JJNY : กสม.จี้นิด้าสอบจริยธรรม อ.ดัง│4 ผู้รับจ้างยันปชน.ไม่ได้สั่งทำลาย│ยันส่งคืน 18 เชลยศึก│นศ.อิหร่านผสมโรงเจ้าของร้าน

กสม. จี้นิด้า สอบจริยธรรมอาจารย์คนดัง หลังดูหมิ่นชาติกำเนิดส.ส. ชี้ละเมิดความเป็นมนุษย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_5529178
.

.
กสม. จี้นิด้า สอบจริยธรรมอาจารย์คนดัง หลังดูหมิ่นชาติกำเนิดส.ส. ชี้ละเมิดความเป็นมนุษย์
.
วันที่ 31 ธันวาคม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ เรื่อง
.
การละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการคุกคามทางเพศ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ สะท้อนความไร้วุฒิภาวะ
.
ตามที่ปรากฏกรณีอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นชาติกำเนิดและปูมหลังครอบครัวของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หญิง พรรคประชาชน และล่าสุดปรากฏกรณีนักร้องนักแสดงชื่อดังแสดงความเห็นต่อผู้สมัคร สส. หญิง พรรคไทยสร้างไทย ทางสื่อสังคมออนไลน์โดยใช้ถ้อยคำหยาบคายและส่อไปในทางคุกคามทางเพศ นั้น
.
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เห็นว่าการกระทำที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีผู้หญิงและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แม้ทุกคนจะมีเสรีภาพทางความคิดและมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นโดยเสรี แต่การแสดงความเห็นนั้นต้องเคารพและไม่ละเมิดในสิทธิของผู้อื่น ไม่ใช้ถ้อยคำเหยียดหยาม หยาบคาย สร้างความเกลียดชัง ลดทอน ดูหมิ่น ด้อยค่า ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียในเกียรติยศชื่อเสียง
.
ในสังคมประชาธิปไตย ความแตกต่างหลายหลากทางความคิดความเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกฝ่ายต้องเคารพ การใช้สิทธิและเสรีภาพที่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ขาดความรับผิดชอบ และบั่นทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ไม่เพียงสะท้อนถึงความคับแคบทางความคิด และการไร้ซึ่งวุฒิภาวะ แต่ยังอาจทำให้สังคมใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล และเป็นส่วนหนึ่งของอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตย
.
ด้วยเหตุนี้ กสม. จึงขอให้สถาบันอุดมศึกษาต้นสังกัด เร่งตรวจสอบพฤติกรรมและจริยธรรมของบุคลากรของสถาบัน และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมในกรณีคุกคามทางเพศด้วย
.
นอกจากนี้ ขอให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะบุคคลสาธารณะที่มีส่วนชี้นำสังคมเป็นแบบอย่างที่ดีในการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นและแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ด้วยความรับผิดชอบ และขอให้สังคมร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยท่ามกลางความเห็นอันแตกต่างหลากหลาย เพื่อให้ประเทศพัฒนาและก้าวสู่ศักราชใหม่ที่ทุกฝ่ายเคารพในหลักสิทธิมนุษยชน
.
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
31 ธันวาคม 2568.
.

