ม่านบังใจ (ชื่อชั่วคราว) ตอนที่ ๔

กระทู้สนทนา
ตอนที่ ๑ http://pantip.com/topic/30434386
ตอนที่ ๒ http://pantip.com/topic/30438072
ตอนที่ ๓ http://pantip.com/topic/30442654

                     ความรู้สึกของอศวรรฒ์ก้ำกึ่งกันอยู่ ใจหนึ่งเขาอยากจะถ่วงเวลากลับบ้าน แต่อีกใจก็อยากรีบกลับบ้านเร็วๆ สุพินดา สังเกตเห็นว่าชายคู่หมั้นใจลอย เธอจึงถามด้วยความสงสัยว่า

    “เป็นอะไรหรือคะ วันนี้ดูอาร์มใจลอยเหมือนคิดอะไรอยู่”

    “เรื่องงานน่ะครับ” อศวรรฒ์ตอบเลี่ยง

    “ถ้าเป็นเรื่องที่กำลังมีปัญหาอยู่ตอนนี้ อาร์มไม่ต้องห่วงค่ะ คุณพ่อจัดการให้แล้วค่ะ” สุพินดาจับมือคู่หมั้น อศวรรฒ์ยิ้มให้เธอ

    “ขอบคุณครับ”

    “ได้ข่าวว่าลูกสาวคุณศันต์กลับมาวันนี้” สุพินดาซบศีรษะลงบนไหล่คู่หมั้น

    “ครับ” ชายหนุ่มแปลกใจว่าเธอรู้ได้อย่างไร

    “ได้ยินมาว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่เบาเลยนะคะ สาวปาร์ตี้จ๋าควงหนุ่มไม่ซ้ำหน้า” สุพินดามองดูแก้วไวน์แดงกระทบแสงไฟเป็นประกาย อศวรรฒ์ได้ยินแล้วรู้สึกเหมือนมีก้อนแข็งจุกที่ลำคอ

    “ดี้ไปฟังมาจากไหนครับ”

    “เพื่อนดี้ที่เรียนอยู่นิวยอร์กค่ะ ไม่รู้ว่าเล่นยาด้วยหรือเปล่า” อศวรรฒ์กล้ามเนื้อกระตุกทันทีที่ได้ยินคำว่า “เล่นยา”

    “เพื่อนของดี้รู้จักกับคุณแคลร์หรือครับ”

    “ไม่หรอกค่ะ แต่แค่เห็นเข้าออกผับที่โน่นทุกคืน คงไม่ต้องมีคำอธิบายอื่นอีกแล้ว อาร์มคงปวดหัวแย่เลยนะคะที่ต้องอยู่ร่วมบ้านกับคนแบบนั้น”

    “อันที่จริงผมแค่อาศัยบ้านคุณแคลร์อยู่นะครับ” อศวรรฒ์พูดเสียงเรียบ

    “แหม มีลูกไม่เอาไหนแบบนั้น ยังไงเสีย คุณศันต์ก็ต้องเห็นอาร์มดีกว่า”

    “ดึกแล้ว ผมกลับก่อนนะครับ” อศวรรฒ์ตัดบท

    “ค้างที่นี่ก็ได้นี่คะ” สุพินดามองเขาด้วยแววตาเว้าวอน

    “อย่าดีกว่าครับ” อศวรรฒ์ยิ้มให้คู่หมั้น

    “ดี้บอกแล้วไงคะ ว่าไม่ต้องคิดมาก เราหมั้นกันแล้ว อีกไม่นานก็จะแต่งงานกัน”

    “ผมกลับนะครับ” อศวรรฒ์จูบที่หน้าผากสุพินดา

                        อศวรรฒ์กับสุพินดาหมั้นกันได้สามเดือน ครอบครัวทั้งคู่วางแผนจะจัดงานแต่งงานในช่วงปลายปี อศวรรฒ์อยากทำทุกอย่างให้ถูกต้องตามธรรมเนียม แต่สุพินดาเป็นผู้หญิงยุคใหม่     เธอจึงไม่แคร์กับการมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งก่อนแต่งงาน ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงพยายามหลีกเลี่ยงที่จะมาหาเธอที่คอนโดมิเนียม

                     สุพินดายังนั่งอยู่ที่เดิม เสียงปิดประตูทำให้เธอหงุดหงิด หมั้นกับผู้ชายดีและเพียบพร้อมอย่างอศวรรฒ์ก็ดีอยู่หรอก เสียแต่ว่า “ดีเกินไป” นี่สิทำให้น่าเบื่อ

                     คัทลียานอนเอกเขนกบนเตียงรายล้อมด้วยหมอนอิงสารพัดแบบ หญิงสาวร่างแบบชุดแต่งงานให้เพื่อนชาวอเมริกัน พอเมื่อยมือก็นั่งหมุนดินสอเล่น คิ้วขมวดเป็นระยะ พ่อจะให้เธอไปทำงานที่บริษัทในตำแหน่งอะไรนะเธอไม่มีความรู้เรื่องยาเลยสักนิด หรือแม้กระทั่งเรื่องการบริหาร

                    หญิงสาววางกระดานรองเขียนไว้บนเตียง มาหิวอะไรกลางดึกนะ ชั้นล่างเงียบสนิท มีไฟดวงเล็กเปิดพอให้มีแสงสว่าง  พวกคนรับใช้คงไปขลุกอยู่ที่เรือนนอก  คัทลียาเดินเข้าครัว    เปิดตู้เย็นหยิบขนม ผลไม้ และเครื่องดื่มมากองบนเคาน์เตอร์

