ตอนที่5 "นัยน์ตาสีแดงเพลิง"
….ทันทีที่เห็นภาพเบื้องหน้า นัยน์ตาของกอล์ฟก็เบิกโพลงขึ้น เคนบุกเข้ามาด้วยความรวดเร็ว เร็วจนเกินกว่ามนุษย์จะทำได้
ยิ่งกว่านั้น...สีของดวงตาเคนนั้นเป็นสีแดงเพลิงส่องประกาย ราวกับยักษ์
กอล์ฟเห็นหน้าเคนเพียงแวบเดียว เพราะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเหนือมนุษย์นั้น ทำให้เคนหายไปจากสายตาของเขา
เหงื่อกอล์ฟแตกพลั่ก ทั้งที่ตอนนี้เขาหนาวจับขั้วหัวใจ ขนทั่วร่างกายลุกซู่ ปากของเขาสั่นเทา เสียงฟันกระทบกันดัง
กึ่กๆๆๆๆๆ
เขาเอามือที่สั่นหงึ่กๆ หยิบอาวุธชิ้นสุดท้าย ที่เหน็บไว้ข้างเอวตลอดเวลาขึ้นมา และหันมันออกเล็งไปเบื้องหน้าตัวเอง
ไอ้สัญที่กำลังถือกล้องเดินมา จู่ๆก็ล้มลงไปนอนแน่นิ่ง และอีกสองคนที่เหลือก็มีสภาพเช่นเดียวกัน
ก่อนที่จะมีเสียงกล้องตกลงพื้นตามมา
แคร่ก!
สิ้นเสียงกล้องตกกระทบพื้น ปากกระบอกปืนที่กอล์ฟถือซึ่งสั่นไหวอยู่แล้ว ก็สั่นมากขึ้นเป็นระลอกคลื่น
เขาได้เห็นเคนอีกครั้ง เคนยืนจ้องหน้าเขา แววตาดุดันราวเพชรฆาต นิ้วของกอล์ฟขยับเหนี่ยวไก แต่ช้าไปซะแล้ว
เคนที่อยู่ตรงหน้าเขากลับมานั่งอยู่ข้างๆ และใช้มือจับปืนของเขาไว้
“ถ้ากูเห็นอีก ไม่ว่าจะที่ไหน ตาย!” เสียงของเคน กระซิบที่ข้างหูของเขา
น้ำเสียงนั้นเยือกเย็นและสร้างแรงกดดันอย่างมหาศาล
กอล์ฟหันไปสบตากับเคนอีกครั้งในระยะประชิด เมื่อได้สบตาคู่นั้นชัดๆ วิญญาณของเขาก็แทบจะหลุดออกจากร่าง
กอล์ฟตาเหลือกหมดสติล้มฟุบลงไป เคนเห็นสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ตัวเขาเองก็สิ้นสติล้มลงไปอีกคน
ชินเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง เขาตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น หยุดนิ่งไปพักใหญ่ จนได้สติ
เขารีบประคองร่างที่สะบักสะบอมของเขาลุกขึ้น ไปแก้มัดสายป่านและปลา..........
เคนตื่นขึ้น เขามองเพดานของโรงพยาบาลอยู่ครู่หนึ่งก็สะดุ้งเฮือก ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
“ฟื้นแล้วเหรอ” เสียงของชินเอ่ยถาม เคนไม่ตอบ เขาหันซ้ายหันขวามองหาอะไรบางอย่าง
“ป่านกับปลาลงไปซื้อของกิน อีกสักพักถึงกลับ พวกที่จับตัวสองคนนั้นไปก็ถูกตำรวจจับหมดแล้ว คงจะได้อยู่สถานพินิจสักพักใหญ่ ส่วนพี่กอล์ฟตอนนี้คงอยู่ที่โรงพยาบาลบ้าที่ไหนสักแห่ง หลังจากที่เอ็งหมดสติ ป่านกับปลาก็ช่วยกันโทรแจ้งตำรวจ พี่กอล์ฟฟื้นขึ้นมา เห็นเอ็งนอนอยู่ข้างๆ ก็ร้องโวยวายสติแตกแล้ววิ่งหนีไป” ชินอธิบายเหตุการณ์อย่างละเอียด
“ทีนี้เอ็งบอกกับข้าได้มั้ย ว่าเอ็งทำได้ยังไง?” เขายิงคำถามต่อทันที
เคนมองชินด้วยแววตาที่เลื่อนลอย แล้วตอบ
“ข้าทำอะไรเหรอ?”
