
คงไม่มีใครคาดคิด ว่าในหนึ่งปีจะมีมากกว่า 365 วัน เพียงรดาเองก็เช่นกัน ในวันที่เธอต้องการ "สารภาพรัก"
กับคนที่เธอพยายามผลักไส คนที่เห็นและรักเธอเพียงเพราะเธอเป็นเงาของใครอีกคนมาโดยตลอด
"เธอไม่ได้ความจำเสื่อม" "เธอไม่ได้แกล้งที่จะลืมเพื่อให้ชายคนนั้นต้องเจ็บช้ำ"
แต่เธอหาสาเหตุไม่ได้ว่า "เพราะอะไร" ภีร์ชิต นักแสดงที่มีชื่อเสียง ถึงได้รู้สึก "รัก" เธอมากมายขนาดนี้
"เธอจะสวมรอยเป็นใครคนนั้นของเขา... ดีไหม?"
และแล้วในวันที่เธอพร้อมให้ "หัวใจ" มาก่อน "เหตุผล"
กับเป็นวันที่อุบัติเหตุพราก "เธอ" ไปจาก "เขา" ในโลก "ปัจจุบัน" ตลอดกาล
แต่ "โชคชะตา" ไม่ได้ "โหดร้าย"
แค่พา "เธอ" ไปพบว่า "เขารักเธอ" เพราะเหตุใด?
เพียงรดา มี "โอกาสใช้ชีวิตในจุดเดิมอีกครั้ง 2 ปี"
กับ "เขา" ที่มีท่าที ห่างเหิน เย็นชา และ กวนประสาท ไม่มีความรู้สึก "รัก" เธอ แม้แต่น้อย
จาก "เขา" ที่เป็นฝ่ายเฝ้าตามหาเธอ กลับกลายเป็นเธอ "ที่ต้องเฝ้าตามเขา"
เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ?
ภีร์ชิตต้องเจ็บซ้ำสองหรือไม่ ?
เพียงรดาจะกลับมาโลกปัจุบันได้อีกครั้ง หรือ ร่างกายต้องสูญสลาย เพียงเพื่อต้องการปกป้องคนที่เธอรัก?
ลองติดตามดูนะค่ะ ^_^

ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/30471581
ตอนที่ 2
http://pantip.com/topic/30475331
ตอนที่ 3
http://pantip.com/topic/30479031
ตอนที่ 4
ตั้งแต่ก้าวแรกที่วิจิตราเดินเข้าที่กองถ่าย เธอแสดงความเป็นเจ้าของภีร์ชิตอย่างเต็มที่
“ถ้ายัยเจนมาอยู่ที่นี่ คงเมื่อเรื่องเม้าท์กันทั้วออฟฟิคแน่” เพียงรดาบ่นกับตัวเอง ก่อนจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเบื้องหลังต่างๆ
“มาอยู่ที่นี่เอง” อัศนัยทักเพียงรดา
“คุณอัศนัย”
“เรียกอาร์ทก็ได้ดูไม่ห่างเหินดี”
“ค่ะคุณอาร์ท”
“วันนี้ขาคุณเป็นไงบ้าง”
“ดีขึ้นมากกว่าเดิม เดินได้มากกว่าเก่า” เพียงรดาตอบ
อัศนัยมองหน้าเพียงรดาใกล้ๆ
“คุณหน้าเหมือนใครบางคน แต่เหมือนใครน้า ผมนึกไม่ออก” อัศนัยทำหน้าครุ่นคิด
“ฉันหน้าโหลค่ะ คนทักผิดเยอะมาก” เพียงรดาตอบก่อนจะเลี่ยงไปทำงานอีกทาง แต่อัศนัยยังคงเดินตามเธออยู่
ภีร์ชิตที่นั่งอยู่กับวิจิตราเริ่มไม่พอใจ วิจิตราเห็นตาสายตาของภีร์ชิต ทำให้เธอรู้ว่าภีร์ชิตกำลังให้ความสนใจใครคนหนี่งอยู่
เธอมองหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตาริษยา จนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่
“คุณจะเดินตามฉันทำไม คุณอาร์ท”
“ก็คุณไม่หยุดเดินสักที”
“ทำไมค่ะ” เพียงรดาหันมาเผชิญหน้ากับอัศนัยตรงๆ
“ผมแต่จะเอายานี้ให้คุณ เมื่อวานผมไปที่คลินิกมา หมอบอกว่ายาตัวนี้ดี” อัศนัยส่งให้ เพียงรดารับไว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณ
เพียงรดาถูกทีมงานเรียกไปถ่ายรูปภีร์ชิตและวิจิตรา วิจิตราทำตัวใกล้ชิดภีร์ชิตอย่างเต็มที่ เมื่อวิจิตรามองเพียงรดาจนแน่ชัด
ทำให้เธอแน่ใจว่า คนที่กำลังถ่ายรูปนั้นคือคนที่เธอรู้จัก แต่เธอพยายามเก็บอาการไว้ไม่แสดงออกเพราะจะเสียภาพลักษณ์นางเอกของเธอ
เพียงรดาทำงานไปตามปกติ เธอเหมือนหายใจไม่ออกทุกครั้งที่เห็นภีร์ชิตและวิจิตราอยู่ใกล้กัน เธออย่างจะเดินหนีไปไกลๆ
