นิยาย พิสูจน์รักข้ามเวลา บทนำ และ ตอนที่ 5 โดย ณ พัชระ

กระทู้สนทนา




คงไม่มีใครคาดคิด ว่าในหนึ่งปีจะมีมากกว่า 365 วัน เพียงรดาเองก็เช่นกัน ในวันที่เธอต้องการ "สารภาพรัก"
กับคนที่เธอพยายามผลักไส คนที่เห็นและรักเธอเพียงเพราะเธอเป็นเงาของใครอีกคนมาโดยตลอด
"เธอไม่ได้ความจำเสื่อม" "เธอไม่ได้แกล้งที่จะลืมเพื่อให้ชายคนนั้นต้องเจ็บช้ำ"
แต่เธอหาสาเหตุไม่ได้ว่า "เพราะอะไร" ภีร์ชิต นักแสดงที่มีชื่อเสียง ถึงได้รู้สึก "รัก" เธอมากมายขนาดนี้
"เธอจะสวมรอยเป็นใครคนนั้นของเขา... ดีไหม?"
และแล้วในวันที่เธอพร้อมให้ "หัวใจ" มาก่อน "เหตุผล"
กับเป็นวันที่อุบัติเหตุพราก "เธอ" ไปจาก "เขา" ในโลก "ปัจจุบัน" ตลอดกาล
แต่ "โชคชะตา" ไม่ได้ "โหดร้าย"
แค่พา "เธอ" ไปพบว่า "เขารักเธอ" เพราะเหตุใด?
เพียงรดา มี "โอกาสใช้ชีวิตในจุดเดิมอีกครั้ง 2 ปี"
กับ "เขา" ที่มีท่าที ห่างเหิน เย็นชา และ กวนประสาท ไม่มีความรู้สึก "รัก" เธอ แม้แต่น้อย
จาก "เขา" ที่เป็นฝ่ายเฝ้าตามหาเธอ กลับกลายเป็นเธอ "ที่ต้องเฝ้าตามเขา"

เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ?
ภีร์ชิตต้องเจ็บซ้ำสองหรือไม่ ?
เพียงรดาจะกลับมาโลกปัจุบันได้อีกครั้ง หรือ ร่างกายต้องสูญสลาย เพียงเพื่อต้องการปกป้องคนที่เธอรัก?
ลองติดตามดูนะค่ะ ^_^




ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/30471581
ตอนที่ 2 http://pantip.com/topic/30475331
ตอนที่ 3 http://pantip.com/topic/30479031
ตอนที่ 4 http://pantip.com/topic/30482894

ตอนที่ 5

         เพียงรดากลับมาทำงานที่กองถ่ายอย่างสบายใจมากขึ้น ผิดกลับวิจิตราที่แสดงอาการไม่พอใจทันทีที่เห็นเพียงรดา
ยิ่งได้เห็นเพียงรดาพูดคุยกับภีร์ชิตอย่างสนิทใจยิ่งทำให้เธอนิ่งเฉยไม่ได้
“ตาว่าภีร์จะสนิทกับยัยช่างภาพนั่นมากเกินไปแล้วนะค่ะ” วิจิตราถามภีร์ชิตอย่างไม่พอใจ
“เค้าชื่อเพียงรดา” ภีร์ชิตบอก
“ตาทราบค่ะ แหมเพียงรดา ชื่อเดียวกันเลยนะค่ะ”
“แต่คนละคนกัน ถ้าเป็นคนเดียวกันก็ดีสิ” ภีร์ชิตตอบจากความรู้สึกจริงๆ
“ภีร์พูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า ภีร์ก็รู้ว่าตารู้สึกอย่างไรกับภีร์” วิจิตราถามอย่างน้อยใจ
“ตาเราเป็นเพื่อนกันนะ ถึงข่าวเราสื่อจะตีความเป็นแบบไหนแต่ตาและผมเพราะต่างรู้แก่ใจดีว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน” ภีร์ชิตตอบอย่างไม่สนใจ
วิจิตราไม่พอใจที่ได้ยินอย่างนั้น แต่พยายามข่มอารมณ์
“หรอค่ะ ถ้าอย่างนั้น ภีร์คงเป็นแฟนกับยัยช่างภาพคนนั้นหละสิ เห็นสนิทกันจัง” วิจิตรากระแนะกระแหน
“ตาผมบอกคุณอีกครั้ง เค้าชื่อเพียงรดา และเค้าก็เป็นเพื่อนผม เราทั้งสามคน ผม ตา และรดา เราต่างเป็นเพื่อนกัน”
ภีร์ชิตย้ำชัดก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกทาง วิจิตราได้แต่มองไปทางเพียงรดาที่ทำงานอยู่อย่างแค้นใจ

“เพื่อนหรอ คนละคนกันอย่างนั้นหรอ” วิจิตราเริ่มมีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ

