ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก ขณะราคาทองคำทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้น หลังหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ เริ่มติดตามเรือบรรทุกน้ำมันใกล้เวเนซุเอลา
หุ้นของบริษัทเอ็นวิเดีย (Nvidia) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3% หลังสำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า บริษัทได้แจ้งลูกค้าในจีนถึงแผนเริ่มจัดส่งชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีสมรรถนะสูงเป็นอันดับสองไปยังจีนก่อนช่วงวันหยุดตรุษจีนในกลางเดือนกุมภาพันธ์
ปริมาณการซื้อขายในตลาดค่อนข้างเบาบาง และมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องเมื่อเข้าใกล้ช่วงวันหยุด โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปิดทำการเวลา 13.00 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออก (1800 GMT) ในวันพุธ และปิดทำการตลอดวันพฤหัสบดีเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
อย่างไรก็ดี สัปดาห์นี้มีกำหนดการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหลายรายการ อาทิ ตัวเลขประมาณการเบื้องต้นของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ซึ่งจะสะท้อนภาพรวมสุขภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทิศทางนโยบายการเงินในระยะต่อไป
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้น 233.48 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 48,367.72 จุด
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 41.16 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 6,875.66 จุด
และดัชนีแนสแด็กคอมโพสิตเพิ่มขึ้น 127.10 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 23,435.00 จุด
ด้านราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น หลังหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ พยายามสกัดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันในน่านน้ำสากลใกล้เวเนซุเอลา รวมถึงเหตุการณ์ที่ยูเครนสร้างความเสียหายแก่เรือและท่าเทียบเรือสองแห่งในรัสเซีย ส่งผลให้ความเสี่ยงต่อการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันเพิ่มขึ้น
น้ำมันดิบเบรนท์เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 62.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ หรือ 2.6% ปิดที่ 58.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำพุ่งขึ้นมากกว่า 2% ทำสถิติสูงสุดใหม่ จากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา
ทองคำสปอตเพิ่มขึ้น 2.2% อยู่ที่ 4,434.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 4,441.92 ดอลลาร์ก่อนหน้านี้
ขณะที่สัญญาทองคำล่วงหน้าเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐฯ ปิดเพิ่มขึ้น 1.9% ที่ 4,469.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดหุ้นสหรัฐ ราคาทอง และน้ำมันพุ่ง รับความตึงเครียดสหรัฐฯ–เวเนซุเอลา