ทุลักทุเล (แต่รีแลกซ์) ทัวร์ตอนที่ 3 หาทำมากค่า...บ้านนี้ กับเรื่องกิน ทั้งที่มิลาน และไทเป

กระทู้สนทนา
https://pantip.com/topic/43919825
https://pantip.com/topic/43920681


จากซูริค นั่งรถไฟมาที่สถานีรถไฟกลางมิลาน หรือ มิลาโน่ เชนทราเล่ (Milano Centrale) ประมาณสามชั่วโมงกว่า ๆ ค่ะ
พรมแดนรอยต่อระหว่างสวิสกับอิตาลีตอนเหนือช่วงนี้สวยนะคะ





Lake Como อันเลื่องชื่อ ที่ตั้งของบ้านไฮโซ เซเลป ดาราทั้งหลายอย่างพ่อจอร์จ คลูนีย์ ก็อยู่ที่นี่ค่ะ


ความไม่ลงตัวของเราคือ แถ่น แท้น...
มิลานฝนตกค่าาาาาาา
ตกแบบกรมอุตุพยากรณ์ตก 100% ก็แม่นเหมือนหวยล็อคแบบนั้นเลย ฝนตกร้อยโปเซ็งจริง ๆ

เฮ้ออออ แล้วความเซ็งของการที่ฝนตกหน้าหนาวคือ มันหนาว ชื้น เย็นเข้ากระดูก
คือฝนมันจะตกพรำ ๆ หยิม ๆ เป็นฝอยเล็ก ๆ แต่มันไม่รู้จักคำว่าหยุดค่าาาาาา
เอาเป็นว่าถุงช้อปปิ้งที่เป็นกระดาษขาดเปื่อยทะลุได้เลย

เราไม่มีแพลนอะไรมากสำหรับมิลาน หรือถึงมีก็ต้องพับทิ้งหมด เพราะฝนตกนี่แหละค่ะ
ที่ตั้งใจว่า จะไปเดินเล่นที่ Sforzesco Castle ก็ต้องทิ้งไปค่า
กระทั่ง Duomo อันเลื่องชื่อ ที่ควรจะได้เดินขึ้นไปบนหลังคาโบสถ์ เราก็ไม่ซื้อตั๋วขึ้นค่ะ
ดูแค่ในโบสถ์พอ ฝนตกทั้งวัน ฟ้ามืดเกือบตลอดแบบนี้ ไม่สนุกเลยค่า







แต่เอาละ  ความสนุกของการเดินทางคือ เราต้องเพลินกับการเดินทาง ไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง

เดินได้แค่ไหนก็แค่นั้น เราแวะดูโอโม และตลอดสองวัน ก็เดินวนเล่นอยู่แถว ๆ นั้นตลอด
ส่วนตัว เราชอบใช้เวลาในโบสถ์วิหาร ค่อย ๆ เดินชม แวะจุดเทียนถวายแม่พระบ้าง นั่งเฉย ๆ ทำใจให้สงบบ้าง
มันผ่อนคลายอย่างลึกซึ้งดีจริง ๆ


ตอนค่ำเรากินอาหารกันแถวนั้น







อาหารดูน่าอร่อยนะคะ
แต่เค็มจน ... ต้องขอยืมสำนวนลูกสาวมาใช้ว่า เค็มจนไตร้องไห้เลยค่ะ

ขนมปังยังเค็มเลย พับผ่าเถอะ
แถม...อากาศเย็น ขอเข้าห้องน้ำ ห้องน้ำยังเสียอีก...


วันต่อมา เราเลยตั้งใจว่า จะแวะกินข้าวที่ La Rinascente กันดีกว่า
ห้างนี้ ถึงจะเก่าแก่เป็นร้อยปี แต่วันดีคืนดี เครือเซ็นทรัลของประเทศเราก็ไปซื้อไว้มาอยูในพอร์ตเรียบร้อยแล้วจ้า
ทีเด็ดคือ ร้านอาหารด้านบนจะเห็นวิวของมหาวิหารดูโอโม่ มหาวิหารที่สำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
ใช้เวลาสร้างประมาณ 600 ปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์




คนสมัยโน้นคงด่าผู้มีอำนาจแหละว่า ฟุ่มเฟือย ละลายเงินไปกับการสร้างอะไรหรูหรา
แต่สมัยนี้ ต้องโค้งคำนับให้กับวิสัยทัศน์ เพราะประเทศชาติน่าจะเก็บค่าเข้าชมได้จนเกินจุดคุ้มทุนในการสร้างไปเรียบร้อยแล้ว









แถวนี้ เดินกันได้เต็มที่
ครั้งล่าสุดที่เรามาที่นี่คือยี่สิบปีที่แล้ว  ดู ๆ แล้ว ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนไปนัก
มีร้านหนังสือเก่าแก่ ห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ และอะไร ๆ ที่ดูเหมือนจะ "เก่าแก่" ไปหมด แต่เก๋ไก๋และรุ่มรวยไปด้วยศิลปะและวัฒนธรรม








นี่เอง ที่เรียกว่า classic and timeless


ของ shopping มีเพียบ แบรนด์เนมเด่น ๆ น่าจะมีครบเกือบหมด
แต่เราไม่ซื้อ (ฮา)


เราพบร้านนี้
เราว่าเข้าท่าดี แพ็คเกจน่ารัก กลิ่นโอเค คุณภาพใช้ได้ ราคาน่าคบ




และติดใจขนมอันนี้
อร่อยมากกก จะไม่พูดว่า แสงออกปาก  แต่บอกว่า กินแล้วตาสว่าง
เพราะเป็นช็อคโกแลต ที่กัดเป๊าะแล้วน้ำกาแฟข้างในจะแตกออกมา
นี่เขกหัวตัวเองเลยที่ซื้อมาแค่สองกล่องเล็ก ๆ ลองกิน



เป็นอุทาหรณ์ว่า เวลาซื้อขนมเมืองนอก ให้ลองแกะกินเลย อร่อยจะได้มีเวลาตุน ไม่อร่อยจะได้ไม่ต้องเสี่ยงดวง



ร้านที่เรียกว่า "หาทำ" ในการไปกินมากของบ้านเราคือ ร้านไอศกรีม หรือ gelato ร้านนี้ เจลาเตเรีย อุมแบร์โต (Gelateria Umberto)
เฮ้ออออ สถานที่จำนวนมากในยุโรป ต้องใช้คำว่า "เก่าแก่" อีกแระ
ใช้จนเป็น cliche เลย


ฝนตกพรำ ๆ ค่า เดินจากดูโอโมมาประมาณเกือบ ๆ กิโล
หนาวมาก แถม เรไม่ได้ใส่บู๊ทกันฝนด้วย
แต่เห็นลูกเราที่เป็นกัปตันนำทาง ปลุกปลอบทุกคนว่า เดินอีกนิด ใกล้ถึงแล้ว  
เราเลยหุบปากที่คิดจะพ่นคำบ่นออกมาให้เสียบรรยากาศ

แล้วพอไปถึงร้าน








เฮ้ยยยยย ... มันอร่อยจริ๊งงงงงง

ที่บอกว่าเมื่อยขา หนาว
หายหมดเลย เอ็นจอยแต่ไอศกรีม
เพี้ยนขำหนักมาก
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่