    วิจิตราให้ฝ่ายคอสตูมเตรียมของบางอย่างให้กับเธอ เมื่อได้ของที่ต้องการแล้ว วิจิตราให้คนไปตามเพียงรดามาที่ห้องแต่งตัวของเธอ
“มาแล้วหรอ เพียงรดา” วิจิตราเอ๋ยทักเมื่อเห็นเพียงรดาเปิดประตูเข้ามา
“ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับฉันค่ะ” เพียงรดาถาม
“แหม ห่างเหินจัง พูดเหมือนว่าเราเป็นเพื่อนกันก็ได้นะ”
“ฉันเกรงว่าจะไม่เหมาะ เรายังไม่สนิทกันถึงขั้นนั้น พูดกันแบบนี้แหละดีแล้วค่ะ สบายใจดี”
“คิดมากไปได้เพื่อนภีร์ก็เหมือนเพื่อนฉันแหละ ภีร์เล่าเรื่องของเธอให้ฟังทุกเรื่องเลยนะ เค้าก็เป็นคนอย่างนี้แหละ หวังว่าเธอคงไม่เข้าใจผิดคิดว่าภีร์สนใจเธอหรอกนะ” วิจิตราพูดเองเออเอง เพียงรดารู้สึกเจ็บในใจลึกๆ
“ค่ะ” เพียงรดาตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบา
“ดีแล้ว ฉันจะได้สบายใจ ของของใครใครก็รัก เธอว่าจริงมั้ย” วิจิตราพูดย้ำในท่าทีที่เหนือกว่า
“ค่ะ หมดธุระแล้วใช่มั้ยค่ะ ฉันจะได้ไปทำงานต่อ”
“เดี่ยวสิ รดา มานั่งนี่ก่อน พอดีฉันมีเรื่องให้เธอช่วย”
“เรื่องอะไรค่ะ” เพียงรดาสงสัย
“เพื่อนฉันนะสิ รับปากไว้ซะดิบดีว่าวันนี้จะมาเข้าฉากด้วย แต่ก็เบี้ยวซะงั้น เนี่ยฉันไม่รู้ว่าจะบอกผู้กำกับอย่างไร”
“ก็บอกไปตามตรงสิค่ะ” เพียงรดาบอก
วิจิตราพยายามเม้มปากข่มอารมณ์
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นสิ ฉันเห็นว่าเธอหุ่นใกล้เคียงเลยว่าจะขอให้เธอช่วย”
“ฉันไม่ชอบการแสดงค่ะ”
“แค่นั่งเฉยๆไม่ยากหรอกนะช่วยฉันหน่อย ถือว่าฉันขอร้องหละงานจะได้เสร็จไวขึ้น จะได้กลับบ้านไวๆไง” วิจิตราเกลี่ยกล่อม
เพียงรดาพยักหน้ารับเพื่อตัดรำคาญอีกอย่างเธออยากเลิกงานเร็วด้วย
    วิจิตราจับเพียงรดาแต่งหน้าใส่วิกผมสั้นเหมือนทอมบอย เพียงรดารู้สึกว่าตัวเองดูแปลกตาเมื่อเห็นตัวเองในกระจก
“เหมือนกันมากจริงๆ” วิจิตราเผลออุธานออกมา
“เหมือนใครค่ะ”
“ช่างมันเถอะ เอาหละเสร็จแล้ว รออยู่ในนี้ก่อนนะเดี๋ยวฉันมา” วิจิตราพูดก่อนที่จะเดินออกจากห้องไป

