แพทย์ชี้ “ส่องกล้องข้อเข่า” เทคโนโลยีรักษาเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ลดความเสี่ยงข้อเสื่อมก่อนวัย

ปัญหาการบาดเจ็บของข้อเข่า ไม่ว่าจะเป็นเอ็นเข่าขาดหรือหมอนรองกระดูกฉีกขาด กำลังกลายเป็นหนึ่งในความท้าทายด้านสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือผู้ที่ประสบอุบัติเหตุจากการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อความสามารถในการเคลื่อนไหวในระยะยาว และเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในอนาคต
นพ.อี๊ด ลอประยูร แพทย์เฉพาะทางด้านกระดูกและข้อ โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์ได้พัฒนาไปอย่างมาก โดยเฉพาะ “การผ่าตัดส่องกล้องข้อเข่า” (Arthroscopic Surgery) ซึ่งเป็นแนวทางการรักษาที่ช่วยลดการบาดเจ็บจากการผ่าตัด และตอบโจทย์การฟื้นฟูสุขภาพในยุคที่ผู้ป่วยต้องการกลับไปใช้ชีวิตและทำงานได้เร็วขึ้น
การส่องกล้องข้อเข่า เป็นการผ่าตัดแผลขนาดเล็ก ขนาดประมาณ 0.5–1 เซนติเมตร แพทย์จะใช้กล้องความละเอียดสูงร่วมกับเครื่องมือเฉพาะทาง สอดเข้าไปภายในข้อเข่า ทำให้สามารถเห็นโครงสร้างภายในได้อย่างชัดเจน และซ่อมแซมเฉพาะจุดที่เกิดความเสียหาย โดยไม่ต้องเปิดแผลขนาดใหญ่ ส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังผ่าตัดน้อย ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ และใช้เวลาพักฟื้นสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ
นพ.อี๊ด ระบุว่า การส่องกล้องข้อเข่าเหมาะกับทั้งนักกีฬา ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างหนัก และกลุ่มคนวัยทำงานที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เช่น ลื่นล้ม หรือการกระแทกแรง จนเกิดภาวะเอ็นฉีก หมอนรองกระดูกแตก เข่าหลวม หรือเข่าล็อก ซึ่งส่งผลต่อการทำงานและคุณภาพชีวิต หากรักษาได้ตรงจุดและทันท่วงที จะช่วยลดโอกาสเกิดข้อเข่าเสื่อมก่อนวัย
ในเชิงการรักษา การส่องกล้องสามารถใช้ซ่อมแซมหมอนรองกระดูกเข่าที่ฉีกขาด สร้างเอ็นใหม่ในกรณีเอ็นไขว้หน้าขาด ขัดแต่งผิวข้อหรือกระดูกอ่อนที่เสียหาย รวมถึงนำเศษกระดูกที่ขวางการเคลื่อนไหวออกจากข้อเข่าได้อย่างแม่นยำ
เมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าตัดแบบเปิด การส่องกล้องข้อเข่ามีแผลเล็ก เจ็บน้อย และใช้เวลาฟื้นตัวสั้นกว่า โดยผู้ป่วยบางรายสามารถเริ่มเดินได้ภายใน 1–3 วัน ขณะที่การผ่าตัดแบบเปิดอาจต้องใช้เวลาพักฟื้นหลายสัปดาห์ นอกจากนี้ ความแม่นยำของเทคนิคยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และเพิ่มโอกาสในการกลับมาใช้งานข้อเข่าได้ใกล้เคียงปกติ
นพ.อี๊ด เตือนว่า หากปล่อยให้อาการเอ็นขาดหรือหมอนรองกระดูกฉีกขาดเรื้อรังโดยไม่รักษา จะทำให้ความมั่นคงของข้อเข่าลดลง เกิดการเสียดสีและกระแทกภายในข้อถี่ขึ้น จนนำไปสู่การสึกกร่อนของผิวข้อ และพัฒนาเป็นข้อเข่าเสื่อมก่อนวัย ซึ่งส่งผลต่อค่าใช้จ่ายด้านการรักษาและคุณภาพชีวิตในระยะยาว
การนำเทคโนโลยีการผ่าตัดส่องกล้องมาใช้ จึงไม่เพียงเป็นทางเลือกด้านการรักษา แต่ยังสะท้อนทิศทางของระบบสาธารณสุขที่มุ่งเน้นการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ ลดเวลาพักฟื้น และช่วยให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตและทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยโรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ ให้บริการดูแลอาการปวดข้อจากการใช้ชีวิตประจำวัน อาการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุในกลุ่มกลุ่มนักฬาหรือผู้ที่ชอบออกกำลังกายแบบครบวงจร ตั้งแต่การวินิจฉัย การรักษา ไปจนถึงการฟื้นฟู เพื่อเสริมสร้างคุณภาพการเคลื่อนไหวอย่างยั่งยืน
โรงพยาบาลเอส สไปน์ แอนด์ จอยท์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ ปรึกษา            โทร 02-034-0808 

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่