
คงไม่มีใครคาดคิด ว่าในหนึ่งปีจะมีมากกว่า 365 วัน เพียงรดาเองก็เช่นกัน ในวันที่เธอต้องการ "สารภาพรัก"
กับคนที่เธอพยายามผลักไส คนที่เห็นและรักเธอเพียงเพราะเธอเป็นเงาของใครอีกคนมาโดยตลอด
"เธอไม่ได้ความจำเสื่อม" "เธอไม่ได้แกล้งที่จะลืมเพื่อให้ชายคนนั้นต้องเจ็บช้ำ"
แต่เธอหาสาเหตุไม่ได้ว่า "เพราะอะไร" ภีร์ชิต นักแสดงที่มีชื่อเสียง ถึงได้รู้สึก "รัก" เธอมากมายขนาดนี้
"เธอจะสวมรอยเป็นใครคนนั้นของเขา... ดีไหม?"
และแล้วในวันที่เธอพร้อมให้ "หัวใจ" มาก่อน "เหตุผล"
กับเป็นวันที่อุบัติเหตุพราก "เธอ" ไปจาก "เขา" ในโลก "ปัจจุบัน" ตลอดกาล
แต่ "โชคชะตา" ไม่ได้ "โหดร้าย"
แค่พา "เธอ" ไปพบว่า "เขารักเธอ" เพราะเหตุใด?
เพียงรดา มี "โอกาสใช้ชีวิตในจุดเดิมอีกครั้ง 2 ปี"
กับ "เขา" ที่มีท่าที ห่างเหิน เย็นชา และ กวนประสาท ไม่มีความรู้สึก "รัก" เธอ แม้แต่น้อย
จาก "เขา" ที่เป็นฝ่ายเฝ้าตามหาเธอ กลับกลายเป็นเธอ "ที่ต้องเฝ้าตามเขา"
เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ?
ภีร์ชิตต้องเจ็บซ้ำสองหรือไม่ ?
เพียงรดาจะกลับมาโลกปัจุบันได้อีกครั้ง หรือ ร่างกายต้องสูญสลาย เพียงเพื่อต้องการปกป้องคนที่เธอรัก?
ลองติดตามดูนะค่ะ ^_^

ตอนที่ 1
http://pantip.com/topic/30471581
ตอนที่ 2
ภีร์ชิตสร้างเรื่องไว้สำนักงานของ All I n ไม่นานนักชะเอมผู้จัดการส่วนตัวของเขาก็รู้เรื่อง
ภีร์ชิตเอ๋ยขอโทษที่ทำอะไรโดยพละการ และสร้างเรื่องให้ชะเอมต้องตามจัดการอีกแล้ว
“เพิ่งมาคิดได้นะ” คือคำพูดที่ชะเอมบ่นกับภีร์ชิตเสมอ
“พี่ครับ ยังมีอีกเรื่องที่ผมต้องขอให้พี่ช่วย” ภีร์ชิตมองผู้จัดการของเขาด้วยสายตาที่อ้อนวอน
ชะเอมขนลุกขึ้นมาทันที ที่เห็นท่าทีแบบนั้น ภีร์ชิตเล่าเรื่องที่ให้ทาง All I n มาร่วมงานในกองถ่ายให้ชะเอมฟัง
“พี่ว่าแล้ว นี่ภีร์ถ้ายัยนั่นไม่ใช่เพียงรดาตัวจริง มันคุ้มมั้ย ที่ภีร์เอาชื่อเสียงของภีร์มาเสี่ยง ทำอะไรหัดคิดและยับยั้งตัวเองบ้าง
แล้วพี่จะบอกนายอย่างไรหละที่นี้” ชะเอมเตือน
“ผมขอโทษครับพี่ ครั้งนี้ผมขอจริงๆ” ภีร์ชิตพูดอย่างแน่วแน่ ชะเอมได้แต่ถอนหายใจด้วยความหนักใจที่ต้องตามแก้เรื่องให้กับคนของเขา
ภีร์ชิตใช้เวลายามว่างอันน้อยนิดของเขาเพื่อสะกดรอยตามเพียงรดา แต่ด้วยความมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของเขาทำให้
เขาต้องพลางตัวเองตลอด เพียงรดาเองก็รู้สึกแปลกๆเหมือนมีอะไรผิดปกติแต่ไม่รู้ว่าอะไร ใกล้จะถึงวันที่นัดทำงานกับภีร์ชิต
ทุกครั้งที่เธอคิดถึงเขา เธอไม่สามารถห้ามใจให้อดสงสัยไม่ได้ว่าที่ผ่านมานั้นชายหนุ่มทำไปเพื่ออะไร
“อาจจะมีกล้องซ่อนอยู่ตรงไหนก็ได้ เหมือนรายการที่ชอบแอบถ่ายทั่วไปไง” เป็นประโยคที่เจนจิราบอกกับเธออยู่เสมอ
“นั่นสิ คนดังระดับนั้นจะมาอยากรู้จักอะไรกับคนอย่างเรา” นี่คือสิ่งที่เพียงรดาคิดอยู่ในตอนนี้
ทุกครั้งหลังจากที่เจนจิราเข้านอนแล้ว เพียงรดามักแอบหาข้อมูลของภีร์ชิตจากทางสื่อออนไลน์ นานเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่ได้สนใจ
เรื่องของวงการบันเทิง ทั้งที่เธอมีเพื่อนทำงานอยู่สายนี้แต่เธอก็ทำเป็นหูทวนลมทุกครั้งที่เจนจิราเมาส์มอยเรื่องพวกนี้ให้เธอฟัง
สิ่งที่เธอสนใจคื่อเรื่องของธรรมชาติและการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เพราะภีร์ชิตทำให้เธอต้องกับมาสนใจเรื่องพวกนี้อีกครั้ง
