JJNY : 5in1 ลิซ่าไม่หวั่นซื้อเสียง│เท้งลุยหาเสียงสมุทรปราการ│ศิษย์เก่านิด้าขอโทษไอซ์│เขมรทิ้งศพทหาร│ยูเครนท้ารัสเซียโชว์

ลิซ่า ไม่หวั่นกระแสซื้อเสียง นำทีมลงพื้นที่เมืองคอน พร้อมตั้งโจทย์ใหญ่ จะทนเทา หรือเลือกอนาคตเท่าเทียม https://www.matichon.co.th/politics/election69/news_5528372
.

.
ลิซ่า นำลูกทีมหาเสียง ย่ำพื้นที่สานต่อ ทำความเข้าใจ ปชช.ไม่หวั่นกระแสซื้อเสียง ถามจะทนอยู่กับ “สีเทา” หรือเลือกอนาคตที่เท่าเทียม
.
วันที่ 30 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการหาเสียงในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชของพรรคประชาชน นางสาว ภคมน หนุนอนันต์ หรือ ลิซ่า ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน สัดส่วนภาคใต้ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส. หาเสียงในพื้นที่นครศรีธรรมราช ว่า การเลือกตั้งปี 2569 คือการเลือกอนาคต เป็นโจทย์ใหญ่ที่ชาวนครศรีธรรมราชต้องหาคำตอบร่วมกันว่า วันนี้ มีพรรคการเมืองไหนที่เชื่อใจได้สนิทใจว่าไม่เทา และพร้อมจะพาประเทศไทยไปสู่อนาคตที่เท่าเทียม
.
แม้ที่ผ่านมา พรรคประชาชนจะยังปักธงในจังหวัดนครศรีธรรมราชไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นคนใหม่ เราทำงานในพื้นที่ตลอด แต่ครั้งนี้ สถานการณ์เปลี่ยนไป ปัญหาความเน่าเฟะในสังคมไทยปรากฏชัดเจนขึ้น จนชาวนครศรีธรรมราชไม่อาจละเลยการตัดสินใจเลือกอนาคตได้อีกต่อไป
.
พี่น้องต้องถามใจตัวเองดูว่า จะเชื่อใจนักการเมืองพรรคไหน คนไหน มั่นใจว่าเขาไม่มีนายทุนอยู่เบื้องหลังก็เลือกคนนั้น ส่วนกระแสซื้อเสียงวันนี้ ทางพรรคไม่ตกใจ เพราะวันนี้คนรับเงินแต่ไม่เลือกมีเยอะมาก จะเห็นว่าการเลือกตั้งที่ผ่านมาก็มีให้เห็นเยอะ ดังนั้นอย่าตกใจกับกระแสนี้
.
นางสาวภคมน กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาอาจจะเลือกนักการเมืองจากความใกล้ชิด ความคุ้นชิน แต่ครั้งนี้อยากให้ทุกคนมองโจทย์ใหญ่ของประเทศ เพราะ 1 เสียงของประชาชน กำหนดว่าอยากให้ลูกหลานเติบโตในสังคมแบบไหน อยากวางใจให้ชีวิตตัวเองอยู่ในประเทศที่เต็มไปด้วยส่วย และอิทธิพลมืด หรือประเทศที่มีความเท่าเทียม และตรวจสอบได้ หากท่านต้องการความเปลี่ยนแปลง ขอฝากผู้สมัครของพรรคประชาชนไว้เป็นคำตอบของชาวนครศรีธรรมราชทุกคน
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน นายรังสิมันต์ โรม รองหัวหน้าพรรคประชาชน ได้ลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้ลงพื้นที่ช่วยลูกพรรคหาเสียงทั้ง 9 เขต โดยขึ้นรถตระเวนอ้อนขอคะแนนจากพี่น้องประชาชน พร้อมแนะนำตัวผู้สมัครทั้ง 9 เขต
.
สำหรับผู้สมัคร ส.ส. พรรคประชาชน จ.นครศรีธรรมราช ทั้ง 9 เขต ประกอบด้วย
.
เขต 1 นายปกรณ์ อารีกุล
.
เขต 2 นายจรยุทธ มาศบำรุง พูลพิพัฒน์
.
เขต 3 นายชายประจักร์ ศิริพันธุ์
.
เขต 4 นายวัชระ เกตุชู
.
เขต 5 นายสมโชติ มีชนะ
.
เขต 6 นายพุฒิพงศ์ ลุ่ยจิ๋ว
.
เขต 7 นางสาวฮาวา นุ้ยเจริญ
.
เขต 8 นายธีรวัฒน์ บุญวรรณ
.
