เศรษฐา นำทัพเพื่อไทย ลุยเหนือ จับตาเวทีใหญ่ 3 แคนดิเดต ขึ้นพร้อมกัน
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7601712
เพื่อไทย กางปฏิทินปราศรัย ปักหมุดทิ้งทวนในกทม. 12 พ.ค. “อิ๊งค์” ร่วมด้วย เต้น แซะ ตู่ ขายของเก่า เชื่อคนอยากจบลุงตู่แล้ว แนะเพื่อนมิตรเคารพเรื่องแก้รธน.
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นาย
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย แถลงถึงการลงพื้นที่ปราศรัยใน จ.น่าน และลำปาง ระหว่างวันที่ 8-9 เม.ย. ว่า จ.น่าน และลำปาง จะเป็นครั้งแรกที่ทีมเพื่อไทยชุดใหญ่ไปปราศรัยในภูมิภาค หลังมีการจับสลากหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ นำโดย นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่จะร่วมปราศรัยผ่านระบบออนไลน์
นาย
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นาย
จาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ นาย
สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค ตน และผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละจังหวัด
การประกาศชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยครบ 3 คน รวมถึงการประกาศตัวเลขในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี เกิดการตื่นตัวที่จะสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ให้ได้รับเลือกตั้งเข้าไปผลักดันนโยบายให้เป็นจริง
นาย
ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เริ่มจากวันที่ 8 เม.ย. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง อ.เมือง จ.น่าน ในเวลา 15.00 น. จากนั้นจะไปสมทบคาราวานรถแห่ของผู้สมัครใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เดินทางไปในทุกจังหวัด โดยมีพิธีเปิดกิจกรรมรถแห่ “
กึ๊ดใหญ่ทำเป็น” 8 จังหวัดภาคเหนือ ณ วัดพระธาตุแช่แห้งในเวลา 15.30 น.
จากนั้นจะเริ่มกิจกรรมรถแห่รอบเมือง ผ่านตลาดเทวราช ชุมชน ย่านธุรกิจ ไปหยุดปราศรัยบนรถแห่หน้าวัดภูมินทร์ (ถนนคนเดิน) ก่อนที่ในเวลา 18.00 น. จะมีเวทีปราศรัยใหญ่ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตน่าน อ.เมือง จากนั้นไปถนนคนเดินเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย
ในวันที่ 9 เม.ย. เวลา 07.30 น. ออกเดินทางไปยัง อ.วังชิ้น จ.แพร่ เพื่อพบปะเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และชาวนาในพื้นที่ จากนั้นเวลา 13.00 น. จะเดินทางไปพบปะประชาชนใน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และในเวลา 16.30 น. จะมีการร่วมขบวนปราศรัยบนรถแห่ ณ ห้าแยกหอนาฬิกา อ.เมือง จ.ลำปาง ส่วนในเวลา 18.00 น.จะมีเวทีปราศรัยใหญ่ ณ ตลาดนัดคลองถมห้างฉัตร อ.เมือง จ.ลำปาง
นาย
ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า จากนี้ทีมปราศรัยของพรรคเพื่อไทย ทั้งเวทีใหญ่ เวทีระดับเขต เวทีย่อย ปูพรมลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเวทีใหญ่ที่มีแคนดิเดตนายกฯ เข้าร่วมด้วยได้วางคิวถึงสิ้นเดือน เม.ย. แล้ว ส่วนในเดือน พ.ค. จะมีการปราศรัยในทุกวันทุกภูมิภาค เพื่อเน้นย้ำนโยบายและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
ส่วนเวทีปราศรัยปิดท้าย คือ วันที่ 12 พ.ค. โดยเวทีนี้จะมีแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนปรากฏตัวบนเวทีร่วมกันอีกครั้ง เชื่อว่าเวลานั้น น.ส.