“ตีสามแล้วหรือเนี่ย” เพียงรดาพูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นนาฬิกาที่ผนังห้อง หญิงสาวบิดขี้เกียจเล็กน้อยด้วยความเมื่อยล้า
หลายวันมานี้เธอแอบหาข้อมูลของภีร์ชิดจนดึก เพียงรดารู้สึกอยากได้กาแฟสักถ้วยแต่กาแฟที่ห้องหมดเธอจึงลงไปที่ร้านสะดวกซื้อ
แถวคอนโดของเธอ ระหว่างขากลับเธอรู้สึกเหมือนโดยสะกดรอยตาม ด้วยความกลัวหญิงสาวไม่กล้าหันกลับไปดูด้านหลัง
พยามยามเดินตรงที่มีแสงไฟ แต่หญิงสาวยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินตามมา เพียงรดามองหาใครสักคนที่พอจะร้องขอความช่วยเหลือได้
แต่ในเวลาตีสามกว่าแบบนี้ทำให้เธอมองไม่เห็นใคร หญิงสาวกำหมัดแน่นในเวลานี้เธอคงต้องช่วยตัวเอง เพียงรดาตัดสินใจหันหลังไป
พร้อมหมัดขวาของเธอ ชายหนุ่มแปลกหน้ารับหมัดเธอไว้ได้ทัน เพียงรดารีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือแต่โดนเขาใช้มือปิดปากเธอไว้
เพียงรดาพยายามดิ้นสุดแรงเกิด แต่เหมือนหญิงดิ้นเขาก็ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้น
“ผมเอง เพียงรดา” ชายหนุ่มแปลกหน้าปล่อยเธอแล้วถอดหมวกออกเพื่อแสดงตัว เพียงรดามองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มชัดขึ้น
“คุณภีร์ชิต นี่คุณกำลังเล่นอะไรอยู่เนี่ย” เพียงรดาเอ๋ยถามด้วยความโกรธ ภีร์ชิตไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเธออย่างไร
เพราะเขาหาเหตุผลไม่ได้เช่นกันว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ เขารู้แต่ว่าหัวใจของเขาสั่งให้มาหาเธอที่นี่
เพียงรดายังคงมองชายหนุ่มด้วยความโกรธ หญิงสาวเริ่มได้กลิ่นบางอย่างออกมาจากตัวเขา
เพียงรดารู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มเพิ่งผ่านการดื่มหนักมาแน่ๆ ภีร์ชิตพยายามตั้งสติเพราะตอนนี้ในหัวของเขามึนไปหมด
“ผมขอโทษเพียงรดา ขอโทษที่ทำให้คุณต้องตกใจ”
“คุณเริ่มล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวของฉันแล้วนะค่ะ คุณภีร์ชิต”
“ผมขอโทษ”
“ฉันว่าคุณรีบกลับบ้านคุณซะ ก่อนที่ใครจะมาเห็นคุณในสภาพแบบนี้”
“นี่ผมดูแย่ในสายตาคุณขนาดนั้นเลยหรอ” ภีร์ชิตพูดด้วยความน้อยใจ ร่างกายเขาเริ่มเซ เพียงรดาอยากเขามาช่วยประคองแต่ไม่ดีกว่า
“เชื่อฉันกลับบ้านคุณซะ”
“ผมขับรถไม่ไหว แรงกายและแรงใจของผมมันแทบไม่เหลือแล้ว” ภีร์ชิตเริ่มอ้อน
“แล้วใครใช้ให้คุณดื่มมาซะขนาดนี้หละค่ะ” เพียงรดาถาม ภีร์ชิตได้แต่ส่ายหน้า เขาแค่อยากอยู่ใกล้ๆเธอ
ภีร์ชิตทิ้งร่างของเขาไปร่างของเพียงรดา เขาใช้ใบหน้าของเขาซบลงที่บ่าของเพียงรดาอย่างที่เขาเคยคุ้นเคย
ชายหนุ่มรู้สึกอุ่นใจและวางใจมาก ก่อนที่สติวูบสุดท้ายของเขาจะหมดไป เพียงรดาตั้งตัวแทบไม่ทันกับการกระทำของภีร์ชิต
หญิงสาวพยายามเรียกเพื่อให้เขาตื่นแต่ว่าสายไปเสียแล้ว เพียงรดาพยายามประคองภีร์ชิตด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมี
“คุณภีร์ชิต ฉันจะทำอย่างไรกับคุณดี” เพียงรดาบ่นอย่างอ่อนใจ
ก่อนที่จะประคองชายหนุ่มขึ้นคอนโดของเธออย่างจำใจเพราะเธอไม่สามารถปล่อยเขาไว้ข้างถนนได้

เพียงรดาทิ้งร่างของชายหนุ่มลงที่โซฟาในห้องของเธอ
“ถ้ายัยเจนรู้เรื่องเข้า คุณต้องโดยพาดหัวข่าวดังแน่หละคราวนี้ แต่จะว่าไปคุณก็ดังอยู่แล้วนี้” เพียงรดาบ่นให้ภีร์ชิตที่เมาหลับอยู่