        เพียงรดารออยู่ในห้องแต่งตัว พอเวลาผ่านไปนานเข้าหญิงสาวจึงหยิบโน่นหยิบนี้ขึ้นมาดูอย่างสงสัย
เสียงประตูเปิดเข้ามา เพียงรดาหันมาตามเสียงนั้น
“คุณภีร์ชิต”
“เพียงรดา คุณกลับมาแล้ว” ภีร์ชิตโผเข้ากอดเพียงรดาอย่างดีใจสุดชีวิต
“คุณรู้มั้ยว่าผมคิดถึงคุณมากแค่ไหน สองปีเนี่ยมันนานมากเลยนะรดา จนผมแทบขาดใจ กลับมาอยู่ตัวกันนะรดา อยู่แบบที่เราเคยอยู่”
ภีร์ชิตพรั่งพรูออกมาพร้อมน้ำตาแห่งความคิดถึงที่ไม่อาจกลั้นไว้ได้
“คุณภีร์ชิต” เพียงรดาเริ่มงงในสิ่งที่เกิดขึ้น
ภีร์ชิตยังคงกอดเพียงรดาแน่น เธอรู้สึกได้ถึงความโหยหาและความอบอุ่นในตัวเค้า
“ผมรักคุณมากนะรดา ผมอาจเคยบอกคุณไปแล้ว แต่ผมอยากจะย้ำอีกครั้ง คุณจะได้ไม่ลืมและทิ้งผมไปอีก” ภีร์ชิตพูดปนน้อยใจนิดๆ
เพียงรดาผลักภีร์ชิตออกอย่างสับสน
“คุณกำลังเข้าใจผิดค่ะ”
ภีร์ชิตพยายามประติประต่อเรื่องราว
“คุณหมายความว่ายังไง”
เพียงรดากำลังอธิบาย แต่วิจิตราเปิดประตูเข้ามาเสียก่อน
“อ้าว เพียงรดา ทำไมเธอถึงแต่งตัวแบบนี้หละ ฉันแค่เล่าให้เธอฟังเฉยๆ ไม่คิดว่าเธอจะยอมทำถึงขนาดนี้”
วิจิตราพูดขึ้นพร้อมกับเข้าไปเกาะแขนภีร์ชิต
เพียงรดางงกับสิ่งที่วิจิตราพูด ภีร์ชิตเริ่มเข้าใจว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่เพียงรดาที่เขารู้จัก
“นี่มันอะไรกัน” ภีร์ชิตถามเพียงรดาอย่างสงสัย
“อย่าโกรธเลยนะค่ะภีร์ รดาเค้าคงอยากรู้ว่า ถ้าแต่งตัวแบบนี้แล้ว ภีร์จะเซอร์ไพร์หรือเปล่า คงแค่นึกสนุก ใช่มั้ยรดา” วิจิตราบอกอย่างสะใจ
“คุณภีร์ชิต ฟังฉันอธิบายก่อนนะค่ะ” เพียงรดาบอกพร้อมกับเดินเข้าไปหาภีร์ชิต แต่ชายหนุ่มกับถอยหนี

“พอเถอะ เพียงรดา อย่าล้อเล่นกับความรู้สึกของผมแบบนี้ มันไม่ขำหรอกนะ พอใจคุณหรือยัง
ที่ผมแทบคลั่งเพราะคิดว่าคุณคือคนนั้น
แต่ตอนนี้ผมเกือบแทบบ้ากับการเล่นตลกของคุณ”



ภีร์ชิตบอกเพียงรดาทั้งน้ำตา เพียงรดาเองก็ไม่อาจกลั้นน้ำตาไไม่ให้ไหลได้
“ฉันขอโทษ” เพียงรดาบอกกับภีร์ชิตอย่างจริงใจ
“แต่เรื่องจริงคือ” เพียงรดาเริ่มอธิบาย
“หยุด อย่าพูดอะไร ผมไม่พร้อมที่จะฟังคำแก้ตัวจากคุณตอนนี้” ภีร์ชิตบอกเพียงรดาอย่างเจ็บปวดก่อนจะหันหน้าหนีแล้วเดินออกไปทันที

         วิจิตรามองเพียงรดาที่ยืนร้องไห้อยู่อย่างสะใจ ที่เรื่องราวเป้นไปตามที่เธอต้องการ
“คุณต้องการให้เรื่องเป็นอย่างนี้ตั้งแต่ต้นใช่มั้ย” เพีรงรดาถามวิจิตราทั้งน้ำตา
“ใช่ ถ้ารู้แล้วก็รีบไสหัวออกไป ที่นี่มันไม่ใช่ที่ของเธอ” วิจิตราบอก
“แต่คุณไม่ควรทำขนาดนี้ นั้นแฟนคุณนะค่ะ คุณชอบที่เห็นเค้าเจ็บปวดหรือไง”
“ฉันทำอะไรได้มากกว่าที่เธอคิดเยอะ ถึงภีร์จะเจ็บปวด แต่มันเป็นทางเดียวที่ภีร์จะตัดใจได้และเลิกยุ่งกับเธอ”
“คุณร้ายกาจมาก คุณเป็นนางเอกได้ยังไง ฉันเสียดายแทนคุณภีร์ชิต คนดีดีอย่างเค้าน่าจะหาใครได้ดีกว่าคุณ”
เพียงรดาบอกก่อนจะเดินออกจากห้องไป วิจิตราได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจกับคำพูดของเพียงรดา

