JJNY : "กัณวีร์"ฟาด"กัมพูชา"│กสม.แถลงไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชัง│โปแลนด์กวาดจับ 8 ทรชน │สภาญี่ปุ่นเลือกนายกฯหญิงคนแรก

"กัณวีร์" ฟาด "กัมพูชา" ในวงประชุม IPU-12 Plus ปมทุ่นระเบิดใหม่-ลั่นไม่ยึดมั่นคำสัตย์
.
.
“กัณวีร์” ถามตรงถึงกัมพูชา ในที่ประชุม IPU-12 Plus กล้าประกาศให้โลกปลอดทุ่นระเบิด แต่กลับวางทุ่นระเบิดใหม่ทำทหารไทยบาดเจ็บ ลั่นไม่ยึดมั่นคำสัตย์ จี้ผู้แทนอนุสัญญาออตตาวา-เลขาธิการ UN ตรวจสอบ
.
วันที่ 20 ต.ค. 2568 นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม เปิดเผยถึงการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ 151 ที่นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยวันนี้ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมและกล่าวในวงประชุมกลุ่มภูมิรัฐศาสตร์ IPU- 12 Plus  ซึ่งมี 47 ประเทศสมาชิก พูดคุยในหัวข้อ Protecting Humanity in the Times of War: Strengthened Political Engagement - การคุ้มครองมนุษยชาติในเวลาสงคราม ที่ต้องใช้การมีส่วนร่วมทางการเมือง
.
โดยนายกัณวีร์ กล่าวว่า ตนได้บอกกับที่ประชุมถึงการที่ไทยกำลังเผชิญกับการละเมิดอนุสัญญาออตตาวาที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ ที่ต้องชี้ให้เห็นว่า  เมื่อได้ให้สัญญาอะไรไว้ก็ต้องทำตามสัตยาบันทางการเมืองระหว่างประเทศที่ให้ไว้ ในฐานะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติที่ต้องเคารพกฎหมาย แต่ฝ่ายบริหารที่ไปปฏิบัติ ไม่ยึดมั่น ต่อการให้สัตยาบัน แล้วจะทำอย่างไร
.
"ผมไม่ได้ใช้เวทีมาต่อว่าหรือทำให้อับอาย แต่ยกปัญหาให้เพื่อนสมาชิกได้เห็นว่า การเคารพ ยึดมั่น และปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวา หรือ Anti-Personal Mine Ban Convention (APMBC) เป็นเรื่องสำคัญ แต่ 2 เดือนที่ผ่านมา เราพบว่ากัมพูชาได้ละเมิดด้วยการวางทุ่นระเบิดใหม่ ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บถึง 6 นาย"
.
นายกัณวีร์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่น่าถากถางว่า กัมพูชาได้มีการไปกล่าวถึง “คำประกาศเสียมราฐ–อังกอร์ (Siem Reap – Angkor Declaration) ที่เสียมราฐ ประเทศกัมพูชาร่วมกันว่าโลกเราจะปลอดพ้นจากทุ่นระเบิดในปี 2567 แต่สุดท้ายกัมพูชาเป็นคนวางทุ่นระเบิดใหม่ ทำให้ทหารไทย  บาดเจ็บ 6 ราย ในฐานะรัฐสภา จะทำอย่างไร
.
"ผมย้ำในที่ประชุมอยากให้ทุกคน ยึดมั่น กรอบอนุสัญญาออตตาวา และการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศด้านมนุษยธรรม"
.
นายกัณวีร์ เปิดเผยว่า Mr.Juan Carlos Ruan, Director, Implementation Support Unit of the APMBC ซึ่งเป็นหน่วยงานบังคับใช้อนุสัญญาออตตาวานี้ ตอบในที่ประชุมว่า เรื่องนี้ได้ถูกส่งให้คณะกรรมการภายใต้อนุสัญญาฯ แล้วเพื่อไปพิสูจน์ตามที่ไทยได้ร้องขอมาว่าเป็นการกระทำผิดตามคำมั่นของกัมพูชาหรือไม่ และไทยก็ได้ร้องขอให้ เลขาธิการสหประชาชาติ ตรวจสอบในเรื่องการวางทุ่นระเบิดใหม่ในกรณีประเทศไทยและกัมพูชาอีกทางหนึ่ง ซึ่งผลของทั้ง 2 ทางจะออกมาเร็วๆ นี้ หากต้องมีการส่งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริงลงพื้นที่ตรวจสอบ ก็จะมีในเร็ววันนี้เช่นกัน
.
"ผมได้ตามมาทวงถามเวทีโลกถึงการที่ไทยได้รับผลกระทบจากการไม่ยึดมั่นในคำสัญญาระหว่างประเทศของกัมพูชาในเรื่องทุ่นระเบิด และจะตามต่อไปครับ นี่คือการทำงานการเมืองระหว่างประเทศ ที่ต้องเข้าถึงจุดศูนย์กลางของเวที และต้องสอบถามถึงความคืบหน้า ครั้งหน้าหากมีโอกาสก็จะถามต่อท่านเลขาธิการสหประชาชาติด้วยเช่นกัน" นายกัณวีร์ กล่าวด้วยว่าคนเราหากไม่ยึดมั่นในคำสัตย์ ต้องได้รับผลตามมาอย่างแน่นอน
.