แพทองธาร จะผ่านการคลอดบุตร และพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าตัวยืนยันที่จะเข้าร่วมเวทีนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในช่วงนี้มีสถานการณ์ที่ทำให้เกิดคำถามถึงนโยบายพรรคเพื่อไทยว่า ทำได้จริงหรือไม่ ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะจับมือกับใคร และมีสัญญาณทำให้การเลือกตั้งสะดุดหรือไม่ ตอนนี้ตนคิดว่าคำตอบใน 2 ประเด็นแรกชัดเจนแล้ว ส่วนสถานการณ์พิเศษนั้น ตนไม่เชื่อว่าจะมีการหยุดยั้งขัดขวางการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชน
“
ส่วนนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นำเสนอ อาจเป็นการพยายามเอาของเก่ามาขาย เพราะนโยบายขายไม่ได้ จึงพยายามให้คนนึกถึงความสงบจบที่ลุงตู่ แต่ประชาชนต้องการจบลุงตู่มากกว่า ขอให้อำนาจนอกระบบยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ถอยพ้นไปจากวิถีทางในระบบรัฐสภา” นาย
ณัฐวุฒิ กล่าว
นาย
ณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับการประกาศนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ย่อมเกิดขึ้นได้ ประชาชนก็สามารถใช้วิจารณญาณได้ แต่ท่วงทำนองขอให้มีความเหมาะสม โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ได้ร่วมงาน ร่วมแนวทางประชาธิปไตยด้วยกันมา เพื่อทำให้การทำงานภาพรวมในสนามเลือกตั้งสวยงาม การแก้รัฐธรรมนูญเป็นแนวทางที่นำเสนอโดยนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย และเป็นแนวทางของพรรคเพื่อไทยมาตลอดที่ต้องแก้เต็มคาราเบล
นาย
ณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ต้องให้ประชาชนเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มีกระบวนการทำประชามติทั้งก่อนและหลังการยกร่าง ส่วนเนื้อหาสาระต้องเป็นวาระของ ส.ส.ร.ด้วย พรรคการเมืองมีสิทธิ์เสนอแนวทางประกอบการพิจารณาได้ แต่ไม่ใช่การไปแทรกแซงกดดัน การเห็นด้วยหรือไม่ต้องเคารพต่อความเห็นของ ส.ส.ร. ส่วนการต่อสู้ทางการเมืองคงไม่มีใครมีมาตรวัดว่าใครทำอะไรมามากกว่าใคร เราเคารพทั้งความเหมือนและความต่างของเพื่อนร่วมทางจะดีกว่า
"ก้าวไกล" ลุยหาเสียงสมุทรปราการ ย้ำชัยชนะรอบที่แล้ว "พิธา" ไร้กังวล “บ้านใหญ่”
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7601591
“ก้าวไกล” ลุยหาเสียงสมุทรปราการ ย้ำชัยชนะรอบที่แล้ว “พิธา” เผย พร้อมสานต่อนโยบายแก้ปัญหาแบบไร้รอยต่อ ไร้กังวล “บ้านใหญ่” ในพื้นที่ จ่อเปิดตัวเพลงใช้หาเสียง
วันที่ 7 เม.ย.2566 นาย
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส. หาเสียง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการในเขต 2 เขต 3 และเขต 7 โดยเน้นหาเสียงพื้นที่ตลาดนัดที่มีพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ค้ารายย่อย และประชาชนที่ประกอบอาชีพขับขี่รถยนต์ และจักรยานยนต์รับจ้าง รวมถึงประชาชนที่ทำงานโรงงานอุตสาหกรรม ที่พักอาศัยในพื้นที่นี้เป็นส่วนใหญ่
นาย
พิธา กล่าว่า สาเหตุที่เลือกจ.สมุทรปราการ เพราะพื้นที่นี้เป็นยุทธศาสตร์ ที่อดีตพรรคอนาคตใหม่เคยชนะเป็นอันดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 25 ของคนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมามี ส.ส. ลงพื้นที่ช่วยพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะช่วงน้ำท่วม ช่วงโรงงานหมิงตี้ระเบิด ตลอดจนช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมา ดังนั้นไม่เพียงพื้นที่ กทม.เท่านั้น แต่ปริมณฑลก็เป็นพื้นที่ที่พรรคตั้งใจขยายและตอกย้ำความสำเร็จต่อไป