แต่เพราะหน้าที่ทำให้เธอต้องยืนอยู่ตรงนั้น
“เหมาะสมกันเนอะ” อัศนัยกระซิบบอกเพียงรดา
ภีร์ชิตเห็นอย่างนั้นถึงกับมองตาขวาง
“ค่ะเหมาะสมกันดี สมใจแฟนคลับหละคราวนี้ถ้ารู้ว่าสองคนเป็นแฟนกันจริงๆ”
“แต่ผู้จัดการให้ปิดข่าวอยู่นะ อยากให้เป็นแบบคู่รักคู่ลุ้นแบบนี้ เรตติ้งจะได้ดี” อัศนัยเล่าให้เพียงรดาฟัง
“อย่างนั้นหรอค่ะ มิน่าหละ ถึงต่างไม่ยอมรับจากปากทั้งคู่สักที แต่การกระทำเนี่ยสวนทางกับข่าวมากเลยนะค่ะ”
“วงการมายา ก็อย่างนี้หละ อะไรที่ว่าจริงอาจจะไม่จริงก็ได้ ส่วนอะไรที่ว่าใช่ก็กับไม่ใช่ซะอย่างนั้น” อัศนัยพูดไปขำไปอย่างปลงๆ
“แล้วคุณอาร์ทหละค่ะ ทำไมถึงยังไม่เปิดตัวสักที”
“หาอยู่ครับ อาจจะมองหาแถวๆนี้ ถ้าเกิดคนแถวนี้ว่าง” อัศนัยมองตาเพียงรดาอย่างสื่อความหมาย
“มันคงไม่หากันเจอง่ายๆขนาดนั้นหรอกมั้งค่ะ ไอ้ที่เรียกว่าความรักเนี่ย” เพียงรดาแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“อู้งานอยู่หรือไง” ภีร์ชิตเดินเข้ามาแทรกกลาง เพียงรดาหุบยิ้มลงทันที
“ซีเรียสจังวะ ภีร์ พักหน่อยก็ได้” อัศนัยพูดขึ้น ภีร์ชิตมองหน้าอัศนัยแวบหนึ่งก่อนที่จะหันมาทางเพียงรดา
“เธอลืมไปแล้วหรอ เธอได้งานนี้เพราะใคร ถ้าเธอทำงานไม่ดี ฉันอาจจะโดนตำหนิได้”
“เหวี่ยง” อัศนัยพูดแหย่
“ไม่ขำวะ อาร์ท” ภีร์ชิตยังคงมองหน้าเพียงรดาอยู่
“ฉันขอโทษค่ะคุณภีร์ชิต ฉันจะตั้งใจทำงานให้มากกว่านี้” เพียงรดาพูดจบก็เดินเลี่ยงไปภาพรูปวิจิตราอย่างน้อยใจเป็นที่สุด
เพียงรดาถ่ายรูปของวิจิตราได้สักพักเห็นว่าเพียงพอแล้วจึงหยุดถ่าย เธอเดินเข้ามาเก็บกล้องที่ห้องโดยไม่ได้สังเกตว่า
วิจิตราเกินตามเข้ามาด้วย วิจิตรามมองเพียงรดาอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะเดินไปล๊อคประตูห้อง หล่อนหันกลับมามองเพียงรดาด้วย
ท่าทีที่แข้งกร้าวขึ้นจนเพียงรดารู้สึกหวั่นใจ
“เธอกลับมาที่นี่ทำไม”
“คุณหมายถึงอะไร ทำไมฉันถึงมาที่นี่ไม่ได้”
“อย่ามาทำตีหน้าซื่อใส่ฉันนะ เพียงรดา ในเมื่อเราตกลงกันแล้ว เธอกลับมาวุ่นวายอีกทำไม”
“ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด ฉันไปตกลงอะไรกับคุณไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เธอจะบอกว่าจำไม่ได้ แล้วกลืนน้ำลายตัวเองอย่างนั้นหรอ” วิจิตราเริ่มโมโห
“ฉันว่าคุณจำผิดคนแล้วหละค่ะ”
“เห็นฉันโง่นักหรือไง หน้าตาเหมือนกัน แถมชื่อยังใช่ชื่อเดียวกันอีกอย่างนี้เนี่ยนะ ไม่เนียนเลยนะ เพียงรดา”
“แล้วถ้าฉันเป็นเพียงรดาจริงๆ มีเหตุผลอะไรที่ฉันมาที่นี่ไม่ได้”
“เพราะก็รู้อยู่แก่ใจดี ว่าภีร์คิดอย่างไรกับเธอ แต่เธอยกเค้าให้ฉันแล้ว แล้วเธอกลับมาอีกทำไมไม่ทราบ”
“เอาไว้ถ้าฉันเจอเพียงรดาตัวจริง ฉันจะบอกกับเค้าให้ ว่าไม่ให้มายุ่งวุ่นวายเรื่องของคุณ”
“นี่เธออย่ามายอกย้อนนะ จะยั่วโมโหฉันใช่มั้ย ทั้งที่ฉันกับภีร์ เราสองคนกำลังไปได้ดีอยู่แล้ว เธอนึกเสียดายใช่มั้ยเลยกลับมาแบบนี้”
เพียงรดายืนนิ่งไม่ตอบ เพราะเริ่มจะสับสนเลยไม่รู้ว่าพูดอะไร
“ตอบฉันมาสิ ฉันบอกให้ตอบฉันมา ว่ากลับมาที่นี่ทำไม” วิจิตรตาคาดคั้นถาม เพียงรดามองหน้าไม่ตอบ วิจิตราเริ่มโกรธ
“จะยั่วโมโหฉัน ได้” วิจิตราเดินเข้ามาบีบแขนทั้งสองข้างของเพียงรดา