.
กสม.ออกแถลงการณ์ ไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชังทุกรูปแบบ
https://news.ch7.com/detail/834356
.
กรรมการสิทธิฯ ออกแถลงการณ์ ไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดและการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะในห้วงเวลาแห่งความขัดแย้ง
.
วันนี้ (21 ต.ค.68) คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอให้ทุกฝ่ายเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง และไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดชัง โดยระบุว่า ตามที่ปรากฏข้อถกเถียงและความขัดแย้งทางความคิดในสังคม อันมีที่มาจากการแสดงความคิดเห็นสาธารณะต่อการจัดการปัญหาสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กระทั่งมีการสื่อสารโดยสร้างความเกลียดชังอย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ และนำไปสู่การข่มขู่คุกคามบุคคลผู้มีความคิดเห็นต่างนั้น
.
กสม. มีความกังวลต่อสถานการณ์ดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง ด้วยตระหนักว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพทางความคิดและมีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็นโดยปราศจากการแทรกแซง โดยการแสดงความเห็นนั้นต้องเคารพในสิทธิหรือชื่อเสียงของบุคคลอื่น อันสอดคล้องตาม ข้อ 18 และ19 ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) ที่ประเทศไทยเป็นภาคี ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีบุคคลใดสมควรถูกข่มขู่คุกคาม ทำให้หวาดกลัว หรือถูกจำกัดเสรีภาพในการสื่อสารเพราะการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง
.
กสม. เห็นว่า ในสังคมประชาธิปไตยและสังคมที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติ ศาสนา หรือความคิดความเชื่ออื่นใด การเคารพในสิทธิมนุษยชนของทั้งตนเองและผู้อื่นเป็นเรื่องที่สังคมต้องให้ความสำคัญและร่วมกันเรียนรู้ โดยเฉพาะในห้วงเวลาแห่งความขัดแย้ง เช่น สถานการณ์บริเวณชายแดนขณะนี้ ซึ่งมีความเสี่ยงที่ความเห็นต่างจะปลุกเร้าให้เกิดการสร้างความเกลียดชังและความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ตามมา อันไม่เป็นผลดีต่อการสร้างสันติภาพระหว่างรัฐและความสงบสุขของประชาชนในพื้นที่
.
ด้วยเหตุนี้ กสม. จึงขอเน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเคารพในความเห็นต่างและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนทุกคนที่แม้จะแตกต่างกันด้วยเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา หรือสถานะทางสังคมอื่นใด แต่ต่างก็มีคุณค่าในตนเอง ทั้งนี้ ขอให้สังคมร่วมกันสร้างพื้นที่ปลอดภัยในการแสดงความคิดเห็นและการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสร้างสรรค์ ไม่ยอมรับการสร้างความเกลียดและการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในทุกรูปแบบ
.

.
สกัดจารกรรม โปแลนด์กวาดจับ8ทรชน-วางแผนโจมตีทั่วประเทศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_9986676
.
สกัดจารกรรม โปแลนด์กวาดจับ8ทรชน-วางแผนโจมตีทั่วประเทศ
.
สกัดจารกรรม – วันที่ 21 ต.ค. รอยเตอร์รายงานว่า ทางการโปแลนด์ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงกวาดจับผู้ต้องสงสัย 8 คน อยู่ระหว่างวางแผนก่อเหตุโจมตีในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ท่ามกลางความตึงเครียดกับรัสเซีย ในฐานะชาติด่านหน้ายุโรปที่มีพรมแดนติดกับยูเครน
.
นายโดนัลด์ ทุสก์ นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ กล่าวว่า หน่วยตำรวจลับ หรือเอบีดับลิว สนธิกำลังกับหน่วยงานความมั่นคงหลายหน่วย เข้าจับกุมผู้ต้องสงสัย 8 คน ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยทั้งหมดต้องสงสัยว่าอยู่ระหว่างการเตรียมก่อเหตุจารกรรมและโจมตี
.
ทางการโปแลนด์ ระบุว่า แผนการโจมตีข้างต้นรวมถึงการโจมตีทางไซเบอร์และการลอบวางเพลิง ซึ่งเป็นลักษณะของ “สงครามลูกผสม” (hybrid warfare) ที่รัสเซียนิยมนำมาใช้บ่อนทำลายเสถียรภาพของชาติที่สนับสนุนยูเครนต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย แต่รัสเซียปฏิเสธข้อครหานี้
.
นายทอมัช เชโมยัก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการภายใน (เทียบเท่ามหาดไทย) กล่าวว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 8 คน ยังมีพฤติกรรมสำรวจพื้นที่บริเวณที่ตั้งฐานทัพและโครงสร้างสาธารณูปโภคสำคัญ เพื่อเตรียมไปใช้ประกอบการวางแผนโจมตีทั้งทางอ้อมและทางตรงด้วย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่