โดยพื้นที่จ.สมุทรปราการถือเป็นจุดแข็งอันดับต้นๆ ที่คนในพื้นที่มีความต้องการเข้าถึงระบบการศึกษา สุขภาพ และปัญหาการคมนาคม สิ่งแวดล้อม ที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาแบบไร้รอยต่อ จึงเป็นเหตุผลที่คนในจังหวัดต้องเลือกพรรคก้าวไกลยกจังหวัด ทั้ง 8 เขต เพื่อเวลายกมือออกเสียงในสภาฯ มติจะเป็นเอกฉันท์ แก้ปัญหาให้กับประชาชนอข่างเป็นรูปธรรม
นาย
พิธา กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่กังวลเสียงของประชาชนในพื้นที่จะเทไปให้บ้านใหญ่เจ้าของพื้นที่ เพราะที่ผ่านมา เสียง 1 ใน 4 ของพื้นที่เลือกอดีตพรรคอนาคตใหม่ และในช่วงนั้นมีความเข้มแข็งในเรื่องของระบบอุปถัมภ์ในพื้นที่ก็ตาม เชื่อมั่นว่า ประชาชนต้องการการเมืองรูปแบบใหม่ไม่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติใคร
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลมีแนวคิดเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เริ่มมีการแต่งเพลงประจำพรรค และเพลงประจำตัวหัวหน้าพรรคเพื่อใช้ในการหาเสียง หรือไม่ นาย
พิธา กล่าวว่า ตอนนี้คงยังไม่มีแนวคิดนั้น เนื่องจากพรรคไม่ได้มีเงินทุนจำนวนมาก แต่ในอนาคตอาจเอาเพลงอื่นๆมาดัดแปลงเนื้อร้องให้เข้ากับพรรคก้าวไกลแทน และอาจจะเป็นแนว “
ฮิพฮอพ” แต่คงไม่มีท่าเต้น เพราะเกรงว่าจะเป็นมหรสพ ผิดกฎหมายเลือกตั้งได้
นาย
พิธา กล่าวทิ้งท้าย ว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประชาชนจดจำพรรคก้าวไกลได้ในวันใช้สิทธิ์เลือกตั้ง คือ การหาเสียงของพรรคที่ไม่ให้เป็นภาระของประชาชนหลังจากนี้ คือ เลือกก้าวไกล กาก้าวไกล พร้อมบอกเบอร์ของ ส.ส.เขตเท่านั้น หากประชาชนกังวลว่าจะกาผิดสีผิดเบอร์ก็เลือกแค่พรรคก้าวไกล เห็นโลโก้พรรค เห็นชื่อพรรคก็พอ และจำแค่เลขของ ส.ส.เขต เพราะกฎกติกาใหม่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ 2 ใบ 2 หมายเลข อาจทำให้ประชาชนสับสนได้
เอกชนเมินร่วมทุนทางด่วนกะทู้ - ป่าตอง กทพ.เชื่อเพราะปัญหาเศรษฐกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1062033
การทางพิเศษฯ เปิดประมูลทางด่วนกะทู้ - ป่าตองสุดเหงา ไร้เอกชนยื่นซอง คาดเพราะผลกระทบทางเศรษฐกิจ เตรียมปรับแผนรวบสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ เปิดประมูลอีกรอบ
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า วันนี้ กทพ.ได้กำหนดให้เอกชนยื่นซองข้อเสนอร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่าไม่มีเอกชนรายใดมายื่นข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมลงทุนโครงการ ทั้งนี้ คาดว่ามีสาเหตุเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์ต่างๆ อาทิ โรคระบาดจากเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบระยะยาว สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ทำให้กระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างจากเดิมเมื่อปี 2564 ได้ประมาณการไว้ในปีที่เริ่มก่อสร้างจำนวน 8,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 10 