“ปล่อยฉันเดี่ยวนี้นะค่ะ คุณวิจิตรา”
“ถ้าฉันไม่ปล่อย เธอจะกล้าทำอะไรฉัน หัดนึกถึงสถานะของตัวเองซะบ้างนะ”
“ถ้าคุณขืนยังพ่ามไม่เลิก คุณอาจจะเจ็บตัวได้น่ะค่ะ”
“ทำไม เธอจะตบฉันอย่างนั้นหรอ ถ้ากล้าเธอก็ลองดูสิ”
เพียงรดากำหมัดแน่น
“ฉันตบใครไม่เป็น แต่ถ้าต่อยก็ไม่แน่” เพียงรดาพูดจริงจัง วิจิตราเห็นเพียงรดากำหมัดก็เริ่มกลัว
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ยันช่างภาพขาเป๋อยู่ในห้องหรือเปล่า” พี่เอ๋มาตามเพียงรดา
“อยู่ค่ะ สักครู่นะค่ะ”
“เธอจะล็อคประตูทำไมเนี่ย” พี่เอ๋บ่น
ส่วนสถานการณ์ข้างในห้องนั้นสองสาวยังคงจ้องตากันอยู่
“ว่ายังไงค่ะ คุณจะปล่อยฉันได้หรือยัง”
“ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้รู้นะว่าเธอจะมาแย่งภีร์ไปจากฉัน” วิจิตราขู่ก่อนจะเป็นฝ่ายไปเปิดประตู
“สวัสดีค่ะพี่เอ๋” วิจิตราฉีกยิ้มเริ่มเล่นละครในชีวิตจริงต่อทันที ก่อนจะหันฉีกยิ้มให้เพียงรดาอย่างเป็นมิตร
“ไปก่อนนะจ๊ะ เพียงรดา ดีใจจัง ตาได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกคนแล้ว ตาขอตัวก่อนนะค่ะพี่เอ๋” วิจิตราพูดเส็จก็เดินเลี่ยงออกไปอีกทาง
เพียงรดาได้แต่ยืนทึ้งในการแสดงที่แนบเนี่ยนของวิจิตรา
เพียงรดาเริ่มมองภาพของวิจิตราเปลี่ยนไป นักแสดงหญิงที่เป็นที่ยอมรับหน้าตาสวยน่ารัก แต่ทำไมนะนิสัยถึงได้สวนทางกับหน้าตาที่มี
เพียงรดากดดูรูปผ่านกล้องถ่ายรูปที่เธอถ่ายไว้
“คุณน่าจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้นะค่ะ คุณภีร์ชิต” เพียงรดาบ่นกับตัวเอง
อัศนัยเดินเข้ามาส่งแก้วน้ำให้เพียงรดาดับกระหาย
“วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ รดา คุณคงไม่ว่าอะไรนะ ถ้าผมรียกรดาเฉยๆ”
“เรียกได้ค่ะ เราเป็นเพื่อนกันแล้วนี่ค่ะ”
“วันนี้คุณดูเซ็งๆนะ”
“หรอค่ะ สงสัยฉันคงไม่ถนัดงานด้านนี้มั้งค่ะ”
“แต่คุณเป็นช่างภาพนะ”
“ฉันชอบด้านการท่องเที่ยวมากกว่างานด้านบันเทิง อุตสาห์เลี่ยงมาตลอดสุดท้ายก็ต้องทำจนได้”
“ไม่มีใครสมหวังไม่หมดทุกเรื่องหรอกจริงมั้ย” อัศนัยให้กำลังใจอย่างเป็นมิตร
“คงอย่างนั้นมั้งค่ะ คุณอาร์ท” เพียงรดายิ้มให้ อัศนัยเริ่มมีความรู้สึกผิดปกติเมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่จริงใจของเธอ
ถึงคราวที่เพียงรดาต้องถ่ายรูปของภีร์ชิตแบบเดี๋ยว เธอรู้สึกใจสั่นทุกครั้งที่ได้เห็นสายตาของเขา เพียงรดาถ่ายรูปทุกมุมเท่าที่เธอทำได้
เธอสังเกตได้ถึงออร่าที่เปล่งประกายของเขา เธอไม่แปลกใจเลยทำไมเขาถึงเป็นที่ชื่นชอบของคนมากมาย เพียงรดาถ่ายรูปภีร์ชิตเสร็จ
ก็ขอตัวทีมงานไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพ ระหว่างทางไปที่พักภีร์ชิตที่ยืนดักรอเธออยู่ก็ก้าวออกมา
“วันนี้คุณดูแปลกไปนะ คุณไม่สบายหรือเปล่า” ภีร์ชิตถามด้วยความเป็นห่วง
เพียงรดาถอนหายใจเมื่อได้ยินคำถามนี้ เธอควรจะดีใจหรือเสียใจดีกับสิ่งที่เธอได้ยิน
“คุณคงไม่ถามคำถามนี้กับฉันแน่ ถ้าฉันไม่ใช่คนที่หน้าคล้ายกับเพื่อนคนหนึ่งของคุณ”
ภีร์ชิตยืนนิ่งไม่ตอบ เห็นอย่างนั้นแล้วความรู้สึกน้อยใจแทรกเข้ามาในใจของเธอทันที
“เลิกยุ่งกับฉันสักที ฉันไม่อยากทำให้คุณวิจิตราต้องลำบากใจ ในความเข้าใจผิดของคุณ”