เธอช่วยเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง หญิงสาวเสียสละผ้าห่มที่เธอใช้อยู่ให้เขา และช่วยเขาในเรื่องที่พอจะช่วยได้ เช่นถอดรองเท้า
เช็ดหน้าและเช็ดตัวบางส่วนที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำให้เขาได้
“นายคิดว่านายเป็นใครกันนะนายภีร์ชิต” เพียงรดาทำไปบ่นไป
ก่อนที่ความอ่อนล้าทำให้เธอต้องปล่อยเขาทิ้งไว้และกลับไปนอนที่ห้องของเธอ
เช้าวันรุ่งขึ้นเจนจิราตื่นมาและเดินออกมาจากห้องตามปกติ เธอเห็นคนนอนคลุมโปงอยู่ที่โซฟา เจนจิราคิดว่าเป็นเพียงรดา
จึงเขาไปแกล้ง ตะโกนปลุกอย่างเสียงดังที่ข้างหู
“ตื่นได้แล้วววววว” ภีร์ชิตสะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจ เจนจิราเองก็ตกใจไม่แพ้กันคนเมื่อคนที่อยู่ในผ้าห่มไม่ใช่เพื่อนของเธอ
เสียงเอะอะโวยวายทำให้เพียงรดาสะดุ้งตื่นเช่นเดียวกัน หญิงสาวนึกขึ้นได้ว่ามีภีร์ชิตอยู่ที่นี่ด้วยทำให้เธอรีบออกมาดูต้นตอของเสียงทันที
“นี่รดา มันหมายความว่ายังไง ทำไมคุณภีร์ชิตถึงมาอยู่ในห้องเราได้” เจนจิรายืนกอดอก ถามอย่างสงสัย
ในขณะที่ภีร์ชิตยังคงนั่งนิ่งและพยายามตั้งสติ
เพียงรดามองหน้าเพื่อนก่อนจะหันไปมองหน้าชายหนุ่มแล้วถอนหายใจไม่รู้จะอธิบายยังไง
“มันเป็นเรื่องบังเอิญ ทำให้เข้าใจผิดกันนิดหน่อย” เพียงรดาพยายามอธิบาย
“บังเอิญมากเลยนะ เสื้อที่คุณภีร์ชิตใส่ ก็เสื้อแก นี่ก็ผ้าห่มของแก” เจนจิราถามอย่างสงสัย
ภีร์ชิตรู้ว่าผ้าห่มที่ห่มอยู่เป็นของเพียงรดาจึงแกล้งเอาขึ้นมาหอม เพียงรดามองค้อนอย่างตำหนิก่อนจะพูดขึ้นว่า
“นี่คุณ คุณไม่คิดจะอธิบายอะไรบ้างเลยหรอ”
ภีร์ชิตถอนหายใจก่อนตอบ
“ผมจำอะไรไม่ค่อยได้ ภาพเดียวที่ผ่านมาในสมองผมตอนนี้ คือผมล้มลงในอ้อมกอดของคุณ” ภีร์ชิตตอบอย่างหน้าตาเฉย
“ห้ะ นี่เธอสองคนกำลังคบกันอยู่หรอ” เจนจิราถามอย่างตกใจ
เพียงรดาเองก็ตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น โบกมือปฏิเสธ พร้อมกับส่ายหัวยืนยัน ทำให้ภีร์ชิตอดน้อยใจไม่ได้
“นี่คุณภีร์ชิต ถ้าคุณอธิบายแบบนี้ คุณนั่งเงียบๆ แบบเดิมดีกว่า” เพียงรดาตัดพ้อ
ก่อนจะดึงมือเพื่อนสาวเข้าห้องนอนเพื่ออธิบายเรื่องราวตั้งแต่ต้น
ภีร์ชิตที่นั่งรออยู่ด้านนอนได้แต่กอดผ้าห่มของเพียงรดาอย่างหวงแหนก่อนจะหยิบรูปของเพียงรดาที่ตั้งอยู่ด้านข้างมาดูอย่างชื่นชม
“ทำไมคุณถึงจำผมไม่ได้ คุณแกล้งทำเพราะต้องการพิสูจน์ใจผม หรือคุณจำผมไม่ได้จริงๆ เพียงรดา” ภีร์ชิตถามกับรูปใบนั้นอย่างสับสน
เมื่อเจนจิรารู้ความจริงทั้งหมด ซึ่งกว่าจะรู้ความจริงได้เพียงรดาแทบนั่งยันนอนยันกันเลยทีเดียว
“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูนักข่าวเข้า เป็นเรื่องแน่” เจนจิราถาม
“ก็มีนักข่างสองคนรู้เรื่องอยู่แล้วนี่” เพียงรดาย้อน ทำให้เพื่อนของเธอนึกขึ้นได้ถึงสถานะของตัวเอง
“งั้นเราเอาข่าวนี้ไปให้หัวหน้าเลยดีมั้ย”
เพียงรดาได้ยินอย่างนั้นก็รีบหยิกเพื่อนเพื่อเตือนสติ
“ตอนนี้ เราทำอย่างนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่อยากเดือดร้อน ยิ่งอีกไม่กี่วัน ฉันต้องไปทำงานกับเขากว่าจะปิดกล้องก็อีกตั้งหลายเดือน
อีกอย่างมันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ถ้าวันไหนเขาเจอคนของเขาจริงๆ เขาคงหายไปจากชีวิตของฉันเองแหละ”