จึงทำให้ไม่จูงใจเอกชนในการตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนโครงการเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางถนนในจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการที่จังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมการคัดเลือกเพื่อเป็นเจ้าภาพงาน Specialize Expo 2028 ซึ่งเป็นงานมหกรรมใหญ่ระดับโลกที่จะจัดขึ้นในปี 2571 กทพ. จะพิจารณาทบทวนการดำเนินโครงการโดยอาจดำเนินโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง (โครงการระยะที่ 1) ร่วมกับโครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ (โครงการระยะที่ 2) รวมเป็นโครงการเดียว เพื่อจูงใจให้เอกชนสนใจร่วมลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยจะพิจารณามูลค่าลงทุนของโครงการ รวมทั้งระยะเวลาการให้สัมปทานเอกชนให้มีความสอดคล้องกับสภาะปัจจุบัน
สำหรับการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต กทพ.ได้ประกาศเชิญชวน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 เพื่อเชิญชวนผู้สนใจซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal : RFP) และเข้าร่วมคัดเลือกเป็น ผู้ร่วมลงทุนโครงการฯ ซึ่งเมื่อครบกำหนดการซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ปรากฏว่ามีภาคเอกชน ประกอบด้วย บริษัทเอกชนไทยและบริษัทเอกชนต่างชาติ ให้ความสนใจซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนรวมทั้งสิ้น จำนวน 13 ราย และ กทพ. ได้กำหนดให้เอกชนที่สนใจยื่นข้อเสนอในวันนี้ (7 เมษายน 2566)
JJNY : 5in1 เศรษฐานำทัพเพื่อไทย│"ก้าวไกล"ลุยสมุทรปราการ│เอกชนเมินร่วมทุน│DES รับยังจับ 9Nearไม่ได้│ไร้เจรจาสันติภาพปีนี้
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7601712
เพื่อไทย กางปฏิทินปราศรัย ปักหมุดทิ้งทวนในกทม. 12 พ.ค. “อิ๊งค์” ร่วมด้วย เต้น แซะ ตู่ ขายของเก่า เชื่อคนอยากจบลุงตู่แล้ว แนะเพื่อนมิตรเคารพเรื่องแก้รธน.
เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2566 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย แถลงถึงการลงพื้นที่ปราศรัยใน จ.น่าน และลำปาง ระหว่างวันที่ 8-9 เม.ย. ว่า จ.น่าน และลำปาง จะเป็นครั้งแรกที่ทีมเพื่อไทยชุดใหญ่ไปปราศรัยในภูมิภาค หลังมีการจับสลากหมายเลขผู้สมัคร ส.ส.เขต และบัญชีรายชื่อ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ที่จะร่วมปราศรัยผ่านระบบออนไลน์
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์ นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค ตน และผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละจังหวัด
การประกาศชื่อผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทยครบ 3 คน รวมถึงการประกาศตัวเลขในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี เกิดการตื่นตัวที่จะสนับสนุนผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ให้ได้รับเลือกตั้งเข้าไปผลักดันนโยบายให้เป็นจริง
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า เริ่มจากวันที่ 8 เม.ย. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ณ วัดพระธาตุแช่แห้ง อ.เมือง จ.น่าน ในเวลา 15.00 น. จากนั้นจะไปสมทบคาราวานรถแห่ของผู้สมัครใน 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน เดินทางไปในทุกจังหวัด โดยมีพิธีเปิดกิจกรรมรถแห่ “กึ๊ดใหญ่ทำเป็น” 8 จังหวัดภาคเหนือ ณ วัดพระธาตุแช่แห้งในเวลา 15.30 น.