เขต 9 นายนาถวัฒน์ ทองทรัพย์
.

.
‘หัวหน้าเท้ง’ลุยหาเสียงสมุทรปราการเมืองอุตสาหกรรม ชูนโยบายเดินหน้าจัดการมลพิษ
https://www.dailynews.co.th/news/5457964/
.
‘หัวหน้าเท้ง’ลุยหาเสียงสมุทรปราการเมืองอุตสาหกรรม ชูนโยบายเดินหน้าจัดการมลพิษ พร้อมปฏิรูประบบกฎหมาย หวังฟื้นฟูและดูแลพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเต็มที่
.
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ในช่วงบ่าย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วยผู้สมัคร สส. ลงพื้นที่พบปะประชาชนใน จ.สมุทรปราการ โดยขึ้นรถแห่จากตลาดปากน้ำ ไปยัง อ.พระประแดง และปิดท้ายที่ตลาดนัดลานทราย
.
โดยในพื้นที่สมุทรปราการ พรรคประชาชนส่งผู้สมัคร สส. ครบทั้ง 8 เขต ดังนี้ น.ส.พนิดา มงคลสวัสดิ์ เขต 1 (เบอร์ 7), น.ส.รัชนก สุขประเสิรฐ เขต 2 (เบอร์ 7), นายพิชัย แจ้งจรรยาวงศ์ เขต 3 (เบอร์ 4), นายชนสิษฎ์ ยอดฉิม เขต 4 (เบอร์ 2), น.ส.นิตยา มีศรี เขต 5 (เบอร์ 11), นายวีรภัทร คันธะ เขต 6 (เบอร์ 7) นายบุญเลิศ แสงพันธุ์ เขต 7 (เบอร์ 8), นายเทพฤทธิ์ ภาษี เขต 8 (เบอร์ 9) 
.
นายณัฐพงษ์ พร้อมผู้สมัคร สส. ได้กล่าวขอบคุณประชาชนที่ออกมาต้อนรับเนืองแน่น พร้อมให้กำลังใจให้สู้ศึกเลือกตั้งเต็มที่ พร้อมรับฟังปัญหาที่สะท้อนจากประชาชนขณะพบปะกัน จากนั้นจึงได้กล่าวถึงนโยบายที่พรรคประชาชนหากได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐบาลประชาชนก็พร้อมที่จะแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อนที่พี่น้องประชาชนเมืองอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศกำลังได้รับผลกระทบอยู่ 
.
นายณัฐพงษ์ ได้สะท้อนให้เห็นว่า บ้านเมืองกำลังขาดกฎหมายเปิดเผยข้อมูล หรือ PRTR (Pollutant Release and Transfer Register) ที่ทำให้รัฐไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า โรงงานแต่ละแห่งปล่อยมลพิษชนิดใด ปริมาณเท่าไร เป็นลักษณะกำกับดูแลแบบแยกส่วน ทำให้มีการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เมื่อมีการร้องเรียนมากกว่าจะป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดตั้งแต่เริ่ม ตลอดจนละเลยการประเมินถึงศักยภาพในการรองรับมลพิษในแต่ละพื้นที่ และปล่อยให้เป็นภัยต่อประชาชนที่เกิดขึ้นซ้ำซาก
.
นายณัฐพงษ์ ได้กล่าวย้ำแนวทางนโยบายที่จะแก้ปัญหา หากได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐบาลประชาชน ด้วยการเดินหน้าปฏิรูประบบกำกับดูแลมลพิษอุตสาหกรรม โดยตรากฎหมายเผยรายงานข้อมูลมลพิษสำหรับสาธารณะ (PRTR), แบ่งเขตมลพิษชัดเจน เชื่อมโยงข้อมูลโรงงาน ไปจนถึงลงทุนระบบจัดการขยะ เปลี่ยนขยะเป็นทรัพย์สิน เช่น จัดการเรื่องหลุมฝังกลบ จัดการโครงสร้างจัดการมลพิษที่ไร้เอกภาพ เป็นต้น
.

.
ศิษย์เก่านิด้า ขอโทษ ไอซ์รักชนก ปมอาจารย์ดังด้อยค่า อัด ตำแหน่งวิชาการ ไม่ควรถูกใช้เป็นเกราะบูลลี่คนอื่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5528127
.
ศิษย์เก่านิด้า ขอโทษ ไอซ์รักชนก ปมอาจารย์ดังด้อยค่า อัด ตำแหน่งวิชาการ ไม่ควรถูกใช้เป็นเกราะบูลลี่คนอื่น
.
เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม นายวรา จันทร์มณี นักวิชาการอิสระด้านสังคมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า
.
