[นิยาย] "ฝ่ามิติยอดยุทธ" ตอนที่ 10

กระทู้สนทนา
ตอนที่10 “สิ้นสำนักมังกรฟ้า” (1/2)

            ณ ทุ่งหญ้าเขียวขจี ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งสำนักเท่าไรนัก กลุ่มชายฉกรรจ์ราวหนึ่งร้อยคน
นั่งรวมกลุ่มกันอยู่  “อาจารย์ส่งศิษย์พี่ฟงหลง สุ่ยหลง หั่วหลง  ออกไปหาข่าว ว่าสงครามนั้น
ลุกลามมาถึงจุดไหนแล้ว  โดยให้ถู่หลงรับหน้าที่ต่างๆ แทนศิษย์พี่   ทั้งเรื่องการฝึกวรยุทธ และวิชาการ
พวกท่านคงจะทราบกันดี”
หลี่หยางเฉินในวัยสิบเจ็ดปีกล่าว
“ข้าคิดว่าพี่น้องทุกท่าน  คงมีความคับข้องใจ ในฐานะของถู่หลงคนปัจจุบัน  พวกท่านต้องการฝึกยุทธ
กับเด็กอ่อนหัดเช่นนี้หรือ”
เขากล่าวเสริมเข้าประเด็น   “ฮือออ..ฮา” เกิดเสียงซุบซิบเกิดขึ้นอย่างเซ็งแซ่
“ดัชนีสี่ฤดู-ฤดูร้อน :เพลิงตะวันผลาญ”   ชายอีกคนที่ยืนข้างๆเอ่ยขึ้น  พร้อมปล่อยปราณอัคคีออกมา
เกิดเสียงฮือฮาขึ้นอีกครั้ง  “ดังที่พี่น้องทุกท่านทราบ  ศิษย์พี่ใหญ่เหอต้าหลง
เสือบสายเลือดของท่านอาจารย์เหอโดยตรง   นอกจากศิษย์พี่ที่ออกไปปฏิบัติภารกิจแล้ว
พวกท่านไม่คิดว่าพี่ต้าหลง เหมาะที่จะรับหน้าที่  ดูแลสำนักมากกว่าหรือ?”
  หยางเฉินกล่าว
“ตอนนี้ท่านพ่อ  เอาแต่หมกตัวอยู่ในตำหนักมังกรขาว  ไม่ค่อยได้ออกมา
นอกจากเวลาสั่งงานสี่มังกร  ทำให้ชื่อเสียงสำนักเราที่เคยขจรไกล  เริ่มถดถอย
วรยุทธที่สอน  ก็มีเพียงหลักพื้นฐานเก้ามังกรไม่มีการพัฒนา  ดูนี่สิ   ปราณอัคคีนี้
นี่คือวิชาใหม่ที่ข้าบัญญัติขึ้นเอง  หลังจากได้ออกไปท่องยุทธภพ ช่วงหนึ่งปีก่อน
พวกท่านอยากจะศึกษาหรือไม่  อยากกลายเป็นจอมยุทธที่มีชื่อเสียงกันหรือเปล่า
หลักการสำนักเราล้าหลังเกินไปแล้ว  หรือพวกท่านต้องการฝึกยุทธเพื่อเก็บเอาไว้กับตัวจนวันตาย
หากไม่เช่นนั้น  คืนนี้ขอให้ทุกท่านมารวมตัวกัน  เพื่อเปลี่ยนแปลงสำนักของเรากันเถิด”
  ต้าหลงกล่าวด้วย
น้ำเสียงที่หนักแน่น...........

                ในคืนนั้น  เหล่าศิษย์ในสำนัก แอบรวมตัวกันเป็นจำนวนแปดในสิบของทั้งหมด “ดี  ขอบคุณพี่น้องทุกท่าน
ที่ให้การสนับสนุนข้า  ต่อไปชื่อเสียงสำนักเรา จะกลับมาเป็นที่เลื่องลืออีกครั้ง
ถู่หลงคนปัจจุบัน แอบฝึกวิชามาร  มันคงใช้วิชานั้นล้างสมองพ่อข้า  ก่อนอื่นเราบุกเข้าไปกำจัดมัน
เมื่อไม่มีถู่หลงแล้ว  พ่อข้าก็จะตาสว่าง”
ต้าหลงอธิบายอย่างง่ายๆ