“อะไรกัน เอ็งจำอะไรไม่เลยเหรอ?” ชินขึ้นเสียงสูง
“อืออ...สุดท้ายที่จำได้คือข้า แอบอยู่ข้างนอก และได้ยินมันพูดว่า....จำไม่ได้แล้วอ่ะ = _ =” เคนพูดและพยายามนึก
“เอ็งเป็นอย่างนี้บ่อยหรือเปล่า?” ชินถามด้วยท่าทีจริงจัง
“น่าจะสองครั้งนะ เพราะข้าจำได้ว่า
ตื่นมาแล้วก็นึกเรื่องก่อนที่จะหลับไม่ออก พ่อกับแม่พาข้าไปหาหมอจิตแพทย์ด้วย เขาแนะนำให้ข้าฝึกสมาธิทำใจให้สงบ”
เคนตอบพลางยกมือเกาหัว
“หมอตรวจเอ็งแล้วบอกว่า ร่างกายเอ็งรับภาระหนักเกินไป ข้าเข้าใจแล้วว่าตอนที่ข้าบอกให้เอ็งชกคืน เอ็งกลับยิ้มออกมาอย่างไม่มีทีท่าแค้นเคือง ทั้งที่ข้าทำกับเอ็งเอาไว้มากขนาดนั้น” ชินพูด
“พูดตอนนี้เอ็งคงเชื่อ ข้ามองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นด้วยล่ะ” เคนพูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ
“เอ็งเห็นผีเหรอ??” ชินรีบถามกลับทันที
“ไม่ใช่ เอ็งเคยดูรายการทีวีป่ะ ที่มีพวกที่บอกว่าคนเรามีออร่าน่ะ
นักวิทยาศาสตร์ก็ทำการวิจัยด้วยนะ มีหลายสี หลายรูปแบบ ข้าก็ไม่แน่ใจหรอกว่าที่ข้าเห็นมันเรียกว่าออร่าหรือเปล่า
แต่เวลาข้าดูข่าวอาชญากรรม ถ้ามีภาพคนร้ายในทีวี ข้าจะเห็นบางอย่างนั้นพวยพุ่งออกมาจากตัวคนร้าย
บางครั้งมันก็พุ่งออกมาจากคนทั่วไป แต่หลังจากนั้น เขาก็จะก่อคดีขึ้น” เคนอธิบายเรื่องเหลือเชื่อออกมายาวเหยียด
“ตอนนั้นที่เราชกกัน...ไม่สิ ที่ข้าโดนเอ็งชกฝ่ายเดียวน่ะ ข้าไม่เห็นสิ่งนั้นออกจากตัวเอ็งเลย ข้าจึงรู้ว่าเอ็งต้องเข้าใจผิดแน่ๆ
แต่เอ็งก็เก่งเกินไป ข้าป้องกันตัวไม่ได้เลย จริงๆ เสาร์-อาทิตย์ข้าไปเรียนเทควันโด้ด้วยนะ ไว้ป้องกันตัวและฝึกจิตใจ”
เคนพูดจบก็หันไปหยิบน้ำที่หัวเตียงมาจิบ
“หึๆ เทควันโดจะสู้มวยไทยได้ยังไงเล่า แต่ถ้าเอ็งเป็นเหมือนตอนที่ไปสตูดิโอ ข้าคงตายแน่ๆเลย” ชินพูดแล้วยิ้มดาดๆ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ข้าทำอะไร?” เคนถามขึ้นด้วยความสนใจ เขาอยากรู้มานานแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาตอนที่ไม่ได้สติ
ชินเล่าเหตุการณ์การให้ฟังทั้งหมดอย่างละเอียด.....