ในฐานะศิษย์เก่า NIDA แม้จะจบการศึกษามานานแล้ว แต่เมื่อทราบว่ามีอาจารย์คนหนึ่งได้ด้อยค่าดูหมิ่นเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของ คุณรักชนก ศรีนอก ผมก็ยากจะนิ่งเฉยอยู่ได้ การกระทำนี้ ทำให้ผมรู้สึกหดหู่และละอายใจแทนสถาบัน ไม่คิดว่าจะมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นในสถาบันการศึกษาระดับหลังปริญญาตรี ผมต้องขอโทษคุณรักชนก และขอประณามการกระทำของอาจารย์ดังกล่าว อีกทั้งขอเรียกร้องให้ผู้บริหารสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้
.
ในสังคมที่เจริญแล้ว เราวัดคุณค่าของบุคคลจากความสามารถ ความเสียสละ ความรับผิดชอบ และสิ่งที่เขาทำให้กับส่วนรวม เป็นเรื่องน่าสลดใจที่เห็นบุคคลซึ่งเป็นนักวิชาการ ไปดูหมิ่นชาติกำเนิดและปูมหลังครอบครัวซึ่งมนุษย์ทุกคนเลือกไม่ได้ มาเป็นอาวุธในการเชือดเฉือนด้อยค่าเพื่อนมนุษย์อย่างโหดร้ายไร้จริยธรรม
.
โพสต์ของนักวิชาการระดับ ผศ.ดร. ได้กล่าวถึงคุณรักชนก ด้วยถ้อยคำดูหมิ่นเหยียดหยามความเป็นมนุษย์ การระบุถึงอาชีพของบิดามารดาหรือสภาพแวดล้อมในวัยเด็กด้วยถ้อยคำลดทอนคุณค่า ไม่ได้สะท้อนถึงความฉลาดทางสติปัญญา แต่มันกลับเปลือยให้เห็นถึงความไร้จริยธรรม และการไร้วุฒิภาวะทางอารมณ์ของผู้ที่มีคำนำหน้าชื่อว่าอาจารย์
.
การหยิบยกเรื่องครอบครัวหรือบาดแผลในอดีตมาโจมตีผู้อื่น (Ad Hominem) คือเครื่องยืนยันความพ่ายแพ้ในการถกเถียงด้วยเหตุผล เมื่อไม่สามารถหักล้างอุดมการณ์หรือผลงานของนักการเมืองรุ่นใหม่ด้วยตรรกะได้ จึงต้องหันไปพึ่งพาอคติทางชนชั้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ทางลบ การใช้คำอย่าง “แมงดา” หรือ “ซ่อง” ไม่ใช่เพียงแค่การใช้ Hate Speech แต่เป็นการแสดงออกถึงจิตใจที่หยาบกระด้าง แทนที่จะเป็นแบบอย่างในสิ่งที่ดีงาม กลับกระทำต่ำช้าเป็นตัวแบบที่ไร้มนุษยธรรม ส่งเสริมให้สังคมเสื่อมทรามลงไปอีก
.
ในทางกลับกัน ชีวิตของคุณรักชนกคือภาพสะท้อนของความเข้มแข็ง ความแกร่ง และการต่อสู้ภายใต้ปัญหาเชิงโครงสร้างที่ประเทศมีความเหลื่อมล้ำทางสังคมสูง การที่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งต้องเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่อัตคัดจำกัด แต่สามารถอดทนต่อสู้ดิ้นรนผลักดันตัวเอง จนสำเร็จการศึกษา และได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ให้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในวัยเพียง 30 ปี คือสิ่งที่สังคมควรยกย่องชื่นชมและโอบกอดเธอ
.
เราควรภูมิใจในคุณรักชนก เธอได้พิสูจน์ให้เห็นว่าต้นทุนชีวิตที่น้อยไม่ได้ทำให้ระดับของจิตใจต่ำลงไปด้วย เธอเป็นตัวอย่างและแรงบันดาลใจว่ามนุษย์ไม่ควรยอมจำนนหรือพ่ายแพ้ต่ออุปสรรค อุปสรรคเป็นเครื่องเจียระไนชีวิต “น้ำเน่าขังท่อข้างถนน มันย่อมเป็นฝนแห่งฟ้า” อุดมการณ์ ความมุ่งมั่นของเธอที่กล้าเผชิญหน้ากับความไม่ถูกต้อง การคุกคามทางเพศ และกลุ่มการเมืองสีเทา ได้พิสูจน์ถึงศักดิ์ศรีเกียรติภูมิในตัวเธอเอง การทำหน้าที่ปกป้องผลประโยชน์สาธารณะ คือความเป็นมนุษย์ที่สูงส่งกว่าคนที่เกิดมาเพียบพร้อมในตระกูลสูงศักดิ์ แต่ใช้ชีวิตเอาเปรียบเบียดเบียนผู้อื่น
.