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“คุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจดี ในตอนนี้คนที่คุณควรแคร์มากที่สุดก็คือแฟนของคุณนะค่ะ”
“คุณเชื่อข่าวลือพวกนั้นด้วยหรอ”
“ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็นค่ะ”
“แต่สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไปนะ” ภีร์ชิตอธิบายมองตาเพียงรดาอยากให้เธอเข้าใจในตัวเขา
“ฉันสัญญา ถึงฉันจะเป็นนักข่าว ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ จนกว่าคุณจะให้ข่าวด้วยตัวคุณเองนะค่ะ”
“ผมควรทำอย่างไรให้คุณเชื่อผม น่าน้อยใจชะมัด ทั้งที่ผมยืนอยู่ตรงนี้แล้วแท้ๆ ทำไมคุณไม่ถามผมว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
“ฉันไม่ต้องการที่จะถาม เพราะฉันไม่สนใจ และคุณควรที่จะเข้าใจสักที ว่าฉันไม่ใช่เพียงรดาคนนั้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไร มันก็ไม่มีประโยชน์”
เพียงรดาตอบอย่างเย็นชา ทั้งที่ลึกๆนั้นหัวใจเธอช่างไหวหวั่น
ภีร์ชิตได้ยินอย่างนั้นเขารู้สึกเจ็บปวดใจไม่แพ้กัน เขายอมรับว่าเขาทำใจไม่ได้เรื่องที่เธอไม่ใช่เพียงรดาของเขา
แต่การที่ได้อยู่ใกล้เธอคนนี้ทำให้เขามีเกิดความสุขเล็กๆขึ้นมาจนยากที่จะอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใด
“ผมขอโทษ” ตอนนี้ภีร์ชิตพูดได้แค่คำนี้จริงๆ
“ฉันเข้าใจค่ะ เพราะถ้าเป็นฉัน เพื่อนฉันหายไปแบบนี้ ฉันคงจะทำเหมือนคุณ”
“เพียงรดาคนนั้นไม่ใช่เพื่อนผม”
“แล้วเค้าเป็นใครหละค่ะ”
“เค้าคือคนที่ผมรัก คนที่ผมพร้อมจะดูแลไปตลอดชีวิต”
ภีร์ชิตมองเพียงรดาอย่างเจ็บปวดเขาพยายามกลั้นน้ำตาแห่งความคิดถึงไม่ให้ไหล
“คุณต้องได้เจอเค้าสักวันค่ะ” เพียงรดาบอกพร้อมกับลูบที่ไหล่เขาเบาๆเป็นการปลอบใจ
วิจิตรามองการกระทำของทั้งคู่อย่างไม่พอใจแต่การแอบฟังในครั้งนี้ทำให้เธอรู้ว่า เพียงรดาคนนี้ไม่ใช่คนๆเดียวกับคนที่ภีร์ชิตเฝ้าตามหา
มาตลอดสองปี แต่ถึงอย่างนั้นหล่อนก็ไม่ถูกชะตากับเพียงรดาคนนี้อยู่ดี
ตลอดทางที่อยู่ในรถตู้ของกองถ่าย เพียงรดาทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพียงรดาเริ่มรู้สึกเห็นใจภีร์ชิตและเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้ยินคนในรถ
พูดถึงความสัมพันธ์ของภีร์ชิตและวิจิตรา การเดินทางที่แสนเหน็ดเหนื่อยและเต็มไปด้วยเรื่องราวในครั้งนี้ทำให้เธออ่อนล้าทั้งกายและใจ
เพียงรดาภาวนาให้มันคุ้มค่ากับความรู้สึกที่เธอสูญเสียไป เพียงรดากลับมาถึงคอนโดเธอมองหาเพื่อนของเธอแต่ไม่อยู่ หญิงสาวทิ้งตัวลงที่โซฟาอย่างหมดแรง แล้วคล้อยหลับไปในที่สุด
นิยาย พิสูจน์รักข้ามเวลา บทนำ และ ตอนที่ 4 โดย ณ พัชระ
คงไม่มีใครคาดคิด ว่าในหนึ่งปีจะมีมากกว่า 365 วัน เพียงรดาเองก็เช่นกัน ในวันที่เธอต้องการ "สารภาพรัก"
กับคนที่เธอพยายามผลักไส คนที่เห็นและรักเธอเพียงเพราะเธอเป็นเงาของใครอีกคนมาโดยตลอด
"เธอไม่ได้ความจำเสื่อม" "เธอไม่ได้แกล้งที่จะลืมเพื่อให้ชายคนนั้นต้องเจ็บช้ำ"
แต่เธอหาสาเหตุไม่ได้ว่า "เพราะอะไร" ภีร์ชิต นักแสดงที่มีชื่อเสียง ถึงได้รู้สึก "รัก" เธอมากมายขนาดนี้
"เธอจะสวมรอยเป็นใครคนนั้นของเขา... ดีไหม?"