    เพียงรดาไปนั่งสงบสติอารมณ์ที่มุมหนึ่ง อัศนัยผ่านเข้ามาเห็นพอดี
“คุณรดา” ชายหนุ่มเรียกอย่างไม่แน่ใจ อัศนัยเห็นการแต่งตัวของเพียงรดาทำให้เขาเริ่มคิดถึงใครบางคน
“คุณรดาหรือเปล่า” อัศนัยถามซ้ำอีกครั้ง
“ฉันเองค่ะคุณอาร์ท”เพียงรดาดึงวิกผมออก
อัศนัยส่งผ้าเช็ดหน้าของเขาให้เพียงรดา
“มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณแต่งตัวแบบนี้” ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย
“มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดค่ะ ฉันคงเหมือนใครบางคนมากสินะค่ะ”
“ครับเหมือนมาก จนผมคิดว่าคุณเป็นอดีตผู้ช่วยผู้จัดการส่วนตัวของไอ้ภีร์ ซะอีก”
“เค้าชื่อเพียงรดา ที่หน้าตาเหมือนฉันมากใช่มั้ยค่ะ” เพียงรดาถามพร้อมเช็ดคราบน้ำตาออกจากใบหน้าของตัวเอง
“เรื่องบังเอิญมากเลยนะครับ ชื่อเหมือน หน้าตายังเหมือนกันอีก”
“คุณอาร์ทก็รู้จักเค้าเหมือนกันหรอค่ะ” เพียงรดาถามอย่างสงสัย
“ครับ แต่แค่ผิวเผิน รู้แค่ว่ามาช่วยงานพี่ชะเอมได้พักหนึ่ง เป็นผู้หญิงแต่แต่งตัวเป็นทอมเพื่อจะได้ทำงานกับไอ้ภีร์ได้โดยไม่เป็นข่าว”
“เค้าสองคนรักกันหรอค่ะ”
“อาจจะเป็นแบบนั้นครับ ผมไม่ค่อยได้สนใจ แต่หลังจากที่ไอ้ภีร์เริ่มมีชื่อเสียงก็เห็นมีแต่ข่าวกับคุณวิจิตราเนี่ยหละ”
เพียงรดาพยักหน้ารับฟังพยายามเรียบเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด
“ผมไม่แปลกใจเลยที่ไอ้ภีร์ชอบมายุ่งวุ่นวายเรื่องของคุณ” อัศนัยบอก
“คุณเองก็เหมือนกันมั้งค่ะ ถ้าฉันไม่บังเอิญหน้าคล้ายอีกคน คุณคงไมเป็นแบบนี้”

“ไม่ใช่อย่างนั้น คุณอย่าเข้าใจผมผิด ที่ผมรู้จักคุณได้  เพราะคุณคือคนที่ผมขับรถจะชน ไม่ใช่ที่คุณหน้าเหมือนใคร”


อัศนัยบอกและมองหน้าเพียงรดาอย่างสื่อถึงความในใจ
“ขอบคุณมากนะค่ะคุณอาร์ท”
เพียงรดารับรู้ได้ถึงความปรารถนาดีของเขาแต่เธอยังคงหนักใจเรื่องของภีร์ชิตป่านนี้เขาคงเกลียดเธอไปแล้ว

        วิจิตราไปหาเอกมลที่คอนโดเพื่อปั้นเรื่องของเพียงรดาที่เป็นช่างภาพแต่สวมรอยเป็นเพียงรดาคนรักของภีร์
“ถ้าเรื่องนี้นักข่าวรู้เข้า อาจทำให้มีผลกับโฆษณาที่กำลังจะได้ถ่ายคู่กันก็ได้นะค่ะ” วิจิตราบอก
เอกกมลมองวิจิตราอย่างไม่เข้าใจเหตุผลที่แท้จริง
“นี่ตาชอบเจ้าภีร์จริงๆ หรือหวังอะไรหรือเปล่า” เอกมล หรือชะเอมถามอย่างสงสัย
วิจิตราตีหน้าเศร้าทันที
“ความรู้สึกของตาไม่สำคัญเท่าความรู้สึกของภีร์หรอกค่ะ เรื่องของภีร์ ตาแสดงออกเต็มร้อย แต่ภีร์สิค่ะ” วิจิตราเริ่มบีบน้ำตาร้องไห้
“ใจเย็นก่อนตา ภีร์อาจไม่อยากทำให้ตาเสียหายเลยยังไม่ยอมรับ” ชะเอมพยามแก้ต่างให้คนของเขา
“แต่ใครเค้าก็เชียร์ ถ้ายอมรับว่าคบกันตา เห็นมีแต่คนสนับสนุน แฟนคลับของตาก็ชอบภีร์มาก มีแต่ภีร์ที่ไม่เคยยอมรับตาสักที”
วิจิตราพูดปนสะอื้น เอกกมลเข้ามาปลอบ
“เอาไว้พี่จะคุยกับภีร์ให้ พี่ขอเวลาให้ภีร์หน่อยนะ”
“พี่เอมค่ะ นี้สองปีแล้วนะค่ะ เรื่องของตากับภีร์ยังคลุมเครืออยู่เลย” วิจิตราบอกกับเอกกมลอย่างอัดอั้นใจ
เอกกมลได้แต่ปลอบเพราะไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่