สวัสดีค่ะชาวพ้นทิป

ตั้งใจไว้นานแล้วว่าอยากจะเอาประสบการณ์การพลัดบ้าน เอ้ยยยไม่ใช่สิ การย้ายมาอยู่ต่างแดน แต่ว่าก็นะ ได้ผลัดวันประกันพรุ่งมานานเป็นแรมปี เอาล่ะวันนี้ตอนนั่งรถมาทำงานก็ตั้งใจแล้วว่าจะเขียนแชร์ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆ ให้ทุกคนได้อ่านกันยามว่างเนอะ
เริ่มต้นเมื่อประมาณปี 2010 ได้มีโอกาสมาย้ายออฟฟิสมาทำงานที่สิงคโปร์ ช่วงนั้นค่อนข้างฉุกลหุก เพราะมีเวลาเตรียมตัวประมาณ 3 สัปดาห์เดือนธันวาปี 2009 ก็แบบว่าทุกคนกำลังอยู่ในช่วงของ holiday mode เตรียมตัวเที่ยวปีใหม่กัน บริษัทมีงานสังสรรค์ ร่าเริง ส่วนเรานั้นก็ไปแมคโครสังสรรค์ทุกอาทิตย์
สิงคโปร์ในความคิดตอนนั้นคือ ค่าครองชีพค่อนข้างสูง ราคาของค่อนข้างแพง พอดีทำงานอยู่สายเรือเลยได้ตู้คอนเทนเนอร์ไว้ขนของ เอาล่ะนะไหนๆก็ไหนๆ ซื้อของยกโหลจากแมคโครดีกว่า ใจนึงก็แอบกลัวว่าจะโดนเก็บภาษีเพิ่มรึเปล่า ถ้าเกิดเค้าสแกนตู้แล้วเจอกระดาษชำระหลายโหล เค้าจะคิดว่าเอามาขายรึเปล่า ไม่เอาก็ได้ เอาไปซักโหลนึงก็พอ
ช่วงนั้นทำลิสต์ของที่จะเอาไป ปวดหัวเอาการ เผื่อว่าใครมีแผนจะย้ายมาทำงานที่สิงคโปร์ แชร์ลิตส์ที่เคยทำไว้ค่ะ กระดาษชำระไม่ต้องนะคะ ปกติเวลาทำลิตส์จะใช้ห้องต่างๆเป็นตัวกำหนด
1. ห้องนอน
- เสื้อผ้า ชั้นใน ถุงเท้า
- ผ้าปูเตียง หมอน ผ้าห่ม (ในกรณีที่ต้องเช่าบ้านอยู่ แต่ถ้าใครไฮโซขึ้นมาหน่อย เช่าโรงแรมหรือ service apartment ก็อาจไม่ต้อง)
- เครื่องสำอางค์ เครื่องประดับ เครื่องประทินผิว
2. ห้องน้ำ
- ผ้าขนหนู
- แปรงสีฟัน ยาสีฟัน (เอาหลอดเล็กๆไป ไว้ใช้ช่วงวันแรกๆ)
- สบู่ แชมพู (ในกรณีที่ใครแพ้ หรือมีแบรนด์ประจำ พวกสมุนไพร มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ)
- ผ้าอนามัย (สำหรับสาวๆ เพราะของที่สิงคโปร์ก็เอามาจากไทย ราคานั้นก็เป็นสองเท่าของบ้านเรา) ถ้าสามารถขนมาได้ก็ทำเถอะค่ะ
3. ห้องครัว
พวกอาหารการกินที่คุณคิดว่าขาดไม่ได้ น้ำพริก เครื่องแกง (ของโลโบนี่ซื้อเหมาโหล) มาม่า (จริงๆ ที่สิงคโปร์ก็มีพวกบะหมี่กึ่งเยอะอยู่ แต่ของไทยหาไม่ค่อยจะมี) แต่ไม่ได้หมายความว่ามาอยู่แล้วจะอดอยากกินมาม่าทุกมื้อนะคะ เอามากินพอให้หายคิดถึงบ้าน