และแล้วในวันที่เธอพร้อมให้ "หัวใจ" มาก่อน "เหตุผล"
กับเป็นวันที่อุบัติเหตุพราก "เธอ" ไปจาก "เขา" ในโลก "ปัจจุบัน" ตลอดกาล
แต่ "โชคชะตา" ไม่ได้ "โหดร้าย"
แค่พา "เธอ" ไปพบว่า "เขารักเธอ" เพราะเหตุใด?
เพียงรดา มี "โอกาสใช้ชีวิตในจุดเดิมอีกครั้ง 2 ปี"
กับ "เขา" ที่มีท่าที ห่างเหิน เย็นชา และ กวนประสาท ไม่มีความรู้สึก "รัก" เธอ แม้แต่น้อย
จาก "เขา" ที่เป็นฝ่ายเฝ้าตามหาเธอ กลับกลายเป็นเธอ "ที่ต้องเฝ้าตามเขา"
เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ?
ภีร์ชิตต้องเจ็บซ้ำสองหรือไม่ ?
เพียงรดาจะกลับมาโลกปัจุบันได้อีกครั้ง หรือ ร่างกายต้องสูญสลาย เพียงเพื่อต้องการปกป้องคนที่เธอรัก?
ลองติดตามดูนะค่ะ ^_^
ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/30471581
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/30475331
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/30479031
ตอนที่ 4
ตั้งแต่ก้าวแรกที่วิจิตราเดินเข้าที่กองถ่าย เธอแสดงความเป็นเจ้าของภีร์ชิตอย่างเต็มที่
“ถ้ายัยเจนมาอยู่ที่นี่ คงเมื่อเรื่องเม้าท์กันทั้วออฟฟิคแน่” เพียงรดาบ่นกับตัวเอง ก่อนจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเบื้องหลังต่างๆ
“มาอยู่ที่นี่เอง” อัศนัยทักเพียงรดา
“คุณอัศนัย”
“เรียกอาร์ทก็ได้ดูไม่ห่างเหินดี”
“ค่ะคุณอาร์ท”
“วันนี้ขาคุณเป็นไงบ้าง”
“ดีขึ้นมากกว่าเดิม เดินได้มากกว่าเก่า” เพียงรดาตอบ
อัศนัยมองหน้าเพียงรดาใกล้ๆ
“คุณหน้าเหมือนใครบางคน แต่เหมือนใครน้า ผมนึกไม่ออก” อัศนัยทำหน้าครุ่นคิด
“ฉันหน้าโหลค่ะ คนทักผิดเยอะมาก” เพียงรดาตอบก่อนจะเลี่ยงไปทำงานอีกทาง แต่อัศนัยยังคงเดินตามเธออยู่
ภีร์ชิตที่นั่งอยู่กับวิจิตราเริ่มไม่พอใจ วิจิตราเห็นตาสายตาของภีร์ชิต ทำให้เธอรู้ว่าภีร์ชิตกำลังให้ความสนใจใครคนหนี่งอยู่
เธอมองหญิงสาวคนนั้นด้วยสายตาริษยา จนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่
“คุณจะเดินตามฉันทำไม คุณอาร์ท”
“ก็คุณไม่หยุดเดินสักที”
“ทำไมค่ะ” เพียงรดาหันมาเผชิญหน้ากับอัศนัยตรงๆ
“ผมแต่จะเอายานี้ให้คุณ เมื่อวานผมไปที่คลินิกมา หมอบอกว่ายาตัวนี้ดี” อัศนัยส่งให้ เพียงรดารับไว้พร้อมกับเอ่ยขอบคุณ
เพียงรดาถูกทีมงานเรียกไปถ่ายรูปภีร์ชิตและวิจิตรา วิจิตราทำตัวใกล้ชิดภีร์ชิตอย่างเต็มที่ เมื่อวิจิตรามองเพียงรดาจนแน่ชัด
ทำให้เธอแน่ใจว่า คนที่กำลังถ่ายรูปนั้นคือคนที่เธอรู้จัก แต่เธอพยายามเก็บอาการไว้ไม่แสดงออกเพราะจะเสียภาพลักษณ์นางเอกของเธอ
เพียงรดาทำงานไปตามปกติ เธอเหมือนหายใจไม่ออกทุกครั้งที่เห็นภีร์ชิตและวิจิตราอยู่ใกล้กัน เธออย่างจะเดินหนีไปไกลๆ
แต่เพราะหน้าที่ทำให้เธอต้องยืนอยู่ตรงนั้น
“เหมาะสมกันเนอะ” อัศนัยกระซิบบอกเพียงรดา ภีร์ชิตเห็นอย่างนั้นถึงกับมองตาขวาง