.
4 ผู้รับจ้างติดป้าย มอบตัวตร. อ้างไม่ทันระวัง ทำป้ายหาเสียงพท.พัง ยันปชน.ไม่ได้สั่งทำลาย
https://www.matichon.co.th/politics/election69/news_5528952
.
4 ผู้รับเหมา ติดป้ายเข้ามอบตัวทำร้ายป้ายพรรคเพื่อไทย
.
จากกรณี นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ผู้สมัคร สส.กทม.เขต 14 บางกะปิ-วังทองหลาง (แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลาดพร้าว ว่าป้ายหาเสียงถูกทำลาย บริเวณปากซอยนวมินทร์ 21 แขวงคลองจั่นเขตบางกะปิ พร้อมทั้งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 00.19 น. มีกลุ่มบุคคลจำนวน 4 คน ลงจากรถกระบะสีขาวได้ลงมือกระชากและทำลายป้ายของนายพงศกรจนเสียหาย และนำป้ายของพรรคดังกล่าวมาติดทับแทนที่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา
.
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สน.ลาดพร้าว ตรวจสอบกรณีดังกล่าว ป้ายหาเสียง พรรคเพื่อไทย ปรากฎรูปผู้เสียหายชื่อ ถูกปิดป้ายหาเสียงของพรรคประชาชน ปรากฎชื่อ (ฮา) ก่อเกียรติ ก่อสูงศักดิ์ ติดแทนที่ตำแหน่งของผู้เสียหาย และพบว่า ป้ายหาเสียงของผู้เสียหาย ถูกพับหัก และซุกซ่อนอยู่บริเวณหลัง ป้ายหาเสียงของพรรคประชาชน ปรากฎชื่อ ก่อเกียรติ ก่อสูงศักดิ์ ซึ่งตรวจสอบแล้วป้ายหาเสียงที่ถูกพับหักดังกล่าวเป็นของผู้เสียหายจริง และได้รับความเสียหาย แต่ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำให้ป้ายหาเสียงของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย
.
ด้าน พ.ต.อ.ธนาพันธ์ เปิดเผยว่า กระทำความผิดคือผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้เข้ามอบตัวกับผู้เสียหาย ยืนยันเป็นเพียงผู้รับเหมา รับจ้างติดป้ายละ 70 บาท 200 ป้าย ราคา 14,000 บาท เมื่อโดนป้ายพรรคเพื่อไทยพังจึงได้วางไว้บริเวณดังกล่าว จากการสอบสวนยืนยันว่า ไม่น่าจะมีกรณีของทางพรรคเมืองที่นำป้ายมาติดสั่งการให้ทำลายป้ายพรรคฝั่งตรงข้ามแต่อย่างใด อาจจะรับงานรีบติดไม่ทันระวัง เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์นำตัวฝากขังช่วงเช้าต่อไป
.

.
ไทยยันส่งคืน 18 เชลยศึกกัมพูชา ไม่กระทบอธิปไตย ยังตรึงกำลังชายแดนเข้ม 24 ชม.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5529104
.
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แจงไทยส่งคืน 18 เชลยศึกกัมพูชา ตามกรอบสากล ย้ำไม่กระทบอธิปไตย–ตรึงกำลังชายแดนเข้ม 24 ชม.
.
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยได้ดำเนินการส่งตัวทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย ซึ่งอยู่ในการควบคุมของฝ่ายไทย กลับสู่ฝ่ายกัมพูชา ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด หมู่ที่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี โดยมีผู้แทนจาก International Committee of the Red Cross (ICRC), ASEAN Observer Team (AOT) และผู้แทนจากกองทัพภาคที่ 2 ร่วมสังเกตการณ์
.
ฝ่ายกัมพูชา มีผู้แทนรับตัว ได้แก่ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 และผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน
.
การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ที่ลงนามในการประชุม GBC และเจตนารมณ์ของถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทยและกัมพูชา รวมทั้งข้อตกลงที่มีเงื่อนไขชัดเจน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม โดยยึดมั่นในมาตรฐานสากลและความรับผิดชอบของทุกฝ่าย
.
ฝ่ายไทยขอยืนยันว่า การดำเนินการนี้ไม่กระทบต่ออธิปไตย ความมั่นคง หรือศักดิ์ศรีของประเทศ โดยกองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองประชาชนและรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ชายแดน
.
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ดำเนินการบันทึก ตรวจสอบ และติดตามข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง ตามกลไกและแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ เพื่อยืนยันความถูกต้อง โปร่งใส และความรับผิดชอบของทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
.
การดำเนินการดังกล่าว สะท้อนจุดยืนของประเทศไทยที่ยึดหลักสันติวิธี ควบคู่กับการปกป้องประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ ในฐานะประเทศที่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ มีความรับผิดชอบ และมุ่งส่งเสริมสันติภาพอย่างยั่งยืน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่