“วันนั้น...ขอบใจมาก ถ้าเอ็งไม่ทิ้งให้ข้าไปส่งปลา ข้าก็คงไม่มีโอกาสได้คบกับปลา” ชินพูดอย่างเขินๆ แก้มเขามีสีแดงเรื่อๆ
“ฮะๆๆ ก็บอกแล้วไง ว่าข้าเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น” เคนหัวเราะชอบใจ
“เป็นยังไง ตอนนั้นไอ้ที่ออกมาจากตัวข้าเป็นยังไง” ชินถามอย่างเลิกลั่ก
“หัวใจสีชมพู..........มันออกมาจากทั้งคู่นั่นแหละ” เคนตอบ..................
.......................
บรรยากาศในร้านกาแฟเริ่มคึกคัก ผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาใช้บริการ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาพักเที่ยง
ของพนักงานและ นักเรียน ละแวกนั้น...
“อ่าว มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ ทำไมเอ็งไม่เล่าให้ข้าฟังวะ? แล้วพวกข้าหายไปไหนล่ะ?” ต้อถามขึ้น
หลังจากฟังเรื่องที่เคนเล่าเกือบชั่วโมง
“ก็วันนั้นมันสอบวันสุดท้าย พวกเอ็งนัดกันไปเที่ยวต่างจังหวัด
ถึงกับหอบกระเป๋าสัมภาระมาสอบด้วยไม่ใช่เรอะ?” เคนตอบแล้วถามต้อกลับเพื่อให้เขานึกออก
“เออว่ะ สอบเสร็จพวกข้าก็ไปเลย....อ่อมิน่าล่ะ เอ็งถึงไม่ผ่านวิชาที่ต้องสอบวันสุดท้ายเลยสักวิชา ปลากับสายป่านอีก รวมหัวกันตกอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าแต่เอ็งเห็นออร่าจริงๆเหรอ? ดูมั่งดิ ของข้าเป็นยังไง?” ต้อถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“พวกเอ็งทั้งสามคนเลยนะ สีขาวธรรมดาอ่ะ คนส่วนมาก จะมีสีขาวบางๆห่อหุ้มอยู่ ของชินดิแปลกดี สีดำปี๋เลย”
เคนตอบในใจก็พลันนึกสงสัย..
“ว่าไงจ๊ะพ่อหนุ่ม หายไปไหนมา รู้หรือเปล่าที่โรงเรียนเขามีเรื่องกัน” เสียงหวานๆลอยมาจากด้านหลังของเคน
พร้อมกับมือที่สัมผัสบ่าของเขาอย่างแผ่วเบา
“พวกต้อเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะ ว่าแต่เธอน่ะ หายไปไหนมา ทางนี้ก็เพิ่งมีเรื่องเหมือนกัน” เคนตอบกลับ
โดยที่ไม่หันหน้าไปมองเจ้าของเสียง เพราะเขาจำได้ว่าเสียงนั้น คือเสียงของสายป่านแฟนของเขาเอง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? เล่าให้ฟังบ้างสิ” สายป่านถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น พร้อมกับดึงเก้าอี้ออกมานั่งร่วงวงสนทนา
“เรื่องมันยาวน่ะ ให้ต้อเล่าให้ฟังก็แล้วกัน เดี๋ยวเราขอไปห้องน้ำหน่อย” เคนพูด พลางเลื่อนเก้าอี้ออก
แล้วลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำด้านในของร้าน
ระหว่างที่เคนทำธุระส่วนตัวอยู่นั้น เขาก็ฉุกคิดถึงใบหน้าของเด็กสาวในความฝันอีกครั้ง ความงามของเธอยังคงติดตรึงอยู่ในหัวใจเขา