ในห้องมืดๆของตำหนักมังกรขาว “ฟงหลง  สำนักนี้ก่อตั้งขึ้นเพื่ออะไร?” อาจารย์เหอกล่าว
“เพื่อฝึกวรยุทธไว้ป้องกันตัว  เรียนรู้หลักวิชาการเพิ่มพูนสติปัญญา
และเรียนรู้หลักธรรมชาติเพื่อยกระดับจิตใจครับ”
ฟงหลงที่นั่งคุกเข่าอยู่ตอบ
“ดี  นอกจากถู่หลงแล้ว  เจ้าคือศิษย์ที่ข้าไว้ใจมากที่สุด  เหอฟงหลง...รับคำสั่ง”  อาจารย์เหอกล่าว
“นับจากวันนี้ไป  เจ้าคือเจ้าสำนักมังกรฟ้า  จงรักษาชีวิตไว้และนำตราเจ้าสำนัก  หลบหนีไปให้ไกลที่สุด
ข้าขอวานให้เจ้าก่อตั้งสำนักใหม่  และจงรักษาปนิธาณของสำนักไว้ให้มั่น”
  เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้ารับไว้ไม่ได้หรอกครับ  ข้าคิดว่าต้าหลงที่เป็นสายเลือดท่านอาจารย์  จะเหมาะสมกว่านะครับ”
ฟงหลงแย้งขึ้น “หลังจากได้ลูกแก้วพยากรณ์มา  ข้าก็หมกตัวอยู่แต่ในตำหนัก
ศึกษาศาสตร์พยากรณ์มาตลอด ดังที่เจ้าเห็น  และตอนนี้ข้าสามารถใช้มัน อ่านคำทำนายได้แล้ว
อีกไม่นาน กองทัพจะบุกมาถึงสำนักเรา..”
อาจารย์เหอกล่าวยังไม่ทันจบ
“แต่ท่านอาจาร์เพิ่งส่งหั่วหลงกับสุ่ยหลง  ออกไปนี่ครับ”  ฟงหลงแย้งขึ้นอีก
“ข้าส่งสองคนนั้นออกไปเพราะล่วงรู้ว่า  สองคนนั้นกำลังวางแผน  ร่วมมือกับกองทัพ
ตอนนี้คงรวมตัวกับกองทัพ  และมุ่งหน้ากลับมาที่นี่แล้ว  จึงต้องลอบสั่งการลับ
ให้เจ้ากลับมาที่นี่ก่อน  ฟังนะสำนักมังฟ้าถึงวาระ  ที่ต้องล่มสลายแล้วและที่น่าเศร้า
มันเกิดจากน้ำมือลูกชายข้าเอง”
  อาจารย์เหอกล่าวด้วยความรู้สึกเสียใจ
“ต้าหลงจะทรยศ  ไม่น่าเชื่อเขาเป็นลูกท่าน ทำแบบนี้จะได้ประโยชน์อันใด” ฟงหลงไม่อยากจะเชื่อ
ในสิ่งที่เขาได้ฟัง  “เป็นความผิดข้าเองที่ปล่อยปะ ละเลย  ให้เขาคบเพื่อนผิดๆ
จนพาตัวเองไปสู่ด้านมืด  ลุมหลง มัวเมากับชื่อเสียง ลาภยศ....
ในช่วงที่หมกหม่น อยู่กับการศึกษาพยากรณ์ศาสตร์นั้น หน้าที่ในการรับศิษย์ใหม่นั้น
ข้ายกให้สี่มังกรอย่างพวกเจ้าจัดการ  และในตอนนั้นเอง  ทำให้มีคนของพรรคมาร
เล็ดลอดเข้ามา  เขาคอยปั่นหัวศิษย์ในสำนักรวมถึงต้าหลง  ลุกชายข้า...
คืนนี้พวกเขาจะลงมือ  สำนักเราจะถูกศิษย์ที่หลงผิดเข้าทำลาย  และพรรคมาร
จะอาศัยความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายใน  บุกเข้ามา  ไม่เพียงแค่นั้น  รุ่งสางกองทัพจะมาถึง
นั่นคือจุดจบของสำนัก”
  อาจารย์เหออธิบายยาวเหยียดเพื่อให้ฟงหลง หายแคลงใจ
“เรื่องแค่นั้น  แค่ท่านอาจารย์ออกหน้า  ต่อให้พรรคมารร่วมมือกับกองทัพ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นี่ครับ
ยังมีข้าและถู่หลงให้การสนับสนุนอีก  เรารักษาสำนักไว้ได้นะครับท่านอาจารย์”
ฟงหลงยังคงแย้ง
“จริงของเจ้า  แต่มันก็เป็นเพียงชั่วคราว  หากพ้นจากภัยนี้ไปได้  ก็จะมีภัยที่ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก
ซึ่งครั้งหน้าอาจจะไม่จบเพียงแค่สิ้นสำนัก  แต่อาจรวมถึงชีวิตของเจ้าและคนอื่นๆ
ทุกอย่างมีเกิด  ต้องมีดับ  สำนักเรามีชื่อเสียงมายาวนาน  ถึงแก่เวลาที่มันต้องดับสลายแล้ว
อย่าได้ฝ่าฝืนชะตาเลย   อีกอย่างข้ามีเรื่องที่ใหญ่กว่านั้นต้องทำ......