“ค่ะเหมาะสมกันดี สมใจแฟนคลับหละคราวนี้ถ้ารู้ว่าสองคนเป็นแฟนกันจริงๆ”
“แต่ผู้จัดการให้ปิดข่าวอยู่นะ อยากให้เป็นแบบคู่รักคู่ลุ้นแบบนี้ เรตติ้งจะได้ดี” อัศนัยเล่าให้เพียงรดาฟัง
“อย่างนั้นหรอค่ะ มิน่าหละ ถึงต่างไม่ยอมรับจากปากทั้งคู่สักที แต่การกระทำเนี่ยสวนทางกับข่าวมากเลยนะค่ะ”
“วงการมายา ก็อย่างนี้หละ อะไรที่ว่าจริงอาจจะไม่จริงก็ได้ ส่วนอะไรที่ว่าใช่ก็กับไม่ใช่ซะอย่างนั้น” อัศนัยพูดไปขำไปอย่างปลงๆ
“แล้วคุณอาร์ทหละค่ะ ทำไมถึงยังไม่เปิดตัวสักที”
“หาอยู่ครับ อาจจะมองหาแถวๆนี้ ถ้าเกิดคนแถวนี้ว่าง” อัศนัยมองตาเพียงรดาอย่างสื่อความหมาย
“มันคงไม่หากันเจอง่ายๆขนาดนั้นหรอกมั้งค่ะ ไอ้ที่เรียกว่าความรักเนี่ย” เพียงรดาแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“อู้งานอยู่หรือไง” ภีร์ชิตเดินเข้ามาแทรกกลาง เพียงรดาหุบยิ้มลงทันที
“ซีเรียสจังวะ ภีร์ พักหน่อยก็ได้” อัศนัยพูดขึ้น ภีร์ชิตมองหน้าอัศนัยแวบหนึ่งก่อนที่จะหันมาทางเพียงรดา
“เธอลืมไปแล้วหรอ เธอได้งานนี้เพราะใคร ถ้าเธอทำงานไม่ดี ฉันอาจจะโดนตำหนิได้”
“เหวี่ยง” อัศนัยพูดแหย่
“ไม่ขำวะ อาร์ท” ภีร์ชิตยังคงมองหน้าเพียงรดาอยู่
“ฉันขอโทษค่ะคุณภีร์ชิต ฉันจะตั้งใจทำงานให้มากกว่านี้” เพียงรดาพูดจบก็เดินเลี่ยงไปภาพรูปวิจิตราอย่างน้อยใจเป็นที่สุด
เพียงรดาถ่ายรูปของวิจิตราได้สักพักเห็นว่าเพียงพอแล้วจึงหยุดถ่าย เธอเดินเข้ามาเก็บกล้องที่ห้องโดยไม่ได้สังเกตว่า
วิจิตราเกินตามเข้ามาด้วย วิจิตรามมองเพียงรดาอย่างอ่อนโยนก่อนที่จะเดินไปล๊อคประตูห้อง หล่อนหันกลับมามองเพียงรดาด้วย
ท่าทีที่แข้งกร้าวขึ้นจนเพียงรดารู้สึกหวั่นใจ
“เธอกลับมาที่นี่ทำไม”
“คุณหมายถึงอะไร ทำไมฉันถึงมาที่นี่ไม่ได้”
“อย่ามาทำตีหน้าซื่อใส่ฉันนะ เพียงรดา ในเมื่อเราตกลงกันแล้ว เธอกลับมาวุ่นวายอีกทำไม”
“ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูด ฉันไปตกลงอะไรกับคุณไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่”
“เธอจะบอกว่าจำไม่ได้ แล้วกลืนน้ำลายตัวเองอย่างนั้นหรอ” วิจิตราเริ่มโมโห
“ฉันว่าคุณจำผิดคนแล้วหละค่ะ”
“เห็นฉันโง่นักหรือไง หน้าตาเหมือนกัน แถมชื่อยังใช่ชื่อเดียวกันอีกอย่างนี้เนี่ยนะ ไม่เนียนเลยนะ เพียงรดา”
“แล้วถ้าฉันเป็นเพียงรดาจริงๆ มีเหตุผลอะไรที่ฉันมาที่นี่ไม่ได้”
“เพราะก็รู้อยู่แก่ใจดี ว่าภีร์คิดอย่างไรกับเธอ แต่เธอยกเค้าให้ฉันแล้ว แล้วเธอกลับมาอีกทำไมไม่ทราบ”
“เอาไว้ถ้าฉันเจอเพียงรดาตัวจริง ฉันจะบอกกับเค้าให้ ว่าไม่ให้มายุ่งวุ่นวายเรื่องของคุณ”
“นี่เธออย่ามายอกย้อนนะ จะยั่วโมโหฉันใช่มั้ย ทั้งที่ฉันกับภีร์ เราสองคนกำลังไปได้ดีอยู่แล้ว เธอนึกเสียดายใช่มั้ยเลยกลับมาแบบนี้”
เพียงรดายืนนิ่งไม่ตอบ เพราะเริ่มจะสับสนเลยไม่รู้ว่าพูดอะไร