เขาอมยิ้มนิดๆก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหายไป เพราะเขาคิดต่อไปจนถึงเรื่องในตอนเช้า คำพูดของซินแสชราที่พบกันที่สวนสาธารณะ
ยังคงก้องอยู่ในหัวของเขาเป็นระยะๆ เคนออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินกลับไปยังโต๊ะที่เพื่อนๆของเขานั่งอยู่
“เอาไง? ไปต่อไหนดี? อีกตั้งครึ่งวัน” ปอเอ่ยถามเมื่อเห็นเคนกลับมาถึงโต๊ะแล้ว
“พวกเอ็งไปกันเถอะ ฝากดูแลป่านด้วยนะ วันนี้ข้าอยากกลับบ้านแล้วว่ะ ปวดหัวนิดหน่อย” เคนพูดขึ้น
พร้อมยกมือขึ้นกุมขมับ
“เออ..ว่าจะถามแต่เช้าแล้ว หน้าผากเอ็งเป็นอะไรวะ?” ปอถามขึ้น
เมื่อเขาสังเกตเห็นพลาสเตอร์อันใหญ่ แปะอยู่ที่หน้าผากของเคนอีกครั้ง
“เอ่ออ...เป็นสิวน่ะ เม็ดใหญ่ด้วย
เมื่อคืนอ่านหนังสือดึกน่ะ จะเอามาสอบวันนี้เนี่ยแหละ อ่านเก้อเลย ^_^” เคนตอบและยิ้มแห้งๆ
“เจอกันพรุ่งนี้” ทุกคนกล่าวลากัน พร้อมโบกไม้โบกมือ แล้วก็แยกกันไป ระหว่างที่เดินอยู่นั้น
สายป่านก็รู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง เธอหยุดเดินและหันหลังกลับไปมองเคน ที่กำลังก้าวขึ้นรถเมล์จากไป
“มีอะไรเหรอป่าน?” เมย์หันมาถาม เมื่อเห็นเพื่อนหยุดเดิน “ไม่มีอะไรหรอก ป่านคงคิดไปเอง...ไปต่อเถอะ”
ป่านยิ้มตอบไปอย่างจืดๆ เธอรู้สึกว่า หลังจากวันนี้จะไม่ได้พบกับเคนอีกแล้ว....
****จบตอนที่5****
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านครับ
ลิ้งค์ตอนเก่าครับ
http://pantip.com/topic/30427027 ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/30430749 ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/30433929 ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/30443061 ตอนที่ 4
หรือท่านสามารถติดตามได้ที่นี่
http://my.dek-d.com/zangkuro/writer/view.php?id=50952 อัพเดทถึงตอนที่ 8
[นิยาย] "ฝ่ามิติยอดยุทธ" ตอนที่ 5
….ทันทีที่เห็นภาพเบื้องหน้า นัยน์ตาของกอล์ฟก็เบิกโพลงขึ้น เคนบุกเข้ามาด้วยความรวดเร็ว เร็วจนเกินกว่ามนุษย์จะทำได้
ยิ่งกว่านั้น...สีของดวงตาเคนนั้นเป็นสีแดงเพลิงส่องประกาย ราวกับยักษ์
กอล์ฟเห็นหน้าเคนเพียงแวบเดียว เพราะการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเหนือมนุษย์นั้น ทำให้เคนหายไปจากสายตาของเขา
เหงื่อกอล์ฟแตกพลั่ก ทั้งที่ตอนนี้เขาหนาวจับขั้วหัวใจ ขนทั่วร่างกายลุกซู่ ปากของเขาสั่นเทา เสียงฟันกระทบกันดัง กึ่กๆๆๆๆๆ
เขาเอามือที่สั่นหงึ่กๆ หยิบอาวุธชิ้นสุดท้าย ที่เหน็บไว้ข้างเอวตลอดเวลาขึ้นมา และหันมันออกเล็งไปเบื้องหน้าตัวเอง
ไอ้สัญที่กำลังถือกล้องเดินมา จู่ๆก็ล้มลงไปนอนแน่นิ่ง และอีกสองคนที่เหลือก็มีสภาพเช่นเดียวกัน
ก่อนที่จะมีเสียงกล้องตกลงพื้นตามมา แคร่ก!