จากนั้นจะเริ่มกิจกรรมรถแห่รอบเมือง ผ่านตลาดเทวราช ชุมชน ย่านธุรกิจ ไปหยุดปราศรัยบนรถแห่หน้าวัดภูมินทร์ (ถนนคนเดิน) ก่อนที่ในเวลา 18.00 น. จะมีเวทีปราศรัยใหญ่ ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา วิทยาเขตน่าน อ.เมือง จากนั้นไปถนนคนเดินเพื่อพบปะพี่น้องประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย
ในวันที่ 9 เม.ย. เวลา 07.30 น. ออกเดินทางไปยัง อ.วังชิ้น จ.แพร่ เพื่อพบปะเกษตรกรชาวสวนผลไม้ และชาวนาในพื้นที่ จากนั้นเวลา 13.00 น. จะเดินทางไปพบปะประชาชนใน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง และในเวลา 16.30 น. จะมีการร่วมขบวนปราศรัยบนรถแห่ ณ ห้าแยกหอนาฬิกา อ.เมือง จ.ลำปาง ส่วนในเวลา 18.00 น.จะมีเวทีปราศรัยใหญ่ ณ ตลาดนัดคลองถมห้างฉัตร อ.เมือง จ.ลำปาง
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า จากนี้ทีมปราศรัยของพรรคเพื่อไทย ทั้งเวทีใหญ่ เวทีระดับเขต เวทีย่อย ปูพรมลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเวทีใหญ่ที่มีแคนดิเดตนายกฯ เข้าร่วมด้วยได้วางคิวถึงสิ้นเดือน เม.ย. แล้ว ส่วนในเดือน พ.ค. จะมีการปราศรัยในทุกวันทุกภูมิภาค เพื่อเน้นย้ำนโยบายและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน
ส่วนเวทีปราศรัยปิดท้าย คือ วันที่ 12 พ.ค. โดยเวทีนี้จะมีแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนปรากฏตัวบนเวทีร่วมกันอีกครั้ง เชื่อว่าเวลานั้น น.ส.แพทองธาร จะผ่านการคลอดบุตร และพักฟื้นเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าตัวยืนยันที่จะเข้าร่วมเวทีนี้อย่างแน่นอน
ทั้งนี้ ในช่วงนี้มีสถานการณ์ที่ทำให้เกิดคำถามถึงนโยบายพรรคเพื่อไทยว่า ทำได้จริงหรือไม่ ถ้าได้เป็นรัฐบาลจะจับมือกับใคร และมีสัญญาณทำให้การเลือกตั้งสะดุดหรือไม่ ตอนนี้ตนคิดว่าคำตอบใน 2 ประเด็นแรกชัดเจนแล้ว ส่วนสถานการณ์พิเศษนั้น ตนไม่เชื่อว่าจะมีการหยุดยั้งขัดขวางการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเป็นความต้องการของประชาชน
“ส่วนนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นำเสนอ อาจเป็นการพยายามเอาของเก่ามาขาย เพราะนโยบายขายไม่ได้ จึงพยายามให้คนนึกถึงความสงบจบที่ลุงตู่ แต่ประชาชนต้องการจบลุงตู่มากกว่า ขอให้อำนาจนอกระบบยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ถอยพ้นไปจากวิถีทางในระบบรัฐสภา” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า สำหรับการประกาศนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ย่อมเกิดขึ้นได้ ประชาชนก็สามารถใช้วิจารณญาณได้ แต่ท่วงทำนองขอให้มีความเหมาะสม โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ได้ร่วมงาน ร่วมแนวทางประชาธิปไตยด้วยกันมา เพื่อทำให้การทำงานภาพรวมในสนามเลือกตั้งสวยงาม การแก้รัฐธรรมนูญเป็นแนวทางที่นำเสนอโดยนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย และเป็นแนวทางของพรรคเพื่อไทยมาตลอดที่ต้องแก้เต็มคาราเบล
นายณัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า ต้องให้ประชาชนเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มีกระบวนการทำประชามติทั้งก่อนและหลังการยกร่าง ส่วนเนื้อหาสาระต้องเป็นวาระของ ส.ส.ร.ด้วย พรรคการเมืองมีสิทธิ์เสนอแนวทางประกอบการพิจารณาได้ แต่ไม่ใช่การไปแทรกแซงกดดัน การเห็นด้วยหรือไม่ต้องเคารพต่อความเห็นของ ส.ส.ร. ส่วนการต่อสู้ทางการเมืองคงไม่มีใครมีมาตรวัดว่าใครทำอะไรมามากกว่าใคร เราเคารพทั้งความเหมือนและความต่างของเพื่อนร่วมทางจะดีกว่า
"ก้าวไกล" ลุยหาเสียงสมุทรปราการ ย้ำชัยชนะรอบที่แล้ว "พิธา" ไร้กังวล “บ้านใหญ่”
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7601591
“ก้าวไกล” ลุยหาเสียงสมุทรปราการ ย้ำชัยชนะรอบที่แล้ว “พิธา” เผย พร้อมสานต่อนโยบายแก้ปัญหาแบบไร้รอยต่อ ไร้กังวล “บ้านใหญ่” ในพื้นที่ จ่อเปิดตัวเพลงใช้หาเสียง
วันที่ 7 เม.ย.2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส. หาเสียง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการในเขต 2 เขต 3 และเขต 7 โดยเน้นหาเสียงพื้นที่ตลาดนัดที่มีพ่อค้าแม่ค้า ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ค้ารายย่อย และประชาชนที่ประกอบอาชีพขับขี่รถยนต์ และจักรยานยนต์รับจ้าง รวมถึงประชาชนที่ทำงานโรงงานอุตสาหกรรม ที่พักอาศัยในพื้นที่นี้เป็นส่วนใหญ่
นายพิธา กล่าว่า สาเหตุที่เลือกจ.สมุทรปราการ เพราะพื้นที่นี้เป็นยุทธศาสตร์ ที่อดีตพรรคอนาคตใหม่เคยชนะเป็นอันดับ 2 คิดเป็นร้อยละ 25 ของคนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมามี ส.ส. ลงพื้นที่ช่วยพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะช่วงน้ำท่วม ช่วงโรงงานหมิงตี้ระเบิด ตลอดจนช่วงโควิด 19 ที่ผ่านมา ดังนั้นไม่เพียงพื้นที่ กทม.เท่านั้น แต่ปริมณฑลก็เป็นพื้นที่ที่พรรคตั้งใจขยายและตอกย้ำความสำเร็จต่อไป
โดยพื้นที่จ.สมุทรปราการถือเป็นจุดแข็งอันดับต้นๆ ที่คนในพื้นที่มีความต้องการเข้าถึงระบบการศึกษา สุขภาพ และปัญหาการคมนาคม สิ่งแวดล้อม ที่ต้องเข้ามาแก้ปัญหาแบบไร้รอยต่อ จึงเป็นเหตุผลที่คนในจังหวัดต้องเลือกพรรคก้าวไกลยกจังหวัด ทั้ง 8 เขต เพื่อเวลายกมือออกเสียงในสภาฯ มติจะเป็นเอกฉันท์ แก้ปัญหาให้กับประชาชนอข่างเป็นรูปธรรม
นายพิธา กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่กังวลเสียงของประชาชนในพื้นที่จะเทไปให้บ้านใหญ่เจ้าของพื้นที่ เพราะที่ผ่านมา เสียง 1 ใน 4 ของพื้นที่เลือกอดีตพรรคอนาคตใหม่ และในช่วงนั้นมีความเข้มแข็งในเรื่องของระบบอุปถัมภ์ในพื้นที่ก็ตาม เชื่อมั่นว่า ประชาชนต้องการการเมืองรูปแบบใหม่ไม่ต้องอยู่ภายใต้อาณัติใคร
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลมีแนวคิดเหมือนพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เริ่มมีการแต่งเพลงประจำพรรค และเพลงประจำตัวหัวหน้าพรรคเพื่อใช้ในการหาเสียง หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ตอนนี้คงยังไม่มีแนวคิดนั้น เนื่องจากพรรคไม่ได้มีเงินทุนจำนวนมาก แต่ในอนาคตอาจเอาเพลงอื่นๆมาดัดแปลงเนื้อร้องให้เข้ากับพรรคก้าวไกลแทน และอาจจะเป็นแนว “ฮิพฮอพ” แต่คงไม่มีท่าเต้น เพราะเกรงว่าจะเป็นมหรสพ ผิดกฎหมายเลือกตั้งได้