“ทำไมแกต้องทำเสียงเศร้าด้วยวะ” เจนจิราเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนเปลี่ยนไป
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“ฉันไม่เชื่อ อย่าบอกนะว่าแกเริ่มหวั่นไหว”
“บ้า เริ่มไปกันใหญ่แล้วเจน ฉันจะรีบทำงานนี้ให้จบ จะได้กลับไปทำงานที่ตัวเองชอบสักที”
“บุกป่าฝ่าดงแบบเดิมเนี่ยนะ”
“อืม”
“ยัยโรคจิต ทำงานสบายๆในเมืองไม่ชอบ”
“ชั่งฉันเถอนะ ฉันว่าเรารีบส่งคุณภีร์ชิตกลับบ้านก่อนดีกว่า ถ้ายิ่งสายคนจะยิ่งพลุกพล่าน” เพียงรดาออกความคิดเห็น
เจนจิราเห็นด้วยกับเพื่อนของเธอ
เมื่อทั้งคู่ออกมาจากห้อง ภีร์ชิตยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเหมือนกับพยามยามซึมซับบรรกาศและสภาพแวดล้อมของเพียงรดา
“ฉันว่าคุณรีบอาบน้ำ แล้วกลับบ้านคุณดีกว่า เราสองคนไม่อยากเดือดร้อนไปกว่านี้”เพียงรดาพูด ภีร์ชิตหน้าเจือนลง
“คุณไปอาบน้ำห้องรดาแล้วกัน” เจนจิราพูด
“แล้วทำไมต้องเป็นห้องฉันหละ” เพียงรดาถามอย่างไม่พอใจ
“ก็ห้องฉันมันรก อีกอย่างเรื่องนี้ เธอพาเข้ามาเธอก็ต้องรับผิดชอบ” เจนจิราพูดอย่างไม่สนใจแล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองทันที
เพียงรดาไม่สามารถปฎิเสธได้ จึงจำใจพาภีร์ชิตมาที่ห้องของตนเอง เพียงรดาหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่และแปรงสีฟันอันใหม่ส่งให้ภีร์ชิต
“ห้องคุณ น่าอยู่ดีนะ” ภีร์ชิตพูดพร้อมทำหน้าทะเล้นใส่
“มันก็เรื่องของห้องฉัน เลิกทำสายตาวุ่นวายอย่างรู้อยากเห็นสักทีได้มั้ยค่ะ”
“ทำไม คุณไม่ชอบที่ผมสนใจห้องของคุณ งั้น ผมสนใจคุณแทนดีมั้ย” ภีร์ชิตพูดแหย่
แต่กับทำให้ใบหน้าของเพียงรดาร้อนผ่าว
“นี่คุณภีร์ชิต แค่ฉันรู้จักคุณไม่ถึงเดือน ชีวิตฉันก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรที่เกี่ยวกับฉัน คุณก็เลิกยุ่งสักทีเถอะค่ะ”
“ผมทำไม่ได้” ภีร์ชิตตอบอย่างจริงจังพร้อมกับยักคิ้วใส่อย่างไม่สนใจความรู้สึกของเพียงรดาที่อยู่ตรงหน้า
ทั้งคู่สบตากันเพียงรดารู้สึกหายใจไม่ออก จึงเป็นฝ่ายหลบตาแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที
ภีร์ชิตทรุดตัวลงนั่งที่เตียงนอน เขารู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาที่อยู่ใกล้เพียงรดา เขารักเธอ และรักเธอมาก
รักทุกอย่างที่เกี่ยวกับเพียงรดา สองปีแล้วที่เธอหายตัวไป เขารอเธอแม้ว่าอาจจะไม่มีหวังแต่เพราะความเชื่อมั่น ทำให้เขายังคงรอเธอต่อไป
แต่ทำไมเมื่อเจอกันแล้ว เธอกลับจำเขาไม่ได้
“เพราะอะไร”
เป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวของภีร์ชิตตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกับเพียงรดาจนถึงในความรู้สึกในขณะนี้
นิยาย พิสูจน์รักข้ามเวลา บทนำ และ ตอนที่ 2 โดย ณ พัชระ
คงไม่มีใครคาดคิด ว่าในหนึ่งปีจะมีมากกว่า 365 วัน เพียงรดาเองก็เช่นกัน ในวันที่เธอต้องการ "สารภาพรัก"
กับคนที่เธอพยายามผลักไส คนที่เห็นและรักเธอเพียงเพราะเธอเป็นเงาของใครอีกคนมาโดยตลอด
"เธอไม่ได้ความจำเสื่อม" "เธอไม่ได้แกล้งที่จะลืมเพื่อให้ชายคนนั้นต้องเจ็บช้ำ"
แต่เธอหาสาเหตุไม่ได้ว่า "เพราะอะไร" ภีร์ชิต นักแสดงที่มีชื่อเสียง ถึงได้รู้สึก "รัก" เธอมากมายขนาดนี้
"เธอจะสวมรอยเป็นใครคนนั้นของเขา... ดีไหม?"