             ฟงหลงเจ้ารู้หรือเปล่า  ว่าทำไมวรยุทธที่ข้าสอนให้เจ้า  จึงเน้นไปในแนวทางการป้องกัน หลบหลีก
ทั้งที่ปราณวายุนั้น หากใช้โจมตี  ก็สามารถต่อยอดวิชาออกไปได้ อย่างหลากหลายพิศดาร และรับมือยากที่สุด.....
นั่นเพราะ จากนี้เจ้าจะต้องใช้มันรักษาชีวิต  แม้ข้าจะให้เจ้าออกเดินทางตั้งแต่เนิ่นๆ
แต่สุดท้ายเจ้าก็ต้องเสี่ยงชีวิตอยู่ดี  สงครามนี้จะจบลงด้วยชัยชนะของกองทัพ  และจะเข้าสู่กลียุค
ซึ่งข้าไม่สามารถทำนายได้  ว่าเจ้าจะผ่านพ้นเคราะห์ภัยครั้งนี้  ไปได้หรือไม่
ข้าจึงได้แต่ฝากความหวัง  ไว้กับสิ่งที่ข้าเพียรพยายามสอนเจ้า  อย่าได้ลังเล  จงรีบไปเถิด”

อาจารย์เหอกล่าวด้วยเสียงที่นุ่มนวล

“แล้วท่านอาจารย์ล่ะ?”  ฟงหลงถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ข้าบอกเจ้าแล้วว่ามีเรื่องใหญ่กว่านั้นที่ข้าต้องทำ  ข้าจะพาถู่หลงไปหลบในอีกโลกหนึ่ง
เพื่อทำงานชิ้นสำคัญนี้”
อาจารย์กล่าวตอบ อย่างไม่มีท่าทีรำคาญ เพราะเขารู้ว่า
ฟงหลงนั้นเป็นคนละเอียดรอบคอบ ช่างสงสัย ช่างสังเกตุ  และมักไม่ค่อยได้อยู่สำนัก
เพราะเขาต้องออกไปสืบเรื่องราวต่างๆ ตามคำสั่งอาจารย์เสมอ หากมีเขาอยู่  คนของพรรคมาร
คงไม่มีทางเล็ดลอดเข้ามาแฝงตัวได้  “หากอาจารย์ยืนยันเช่นนั้น  ข้าฟงหลง..
จะขอรับตำแหน่งเจ้าสำนัก  และปฏิบัติภารกิจที่อาจารย์มอบหมาย  ให้สำเร็จให้จงได้
ท่านอาจารย์  โปรดรักษาสุขภาพด้วย ข้าขอลา”

ฟงหลงกล่าวทั้งน้ำตา  เขารับป้ายสำนักและหายตัวไปราวกับสายลม......

