กสม. จี้นิด้า สอบจริยธรรมอาจารย์คนดัง หลังดูหมิ่นชาติกำเนิดส.ส. ชี้ละเมิดความเป็นมนุษย์
https://www.matichon.co.th/politics/news_5529178
.

.
กสม. จี้นิด้า สอบจริยธรรมอาจารย์คนดัง หลังดูหมิ่นชาติกำเนิดส.ส. ชี้ละเมิดความเป็นมนุษย์
.
วันที่ 31 ธันวาคม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ เรื่อง
.
การละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการคุกคามทางเพศ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ สะท้อนความไร้วุฒิภาวะ
.
ตามที่ปรากฏกรณีอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นชาติกำเนิดและปูมหลังครอบครัวของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หญิง พรรคประชาชน และล่าสุดปรากฏกรณีนักร้องนักแสดงชื่อดังแสดงความเห็นต่อผู้สมัคร สส. หญิง พรรคไทยสร้างไทย ทางสื่อสังคมออนไลน์โดยใช้ถ้อยคำหยาบคายและส่อไปในทางคุกคามทางเพศ นั้น
.
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เห็นว่าการกระทำที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีผู้หญิงและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แม้ทุกคนจะมีเสรีภาพทางความคิดและมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นโดยเสรี แต่การแสดงความเห็นนั้นต้องเคารพและไม่ละเมิดในสิทธิของผู้อื่น ไม่ใช้ถ้อยคำเหยียดหยาม หยาบคาย สร้างความเกลียดชัง ลดทอน ดูหมิ่น ด้อยค่า ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียในเกียรติยศชื่อเสียง
.
ในสังคมประชาธิปไตย ความแตกต่างหลายหลากทางความคิดความเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกฝ่ายต้องเคารพ การใช้สิทธิและเสรีภาพที่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ขาดความรับผิดชอบ และบั่นทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ไม่เพียงสะท้อนถึงความคับแคบทางความคิด และการไร้ซึ่งวุฒิภาวะ แต่ยังอาจทำให้สังคมใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล และเป็นส่วนหนึ่งของอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตย
.
ด้วยเหตุนี้ กสม. จึงขอให้สถาบันอุดมศึกษาต้นสังกัด เร่งตรวจสอบพฤติกรรมและจริยธรรมของบุคลากรของสถาบัน และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมในกรณีคุกคามทางเพศด้วย
.
นอกจากนี้ ขอให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะบุคคลสาธารณะที่มีส่วนชี้นำสังคมเป็นแบบอย่างที่ดีในการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นและแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ด้วยความรับผิดชอบ และขอให้สังคมร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยท่ามกลางความเห็นอันแตกต่างหลากหลาย เพื่อให้ประเทศพัฒนาและก้าวสู่ศักราชใหม่ที่ทุกฝ่ายเคารพในหลักสิทธิมนุษยชน
.
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
31 ธันวาคม 2568.
.
.
4 ผู้รับจ้างติดป้าย มอบตัวตร. อ้างไม่ทันระวัง ทำป้ายหาเสียงพท.พัง ยันปชน.ไม่ได้สั่งทำลาย
https://www.matichon.co.th/politics/election69/news_5528952
.
4 ผู้รับเหมา ติดป้ายเข้ามอบตัวทำร้ายป้ายพรรคเพื่อไทย
.
จากกรณี นาย
พงศกร รัตนเรืองวัฒนา ผู้สมัคร สส.กทม.เขต 14 บางกะปิ-วังทองหลาง (แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลาดพร้าว ว่าป้ายหาเสียงถูกทำลาย บริเวณปากซอยนวมินทร์ 21 แขวงคลองจั่นเขตบางกะปิ พร้อมทั้งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 00.19 น. มีกลุ่มบุคคลจำนวน 4 คน ลงจากรถกระบะสีขาวได้ลงมือกระชากและทำลายป้ายของนาย
พงศกรจนเสียหาย และนำป้ายของพรรคดังกล่าวมาติดทับแทนที่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา
.
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พล.ต.ต.
กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.
ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สน.ลาดพร้าว ตรวจสอบกรณีดังกล่าว ป้ายหาเสียง พรรคเพื่อไทย ปรากฎรูปผู้เสียหายชื่อ ถูกปิดป้ายหาเสียงของพรรคประชาชน ปรากฎชื่อ
(ฮา) ก่อเกียรติ ก่อสูงศักดิ์ ติดแทนที่ตำแหน่งของผู้เสียหาย และพบว่า ป้ายหาเสียงของผู้เสียหาย ถูกพับหัก และซุกซ่อนอยู่บริเวณหลัง ป้ายหาเสียงของพรรคประชาชน ปรากฎชื่อ
ก่อเกียรติ ก่อสูงศักดิ์ ซึ่งตรวจสอบแล้วป้ายหาเสียงที่ถูกพับหักดังกล่าวเป็นของผู้เสียหายจริง และได้รับความเสียหาย แต่ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำให้ป้ายหาเสียงของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย
.
ด้าน พ.ต.อ.
ธนาพันธ์ เปิดเผยว่า กระทำความผิดคือผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้เข้ามอบตัวกับผู้เสียหาย ยืนยันเป็นเพียงผู้รับเหมา รับจ้างติดป้ายละ 70 บาท 200 ป้าย ราคา 14,000 บาท เมื่อโดนป้ายพรรคเพื่อไทยพังจึงได้วางไว้บริเวณดังกล่าว จากการสอบสวนยืนยันว่า ไม่น่าจะมีกรณีของทางพรรคเมืองที่นำป้ายมาติดสั่งการให้ทำลายป้ายพรรคฝั่งตรงข้ามแต่อย่างใด อาจจะรับงานรีบติดไม่ทันระวัง เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์นำตัวฝากขังช่วงเช้าต่อไป
.
.
ไทยยันส่งคืน 18 เชลยศึกกัมพูชา ไม่กระทบอธิปไตย ยังตรึงกำลังชายแดนเข้ม 24 ชม.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5529104
.
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แจงไทยส่งคืน 18 เชลยศึกกัมพูชา ตามกรอบสากล ย้ำไม่กระทบอธิปไตย–ตรึงกำลังชายแดนเข้ม 24 ชม.
.
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยได้ดำเนินการส่งตัวทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย ซึ่งอยู่ในการควบคุมของฝ่ายไทย กลับสู่ฝ่ายกัมพูชา ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด หมู่ที่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี โดยมีผู้แทนจาก International Committee of the Red Cross (ICRC), ASEAN Observer Team (AOT) และผู้แทนจากกองทัพภาคที่ 2 ร่วมสังเกตการณ์
.
ฝ่ายกัมพูชา มีผู้แทนรับตัว ได้แก่ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 และผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน
.
การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ที่ลงนามในการประชุม GBC และเจตนารมณ์ของถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทยและกัมพูชา รวมทั้งข้อตกลงที่มีเงื่อนไขชัดเจน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม โดยยึดมั่นในมาตรฐานสากลและความรับผิดชอบของทุกฝ่าย
.
ฝ่ายไทยขอยืนยันว่า การดำเนินการนี้ไม่กระทบต่ออธิปไตย ความมั่นคง หรือศักดิ์ศรีของประเทศ โดยกองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองประชาชนและรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ชายแดน
.
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ดำเนินการบันทึก ตรวจสอบ และติดตามข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง ตามกลไกและแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ เพื่อยืนยันความถูกต้อง โปร่งใส และความรับผิดชอบของทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
.
การดำเนินการดังกล่าว สะท้อนจุดยืนของประเทศไทยที่ยึดหลักสันติวิธี ควบคู่กับการปกป้องประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ ในฐานะประเทศที่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ มีความรับผิดชอบ และมุ่งส่งเสริมสันติภาพอย่างยั่งยืน
JJNY : กสม.จี้นิด้าสอบจริยธรรม อ.ดัง│4 ผู้รับจ้างยันปชน.ไม่ได้สั่งทำลาย│ยันส่งคืน 18 เชลยศึก│นศ.อิหร่านผสมโรงเจ้าของร้าน
https://www.matichon.co.th/politics/news_5529178
.
.
กสม. จี้นิด้า สอบจริยธรรมอาจารย์คนดัง หลังดูหมิ่นชาติกำเนิดส.ส. ชี้ละเมิดความเป็นมนุษย์
.