4. อื่นๆ
- รองเท้า (จะให้ดีก็เตรียมส้นแบนมาใส่ เพราะเดินเยอะมากกกกก)
- ร่มพับ หาแบบเบาๆ (จำเป็นมากๆๆๆๆ เพราะสิงคโปร์เป็นเกาะ ฝนตกบ่อยมากๆๆๆ แทบจะทุกวันก็เป็นได้)
- ขวดน้ำ หรือพวกกระติกน้ำเล็กๆ ขนาดพกพา เผื่อมาแรกๆ กรอกน้ำจากบ้านออกไปดื่ม เพราะทำใจกับราคาน้ำเปล่ายังไม่ได้ เพราะประเทศเค้าเป็นเกาะ น้ำจืดค่อนข้างจะจำกัด ราคาน้ำขวด 500 ml ก็ตกอยู่ที่ 1SGD - 1.50SGD แล้วแต่สถานที่ ก็ประมาณ 25-37 บาทไทยโดยประมาณ
พอจัดของไว้เสร็จก็นัดบริษัทขนย้ายมาประเมินว่าจะต้องใช้กล่องกี่ใบ เค้าก็แอบตกใจ เห็นห่อข้าวสาร 5 kg จริงๆข้าวไทยหาได้นะคะ แต่คุณภาพอาจไม่ดีเท่า ส่วนพวกของใช้จำเป็นก็เอาใส่กระเป๋าเดินทางไปก่อน ของที่เหลือใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์กว่าตู้จะมาส่ง
ก็เป็นการเตรียมตัวคร่าวๆก่อนวันเดินทาง อย่าลืมเตรียใจให้ดีด้วยนะคะ วันที่ต้องบินให้พ่อกับแม่ไปส่ง ก่อนเข้าตม เท่านั้นแหละ

ต่อมน้ำตาแตกคร่าาา ร้องไห้อย่างกับจะถูกส่งไปรบ อ๊าย อาย ตมต้องปลอบใจ บอกว่าสิงคโปร์ห่างกันแค่ 2 ชมกว่าเอง (ฮ่าๆ จริงของเค้า)
วันนี้จบไว้แค่นี้ก่อนนะคะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อ ยาวเกินเดี๋ยวเบื่อกันซะก่อน
ตอนต่อไป...ก้าวเท้าเหยียบสิงคโปร์
http://pantip.com/topic/31611345
SG: Goodbye Thailand, Hello Singapore...เจอกันสิงคโปร์
เริ่มต้นเมื่อประมาณปี 2010 ได้มีโอกาสมาย้ายออฟฟิสมาทำงานที่สิงคโปร์ ช่วงนั้นค่อนข้างฉุกลหุก เพราะมีเวลาเตรียมตัวประมาณ 3 สัปดาห์เดือนธันวาปี 2009 ก็แบบว่าทุกคนกำลังอยู่ในช่วงของ holiday mode เตรียมตัวเที่ยวปีใหม่กัน บริษัทมีงานสังสรรค์ ร่าเริง ส่วนเรานั้นก็ไปแมคโครสังสรรค์ทุกอาทิตย์
สิงคโปร์ในความคิดตอนนั้นคือ ค่าครองชีพค่อนข้างสูง ราคาของค่อนข้างแพง พอดีทำงานอยู่สายเรือเลยได้ตู้คอนเทนเนอร์ไว้ขนของ เอาล่ะนะไหนๆก็ไหนๆ ซื้อของยกโหลจากแมคโครดีกว่า ใจนึงก็แอบกลัวว่าจะโดนเก็บภาษีเพิ่มรึเปล่า ถ้าเกิดเค้าสแกนตู้แล้วเจอกระดาษชำระหลายโหล เค้าจะคิดว่าเอามาขายรึเปล่า ไม่เอาก็ได้ เอาไปซักโหลนึงก็พอ