ในโพสต์ของอาจารย์คนดังกล่าว ได้มีการแสดงความสงสารหรือเวทนาในตอนท้าย คือรูปแบบหนึ่งของความใจแคบที่พยายามแสดงอำนาจเหนือ (Superiority Complex) มันคือความปรารถนาดีที่จอมปลอม เพราะหากมีความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์จริง ย่อมจะไม่หยิบปมด้อยหรือความทุกข์ยากของใครมาประจานในที่สาธารณะเพื่อความสะใจทางการเมือง
.
เรื่องนี้ชี้ให้เห็นว่าฐานะหน้าที่ตำแหน่งทางวิชาการและวุฒิการศึกษาไม่ได้บ่งบอกความสูงส่งทางจิตใจเสมอไป อีกทั้งตำแหน่งทางวิชาการและวุฒิการศึกษา ไม่ควรถูกใช้เป็นเกราะบังหน้าเพื่อบูลลี่ใคร สังคมไทยทั้งประชาชนและสื่อมวลชน ต้องไม่ยอมรับมาตรฐานที่ต่ำทรามเช่นนี้ ต้องไม่เปิดพื้นที่ให้บุคคลดังกล่าวมาเหยียบย่ำใครอีก การด้อยค่าผู้อื่นเพียงเพราะเขาเริ่มต้นชีวิตยากลำบากไร้โอกาสกว่าเรา คือความเสื่อมทรุดถดถอยหลังทางศีลธรรมที่ร้ายแรงที่สุด
.
ความเป็นมนุษย์ไม่ได้จัดอันดับกันที่นามสกุลของพ่อแม่หรือฐานะฐานันดร แต่วัดกันที่จริยวัตร สิ่งที่เขาทำเพื่อสังคมในปัจจุบัน และวันนี้เราเห็นชัดแล้วว่าใครกันแน่ที่มีจิตใจที่พัฒนาแล้ว และใครกันแน่ที่ยังจมปลักอยู่ในโคลนตมของความเกลียดชังที่ไร้รากเหง้าไร้พื้นฐานทางมนุษยธรรม
.
ดังที่คุณรักชนกกล่าว “คนเรามีข้อจำกัดในชีวิตที่แตกต่างกัน ถูกหล่อหลอมมาไม่เหมือนกัน แน่นอนคนที่เกิดในครอบครัวอบอุ่น กินอิ่มนอนหลับทุกวัน มีคนที่รักอยู่ใกล้ๆ ในช่วงเวลายากลำบาก อาจจะไม่เข้าใจเด็กๆ ที่ต้องเติบโตในชุมชนแออัดที่มองไปทางไหนก็มีแต่ปัญหาสังคมเต็มไปหมด… ไม่มีใครผิดที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ดีพร้อม ชาติกำเนิดอยู่ในสลัม เติบโตท่ามกลางปัญหาสังคม กว่าจะรอดได้แต่ละวัน ยากลำบาก คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกได้ว่าจะส่งต่อ สังคมแบบไหนให้คนรุ่นถัดไป เราเลือกได้ว่าจะส่งต่อทัศนคติค่านิยมที่ตัดสินคนจากชาติกำเนิด ส่งต่อคำดูถูกเหยียดหยามให้กับเด็กๆ ที่เป็นกำพร้าหรือเด็กๆ ที่พ่อแม่มีปัญหาชีวิตรุมเร้า แล้วก็ต้องรับส่งต่อปัญหามาด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งๆ ที่เด็กๆ ไม่ได้เลือก”
.
ขอให้เราเลือกเป็นสังคมที่เห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ ให้กำลังใจคนไร้โอกาส คนสู้ชีวิต และร่วมกันประณามการด้อยค่าใช้วาจาสร้างความเกลียดชัง เพื่อส่งต่อโลกที่ให้เกียรติในความเป็นคนอย่างเท่าเทียมกันให้คนรุ่นถัดไป
.
สุดท้าย ขอขอบคุณในทุกสิ่งที่คุณรักชนกได้ยืนหยัดทำประโยชน์เพื่อสังคม และขอให้กำลังใจ ขอให้คุณความดีที่ทำส่งผลให้ประสบความสำเร็จมีความเจริญงอกงามในชีวิตยิ่งๆ ขึ้นไป.
.
https://www.facebook.com/sippapacha.fund/posts/pfbid02PRj8zycDWuZstrWK2adF9jUtn6mcvhSneu3RGwS4MFQFW499SpT9yuAPyj7n8Ywtl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่