งานวิจัยพบว่า สารประกอบที่พบในมันสีม่วงอาจช่วยฆ่าเซลล์ต้นกำเนิดของมะเร็งลำไส้ใหญ่และจำกัดการแพร่กระจายของมะเร็งได้
การค้นพบนี้เป็นผลงานวิจัยของทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียสเตต โดยพบว่า มันสีม่วงที่นำไปอบสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ทั้งในจานเพาะเลี้ยงและในหนูทดลอง โดยการมุ่งเป้าไปที่เซลล์ต้นกำเนิดของมะเร็ง
มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งอันดับ 2 ในสหรัฐอเมริกา และคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 50,000 รายต่อปี นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่รายงานว่า คนรุ่นใหม่ทั่วโลกกำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งลำไส้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ผลการทดลองเบื้องต้นพบว่า สารสกัดจากมันม่วงอบช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์ต้นกำเนิดมะเร็ง และเพิ่มการตายของเซลล์เหล่านี้ เมื่อทดลองให้หนูที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่กินมันสีม่วงอบทั้งหัว ก็ให้ผลลัพธ์ในทิศทางเดียวกัน ปริมาณที่เทียบเท่าในมนุษย์คือ การกินมันสีม่วงขนาดกลางวันละ 2 มื้อ หรือขนาดใหญ่ 1 หัวต่อวัน
นักวิจัยเชื่อว่า มันสีม่วงมีสารหลายชนิดที่ทำงานร่วมกันผ่านหลายกลไก ไม่ว่าจะเป็น แอนโทไซยานิน กรดคลอโรจีนิก และแป้งทนย่อย ซึ่งล้วนมีบทบาทในการต่อต้านเซลล์มะเร็ง
โดยเฉพาะ แป้งทนย่อย จะทำหน้าที่เป็นอาหารของแบคทีเรียในลำไส้ ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้จะเปลี่ยนแป้งให้เป็นกรดไขมันสายสั้น เช่น กรดบิวทีริก ที่ช่วยควบคุมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบเรื้อรัง และอาจกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งทำลายตัวเองได้
นอกจากนี้ สารให้สีตามธรรมชาติที่ทำให้ผักและผลไม้มีสีสันสดใสก็อาจมีส่วนช่วยยับยั้งการเติบโตของมะเร็งเช่นกัน วานามาลากล่าวว่า การกินอาหาร “หลากสีเหมือนสายรุ้ง” หมายถึงการได้รับสารอาหารหลายพันชนิดที่ทำงานต่างกัน ซึ่งเหมาะกับการรับมือกับโรคที่ซับซ้อนอย่างมะเร็ง มากกว่าการหวังพึ่งสารหรือยาชนิดเดียว
ขั้นตอนต่อไปของงานวิจัยคือ การทดลองแนวทางการบริโภคมันสีม่วงในมนุษย์ เพื่อใช้ทั้งในการป้องกันและการรักษาโรค รวมถึงการทดสอบกับมะเร็งชนิดอื่น ๆ ด้วย
วิจัยพบ มันสีม่วง มีสารที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่ได้