หมดตัวง่ายๆด้วยหุ้น ตอนที่ 1 : ซื้อหุ้นตามข่าว

Introduction
เป็นที่ทราบกันดีว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมามีนักลงทุนหน้าใหม่จำนวนไม่น้อยได้หันมาลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยสิ่งหนึ่งที่สามารถเป็นเครื่องชี้วัดได้ก็คือ จำนวนของหนังสือสอนเล่นหุ้นที่วางขายเต็มร้านหนังสือ เช่น “รวยหุ้นง่ายๆด้วย......” “เล่นหุ้นง่ายๆ ผ่าน.....” “รวยหุ้น …..ไม่ยาก” เป็นต้น การลงทุนในหุ้นอาจจะเป็นสิ่งที่ง่ายดายสำหรับบางคน แต่สำหรับผมแล้ว การทำกำไรจากหุ้นนั้นไม่เคยมีคำว่า “ง่าย”

“หมดตัวง่ายๆด้วยหุ้น” เป็น series ที่ประกอบไปด้วยบทความจำนวนหนึ่งที่เขียนออกมาจากข้อคิดที่ผมตกผลึกได้จากการศึกษาและลงทุนในหุ้นเป็นเวลาเกือบ 2 ปี (อาจดูน้อยสำหรับบางท่าน) เนื้อหาในบทความทั้งหมดไม่มีเจตนาจะกล่าวร้ายใครคนใดคนหนึ่ง โดยวัตถุประสงค์ในการเขียนคือการถ่ายทอดข้อคิดของผมให้นักลงทุนที่มีประสบการณ์น้อยกว่าผม หรือใครก็ตามที่มีความประสงค์จะอ่านครับ ผิดพลาดประการใด รบกวนเพื่อนๆพี่ๆทุกคนช่วยชี้แนะด้วยครับ

หมดตัวง่ายๆด้วยหุ้น ตอนที่ 1 : เล่นหุ้นตามข่าว
สิ่งที่ผมพบเห็นได้บ่อยมากที่สุดอย่างหนึ่งในวงการคน “เล่น” หุ้น ก็คือการเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นอย่างใกล้ชิด เช้าวันหนึ่งผมได้ยินเพื่อนนักเล่นหุ้นที่นั่งข้างๆสบถออกมาว่า “โอ้โฮ มีข่าวอะไรวะ หุ้นลงตั้ง 30 จุด” ประโยคคลาสสิค "มีข่าวอะไรรึเปล่า” นี้ยังสามารถพบเห็นได้ใน Line, Facebook และ Social network ต่างๆ ไม่ว่าดัชนีหุ้นจะขึ้นหรือลง ผมก็มักจะเห็นประโยคนี้ซ้ำไปซ้ำมาทุกๆวันจนติดหู ติดตา

สิ่งที่ตามมาก็คือการหาเหตุมาใส่ผล แสวงหาข่าวอะไรก็ได้ที่ดูสอดคล้องเพื่อมาอธิบายการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้น การกระทำดังกล่าวเหมือนเป็นการ fulfillment อย่างหนึ่งที่อาจทำให้สบายใจขึ้นมาบ้าง หรือทำให้แตกตื่นขึ้นไปอีก แต่ความจริงก็คือ มันอาจจะเป็นการ “โมเม” ไปเองหรือเปล่า เราเชื่อไปเองว่า ตลาดมันขึ้นเพราะอย่างนั้น ตลาดลงเพราะอย่างนี้

ว่ากันตามจริงแล้ว “ข่าว” นั้นมันก็มีทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาทีตราบเท่าที่โลกเรายังไม่หยุดหมุน เหตุการณ์ต่างๆมันก็จะเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ การติดตามข่าวสารนั้นก็เป็นเรื่องที่ดีอย่างแน่นอน แต่ความผิดพลาดที่ผมสังเกตเห็นก็คือมีนักเล่นหุ้นบางท่านที่ sensitive ต่อข่าวสารและตัดสินใจซื้อขายหุ้นโดยอิงกับข่าวสารนั้นๆเพียงอย่างเดียวจนลืมคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ

สิ่งที่ทำให้การเล่นหุ้นตามข่าวเป็นเรื่องยากเย็นที่สุดในโลกอย่างหนึ่งก็คือ เราแทบไม่มีทางรู้เลยว่าข่าวสารที่ประกาศออกมานั้น ตลาดได้รับรู้ไปแล้วหรือยัง เพราะมันไม่มีทางวัดค่าได้ด้วยซ้ำว่าข่าวที่ออกมาจะทำให้ราคาหุ้นเคลื่อนไหวไปเท่าไหร่ กี่% สิ่งที่ทำให้ราคาหุ้นในระยะสั้นมีความเคลื่อนไหวจริงๆแล้วก็คืออารมณ์และ perception ของนักเล่นหุ้นในเวลานั้นๆ เท่านั้นเอง

พูดถึงเรื่อง perception แล้วก็ทำให้ผมนึกถึงสีเทา ผมเชื่อว่าข่าวสาร ไม่ว่าจะเป็นข่าวอะไรก็ตาม มันมักจะมีผลดีและผลเสียมาด้วยกันเสมอ สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณตีความมันยังไง มีผลดีมากกว่าผลเสียหรือเปล่า “คุณ” ที่ผมพูดถึงนี้หมายถึง “นักเล่นหุ้น” ทุกคนที่อยู่ในตลาดหุ้น ณ เวลานั้น ฟังดูแล้วคงจะยาก แต่ที่ยากยิ่งกว่านั้นคือ ไอ้ perception ที่ว่าเนี่ยมันยังแปรผันไปตลอดเวลาเมื่อมีข่าวสารใหม่ๆผุดขึ้นมา ซึ่งข่าวสารก็อย่างที่ว่าล่ะครับ มันออกมาใหม่ตลอด ทั้งข่าวในประเทศ ข่าวต่างประเทศ ตัวเลขเศรษฐกิจ อะไรต่างๆเนี่ยมันประกาศมาทุกวัน เดี๋ยวของไทย ของอเมริกา ของยุโรป นี่ยังไม่นับความจริงที่ว่า ตัวเลขดังกล่าวเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต แล้วในอนาคตล่ะ? แล้วตัวเลขที่เกิดขึ้นแล้วเนี่ย ตลาดรับรู้ไปแล้วรึยัง? มันดีกว่าปีที่แล้ว แต่ดีกว่าที่ economists คาดไว้รึเปล่า ดีกว่าที่ตลาดคาดไว้รึเปล่า? คนที่มีเวลาว่างพอจะไปตามทุกการเคลื่อนไหว ทุกเม็ดแบบนั้น ผมเชื่อว่าคงจะมีแต่ full-time trader เท่านั้น แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเหล่านั้นจะสามารถสร้างกำไรได้เหนือกว่า “นักลงทุน” ถึงแม้จะใช้เวลามากมายไปกับการติดตามข่าวสารนาทีต่อนาทีก็ตาม

เม่าตาสว่าง
ผมขอย้ำว่าการติดตามข่าวสารต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่ด้วยข้อจำกัดทางด้านเวลาแล้ว ผมมักจะเลือกอ่านเจาะลึกเฉพาะการเคลื่อนไหวที่สำคัญของบริษัทที่ผมถือหุ้นอยู่เท่านั้น หรือหากเป็นการเคลื่อนไหวด้านเศรษฐกิจหรือการเมืองผมก็จะมองภาพใหญ่เป็นหลัก ว่าการกระทำของ Fed หรือ นายก หรือ แกนนำประท้วง จะส่งผลอย่างไรในระยะยาว และที่สำคัญ ส่งผลอะไรต่อบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่มากน้อยแค่ไหน ผมหลีกเลี่ยงการซื้อขายหุ้นตามข่าว เพราะมันเหมือนกับการวิ่งไล่อะไรบางอย่างที่ไม่มีวันสิ้นสุด และจะโดน “เจ้ามือ” ที่รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ชิงก้าวนำไปก่อนหนึ่งก้าวเสมอ ในมุมมองของผม การจะ trade ให้ได้กำไรกับคู่แข่งที่ถือไพ่เหนือกว่าเราเป็นเกมที่ไม่น่าเล่น

ว่างๆเข้าไปติดตาม Page การลงทุนของผมกันนะครับ: https://www.facebook.com/JoOfGlueInvestmentTalk

ขอบคุณครับ

บทความโดย วีรวัฒน์ วงศ์เจริญใหญ่ (Jo-oF-GluE)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่