                เหอถู่หลงนอนอ่านตำราอยู่ในห้องนอน  ทันใดนั้น เขาได้ยินเสียงเอะอะ
แว่วดังมาจากนอกห้อง  เขารีบลุกขึ้นนั่ง และฟังเสียงนั้นอย่างตั้งใจ  ไม่ทันไร  ประตูห้องของเขา
ก็เปิดออกอย่างรวดเร็ว  ศิษย์ในตำหนักที่เขาดูแลอยู่  พุ่งพรวดเข้ามา  “ท่านถู่หลง  รีบหนีไป
ต้าหลงกับหยางเฉินรวบรวมศิษย์ในสำนักเกินกว่าครึ่ง  เข้าโจมตีตำหนัก พวกเขาอ้างว่า
ท่านล้างสมองอาจารย์  ต้องกำจัด”
  ศิษย์คนนั้นกล่าว ด้วยน้ำเสียงหอบเหนื่อยและสีหน้าตื่นตระหนก
คำพูดนั้นทำให้ถู่หลงตกใจมาก  “ศิษพี่ต้าหลง?  เป็นไปไม่ได้!” เขาทวนความคิด
“ตอนนี้พี่น้องเรา  เป็นอย่างไรบ้าง?”  เขารีบถามต่อ ด้วยความเป็นห่วง เหล่าศิษย์ในสำนัก
และที่อยู่ในความดูแลของเขา  “พวกเราตอนนี้ล้มตายไปมาก  เหลืออยู่ไม่ถึงครึ่ง
และกำลังถอยร่นมาที่นี่แล้ว”
ศิษย์คนเดิมกล่าว “ไม่ได้การล่ะ  ศิษย์สำนักที่อยู่ในความดูแลข้า
เพิ่งเริ่มฝึกยุทธเป็นส่วนใหญ่......
เจ้ารีบไปแจ้งอาจารย์  ข้าจะไปรับมือเอง”
  เขาสั่งการและรีบรุดหน้าออกไปทันที

ท่ามกลางความชุลมุลวุ่นวาย ที่เกิดขึ้นในตำหนักมังกรดินนั้น  ศิษย์พรรคมาร
รวมตัวกันอยู่ด้านนอก ราวหนึ่งร้อยคน  เมื่อเห็นสัญญาณ  พวกเขาก็เข้าโจมตีสำนักมังกรฟ้าทันที
ในขณะที่เหล่าศิษย์สำนักมังกรฟ้า ต่อสู้กันอย่างอลหม่าน พรรคมารที่บุกเข้ามาถึง
ก็ลงมือเข่นฆ่า  แม้แต่คนที่ร่วมมือกับต้าหลงและหยางเฉิน
“หยางเฉิน   เหตุใดพรรคมารถึงลงมือ แม้กระทั่งกับคนที่ร่วมมือกับเราล่ะ
ไหนว่าจะร่วมมือกับเรากำจัดถู่หลง  และช่วยรับมือท่านพ่อไง”
ต้าหลงหยุดมือถาม
หยางเฉิน ที่กำลังสนุกกับการเข่นฆ่าพวกเดียวกัน  “โธ่....พี่ใหญ่ พ่อของท่านวรยุทธสูงส่ง เรียกได้ว่า
เป็นยอดคนของยุค   เดี๋ยวพอพ่อของท่านลงมือ  พวกที่ร่วมมือกับเราในตอนนี้  ต้องแปรพักตร์
กลับมาเล่นงานพวกเราแน่นอน”
  หยางเฉินพูดพลางกระแทกฝ่ามือใส่ศิษย์ร่วมสำนัก
คนแล้วคนเล่า  ต้าหลงลงมือต่อด้วยความสงสัย “ฆ่ามันเลยสิท่าน  แค่ทำให้สลบ   มันอาจจะฟื้นขึ้นมา
สร้างความลำบากให้แผนการของพวกเราทีหลังก็ได้นะ”
  หยางเฉินกล่าวเมื่อเห็น  ต้าหลงออมแรง
ไม่กล้าฆ่าศิษย์ร่วมสำนัก เขาตามเข้าไปซ้ำศิษย์คนหนึ่งที่ถูกต้าหลงซัดฝ่ามือใส่ จนกระเด็นออกไป
ปึ่ก! ผัวะ!  เปรี้ยง!  ถู่หลงโดดเข้าขวาง สกัดฝ่ามือของหยางเฉินไว้  และประมือกัน
ก่อนที่หยางเฉินจะถูกซัดด้วยฝ่ามือ กระเด็นถอยหลังไปหลายก้าว

