หนี้สินไม่ใช่เรื่องผิด
เมื่อมีหนี้แต่สุขภาพการเงินยังดีอยู่
.
หลายคนอาจจะมีความเชื่อว่า
การมีหนี้สินเป็นสิ่งที่ไม่ดี
และควรหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
แต่ในความเป็นจริงแล้ว
การมีหนี้สินไม่ได้หมายความว่า
สุขภาพการเงินของเราจะแย่เสมอไป
.
สิ่งที่สำคัญคือการบริหารจัดการหนี้
อย่างเหมาะสมและมีวินัย
การมีหนี้ไม่ได้ผิด
แต่เราต้องแน่ใจว่ามันเป็นหนี้
ที่เราสามารถดูแลจัดการได้
โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน
และอนาคตทางการเงินของเรา
บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจว่า
การมีหนี้แค่ไหนถึงจะเรียกว่า "พอดี"
และยังคงมีสุขภาพการเงินที่ดีได้
.
[ สูตรคำนวณสุขภาพหนี้สินที่ควรรู้ ]
.
การจะประเมินว่าหนี้สินที่เรามีอยู่นั้น
อยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่
เราสามารถใช้ตัวชี้วัดทางการเงิน 2 ตัว
ที่นิยมใช้กันมาเป็นแนวทางในการพิจารณา
นั่นคือ "ความสามารถในการชำระหนี้"
และ "อัตราส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สินรวม"
.
1. ความสามารถในการชำระหนี้ (Debt Service Ratio)
.
ตัวชี้วัดนี้จะบอกเราว่า
สัดส่วนของรายได้ที่เรานำไปใช้
ในการชำระหนี้ในแต่ละเดือนมีมากน้อยแค่ไหน
โดยทั่วไปแล้ว สถาบันการเงินจะใช้ตัวเลข
นี้เป็นเกณฑ์ในการอนุมัติสินเชื่อ
ซึ่งหากเราต้องการให้สุขภาพการเงิน
ยังคงแข็งแรงและมีเงินเหลือใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ
เราควรตั้งเป้าหมายให้สัดส่วนนี้
ไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน
.
สูตรคำนวณ:
รายได้ต่อเดือน x 40% = ภาระผ่อนหนี้สูงสุดต่อเดือน
ตัวอย่าง: มีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน
ควรมีหนี้ไม่เกิน 50,000 x 40% = 20,000 บาท
.
ข้อแนะนำ: การรักษาอัตราส่วนนี้
ให้น้อยกว่า 40% เช่นอยู่ในระดับ 20-30%
จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเก็บออม
และมีเงินสำรองฉุกเฉินได้มากขึ้น
ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานทางการเงิน
ที่แข็งแกร่งในระยะยาว
.
2. อัตราส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สินทั้งหมด
.
นอกจากจะคำนวน Debt Service Ratio
ตัวชี้วัดนี้ช่วยให้เราเห็นภาพรวม
ของฐานะทางการเงินได้ชัดเจนขึ้น
โดยจะบอกว่าหนี้สินที่เรามีอยู่
คิดเป็นสัดส่วนเท่าไหร่
ของทรัพย์สินทั้งหมดที่เราครอบครองอยู่
ซึ่งรวมถึงทั้งทรัพย์สินที่จับต้องได้
และจับต้องไม่ได้
.
สูตรคำนวณ:
หนี้สินทั้งหมด ÷ ทรัพย์สินทั้งหมด) x 100
ตัวอย่าง: มีหนี้สินรวมทั้งหมด 2,000,000 บาท
(เช่น หนี้บ้าน 1,500,000 บาท
และหนี้รถ 500,000 บาท)
และมีเงินฝาก 200,000 บาท,
กองทุนรวม 300,000 บาท,
บ้านมูลค่า 2,500,000 บาท
(ผ่อนหมดแล้ว มูลค่าตามราคาประเมินล่าสุด)
และรถยนต์มูลค่า 800,000 บาท
รวมเป็นทรัพย์สินทั้งหมด 3,800,000 บาท
คำนวณ: (2,000,000 / 3,800,000) x 100
= 52.6%
.
จากตัวอย่างนี้ แสดงว่าหนี้สินของคุณ
คิดเป็นประมาณ 52.6% ของทรัพย์สินทั้งหมด
ซึ่งหมายความว่าทรัพย์สินส่วนใหญ่ของคุณ
ถูกนำไปใช้เพื่อค้ำประกันหนี้
การมีอัตราส่วนที่สูงเกินไป
อาจบ่งชี้ว่าคุณมีความเสี่ยงทางการเงินสูง
หากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้น เช่น
ตกงานหรือขาดรายได้
คุณอาจไม่มีเงินสำรองมากพอที่จะชำระหนี้ได้
.
ข้อแนะนำ:
การมีอัตราส่วนนี้ไม่เกิน 50%
จะช่วยให้คุณมีความมั่นคงทางการเงิน
ในระดับที่เหมาะสม
แต่ถ้าหากคุณมีอัตราส่วนหนี้สิน
ต่อทรัพย์สินรวมสูงเกินไป
ควรพิจารณาหาวิธีลดหนี้ เช่น
การเพิ่มรายได้ การประหยัดค่าใช้จ่าย
หรือการขายทรัพย์สินที่ไม่จำเป็นออกไป
.
[ คิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ ]
.
การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องผิด
ถ้าเป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดประโยชน์
และช่วยสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว
แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ
การคิดให้รอบคอบก่อนที่จะก่อหนี้ใดๆ
ทุกครั้งที่เราจะตัดสินใจกู้เงิน
หรือใช้บัตรเครดิต
ควรตั้งคำถามกับตัวเองเสมอว่า
"เราจ่ายไหวไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่?"
และ "หนี้นี้จำเป็นจริงๆ หรือเปล่า?"
.
การมีหนี้ที่ดีคือ
การมีหนี้ที่เราควบคุมได้
ไม่ใช่ให้หนี้มาควบคุมเรา
การตรวจสอบสุขภาพทางการเงิน
ของตัวเองอยู่เสมอ
ด้วยสูตรคำนวณที่เราได้กล่าวไป
จะช่วยให้คุณสามารถ
วางแผนทางการเงินได้อย่างมั่นคง
และทำให้คุณมีหนี้ได้อย่างสบายใจ
โดยไม่เป็นภาระในระยะยาว
เพื่อให้คุณมีชีวิตที่ดี
หนี้สินไม่ใช่เรื่องผิด เมื่อมีหนี้แต่สุขภาพการเงินยังดีอยู่
.
1. ความสามารถในการชำระหนี้ (Debt Service Ratio)
2. อัตราส่วนหนี้สินต่อทรัพย์สินทั้งหมด
https://www.facebook.com/photo/?fbid=1198965238938458&set=a.649142863920701