                   อศรวรรฒ์กำลังจะขึ้นไปบนห้อง ชายหนุ่มเห็นมีแสงไฟจากในครัว จึงเข้าไปดู พบร่างสูงระหงยืนหันหลังให้ประตูครัว

    “นอนไม่หลับหรือครับ” อศวรรฒ์ถาม คัทลียาไม่ตอบหญิงสาวหยิบขนมใส่ปากต่อไป  ชายหนุ่มลังเลว่าจะชวนคุยต่อดีไหม

    “ทานแล้วอย่าเพิ่งนอนนะครับ รอให้อาหารย่อยก่อน” อศวรรฒ์พูดเสียงนุ่ม พอเห็นว่าอีกฝ่ายคงไม่ยอมคุยด้วย ชายหนุ่มจึงเดินจากไป

    “แม่ยังไม่นอนหรือครับ” อศวรรฒ์แปลกใจ เมื่อเห็นมารดานั่งรออยู่ในห้องทำงานของเขา

    “แม่เป็นห่วงคุณแคลร์น่ะ นอนหลับหรือเปล่าก็ไม่รู้”

    “ผมเห็นยืนทานขนมอยู่ในครัวครับ” อศวรรฒ์พูดกลั้วหัวเราะ

    “แม่ว่าแล้ว ต้องหิวกลางดึก”

    “ทำไมครับ”

    “ตอนเย็นไม่ยอมทานข้าว จะทานมาม่า แม่เลยทำให้”

    “แผลงฤทธิ์ตั้งแต่วันแรกเลย”

    “อาร์มอย่าไปว่าน้อง” อนงค์ปรามลูกชาย

    “แม่ไปนอนเถอะครับ เดี๋ยวผมจะดูเองว่าคุณแคลร์อยากได้อะไรไหม”

    “อาร์มไม่พักผ่อนล่ะลูก”

    “ผมยังมีงานต้องทำอีกครับ”

    “งั้นแม่ฝากด้วยนะ”

                      อนงค์ออกไปแล้ว อศวรรฒ์ถอดเสื้อนอกแขวนไว้บนราว ชายหนุ่มเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ้ค เขาไม่มีสมาธิทำงาน จึงลงไปข้างล่างอีกครั้ง คัทลียาเดินสวนขึ้นมา หญิงสาวเห็นว่าใครเดินลงมาทำให้เธอหงุดหงิด แค่ได้ยินเสียงก็น่ารำคาญพออยู่แล้ว

    “อิ่มแล้วหรือครับ” อศวรรฒ์ถาม ยืนหลบไปอีกด้าน คัทลียาไม่ตอบ เดินผ่านชายหนุ่มราวกับว่าเขาไม่มีตัวตน ชายกระโปรงรยาวกรอมเท้าทำให้หญิงสาวสะดุด

    “ว้าย” คัทลียาร้อง เธอเกือบตกบันได ดีที่อศวรรฒ์มารับไว้ทัน

    “ชายกระโปรงมันยาวครับ คุณแคลร์ควรจะเดินจับราวบันได” อศวรรฒ์เตือน ชายหนุ่มโอบเอวคัทลียาไว้หลวมๆ

    “ปล่อย” คัทลียาเสียงเขียว

    “คุณแคลร์จับแขนผมไว้ครับ” อศวรรฒ์อยู่ใกล้เธอจนได้กลิ่นหอมอ่อนๆ จากผม คัทลียาสะบัดแขนหนี จนเกือบเสียหลักลื่นตกบันได คราวนี้อศวรรฒ์กอดเธอแน่น

    “บอกให้ปล่อย” คัทลียาเน้นเสียง จ้องชายหนุ่มตาเขียวปัด

    “พื้นมันลื่น คุณแคลร์ควรเดินระวังกว่านี้” อศวรรฒ์พูดเสียงนุ่มนวล

    “จะปล่อยไม่ปล่อย” คัทลียาตวาด

    “ไม่ปล่อยครับ” อศวรรฒ์มองหญิงสาวในอ้อมแขน สายตาที่ทำให้คัทลียาใจเต้น

    “ไอ้พี่อาร์ม” คัทลียาแผดเสียง พลางผลักอกชายหนุ่ม แต่เธอก็ยังไม่หลุดจากอ้อมกอดของเขา

    “ถ้าคุณแคลร์ยังทำแบบนี้ เราคงได้ตกบันได้ด้วยกันทั้งคู่” อศวรรฒ์ปราม

    “ฉันเดินเองได้”

    “เกาะแขนผมไว้แล้วกัน” อศวรรฒ์คลายอ้อมกอด คัทลียาสะบัดแขน ชายหนุ่มยื่นแขนให้เธอใช้เป็นหลัก คัทลียไม่สนใจ รั้งชายกระโปรงขึ้นด้วยมือสองข้างแล้วเดินขึ้นบันได อศวรรฒ์เดินตามหลังไปติดๆ เพราะกลัวเธอจะลื่นตกบันได ชายหนุ่มรอจนคัทลียกลับเข้าห้องแล้วจึงเดินไปที่ห้องของตัวเอง

    “กวนประสาทจริงๆ” คัทลียาหยิบตุ๊กตาตัวที่ใกล้มือที่สุดเขวี้ยงใส่ประตูกระจก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ม่านบังใจ โดย กัณฐมาศ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่