                “ออกมาแล้วเหรอเจ้าเต่าหดหัว”   ต้าหลงเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นถู่หลงปรากฎตัว
แววตาที่เคยสับสนกลับแน่วแน่ขึ้นทันที “หยุดเถอะศิษย์พี่ใหญ่  ต้องมีการเข้าใจผิดกันแน่ๆ
เรามาคุยกันอย่างสันติเถอะ ทำแบบนี้ท่านอาจารย์  พ่อของท่านต้องเสียใจแน่”
ถู่หลงกล่าว
ด้วยน้ำเสียงที่นอบน้อม “อาจารย์เหรอ...พ่อของข้าเหรอ? ตอนนี้คงเป็นพ่อของเจ้าแล้วล่ะมั้ง
เจ้าล้างสมองพ่อข้า จนอะไรๆก็เห็นดีเห็นงามกับเจ้าไปหมด  ในสายตาของท่านพ่อ
มีแต่เจ้าล่ะมั้ง ที่เป็นลูกรัก”
  ต้าหลงกล่าว ในแววตาเริ่มประทุความแค้น
“ไม่จริง ไม่มีทางเป็นเช่นนั้น  ท่านอาจารย์รักและห่วงใยท่านมาก  อาจารย์บอกข้าเสมอ
ว่าให้คอยสนับสนุนศิษย์พี่  ในภายภาคหน้า”
  ถู่หลงค้าน  น้ำเสียงยังเต็มไปด้วยความนอบน้อม
ทำให้ต้าหลงเกิดความสับสนขึ้นในใจ
“คำพูดคำจาแบบนี้สินะ ที่เจ้าใช้ประจบสอพลออาจารย์  จนได้ชื่อถู่หลงมา  ศิษย์พี่อย่าไปหลงกลมัน
ตอนนี้มันกำลังจนตรอก  จึงหาทางทำให้ท่านไขว้เขว  พูดจาหว่านล้อมท่าน
อย่างที่เคยใช้หว่านล้อมอาจารย์”
  หยางเฉินพูดทันที  เมื่อเห็นต้าหลงมีท่าทีสับสน
“ท่านพี่  ตาสว่างสักทีเถอะ  ท่านถูกหยางเฉินหลอกใช้แล้ว  ท่านลองดูสำนักเราตอนนี้สิ
เต็มไปด้วยคนของพรรคมาร  พี่น้องเราล้มตา...”
ถู่หลงพูดยังไม่ทันจบประโยค
“หุบปาก!....เจ้าเรียกใครว่าท่านพี่  ข้าไม่เคยนับเจ้าเป็นญาติ    สำนักเราเหรอ
เจ้าคิดจะฮุบสำนักจริงๆสินะ  เจ้าคนเดียวเท่านั้น  ที่ข้าจะต้องจัดการขั้นเด็ดขาด
เพราะมีเจ้าอยู่ท่านพ่อถึงมองไม่เห็นข้า  เจ้านั่นแหละ  ชั่วร้ายยิ่งกว่าคนของพรรคมารเสียอีก”

(พลังมังกรทองขั้นที่ห้า) ต้าหลงตะคอกอย่างรุนแรง พร้อมกับเกร็งลมปราณ
ปราณสีทองพวยพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ และมีมังกรทองตัวใหญ่ ออกมาหมุนวนรอบตัวเขา
(พลังมังกรดินขั้นที่ห้า) ถู่หลงไม่รอช้า เดินลมปราณมังกรดินเตรียมรับมือ ปราณสีน้ำตาล
พวยพุ่งออกมาและมีมังกรดินตัวใหญ่ออกมาหมุนวนรอบตัว เช่นเดียวกัน….

****จบตอนที่ 10****
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านครับ อมยิ้ม33 อมยิ้ม17

ลิ้งค์ตอนเก่าครับ
http://pantip.com/topic/30445700 ตอนที่ 5
http://pantip.com/topic/30450560 ตอนที่ 6
http://pantip.com/topic/30457171 ตอนที่ 7
http://pantip.com/topic/30466752 ตอนที่ 8
http://pantip.com/topic/30479680 ตอนที่ 9
หรือท่านสามารถติดตามได้ที่นี่  http://my.dek-d.com/zangkuro/writer/view.php?id=50952 อัพเดทถึงตอนที่ 12
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่