เวียดนามโตแรง ‘แต่คนไม่มีบ้าน’ ราคาบ้านต่อรายได้ ‘แซงสิงคโปร์’ ทำงานเก็บเงินเป็นสิบปี ยังเอื้อมไม่ถึงคอนโดหนึ่งห้อง

เวียดนามโตแรง ‘แต่คนไม่มีบ้าน’ ราคาบ้านต่อรายได้ ‘แซงสิงคโปร์’ ทำงานเก็บเงินเป็นสิบปี ยังเอื้อมไม่ถึงคอนโดหนึ่งห้อง



แม้เวียดนามโตเร็ว แต่อีกด้านหนึ่ง คนเวียดนามจำนวนมากกลับพบว่า ‘การมีบ้านของตัวเอง’ กลับกลายเป็นความฝันที่ถอยห่างออกไปทุกปี ราคาที่อยู่พุ่งสวนทางรายได้ จนเหมือนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และเมื่อวัดด้วยอัตราส่วนราคาบ้านต่อรายได้ ฮานอยและโฮจิมินห์กลับ ‘แพงกว่า’ โตเกียว โซล และสิงคโปร์เสียอีก

ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เวียดนามถีบตัวขึ้นอย่างโดดเด่นในอาเซียน เป็นที่ดึงดูดการลงทุนจากบริษัทข้ามชาติมากมาย แต่ในขณะเศรษฐกิจกำลังทะยาน คนเวียดนามจำนวนมากกลับ “ยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง” ราวกับว่าพวกเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลังท่ามกลางการเติบโตของประเทศ

แม้เวียดนามจะยังไม่ใช่ศูนย์กลางอสังหาฯระดับหรูอย่างสิงคโปร์หรือฮ่องกง แต่เมื่อพิจารณาด้วยตัวชี้วัดสำคัญอย่าง “อัตราส่วนราคาบ้านต่อรายได้” ภาพที่ปรากฏกลับชวนตกใจ งานวิจัยของสถาบันด้านที่อยู่อาศัย Urban Land Institute (ULI) ระบุว่า ทั้งฮานอยและโฮจิมินห์ “แพงกว่า” โตเกียว โซล และสิงคโปร์ หากวัดจากกำลังซื้อของประชาชน

ราคาบ้านในตลาดฮานอยเพิ่มขึ้นกว่า 60% ในรอบปีเดียว และโฮจิมินห์เพิ่มขึ้นกว่า 65% ตามข้อมูลของบริษัทบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ Cushman & Wakefield

นี่ไม่ใช่การค่อย ๆ ขึ้นตามปกติ แต่เป็นการกระโดดขึ้นแบบ “มนุษย์เงินเดือนปกติ ไล่ไม่ทัน”

ไม่แปลกที่พนักงานธนาคารวัย 39 ปีในโฮจิมินห์ที่ชื่อ อาร์เวน ซึ่งอาศัยอยู่กับพ่อแม่ จะกล่าวตรง ๆ ว่า

“ตลาดบ้านที่นี่ บ้าไปแล้ว…คนรุ่นใหม่อย่างพวกเราแทบไม่มีโอกาสซื้อเลย”

เขาคำนวณด้วยตัวเองว่า อาจต้องใช้เวลา “ประมาณ 20 ปี” กว่าจะมีเงินพอซื้อที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง

ทำงานทั้งชีวิตเพื่อผ่อนบ้านหนึ่งห้อง

เว็บไซต์นิกเกอิ เอเชียรายงานว่า ในวัฒนธรรมเวียดนาม การมี “บ้านเป็นของตัวเอง” ไม่ใช่เพียงเรื่องทรัพย์สิน แต่คือ “เงื่อนไขพื้นฐานในการสร้างครอบครัว”

เถา พนักงานบริการลูกค้าวัย 36 ปีในโฮจิมินห์เล่าว่า คนรุ่นของเธอหมกมุ่นกับการมีบ้าน เพราะมองว่าต้องมีที่อยู่อาศัยมั่นคงก่อน จึงจะกล้ามีลูก กล้าสร้างครอบครัว

แต่เมื่อดูราคาในตลาด เธอกลับรู้สึกเพียงคำเดียวว่า “หมดหวัง”
.
แม้บางคนเริ่มยอมรับการ “เช่าบ้านระยะยาว” มากขึ้น แต่ตลาดเช่าในเวียดนามกลับไม่ได้ช่วยให้โล่งใจได้เลย เพราะแม้เป็นค่าเช่าระดับกลาง ๆ ในฮานอย–โฮจิมินห์ ก็กินสัดส่วนรายได้ครัวเรือนมากกว่าเมืองของสิงคโปร์ โตเกียว หรือโซลในเชิงเปรียบเทียบ ตามการคำนวณของ Urban Land Institute (ULI)

บ๋าว หนุ่มวัย 32 ปีที่ทำงานบริษัทประกันภัยในโฮจิมินห์ จึงเลือกอยู่กับแม่ต่อไป

“ค่าเช่าช่วงนี้ขึ้นเหมือนจรวด จะออกไปเช่าก็ไม่ไหว อยู่กับแม่ไปก่อนยังดีกว่า”

อ่านเนื้อหาต่อได้ที่: https://www.bangkokbiznews.com/world/economics/1213509

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่