และแล้วในวันที่เธอพร้อมให้ "หัวใจ" มาก่อน "เหตุผล"
กับเป็นวันที่อุบัติเหตุพราก "เธอ" ไปจาก "เขา" ในโลก "ปัจจุบัน" ตลอดกาล
แต่ "โชคชะตา" ไม่ได้ "โหดร้าย"
แค่พา "เธอ" ไปพบว่า "เขารักเธอ" เพราะเหตุใด?
เพียงรดา มี "โอกาสใช้ชีวิตในจุดเดิมอีกครั้ง 2 ปี"
กับ "เขา" ที่มีท่าที ห่างเหิน เย็นชา และ กวนประสาท ไม่มีความรู้สึก "รัก" เธอ แม้แต่น้อย
จาก "เขา" ที่เป็นฝ่ายเฝ้าตามหาเธอ กลับกลายเป็นเธอ "ที่ต้องเฝ้าตามเขา"
เรื่องราวจะลงเอยอย่างไร ?
ภีร์ชิตต้องเจ็บซ้ำสองหรือไม่ ?
เพียงรดาจะกลับมาโลกปัจุบันได้อีกครั้ง หรือ ร่างกายต้องสูญสลาย เพียงเพื่อต้องการปกป้องคนที่เธอรัก?
ลองติดตามดูนะค่ะ ^_^
ตอนที่ 1 http://pantip.com/topic/30471581
ตอนที่ 2
ภีร์ชิตสร้างเรื่องไว้สำนักงานของ All I n ไม่นานนักชะเอมผู้จัดการส่วนตัวของเขาก็รู้เรื่อง
ภีร์ชิตเอ๋ยขอโทษที่ทำอะไรโดยพละการ และสร้างเรื่องให้ชะเอมต้องตามจัดการอีกแล้ว
“เพิ่งมาคิดได้นะ” คือคำพูดที่ชะเอมบ่นกับภีร์ชิตเสมอ
“พี่ครับ ยังมีอีกเรื่องที่ผมต้องขอให้พี่ช่วย” ภีร์ชิตมองผู้จัดการของเขาด้วยสายตาที่อ้อนวอน
ชะเอมขนลุกขึ้นมาทันที ที่เห็นท่าทีแบบนั้น ภีร์ชิตเล่าเรื่องที่ให้ทาง All I n มาร่วมงานในกองถ่ายให้ชะเอมฟัง
“พี่ว่าแล้ว นี่ภีร์ถ้ายัยนั่นไม่ใช่เพียงรดาตัวจริง มันคุ้มมั้ย ที่ภีร์เอาชื่อเสียงของภีร์มาเสี่ยง ทำอะไรหัดคิดและยับยั้งตัวเองบ้าง
แล้วพี่จะบอกนายอย่างไรหละที่นี้” ชะเอมเตือน
“ผมขอโทษครับพี่ ครั้งนี้ผมขอจริงๆ” ภีร์ชิตพูดอย่างแน่วแน่ ชะเอมได้แต่ถอนหายใจด้วยความหนักใจที่ต้องตามแก้เรื่องให้กับคนของเขา
ภีร์ชิตใช้เวลายามว่างอันน้อยนิดของเขาเพื่อสะกดรอยตามเพียงรดา แต่ด้วยความมีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักของเขาทำให้
เขาต้องพลางตัวเองตลอด เพียงรดาเองก็รู้สึกแปลกๆเหมือนมีอะไรผิดปกติแต่ไม่รู้ว่าอะไร ใกล้จะถึงวันที่นัดทำงานกับภีร์ชิต
ทุกครั้งที่เธอคิดถึงเขา เธอไม่สามารถห้ามใจให้อดสงสัยไม่ได้ว่าที่ผ่านมานั้นชายหนุ่มทำไปเพื่ออะไร
“อาจจะมีกล้องซ่อนอยู่ตรงไหนก็ได้ เหมือนรายการที่ชอบแอบถ่ายทั่วไปไง” เป็นประโยคที่เจนจิราบอกกับเธออยู่เสมอ
“นั่นสิ คนดังระดับนั้นจะมาอยากรู้จักอะไรกับคนอย่างเรา” นี่คือสิ่งที่เพียงรดาคิดอยู่ในตอนนี้
ทุกครั้งหลังจากที่เจนจิราเข้านอนแล้ว เพียงรดามักแอบหาข้อมูลของภีร์ชิตจากทางสื่อออนไลน์ นานเท่าไหร่แล้วที่เธอไม่ได้สนใจ
เรื่องของวงการบันเทิง ทั้งที่เธอมีเพื่อนทำงานอยู่สายนี้แต่เธอก็ทำเป็นหูทวนลมทุกครั้งที่เจนจิราเมาส์มอยเรื่องพวกนี้ให้เธอฟัง
สิ่งที่เธอสนใจคื่อเรื่องของธรรมชาติและการท่องเที่ยวเท่านั้น แต่เพราะภีร์ชิตทำให้เธอต้องกับมาสนใจเรื่องพวกนี้อีกครั้ง
“ตีสามแล้วหรือเนี่ย” เพียงรดาพูดขึ้นเมื่อหันไปเห็นนาฬิกาที่ผนังห้อง หญิงสาวบิดขี้เกียจเล็กน้อยด้วยความเมื่อยล้า