“ตอบฉันมาสิ ฉันบอกให้ตอบฉันมา ว่ากลับมาที่นี่ทำไม” วิจิตรตาคาดคั้นถาม เพียงรดามองหน้าไม่ตอบ วิจิตราเริ่มโกรธ
“จะยั่วโมโหฉัน ได้” วิจิตราเดินเข้ามาบีบแขนทั้งสองข้างของเพียงรดา
“ปล่อยฉันเดี่ยวนี้นะค่ะ คุณวิจิตรา”
“ถ้าฉันไม่ปล่อย เธอจะกล้าทำอะไรฉัน หัดนึกถึงสถานะของตัวเองซะบ้างนะ”
“ถ้าคุณขืนยังพ่ามไม่เลิก คุณอาจจะเจ็บตัวได้น่ะค่ะ”
“ทำไม เธอจะตบฉันอย่างนั้นหรอ ถ้ากล้าเธอก็ลองดูสิ”
เพียงรดากำหมัดแน่น
“ฉันตบใครไม่เป็น แต่ถ้าต่อยก็ไม่แน่” เพียงรดาพูดจริงจัง วิจิตราเห็นเพียงรดากำหมัดก็เริ่มกลัว
ทันใดนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ยันช่างภาพขาเป๋อยู่ในห้องหรือเปล่า” พี่เอ๋มาตามเพียงรดา
“อยู่ค่ะ สักครู่นะค่ะ”
“เธอจะล็อคประตูทำไมเนี่ย” พี่เอ๋บ่น
ส่วนสถานการณ์ข้างในห้องนั้นสองสาวยังคงจ้องตากันอยู่
“ว่ายังไงค่ะ คุณจะปล่อยฉันได้หรือยัง”
“ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้รู้นะว่าเธอจะมาแย่งภีร์ไปจากฉัน” วิจิตราขู่ก่อนจะเป็นฝ่ายไปเปิดประตู
“สวัสดีค่ะพี่เอ๋” วิจิตราฉีกยิ้มเริ่มเล่นละครในชีวิตจริงต่อทันที ก่อนจะหันฉีกยิ้มให้เพียงรดาอย่างเป็นมิตร
“ไปก่อนนะจ๊ะ เพียงรดา ดีใจจัง ตาได้เพื่อนใหม่เพิ่มมาอีกคนแล้ว ตาขอตัวก่อนนะค่ะพี่เอ๋” วิจิตราพูดเส็จก็เดินเลี่ยงออกไปอีกทาง
เพียงรดาได้แต่ยืนทึ้งในการแสดงที่แนบเนี่ยนของวิจิตรา
เพียงรดาเริ่มมองภาพของวิจิตราเปลี่ยนไป นักแสดงหญิงที่เป็นที่ยอมรับหน้าตาสวยน่ารัก แต่ทำไมนะนิสัยถึงได้สวนทางกับหน้าตาที่มี
เพียงรดากดดูรูปผ่านกล้องถ่ายรูปที่เธอถ่ายไว้
“คุณน่าจะได้เจอคนที่ดีกว่านี้นะค่ะ คุณภีร์ชิต” เพียงรดาบ่นกับตัวเอง
อัศนัยเดินเข้ามาส่งแก้วน้ำให้เพียงรดาดับกระหาย
“วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ รดา คุณคงไม่ว่าอะไรนะ ถ้าผมรียกรดาเฉยๆ”
“เรียกได้ค่ะ เราเป็นเพื่อนกันแล้วนี่ค่ะ”
“วันนี้คุณดูเซ็งๆนะ”
“หรอค่ะ สงสัยฉันคงไม่ถนัดงานด้านนี้มั้งค่ะ”
“แต่คุณเป็นช่างภาพนะ”
“ฉันชอบด้านการท่องเที่ยวมากกว่างานด้านบันเทิง อุตสาห์เลี่ยงมาตลอดสุดท้ายก็ต้องทำจนได้”
“ไม่มีใครสมหวังไม่หมดทุกเรื่องหรอกจริงมั้ย” อัศนัยให้กำลังใจอย่างเป็นมิตร
“คงอย่างนั้นมั้งค่ะ คุณอาร์ท” เพียงรดายิ้มให้ อัศนัยเริ่มมีความรู้สึกผิดปกติเมื่อได้เห็นรอยยิ้มที่จริงใจของเธอ
ถึงคราวที่เพียงรดาต้องถ่ายรูปของภีร์ชิตแบบเดี๋ยว เธอรู้สึกใจสั่นทุกครั้งที่ได้เห็นสายตาของเขา เพียงรดาถ่ายรูปทุกมุมเท่าที่เธอทำได้
เธอสังเกตได้ถึงออร่าที่เปล่งประกายของเขา เธอไม่แปลกใจเลยทำไมเขาถึงเป็นที่ชื่นชอบของคนมากมาย เพียงรดาถ่ายรูปภีร์ชิตเสร็จ
ก็ขอตัวทีมงานไปเก็บของเพื่อเตรียมตัวกลับกรุงเทพ ระหว่างทางไปที่พักภีร์ชิตที่ยืนดักรอเธออยู่ก็ก้าวออกมา
“วันนี้คุณดูแปลกไปนะ คุณไม่สบายหรือเปล่า” ภีร์ชิตถามด้วยความเป็นห่วง
