อ่านโพสต์ใน facebook เพจกลุ่มคนรักบิทคอยน์ หรือเพจของแพลตฟอร์ม บิทคอยน์ ออนไลน์ ไม่ว่าจะ Binance Thailand หรือ Bitkub ฯลฯ หรือในข่าว จะเจอเนืองๆ ว่า บิทคอยน์โดนขโมย
ดูทรงแล้ว ทำไมโดนขโมยง่ายจัง เพียงแค่โดน แฮคอีเมล ก็เงินหาย ติดตามไม่ได้ หรือ แม้แต่ Hardware Wallet เอง ถ้าโจรจี้ปล้นบังคับเอารหัสไป แล้วมีการโอน และคำสั่งใน blockchain สมบูรณ์ คือ เงินหาย ติดตามไม่ได้
( ถ้าโจรไม่แลกเงินที่ศูนย์แลกเงิน KYC ที่รัฐบาลหรือเอกชนควบคุมอยู่ คือ หายเลย ใครก็ช่วยไม่ได้ แต่ก็เป็นเครื่องสะท้อนว่า บิทคอยน์ยังอยู่ไม่ได้ หรือไม่ปลอดภัย ด้วยตัวของมันเอง )
คือถ้าเปรียบเทียบกับ ธนาคาร หรือ บริษัทหลักทรัพย์ คนทั่วไป ก็โดน แฮคอีเมล กันได้บ้าง แต่มันจะไม่มีการ แค่โดนแฮคอีเมล แล้วเงินหาย มันจะต้องยากกว่านั้น
เช่น โดนฝังแอพดูดเงิน โดนขโมยมือถือแล้วรู้รหัส หรือเจ้าตัวโอนให้มิจฉาชีพเอง และถึงโดนก็มีโอกาสได้เงินคืนบ้าง เช่น ศาลสั่งธนาคารคืนเงินครึ่งหนึ่งให้ผู้เสียหาย หรือโดนแฮคบัตรเครดิตแล้วป้องกันความเสียหายได้ ฯลฯ หรือก็จะรู้บัญชีปลายทาง ( ตามจับยาก แต่จะรู้เส้นทาง จะมองเห็น )
แล้วกลุ่มคนรักบิทคอยน์จะชอบเถียงว่า เงินสดก็หายได้ เงินสดก็เสี่ยง เงินสดก็มีฟอกเงิน คนที่บิทคอยน์หาย คือ ผิดพลาดเอง แล้วตัวแพลตฟอร์ม ก็ไม่ช่วยเลย บอกช่วยไม่ได้
คอมมูนินี้ของคนรักบิทคอยน์เอง ก็ช่วยกันเองไม่ได้ สิ่งที่ทำคือ ขายคอร์สสอนบิทคอยน์ เชียร์บิทคอยน์ เพราะตัวเองถือไว้เยอะ จริงๆแล้วก็เข้ามาเพื่อแสวงหาประโยชน์ ไม่ได้มี passion จริงๆ
แต่พออ่านคำอธิบาย มันป้องกันหายยากจริงๆนะ ขนาดคนตั้งค่า Hardware Wallet ดีแล้ว โจรยังหาทางขโมยได้เก่ง หรือมันจุกจิก ใช้กับแพลตฟอร์มประเทศไทยไม่ได้ ไม่ compatible อะไรอย่างนี้
โดยส่วนตัว เข้าใจว่า ถ้าเป็นเทคโนโลยีของธนาคาร หรือบริษัทหลักทรัพย์ มันปลอดภัยกว่า เทคโนโลยี SMS หรือ การตัดเงินแบบ ATS ยังปลอดภัยกว่า มีศาลสั่งคุ้มครอง มีตำรวจ มีธนาคาร
ทำไม กลุ่มคนรักบิทคอยน์ ชอบพรรณาว่า มันเทพ มันเทคโนโลยีดีมาก มันเป็นสิทธิเสรีภาพ คือดูเขาเชื่อจริงๆ เขาพูดตามที่เขาเชื่อ
แต่ถ้ามันเทพขนาดนั้น พวกคนรวย ไม่มีทางปล่อยให้วงการบิทคอยน์สงบสุขหรอก อย่างการมาของแนวคิดบริษัท Micro Strategy หรือ Stable Coin หรือประเทศจีนที่จะเอา ทองคำ เข้าสู้ ฯลฯ แล้วพวกมิจฉาชีพก็ไม่มีวันปล่อยให้สงบสุข
แล้วรำคาญบางคนชอบบอก ลงทุนอันนั้นอันนี้โง่ พูดคำว่าโง่ ออกสื่อบ่อย แล้วคนยังมีมารยาทพอที่จะฟัง ทั้งที่คนพูดมันไม่มีมารยาท
