รถถังใหม่ของไทยควรเลือก Co-produce กับ K2 จะดีที่สุด?

ในอนาคตไทยจำเป็นต้องหารถังมาอีกราวๆ 100 คันแทนที่ M41A3 ที่เก่ามากแล้ว ซึ่งตอนนี้รถถังที่ทันสมัยของทัพบกจะมีแค่ Oplot และ VT4 แนวคิดก็จะเป็นแบบซื้อตัวรถถังสำเร็จมาเลยหรือเป็นโครงการร่วมผลิต ผมเทไปทางด้านหลัง ทีนี้เหตุผลว่าทำไมเป็นอันนี้และต้องเป็น K2


ตัวอย่างจากโครงการ K2PL

โปแลนด์สั่งซื้อจากเกาหลีใต้ 116 คันมาก่อนและจะตั้งไลน์ผลิตเองในประเทศอีกราวๆ  64 คันส่งมอบราวๆช่วงปี 2028-2030 ถ้าไทยจะเดินตามรอยนี้เราจะจ่ายแพงกว่าโปแลนด์ ไม่ใช่แค่เฉพาะพวกเบี้ยใบ้ลายทาง เงินทอน เท่านั้นแต่เป็นเรื่องของ Supply chain ทั้งระบบที่เราต้องยกเครื่องหลายส่วนเพื่อรองรับการสร้างรถถังใหม่ มีทั้งพวกโลหะศาสตร์, โรงหลอมเฉพาะ, เครื่องยนต์, ระบบ APS และอื่นๆ หลายอย่างเราอาจทำได้แค่บางส่วนต้องนำเข้าอยู่ดี แต่จุดแข็งของเราอยู่ที่การประกอบ การซ่อมแซม software ก็เก่งพอสมควร  งบประมาณการ co-produce อาจจะบานไปถึงหมื่นกว่าล้าน - แสนล้าน

งบประมาณหมื่นล้าน - แสนล้านแพงไหม?

แพงฉิบ!! แต่แลกมากับการสร้างอุตสาหกรรมทางทหารอันใหม่และพยายามเข้าไปมีส่วนร่วมกับตลาดส่งออกในอนาคตซึ่ง ตุรกี กับเกาหลีก็ทำเสร็จมาแล้วทั้งสร้างรถถังเอง สร้างโดรนเอง ต่อเรือเอง โดยอาศัยโครงการ co-produce มาก่อนนี้แหละแต่ตอนนี้กลายเป็นผู้ส่งออกที่สำคัญแล้ว ในบ้านเรามีชัยเสรีที่อยู่รอดได้โดยที่รัฐไม่เหลียวแลเค้ายังทำได้ขนาดนี้ถ้าปั้นดีๆ อาจไปได้ไกลกว่านี้อีก ความยืดหยุ่นในการจัดซ่อมบำรุง และวิจัยพัฒนาก็จะเป็นของเราไม่ต้องกลัวโดนแบน ให้นึกถึง Link-T, DTI, หรือบริษัทอย่าง RV Connex ถ้าเราไม่เริ่มจากอะไรพวกนี้ในการมีอธิปไตย+วิจัยเองในบางอย่าง การรบกับเขมรล่าสุดจะปาดเหงื่อหนักกว่านี้ แต่เพื่อความสบายใจโครงการเงินเหมื่นใช้งบเกินแสนล้านนะแล้วได้ครั้งเดียว และผลที่ได้คืนมาคืออะไร? ลองเทียบกันเองครับว่าจะยอมแลกไหม?

การทูต และ การเมืองไม่ผูกมัดกับมหาอำนาจมากจนเกินไป

การจัดซื้อกับเกาหลีใต้คือการจับมือกับประเทศ ระดับ Top 10 ของโลก ที่ไม่ใช่อเมริกา,จีน, รัสเซีย ตรงนี้เราจะคล่องตัวกว่าและไม่ถูกมองว่าเลือกข้าง คิดสภาพเราซื้อ Leopard แล้วถูกแบนการส่งอะไหล่งี้, VT4 กระบอกปืนแตกงี้, จะหาซื้อก็ลำบากจะซ่อมเองก็ไม่คล่อง  ตรงนี้เป็นการซื้ออนาคตเน้นการพึ่งพาตัวเองในระยะยาว เราเคยทำได้ดีกับดีลกริพเพน และ Saab มาแล้ว กับเกาหลีถ้าดีลดีๆก็อาจได้ offset policy ที่คุ้มก็ได้