วันที่ 31 ธันวาคม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ออกแถลงการณ์ เรื่อง
.
การละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการคุกคามทางเพศ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ สะท้อนความไร้วุฒิภาวะ
.
ตามที่ปรากฏกรณีอาจารย์สถาบันอุดมศึกษาแห่งหนึ่งกล่าวถ้อยคำดูหมิ่นชาติกำเนิดและปูมหลังครอบครัวของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) หญิง พรรคประชาชน และล่าสุดปรากฏกรณีนักร้องนักแสดงชื่อดังแสดงความเห็นต่อผู้สมัคร สส. หญิง พรรคไทยสร้างไทย ทางสื่อสังคมออนไลน์โดยใช้ถ้อยคำหยาบคายและส่อไปในทางคุกคามทางเพศ นั้น
.
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เห็นว่าการกระทำที่ดูหมิ่นศักดิ์ศรีผู้หญิงและละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ แม้ทุกคนจะมีเสรีภาพทางความคิดและมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นโดยเสรี แต่การแสดงความเห็นนั้นต้องเคารพและไม่ละเมิดในสิทธิของผู้อื่น ไม่ใช้ถ้อยคำเหยียดหยาม หยาบคาย สร้างความเกลียดชัง ลดทอน ดูหมิ่น ด้อยค่า ทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียในเกียรติยศชื่อเสียง
.
ในสังคมประชาธิปไตย ความแตกต่างหลายหลากทางความคิดความเห็นเป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกฝ่ายต้องเคารพ การใช้สิทธิและเสรีภาพที่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ขาดความรับผิดชอบ และบั่นทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ไม่เพียงสะท้อนถึงความคับแคบทางความคิด และการไร้ซึ่งวุฒิภาวะ แต่ยังอาจทำให้สังคมใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล และเป็นส่วนหนึ่งของอุปสรรคในการพัฒนาประชาธิปไตย
.
ด้วยเหตุนี้ กสม. จึงขอให้สถาบันอุดมศึกษาต้นสังกัด เร่งตรวจสอบพฤติกรรมและจริยธรรมของบุคลากรของสถาบัน และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมในกรณีคุกคามทางเพศด้วย
.
นอกจากนี้ ขอให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะบุคคลสาธารณะที่มีส่วนชี้นำสังคมเป็นแบบอย่างที่ดีในการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่นและแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ด้วยความรับผิดชอบ และขอให้สังคมร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยท่ามกลางความเห็นอันแตกต่างหลากหลาย เพื่อให้ประเทศพัฒนาและก้าวสู่ศักราชใหม่ที่ทุกฝ่ายเคารพในหลักสิทธิมนุษยชน
.
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
31 ธันวาคม 2568.
.
.
4 ผู้รับจ้างติดป้าย มอบตัวตร. อ้างไม่ทันระวัง ทำป้ายหาเสียงพท.พัง ยันปชน.ไม่ได้สั่งทำลาย
https://www.matichon.co.th/politics/election69/news_5528952
.
4 ผู้รับเหมา ติดป้ายเข้ามอบตัวทำร้ายป้ายพรรคเพื่อไทย
.
จากกรณี นายพงศกร รัตนเรืองวัฒนา ผู้สมัคร สส.กทม.เขต 14 บางกะปิ-วังทองหลาง (แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์) เบอร์ 2 พรรคเพื่อไทย (พท.) เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ลาดพร้าว ว่าป้ายหาเสียงถูกทำลาย บริเวณปากซอยนวมินทร์ 21 แขวงคลองจั่นเขตบางกะปิ พร้อมทั้งตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. เวลา 00.19 น. มีกลุ่มบุคคลจำนวน 4 คน ลงจากรถกระบะสีขาวได้ลงมือกระชากและทำลายป้ายของนายพงศกรจนเสียหาย และนำป้ายของพรรคดังกล่าวมาติดทับแทนที่ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.ที่ผ่านมา
.
ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.4 สั่งการให้ พ.ต.อ.ธนาพันธ์ ผดุงการ ผกก.สน.ลาดพร้าว ตรวจสอบกรณีดังกล่าว ป้ายหาเสียง พรรคเพื่อไทย ปรากฎรูปผู้เสียหายชื่อ ถูกปิดป้ายหาเสียงของพรรคประชาชน ปรากฎชื่อ (ฮา) ก่อเกียรติ ก่อสูงศักดิ์ ติดแทนที่ตำแหน่งของผู้เสียหาย และพบว่า ป้ายหาเสียงของผู้เสียหาย ถูกพับหัก และซุกซ่อนอยู่บริเวณหลัง ป้ายหาเสียงของพรรคประชาชน ปรากฎชื่อ ก่อเกียรติ ก่อสูงศักดิ์ ซึ่งตรวจสอบแล้วป้ายหาเสียงที่ถูกพับหักดังกล่าวเป็นของผู้เสียหายจริง และได้รับความเสียหาย แต่ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นคนทำให้ป้ายหาเสียงของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย
.
ด้าน พ.ต.อ.ธนาพันธ์ เปิดเผยว่า กระทำความผิดคือผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้เข้ามอบตัวกับผู้เสียหาย ยืนยันเป็นเพียงผู้รับเหมา รับจ้างติดป้ายละ 70 บาท 200 ป้าย ราคา 14,000 บาท เมื่อโดนป้ายพรรคเพื่อไทยพังจึงได้วางไว้บริเวณดังกล่าว จากการสอบสวนยืนยันว่า ไม่น่าจะมีกรณีของทางพรรคเมืองที่นำป้ายมาติดสั่งการให้ทำลายป้ายพรรคฝั่งตรงข้ามแต่อย่างใด อาจจะรับงานรีบติดไม่ทันระวัง เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนสน.ลาดพร้าว ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์นำตัวฝากขังช่วงเช้าต่อไป
.
.
ไทยยันส่งคืน 18 เชลยศึกกัมพูชา ไม่กระทบอธิปไตย ยังตรึงกำลังชายแดนเข้ม 24 ชม.
https://www.matichon.co.th/politics/news_5529104
.
ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา แจงไทยส่งคืน 18 เชลยศึกกัมพูชา ตามกรอบสากล ย้ำไม่กระทบอธิปไตย–ตรึงกำลังชายแดนเข้ม 24 ชม.
.
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายไทยได้ดำเนินการส่งตัวทหารกัมพูชาจำนวน 18 นาย ซึ่งอยู่ในการควบคุมของฝ่ายไทย กลับสู่ฝ่ายกัมพูชา ณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านผักกาด หมู่ที่ 4 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี โดยมีผู้แทนจาก International Committee of the Red Cross (ICRC), ASEAN Observer Team (AOT) และผู้แทนจากกองทัพภาคที่ 2 ร่วมสังเกตการณ์
.
ฝ่ายกัมพูชา มีผู้แทนรับตัว ได้แก่ ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 และผู้ว่าราชการจังหวัดไพลิน
.
การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ที่ลงนามในการประชุม GBC และเจตนารมณ์ของถ้อยแถลงร่วม (Joint Declaration) ระหว่างไทยและกัมพูชา รวมทั้งข้อตกลงที่มีเงื่อนไขชัดเจน ภายใต้กรอบกฎหมายระหว่างประเทศและหลักมนุษยธรรม โดยยึดมั่นในมาตรฐานสากลและความรับผิดชอบของทุกฝ่าย
.
ฝ่ายไทยขอยืนยันว่า การดำเนินการนี้ไม่กระทบต่ออธิปไตย ความมั่นคง หรือศักดิ์ศรีของประเทศ โดยกองทัพไทยยังคงตรึงกำลังและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อคุ้มครองประชาชนและรักษาความปลอดภัยของพื้นที่ชายแดน
.
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยได้ดำเนินการบันทึก ตรวจสอบ และติดตามข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้อง ตามกลไกและแนวปฏิบัติระหว่างประเทศ เพื่อยืนยันความถูกต้อง โปร่งใส และความรับผิดชอบของทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง
.
การดำเนินการดังกล่าว สะท้อนจุดยืนของประเทศไทยที่ยึดหลักสันติวิธี ควบคู่กับการปกป้องประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ ในฐานะประเทศที่เคารพกฎหมายระหว่างประเทศ มีความรับผิดชอบ และมุ่งส่งเสริมสันติภาพอย่างยั่งยืน