หลายวันมานี้เธอแอบหาข้อมูลของภีร์ชิดจนดึก เพียงรดารู้สึกอยากได้กาแฟสักถ้วยแต่กาแฟที่ห้องหมดเธอจึงลงไปที่ร้านสะดวกซื้อ
แถวคอนโดของเธอ ระหว่างขากลับเธอรู้สึกเหมือนโดยสะกดรอยตาม ด้วยความกลัวหญิงสาวไม่กล้าหันกลับไปดูด้านหลัง
พยามยามเดินตรงที่มีแสงไฟ แต่หญิงสาวยังคงได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินตามมา เพียงรดามองหาใครสักคนที่พอจะร้องขอความช่วยเหลือได้
แต่ในเวลาตีสามกว่าแบบนี้ทำให้เธอมองไม่เห็นใคร หญิงสาวกำหมัดแน่นในเวลานี้เธอคงต้องช่วยตัวเอง เพียงรดาตัดสินใจหันหลังไป
พร้อมหมัดขวาของเธอ ชายหนุ่มแปลกหน้ารับหมัดเธอไว้ได้ทัน เพียงรดารีบตะโกนร้องขอความช่วยเหลือแต่โดนเขาใช้มือปิดปากเธอไว้
เพียงรดาพยายามดิ้นสุดแรงเกิด แต่เหมือนหญิงดิ้นเขาก็ยิ่งกอดเธอแน่นขึ้น
“ผมเอง เพียงรดา” ชายหนุ่มแปลกหน้าปล่อยเธอแล้วถอดหมวกออกเพื่อแสดงตัว เพียงรดามองเห็นใบหน้าของชายหนุ่มชัดขึ้น
“คุณภีร์ชิต นี่คุณกำลังเล่นอะไรอยู่เนี่ย” เพียงรดาเอ๋ยถามด้วยความโกรธ ภีร์ชิตไม่รู้ว่าจะตอบคำถามเธออย่างไร
เพราะเขาหาเหตุผลไม่ได้เช่นกันว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ เขารู้แต่ว่าหัวใจของเขาสั่งให้มาหาเธอที่นี่
เพียงรดายังคงมองชายหนุ่มด้วยความโกรธ หญิงสาวเริ่มได้กลิ่นบางอย่างออกมาจากตัวเขา
เพียงรดารู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มเพิ่งผ่านการดื่มหนักมาแน่ๆ ภีร์ชิตพยายามตั้งสติเพราะตอนนี้ในหัวของเขามึนไปหมด
“ผมขอโทษเพียงรดา ขอโทษที่ทำให้คุณต้องตกใจ”
“คุณเริ่มล้ำเส้นความเป็นส่วนตัวของฉันแล้วนะค่ะ คุณภีร์ชิต”
“ผมขอโทษ”
“ฉันว่าคุณรีบกลับบ้านคุณซะ ก่อนที่ใครจะมาเห็นคุณในสภาพแบบนี้”
“นี่ผมดูแย่ในสายตาคุณขนาดนั้นเลยหรอ” ภีร์ชิตพูดด้วยความน้อยใจ ร่างกายเขาเริ่มเซ เพียงรดาอยากเขามาช่วยประคองแต่ไม่ดีกว่า
“เชื่อฉันกลับบ้านคุณซะ”
“ผมขับรถไม่ไหว แรงกายและแรงใจของผมมันแทบไม่เหลือแล้ว” ภีร์ชิตเริ่มอ้อน
“แล้วใครใช้ให้คุณดื่มมาซะขนาดนี้หละค่ะ” เพียงรดาถาม ภีร์ชิตได้แต่ส่ายหน้า เขาแค่อยากอยู่ใกล้ๆเธอ
ภีร์ชิตทิ้งร่างของเขาไปร่างของเพียงรดา เขาใช้ใบหน้าของเขาซบลงที่บ่าของเพียงรดาอย่างที่เขาเคยคุ้นเคย
ชายหนุ่มรู้สึกอุ่นใจและวางใจมาก ก่อนที่สติวูบสุดท้ายของเขาจะหมดไป เพียงรดาตั้งตัวแทบไม่ทันกับการกระทำของภีร์ชิต
หญิงสาวพยายามเรียกเพื่อให้เขาตื่นแต่ว่าสายไปเสียแล้ว เพียงรดาพยายามประคองภีร์ชิตด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมี
“คุณภีร์ชิต ฉันจะทำอย่างไรกับคุณดี” เพียงรดาบ่นอย่างอ่อนใจ
ก่อนที่จะประคองชายหนุ่มขึ้นคอนโดของเธออย่างจำใจเพราะเธอไม่สามารถปล่อยเขาไว้ข้างถนนได้
เพียงรดาทิ้งร่างของชายหนุ่มลงที่โซฟาในห้องของเธอ
“ถ้ายัยเจนรู้เรื่องเข้า คุณต้องโดยพาดหัวข่าวดังแน่หละคราวนี้ แต่จะว่าไปคุณก็ดังอยู่แล้วนี้” เพียงรดาบ่นให้ภีร์ชิตที่เมาหลับอยู่
