื่องความปลอดภัย ขณะที่พวกเราเรียกร้องอะไรก็ตาม เราก็ต้องรักตัวเองด้วยค่ะ
-----------------------
เพิ่มเติมภาพค่ะ
มีผู้เกี่ยวข้อง ออแกไนเซอร์ชุดชมพูมาขอโทษแค่ 3-4 คน
(โกหกว่าไม่มีชื่อบริษัท แต่สืบทราบได้แล้วว่ามี)
คนอื่นที่ยกพวกเดินเข้ามาด้วยกริยาและวาจาหยาบคาย ขับไล่รถนักศึกษา
(เขายืนยันว่าตรวจสอบแล้ว) ไม่ใช่พนักงาน
มีแค่นี้จริงจริ๊ง
จะไม่พูดอะไรมาก มีแต่ภาพบรรยากาศให้ชมค่ะ
ซูมๆๆๆๆๆๆๆ หมวกใบเดียวกับที่แจกตอนลงทะเบียนทริปนี้เลยนะคะ
แต่ยังคงให้คำตอบว่า "พนักงานของเขาไม่เกี่ยว"