นายพิธา กล่าวทิ้งท้าย ว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้ประชาชนจดจำพรรคก้าวไกลได้ในวันใช้สิทธิ์เลือกตั้ง คือ การหาเสียงของพรรคที่ไม่ให้เป็นภาระของประชาชนหลังจากนี้ คือ เลือกก้าวไกล กาก้าวไกล พร้อมบอกเบอร์ของ ส.ส.เขตเท่านั้น หากประชาชนกังวลว่าจะกาผิดสีผิดเบอร์ก็เลือกแค่พรรคก้าวไกล เห็นโลโก้พรรค เห็นชื่อพรรคก็พอ และจำแค่เลขของ ส.ส.เขต เพราะกฎกติกาใหม่สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ คือ 2 ใบ 2 หมายเลข อาจทำให้ประชาชนสับสนได้
เอกชนเมินร่วมทุนทางด่วนกะทู้ - ป่าตอง กทพ.เชื่อเพราะปัญหาเศรษฐกิจ
https://www.bangkokbiznews.com/business/economic/1062033
การทางพิเศษฯ เปิดประมูลทางด่วนกะทู้ - ป่าตองสุดเหงา ไร้เอกชนยื่นซอง คาดเพราะผลกระทบทางเศรษฐกิจ เตรียมปรับแผนรวบสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ เปิดประมูลอีกรอบ
รายงานข่าวจากการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยว่า วันนี้ กทพ.ได้กำหนดให้เอกชนยื่นซองข้อเสนอร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่าไม่มีเอกชนรายใดมายื่นข้อเสนอเพื่อเข้าร่วมลงทุนโครงการ ทั้งนี้ คาดว่ามีสาเหตุเนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากสถานการณ์ต่างๆ อาทิ โรคระบาดจากเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ส่งผลกระทบระยะยาว สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ยืดเยื้อ ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น ทำให้กระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างจากเดิมเมื่อปี 2564 ได้ประมาณการไว้ในปีที่เริ่มก่อสร้างจำนวน 8,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอีกประมาณร้อยละ 10 จึงทำให้ไม่จูงใจเอกชนในการตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนโครงการเท่าที่ควร
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานทางถนนในจังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการที่จังหวัดภูเก็ตเข้าร่วมการคัดเลือกเพื่อเป็นเจ้าภาพงาน Specialize Expo 2028 ซึ่งเป็นงานมหกรรมใหญ่ระดับโลกที่จะจัดขึ้นในปี 2571 กทพ. จะพิจารณาทบทวนการดำเนินโครงการโดยอาจดำเนินโครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง (โครงการระยะที่ 1) ร่วมกับโครงการทางพิเศษสายเมืองใหม่-เกาะแก้ว-กะทู้ (โครงการระยะที่ 2) รวมเป็นโครงการเดียว เพื่อจูงใจให้เอกชนสนใจร่วมลงทุนมากยิ่งขึ้น โดยจะพิจารณามูลค่าลงทุนของโครงการ รวมทั้งระยะเวลาการให้สัมปทานเอกชนให้มีความสอดคล้องกับสภาะปัจจุบัน
สำหรับการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง จังหวัดภูเก็ต กทพ.ได้ประกาศเชิญชวน เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2565 เพื่อเชิญชวนผู้สนใจซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal : RFP) และเข้าร่วมคัดเลือกเป็น ผู้ร่วมลงทุนโครงการฯ ซึ่งเมื่อครบกำหนดการซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน ปรากฏว่ามีภาคเอกชน ประกอบด้วย บริษัทเอกชนไทยและบริษัทเอกชนต่างชาติ ให้ความสนใจซื้อเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชนรวมทั้งสิ้น จำนวน 13 ราย และ กทพ. ได้กำหนดให้เอกชนที่สนใจยื่นข้อเสนอในวันนี้ (7 เมษายน 2566)