เธอช่วยเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง หญิงสาวเสียสละผ้าห่มที่เธอใช้อยู่ให้เขา และช่วยเขาในเรื่องที่พอจะช่วยได้ เช่นถอดรองเท้า
เช็ดหน้าและเช็ดตัวบางส่วนที่ผู้หญิงคนหนึ่งจะทำให้เขาได้
“นายคิดว่านายเป็นใครกันนะนายภีร์ชิต” เพียงรดาทำไปบ่นไป
ก่อนที่ความอ่อนล้าทำให้เธอต้องปล่อยเขาทิ้งไว้และกลับไปนอนที่ห้องของเธอ
เช้าวันรุ่งขึ้นเจนจิราตื่นมาและเดินออกมาจากห้องตามปกติ เธอเห็นคนนอนคลุมโปงอยู่ที่โซฟา เจนจิราคิดว่าเป็นเพียงรดา
จึงเขาไปแกล้ง ตะโกนปลุกอย่างเสียงดังที่ข้างหู
“ตื่นได้แล้วววววว” ภีร์ชิตสะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจ เจนจิราเองก็ตกใจไม่แพ้กันคนเมื่อคนที่อยู่ในผ้าห่มไม่ใช่เพื่อนของเธอ
เสียงเอะอะโวยวายทำให้เพียงรดาสะดุ้งตื่นเช่นเดียวกัน หญิงสาวนึกขึ้นได้ว่ามีภีร์ชิตอยู่ที่นี่ด้วยทำให้เธอรีบออกมาดูต้นตอของเสียงทันที
“นี่รดา มันหมายความว่ายังไง ทำไมคุณภีร์ชิตถึงมาอยู่ในห้องเราได้” เจนจิรายืนกอดอก ถามอย่างสงสัย
ในขณะที่ภีร์ชิตยังคงนั่งนิ่งและพยายามตั้งสติ
เพียงรดามองหน้าเพื่อนก่อนจะหันไปมองหน้าชายหนุ่มแล้วถอนหายใจไม่รู้จะอธิบายยังไง
“มันเป็นเรื่องบังเอิญ ทำให้เข้าใจผิดกันนิดหน่อย” เพียงรดาพยายามอธิบาย
“บังเอิญมากเลยนะ เสื้อที่คุณภีร์ชิตใส่ ก็เสื้อแก นี่ก็ผ้าห่มของแก” เจนจิราถามอย่างสงสัย
ภีร์ชิตรู้ว่าผ้าห่มที่ห่มอยู่เป็นของเพียงรดาจึงแกล้งเอาขึ้นมาหอม เพียงรดามองค้อนอย่างตำหนิก่อนจะพูดขึ้นว่า
“นี่คุณ คุณไม่คิดจะอธิบายอะไรบ้างเลยหรอ”
ภีร์ชิตถอนหายใจก่อนตอบ
“ผมจำอะไรไม่ค่อยได้ ภาพเดียวที่ผ่านมาในสมองผมตอนนี้ คือผมล้มลงในอ้อมกอดของคุณ” ภีร์ชิตตอบอย่างหน้าตาเฉย
“ห้ะ นี่เธอสองคนกำลังคบกันอยู่หรอ” เจนจิราถามอย่างตกใจ
เพียงรดาเองก็ตกใจที่ได้ยินอย่างนั้น โบกมือปฏิเสธ พร้อมกับส่ายหัวยืนยัน ทำให้ภีร์ชิตอดน้อยใจไม่ได้
“นี่คุณภีร์ชิต ถ้าคุณอธิบายแบบนี้ คุณนั่งเงียบๆ แบบเดิมดีกว่า” เพียงรดาตัดพ้อ
ก่อนจะดึงมือเพื่อนสาวเข้าห้องนอนเพื่ออธิบายเรื่องราวตั้งแต่ต้น
ภีร์ชิตที่นั่งรออยู่ด้านนอนได้แต่กอดผ้าห่มของเพียงรดาอย่างหวงแหนก่อนจะหยิบรูปของเพียงรดาที่ตั้งอยู่ด้านข้างมาดูอย่างชื่นชม
“ทำไมคุณถึงจำผมไม่ได้ คุณแกล้งทำเพราะต้องการพิสูจน์ใจผม หรือคุณจำผมไม่ได้จริงๆ เพียงรดา” ภีร์ชิตถามกับรูปใบนั้นอย่างสับสน
เมื่อเจนจิรารู้ความจริงทั้งหมด ซึ่งกว่าจะรู้ความจริงได้เพียงรดาแทบนั่งยันนอนยันกันเลยทีเดียว
“แล้วเราจะทำอย่างไรต่อไป ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูนักข่าวเข้า เป็นเรื่องแน่” เจนจิราถาม
“ก็มีนักข่างสองคนรู้เรื่องอยู่แล้วนี่” เพียงรดาย้อน ทำให้เพื่อนของเธอนึกขึ้นได้ถึงสถานะของตัวเอง
“งั้นเราเอาข่าวนี้ไปให้หัวหน้าเลยดีมั้ย”
เพียงรดาได้ยินอย่างนั้นก็รีบหยิกเพื่อนเพื่อเตือนสติ