หลักนิยมของรถถังเปลี่ยนไปและเปลี่ยนทุกวันทุกเดือน

มีสมัยนึงรถถังถูกมองว่าหมดอนาคตเพราะกัน RPG ไม่ค่อยได้แต่ปัจจุบันรถถังมีความสำคัญมากกว่าเดิมหลายเท่า รถถังสมัยใหม่จะเป็นลักษณะของ Launching platform ในระยะไกล (เกินกว่า 10 - 40 กิโล) เป็นตัวยิงทำลายในระยะกลาง (2 - 4 กิโล) และเป็นที่กำบังให้ทหารราบ พวกการรบในเมืองรถถังยังจำเป็นอยู่มาก รถถังเป็นเด่านหน้าในการทะลวงและสร้างโอกาสให้มีการสถาปนาพื้นที่ตั้งรับ ถ้าไทยจัดซื้อรถถังแบบสำเร็จและเจอภัยคุกคามแบบใหม่ที่รับมือลำบาก เราจะปรับแผนการรบไม่ทัน การมีไลน์ผลิตเองจะตอบสนองและแก้ทางได้ดีกว่า


Spec ที่รถถังยุคใหม่ที่ (ควร) ต้องมี

1. ท่อปล่อย Loitering (กระสุนลอยลำ) - เป็นท่อปล่อยที่แยกออกมาจากปืนหลัก เช่น Missileต่อต้านรถถัง, โดรนบินวนตรวจการณ์, โดรนคามิคาเซ่, โดรนตรวจการณ์วนรอ+คามิคาเซ่ ให้นึกถึง BM21 ที่มีโดรนบินวนรอเจอเมื่อไหร่พุ่งชนเมื่อนั้น รถังสามรถปล่อยโดรนจากท่อยิงได้ไม่ต้องเสี่ยงเข้าไปในระยะของอาวุธต่อต้อนเช่น GAM-102 (LR) และรถถังใหม่ของหลายประเทศทำตรงจุดนี้แล้ว อเมริกาวิจัยแล้วเรียกว่า PERCH ท่อปล่อยจาก Abram รุ่นใหม่ ซึ่งถ้าเราทำเองเราจะต่อยอดจากอุตสาหกรรมโดรนในประเทศได้ด้วย  

2. ระบบ APS / ระบบ counter drone ทั้ง hard kill และ soft kill - อันนี้รู้กันอยู่ไม่ต้องมากว่าเช่นระบบ Trophy หรืออื่นๆ

3. ระบบบูรณาการและอำนวยการรบ - การเชื่อมข้อมูลระหว่างรถถัง โดรนตรวจการณ์หน้า และหมวกของรถถังสมัยใหม่ที่ผสานพวก AI พวก AR เข้าไป ตรงนี้ อิสราเอลทำแล้วคือ Merkava Barak หมวกพลขับอย่างกับหลุดมาจาก F35 ซึ่งบริษัทเทคของไทยเก่งเรื่องพวกนี้

4. เกราะรถถัง ไม่ว่าจะเป็น เสตลธ์ (K3 - กำลังสร้างในอนาคต) หรือแบบ composite เพิ่มความอยู่รอดจะเสริมไม้ยูคา, ตะแกรงไผ่ หรือ อะไรก็ตามเพื่อเพิ่มความอยู่รอด

พวกนี้ไม่กาวนะครับหลายประเทศทำแล้ว มันเหมือนเกม Red alert และ Command and Conquer: General ยังไงยังงั้นแต่ตัวเกมออกมาเกินกว่า 10 ปีแล้วนะครับ  Spec ที่ว่านี้เป็นการมองไปในอนาคตถ้าไทยเลือกหนทางในการพัฒนาเองก็คงใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปีแน่ๆแต่น่าจะคุ้มตามเหตุผลที่ยกไปด้านบนทั้งหมด ส่วนช่องว่างระหว่าง 10 ปีเราก็สามารถซื้อ K2 แบบสำเร็จมาบางส่วนได้เพื่อรับมือภัยคุกคามนั้น เราก็จะมี VT4+Oplot+K2 ผสมกัน


ภาพประกอบ



แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่