สิ้นเสียงกล้องตกกระทบพื้น ปากกระบอกปืนที่กอล์ฟถือซึ่งสั่นไหวอยู่แล้ว ก็สั่นมากขึ้นเป็นระลอกคลื่น
เขาได้เห็นเคนอีกครั้ง เคนยืนจ้องหน้าเขา แววตาดุดันราวเพชรฆาต นิ้วของกอล์ฟขยับเหนี่ยวไก แต่ช้าไปซะแล้ว
เคนที่อยู่ตรงหน้าเขากลับมานั่งอยู่ข้างๆ และใช้มือจับปืนของเขาไว้
“ถ้ากูเห็นอีก ไม่ว่าจะที่ไหน ตาย!” เสียงของเคน กระซิบที่ข้างหูของเขา
น้ำเสียงนั้นเยือกเย็นและสร้างแรงกดดันอย่างมหาศาล
กอล์ฟหันไปสบตากับเคนอีกครั้งในระยะประชิด เมื่อได้สบตาคู่นั้นชัดๆ วิญญาณของเขาก็แทบจะหลุดออกจากร่าง
กอล์ฟตาเหลือกหมดสติล้มฟุบลงไป เคนเห็นสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ตัวเขาเองก็สิ้นสติล้มลงไปอีกคน
ชินเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง เขาตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น หยุดนิ่งไปพักใหญ่ จนได้สติ
เขารีบประคองร่างที่สะบักสะบอมของเขาลุกขึ้น ไปแก้มัดสายป่านและปลา..........
เคนตื่นขึ้น เขามองเพดานของโรงพยาบาลอยู่ครู่หนึ่งก็สะดุ้งเฮือก ลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว
“ฟื้นแล้วเหรอ” เสียงของชินเอ่ยถาม เคนไม่ตอบ เขาหันซ้ายหันขวามองหาอะไรบางอย่าง
“ป่านกับปลาลงไปซื้อของกิน อีกสักพักถึงกลับ พวกที่จับตัวสองคนนั้นไปก็ถูกตำรวจจับหมดแล้ว คงจะได้อยู่สถานพินิจสักพักใหญ่ ส่วนพี่กอล์ฟตอนนี้คงอยู่ที่โรงพยาบาลบ้าที่ไหนสักแห่ง หลังจากที่เอ็งหมดสติ ป่านกับปลาก็ช่วยกันโทรแจ้งตำรวจ พี่กอล์ฟฟื้นขึ้นมา เห็นเอ็งนอนอยู่ข้างๆ ก็ร้องโวยวายสติแตกแล้ววิ่งหนีไป” ชินอธิบายเหตุการณ์อย่างละเอียด
“ทีนี้เอ็งบอกกับข้าได้มั้ย ว่าเอ็งทำได้ยังไง?” เขายิงคำถามต่อทันที
เคนมองชินด้วยแววตาที่เลื่อนลอย แล้วตอบ “ข้าทำอะไรเหรอ?”
“อะไรกัน เอ็งจำอะไรไม่เลยเหรอ?” ชินขึ้นเสียงสูง
“อืออ...สุดท้ายที่จำได้คือข้า แอบอยู่ข้างนอก และได้ยินมันพูดว่า....จำไม่ได้แล้วอ่ะ = _ =” เคนพูดและพยายามนึก
“เอ็งเป็นอย่างนี้บ่อยหรือเปล่า?” ชินถามด้วยท่าทีจริงจัง “น่าจะสองครั้งนะ เพราะข้าจำได้ว่า
ตื่นมาแล้วก็นึกเรื่องก่อนที่จะหลับไม่ออก พ่อกับแม่พาข้าไปหาหมอจิตแพทย์ด้วย เขาแนะนำให้ข้าฝึกสมาธิทำใจให้สงบ”
เคนตอบพลางยกมือเกาหัว
“หมอตรวจเอ็งแล้วบอกว่า ร่างกายเอ็งรับภาระหนักเกินไป ข้าเข้าใจแล้วว่าตอนที่ข้าบอกให้เอ็งชกคืน เอ็งกลับยิ้มออกมาอย่างไม่มีทีท่าแค้นเคือง ทั้งที่ข้าทำกับเอ็งเอาไว้มากขนาดนั้น” ชินพูด
“พูดตอนนี้เอ็งคงเชื่อ ข้ามองเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็นด้วยล่ะ” เคนพูดด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ
“เอ็งเห็นผีเหรอ??” ชินรีบถามกลับทันที “ไม่ใช่ เอ็งเคยดูรายการทีวีป่ะ ที่มีพวกที่บอกว่าคนเรามีออร่าน่ะ
นักวิทยาศาสตร์ก็ทำการวิจัยด้วยนะ มีหลายสี หลายรูปแบบ ข้าก็ไม่แน่ใจหรอกว่าที่ข้าเห็นมันเรียกว่าออร่าหรือเปล่า
แต่เวลาข้าดูข่าวอาชญากรรม ถ้ามีภาพคนร้ายในทีวี ข้าจะเห็นบางอย่างนั้นพวยพุ่งออกมาจากตัวคนร้าย
บางครั้งมันก็พุ่งออกมาจากคนทั่วไป แต่หลังจากนั้น เขาก็จะก่อคดีขึ้น” เคนอธิบายเรื่องเหลือเชื่อออกมายาวเหยียด
“ตอนนั้นที่เราชกกัน...ไม่สิ ที่ข้าโดนเอ็งชกฝ่ายเดียวน่ะ ข้าไม่เห็นสิ่งนั้นออกจากตัวเอ็งเลย ข้าจึงรู้ว่าเอ็งต้องเข้าใจผิดแน่ๆ
แต่เอ็งก็เก่งเกินไป ข้าป้องกันตัวไม่ได้เลย จริงๆ เสาร์-อาทิตย์ข้าไปเรียนเทควันโด้ด้วยนะ ไว้ป้องกันตัวและฝึกจิตใจ”
เคนพูดจบก็หันไปหยิบน้ำที่หัวเตียงมาจิบ
“หึๆ เทควันโดจะสู้มวยไทยได้ยังไงเล่า แต่ถ้าเอ็งเป็นเหมือนตอนที่ไปสตูดิโอ ข้าคงตายแน่ๆเลย” ชินพูดแล้วยิ้มดาดๆ
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ข้าทำอะไร?” เคนถามขึ้นด้วยความสนใจ เขาอยากรู้มานานแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาตอนที่ไม่ได้สติ
ชินเล่าเหตุการณ์การให้ฟังทั้งหมดอย่างละเอียด.....
“วันนั้น...ขอบใจมาก ถ้าเอ็งไม่ทิ้งให้ข้าไปส่งปลา ข้าก็คงไม่มีโอกาสได้คบกับปลา” ชินพูดอย่างเขินๆ แก้มเขามีสีแดงเรื่อๆ
“ฮะๆๆ ก็บอกแล้วไง ว่าข้าเห็นสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น” เคนหัวเราะชอบใจ
“เป็นยังไง ตอนนั้นไอ้ที่ออกมาจากตัวข้าเป็นยังไง” ชินถามอย่างเลิกลั่ก
“หัวใจสีชมพู..........มันออกมาจากทั้งคู่นั่นแหละ” เคนตอบ..................
.......................
บรรยากาศในร้านกาแฟเริ่มคึกคัก ผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาใช้บริการ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาพักเที่ยง
ของพนักงานและ นักเรียน ละแวกนั้น...
“อ่าว มีเรื่องแบบนั้นด้วยเหรอ ทำไมเอ็งไม่เล่าให้ข้าฟังวะ? แล้วพวกข้าหายไปไหนล่ะ?” ต้อถามขึ้น
หลังจากฟังเรื่องที่เคนเล่าเกือบชั่วโมง “ก็วันนั้นมันสอบวันสุดท้าย พวกเอ็งนัดกันไปเที่ยวต่างจังหวัด
ถึงกับหอบกระเป๋าสัมภาระมาสอบด้วยไม่ใช่เรอะ?” เคนตอบแล้วถามต้อกลับเพื่อให้เขานึกออก
“เออว่ะ สอบเสร็จพวกข้าก็ไปเลย....อ่อมิน่าล่ะ เอ็งถึงไม่ผ่านวิชาที่ต้องสอบวันสุดท้ายเลยสักวิชา ปลากับสายป่านอีก รวมหัวกันตกอย่างไม่น่าเชื่อ ว่าแต่เอ็งเห็นออร่าจริงๆเหรอ? ดูมั่งดิ ของข้าเป็นยังไง?” ต้อถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“พวกเอ็งทั้งสามคนเลยนะ สีขาวธรรมดาอ่ะ คนส่วนมาก จะมีสีขาวบางๆห่อหุ้มอยู่ ของชินดิแปลกดี สีดำปี๋เลย”
เคนตอบในใจก็พลันนึกสงสัย..