ช่วงนั้นทำลิสต์ของที่จะเอาไป ปวดหัวเอาการ เผื่อว่าใครมีแผนจะย้ายมาทำงานที่สิงคโปร์ แชร์ลิตส์ที่เคยทำไว้ค่ะ กระดาษชำระไม่ต้องนะคะ ปกติเวลาทำลิตส์จะใช้ห้องต่างๆเป็นตัวกำหนด
1. ห้องนอน
- เสื้อผ้า ชั้นใน ถุงเท้า
- ผ้าปูเตียง หมอน ผ้าห่ม (ในกรณีที่ต้องเช่าบ้านอยู่ แต่ถ้าใครไฮโซขึ้นมาหน่อย เช่าโรงแรมหรือ service apartment ก็อาจไม่ต้อง)
- เครื่องสำอางค์ เครื่องประดับ เครื่องประทินผิว
2. ห้องน้ำ
- ผ้าขนหนู
- แปรงสีฟัน ยาสีฟัน (เอาหลอดเล็กๆไป ไว้ใช้ช่วงวันแรกๆ)
- สบู่ แชมพู (ในกรณีที่ใครแพ้ หรือมีแบรนด์ประจำ พวกสมุนไพร มะกรูด มะนาว มะพร้าว ส้มโอ)
- ผ้าอนามัย (สำหรับสาวๆ เพราะของที่สิงคโปร์ก็เอามาจากไทย ราคานั้นก็เป็นสองเท่าของบ้านเรา) ถ้าสามารถขนมาได้ก็ทำเถอะค่ะ
3. ห้องครัว
พวกอาหารการกินที่คุณคิดว่าขาดไม่ได้ น้ำพริก เครื่องแกง (ของโลโบนี่ซื้อเหมาโหล) มาม่า (จริงๆ ที่สิงคโปร์ก็มีพวกบะหมี่กึ่งเยอะอยู่ แต่ของไทยหาไม่ค่อยจะมี) แต่ไม่ได้หมายความว่ามาอยู่แล้วจะอดอยากกินมาม่าทุกมื้อนะคะ เอามากินพอให้หายคิดถึงบ้าน
4. อื่นๆ
- รองเท้า (จะให้ดีก็เตรียมส้นแบนมาใส่ เพราะเดินเยอะมากกกกก)
- ร่มพับ หาแบบเบาๆ (จำเป็นมากๆๆๆๆ เพราะสิงคโปร์เป็นเกาะ ฝนตกบ่อยมากๆๆๆ แทบจะทุกวันก็เป็นได้)
- ขวดน้ำ หรือพวกกระติกน้ำเล็กๆ ขนาดพกพา เผื่อมาแรกๆ กรอกน้ำจากบ้านออกไปดื่ม เพราะทำใจกับราคาน้ำเปล่ายังไม่ได้ เพราะประเทศเค้าเป็นเกาะ น้ำจืดค่อนข้างจะจำกัด ราคาน้ำขวด 500 ml ก็ตกอยู่ที่ 1SGD - 1.50SGD แล้วแต่สถานที่ ก็ประมาณ 25-37 บาทไทยโดยประมาณ
พอจัดของไว้เสร็จก็นัดบริษัทขนย้ายมาประเมินว่าจะต้องใช้กล่องกี่ใบ เค้าก็แอบตกใจ เห็นห่อข้าวสาร 5 kg จริงๆข้าวไทยหาได้นะคะ แต่คุณภาพอาจไม่ดีเท่า ส่วนพวกของใช้จำเป็นก็เอาใส่กระเป๋าเดินทางไปก่อน ของที่เหลือใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์กว่าตู้จะมาส่ง
ก็เป็นการเตรียมตัวคร่าวๆก่อนวันเดินทาง อย่าลืมเตรียใจให้ดีด้วยนะคะ วันที่ต้องบินให้พ่อกับแม่ไปส่ง ก่อนเข้าตม เท่านั้นแหละ
วันนี้จบไว้แค่นี้ก่อนนะคะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังต่อ ยาวเกินเดี๋ยวเบื่อกันซะก่อน
ตอนต่อไป...ก้าวเท้าเหยียบสิงคโปร์
http://pantip.com/topic/31611345