เพียงรดาถอนหายใจเมื่อได้ยินคำถามนี้ เธอควรจะดีใจหรือเสียใจดีกับสิ่งที่เธอได้ยิน
“คุณคงไม่ถามคำถามนี้กับฉันแน่ ถ้าฉันไม่ใช่คนที่หน้าคล้ายกับเพื่อนคนหนึ่งของคุณ”
ภีร์ชิตยืนนิ่งไม่ตอบ เห็นอย่างนั้นแล้วความรู้สึกน้อยใจแทรกเข้ามาในใจของเธอทันที
“เลิกยุ่งกับฉันสักที ฉันไม่อยากทำให้คุณวิจิตราต้องลำบากใจ ในความเข้าใจผิดของคุณ”
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“คุณก็น่าจะรู้อยู่แก่ใจดี ในตอนนี้คนที่คุณควรแคร์มากที่สุดก็คือแฟนของคุณนะค่ะ”
“คุณเชื่อข่าวลือพวกนั้นด้วยหรอ”
“ฉันเชื่อในสิ่งที่ฉันเห็นค่ะ”
“แต่สิ่งที่คุณเห็นอาจไม่ใช่เรื่องจริงเสมอไปนะ” ภีร์ชิตอธิบายมองตาเพียงรดาอยากให้เธอเข้าใจในตัวเขา
“ฉันสัญญา ถึงฉันจะเป็นนักข่าว ฉันจะเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับ จนกว่าคุณจะให้ข่าวด้วยตัวคุณเองนะค่ะ”
“ผมควรทำอย่างไรให้คุณเชื่อผม น่าน้อยใจชะมัด ทั้งที่ผมยืนอยู่ตรงนี้แล้วแท้ๆ ทำไมคุณไม่ถามผมว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า”
“ฉันไม่ต้องการที่จะถาม เพราะฉันไม่สนใจ และคุณควรที่จะเข้าใจสักที ว่าฉันไม่ใช่เพียงรดาคนนั้น ไม่ว่าคุณจะทำอะไร มันก็ไม่มีประโยชน์”
เพียงรดาตอบอย่างเย็นชา ทั้งที่ลึกๆนั้นหัวใจเธอช่างไหวหวั่น
ภีร์ชิตได้ยินอย่างนั้นเขารู้สึกเจ็บปวดใจไม่แพ้กัน เขายอมรับว่าเขาทำใจไม่ได้เรื่องที่เธอไม่ใช่เพียงรดาของเขา
แต่การที่ได้อยู่ใกล้เธอคนนี้ทำให้เขามีเกิดความสุขเล็กๆขึ้นมาจนยากที่จะอธิบายได้ว่าเพราะเหตุใด
“ผมขอโทษ” ตอนนี้ภีร์ชิตพูดได้แค่คำนี้จริงๆ
“ฉันเข้าใจค่ะ เพราะถ้าเป็นฉัน เพื่อนฉันหายไปแบบนี้ ฉันคงจะทำเหมือนคุณ”
“เพียงรดาคนนั้นไม่ใช่เพื่อนผม”
“แล้วเค้าเป็นใครหละค่ะ”
“เค้าคือคนที่ผมรัก คนที่ผมพร้อมจะดูแลไปตลอดชีวิต”
ภีร์ชิตมองเพียงรดาอย่างเจ็บปวดเขาพยายามกลั้นน้ำตาแห่งความคิดถึงไม่ให้ไหล
“คุณต้องได้เจอเค้าสักวันค่ะ” เพียงรดาบอกพร้อมกับลูบที่ไหล่เขาเบาๆเป็นการปลอบใจ
วิจิตรามองการกระทำของทั้งคู่อย่างไม่พอใจแต่การแอบฟังในครั้งนี้ทำให้เธอรู้ว่า เพียงรดาคนนี้ไม่ใช่คนๆเดียวกับคนที่ภีร์ชิตเฝ้าตามหา
มาตลอดสองปี แต่ถึงอย่างนั้นหล่อนก็ไม่ถูกชะตากับเพียงรดาคนนี้อยู่ดี
ตลอดทางที่อยู่ในรถตู้ของกองถ่าย เพียงรดาทบทวนเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพียงรดาเริ่มรู้สึกเห็นใจภีร์ชิตและเจ็บปวดทุกครั้งที่ได้ยินคนในรถ
พูดถึงความสัมพันธ์ของภีร์ชิตและวิจิตรา การเดินทางที่แสนเหน็ดเหนื่อยและเต็มไปด้วยเรื่องราวในครั้งนี้ทำให้เธออ่อนล้าทั้งกายและใจ
เพียงรดาภาวนาให้มันคุ้มค่ากับความรู้สึกที่เธอสูญเสียไป เพียงรดากลับมาถึงคอนโดเธอมองหาเพื่อนของเธอแต่ไม่อยู่ หญิงสาวทิ้งตัวลงที่โซฟาอย่างหมดแรง แล้วคล้อยหลับไปในที่สุด