“ว่าไงจ๊ะพ่อหนุ่ม หายไปไหนมา รู้หรือเปล่าที่โรงเรียนเขามีเรื่องกัน” เสียงหวานๆลอยมาจากด้านหลังของเคน
พร้อมกับมือที่สัมผัสบ่าของเขาอย่างแผ่วเบา
“พวกต้อเล่าให้ฟังหมดแล้วล่ะ ว่าแต่เธอน่ะ หายไปไหนมา ทางนี้ก็เพิ่งมีเรื่องเหมือนกัน” เคนตอบกลับ
โดยที่ไม่หันหน้าไปมองเจ้าของเสียง เพราะเขาจำได้ว่าเสียงนั้น คือเสียงของสายป่านแฟนของเขาเอง
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ? เล่าให้ฟังบ้างสิ” สายป่านถามด้วยน้ำเสียงอยากรู้อยากเห็น พร้อมกับดึงเก้าอี้ออกมานั่งร่วงวงสนทนา
“เรื่องมันยาวน่ะ ให้ต้อเล่าให้ฟังก็แล้วกัน เดี๋ยวเราขอไปห้องน้ำหน่อย” เคนพูด พลางเลื่อนเก้าอี้ออก
แล้วลุกขึ้นเดินไปทางห้องน้ำด้านในของร้าน
ระหว่างที่เคนทำธุระส่วนตัวอยู่นั้น เขาก็ฉุกคิดถึงใบหน้าของเด็กสาวในความฝันอีกครั้ง ความงามของเธอยังคงติดตรึงอยู่ในหัวใจเขา
เขาอมยิ้มนิดๆก่อนที่รอยยิ้มนั้นจะหายไป เพราะเขาคิดต่อไปจนถึงเรื่องในตอนเช้า คำพูดของซินแสชราที่พบกันที่สวนสาธารณะ
ยังคงก้องอยู่ในหัวของเขาเป็นระยะๆ เคนออกมาจากห้องน้ำ แล้วเดินกลับไปยังโต๊ะที่เพื่อนๆของเขานั่งอยู่
“เอาไง? ไปต่อไหนดี? อีกตั้งครึ่งวัน” ปอเอ่ยถามเมื่อเห็นเคนกลับมาถึงโต๊ะแล้ว
“พวกเอ็งไปกันเถอะ ฝากดูแลป่านด้วยนะ วันนี้ข้าอยากกลับบ้านแล้วว่ะ ปวดหัวนิดหน่อย” เคนพูดขึ้น
พร้อมยกมือขึ้นกุมขมับ “เออ..ว่าจะถามแต่เช้าแล้ว หน้าผากเอ็งเป็นอะไรวะ?” ปอถามขึ้น
เมื่อเขาสังเกตเห็นพลาสเตอร์อันใหญ่ แปะอยู่ที่หน้าผากของเคนอีกครั้ง “เอ่ออ...เป็นสิวน่ะ เม็ดใหญ่ด้วย
เมื่อคืนอ่านหนังสือดึกน่ะ จะเอามาสอบวันนี้เนี่ยแหละ อ่านเก้อเลย ^_^” เคนตอบและยิ้มแห้งๆ
“เจอกันพรุ่งนี้” ทุกคนกล่าวลากัน พร้อมโบกไม้โบกมือ แล้วก็แยกกันไป ระหว่างที่เดินอยู่นั้น
สายป่านก็รู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่าง เธอหยุดเดินและหันหลังกลับไปมองเคน ที่กำลังก้าวขึ้นรถเมล์จากไป
“มีอะไรเหรอป่าน?” เมย์หันมาถาม เมื่อเห็นเพื่อนหยุดเดิน “ไม่มีอะไรหรอก ป่านคงคิดไปเอง...ไปต่อเถอะ”
ป่านยิ้มตอบไปอย่างจืดๆ เธอรู้สึกว่า หลังจากวันนี้จะไม่ได้พบกับเคนอีกแล้ว....
****จบตอนที่5****
ขอขอบพระคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านครับ
ลิ้งค์ตอนเก่าครับ
http://pantip.com/topic/30427027 ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/30430749 ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/30433929 ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/30443061 ตอนที่ 4
หรือท่านสามารถติดตามได้ที่นี่ http://my.dek-d.com/zangkuro/writer/view.php?id=50952 อัพเดทถึงตอนที่ 8