“ตอนนี้ เราทำอย่างนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่อยากเดือดร้อน ยิ่งอีกไม่กี่วัน ฉันต้องไปทำงานกับเขากว่าจะปิดกล้องก็อีกตั้งหลายเดือน
อีกอย่างมันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ถ้าวันไหนเขาเจอคนของเขาจริงๆ เขาคงหายไปจากชีวิตของฉันเองแหละ”
“ทำไมแกต้องทำเสียงเศร้าด้วยวะ” เจนจิราเอ่ยถามเมื่อเห็นท่าทีของเพื่อนเปลี่ยนไป
“เปล่า ไม่มีอะไร”
“ฉันไม่เชื่อ อย่าบอกนะว่าแกเริ่มหวั่นไหว”
“บ้า เริ่มไปกันใหญ่แล้วเจน ฉันจะรีบทำงานนี้ให้จบ จะได้กลับไปทำงานที่ตัวเองชอบสักที”
“บุกป่าฝ่าดงแบบเดิมเนี่ยนะ”
“อืม”
“ยัยโรคจิต ทำงานสบายๆในเมืองไม่ชอบ”
“ชั่งฉันเถอนะ ฉันว่าเรารีบส่งคุณภีร์ชิตกลับบ้านก่อนดีกว่า ถ้ายิ่งสายคนจะยิ่งพลุกพล่าน” เพียงรดาออกความคิดเห็น
เจนจิราเห็นด้วยกับเพื่อนของเธอ
เมื่อทั้งคู่ออกมาจากห้อง ภีร์ชิตยังคงนั่งอยู่ที่เดิมเหมือนกับพยามยามซึมซับบรรกาศและสภาพแวดล้อมของเพียงรดา
“ฉันว่าคุณรีบอาบน้ำ แล้วกลับบ้านคุณดีกว่า เราสองคนไม่อยากเดือดร้อนไปกว่านี้”เพียงรดาพูด ภีร์ชิตหน้าเจือนลง
“คุณไปอาบน้ำห้องรดาแล้วกัน” เจนจิราพูด
“แล้วทำไมต้องเป็นห้องฉันหละ” เพียงรดาถามอย่างไม่พอใจ
“ก็ห้องฉันมันรก อีกอย่างเรื่องนี้ เธอพาเข้ามาเธอก็ต้องรับผิดชอบ” เจนจิราพูดอย่างไม่สนใจแล้วเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองทันที
เพียงรดาไม่สามารถปฎิเสธได้ จึงจำใจพาภีร์ชิตมาที่ห้องของตนเอง เพียงรดาหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหม่และแปรงสีฟันอันใหม่ส่งให้ภีร์ชิต
“ห้องคุณ น่าอยู่ดีนะ” ภีร์ชิตพูดพร้อมทำหน้าทะเล้นใส่
“มันก็เรื่องของห้องฉัน เลิกทำสายตาวุ่นวายอย่างรู้อยากเห็นสักทีได้มั้ยค่ะ”
“ทำไม คุณไม่ชอบที่ผมสนใจห้องของคุณ งั้น ผมสนใจคุณแทนดีมั้ย” ภีร์ชิตพูดแหย่
แต่กับทำให้ใบหน้าของเพียงรดาร้อนผ่าว
“นี่คุณภีร์ชิต แค่ฉันรู้จักคุณไม่ถึงเดือน ชีวิตฉันก็วุ่นวายมากพออยู่แล้ว ไม่ว่าอะไรที่เกี่ยวกับฉัน คุณก็เลิกยุ่งสักทีเถอะค่ะ”
“ผมทำไม่ได้” ภีร์ชิตตอบอย่างจริงจังพร้อมกับยักคิ้วใส่อย่างไม่สนใจความรู้สึกของเพียงรดาที่อยู่ตรงหน้า
ทั้งคู่สบตากันเพียงรดารู้สึกหายใจไม่ออก จึงเป็นฝ่ายหลบตาแล้วเดินออกไปข้างนอกทันที
ภีร์ชิตทรุดตัวลงนั่งที่เตียงนอน เขารู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้เวลาที่อยู่ใกล้เพียงรดา เขารักเธอ และรักเธอมาก
รักทุกอย่างที่เกี่ยวกับเพียงรดา สองปีแล้วที่เธอหายตัวไป เขารอเธอแม้ว่าอาจจะไม่มีหวังแต่เพราะความเชื่อมั่น ทำให้เขายังคงรอเธอต่อไป
แต่ทำไมเมื่อเจอกันแล้ว เธอกลับจำเขาไม่ได้
“เพราะอะไร”
เป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวของภีร์ชิตตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกับเพียงรดาจนถึงในความรู้สึกในขณะนี้