บิทคอยน์ จริงๆถูกขโมยง่ายใช่ไหม แค่คนชอบบิทคอยน์พูดเก่ง เลยพูดซะหยั่งกะมันเทพ แล้วบอกเงินสดไม่ดี ประกันไม่ดี หุ้นกู้โง่
ดูทรงแล้ว ทำไมโดนขโมยง่ายจัง เพียงแค่โดน แฮคอีเมล ก็เงินหาย ติดตามไม่ได้ หรือ แม้แต่ Hardware Wallet เอง ถ้าโจรจี้ปล้นบังคับเอารหัสไป แล้วมีการโอน และคำสั่งใน blockchain สมบูรณ์ คือ เงินหาย ติดตามไม่ได้
( ถ้าโจรไม่แลกเงินที่ศูนย์แลกเงิน KYC ที่รัฐบาลหรือเอกชนควบคุมอยู่ คือ หายเลย ใครก็ช่วยไม่ได้ แต่ก็เป็นเครื่องสะท้อนว่า บิทคอยน์ยังอยู่ไม่ได้ หรือไม่ปลอดภัย ด้วยตัวของมันเอง )
คือถ้าเปรียบเทียบกับ ธนาคาร หรือ บริษัทหลักทรัพย์ คนทั่วไป ก็โดน แฮคอีเมล กันได้บ้าง แต่มันจะไม่มีการ แค่โดนแฮคอีเมล แล้วเงินหาย มันจะต้องยากกว่านั้น
เช่น โดนฝังแอพดูดเงิน โดนขโมยมือถือแล้วรู้รหัส หรือเจ้าตัวโอนให้มิจฉาชีพเอง และถึงโดนก็มีโอกาสได้เงินคืนบ้าง เช่น ศาลสั่งธนาคารคืนเงินครึ่งหนึ่งให้ผู้เสียหาย หรือโดนแฮคบัตรเครดิตแล้วป้องกันความเสียหายได้ ฯลฯ หรือก็จะรู้บัญชีปลายทาง ( ตามจับยาก แต่จะรู้เส้นทาง จะมองเห็น )
แล้วกลุ่มคนรักบิทคอยน์จะชอบเถียงว่า เงินสดก็หายได้ เงินสดก็เสี่ยง เงินสดก็มีฟอกเงิน คนที่บิทคอยน์หาย คือ ผิดพลาดเอง แล้วตัวแพลตฟอร์ม ก็ไม่ช่วยเลย บอกช่วยไม่ได้
คอมมูนินี้ของคนรักบิทคอยน์เอง ก็ช่วยกันเองไม่ได้ สิ่งที่ทำคือ ขายคอร์สสอนบิทคอยน์ เชียร์บิทคอยน์ เพราะตัวเองถือไว้เยอะ จริงๆแล้วก็เข้ามาเพื่อแสวงหาประโยชน์ ไม่ได้มี passion จริงๆ
แต่พออ่านคำอธิบาย มันป้องกันหายยากจริงๆนะ ขนาดคนตั้งค่า Hardware Wallet ดีแล้ว โจรยังหาทางขโมยได้เก่ง หรือมันจุกจิก ใช้กับแพลตฟอร์มประเทศไทยไม่ได้ ไม่ compatible อะไรอย่างนี้
โดยส่วนตัว เข้าใจว่า ถ้าเป็นเทคโนโลยีของธนาคาร หรือบริษัทหลักทรัพย์ มันปลอดภัยกว่า เทคโนโลยี SMS หรือ การตัดเงินแบบ ATS ยังปลอดภัยกว่า มีศาลสั่งคุ้มครอง มีตำรวจ มีธนาคาร
ทำไม กลุ่มคนรักบิทคอยน์ ชอบพรรณาว่า มันเทพ มันเทคโนโลยีดีมาก มันเป็นสิทธิเสรีภาพ คือดูเขาเชื่อจริงๆ เขาพูดตามที่เขาเชื่อ
แต่ถ้ามันเทพขนาดนั้น พวกคนรวย ไม่มีทางปล่อยให้วงการบิทคอยน์สงบสุขหรอก อย่างการมาของแนวคิดบริษัท Micro Strategy หรือ Stable Coin หรือประเทศจีนที่จะเอา ทองคำ เข้าสู้ ฯลฯ แล้วพวกมิจฉาชีพก็ไม่มีวันปล่อยให้สงบสุข
แล้วรำคาญบางคนชอบบอก ลงทุนอันนั้นอันนี้โง่ พูดคำว่าโง่ ออกสื่อบ่อย แล้วคนยังมีมารยาทพอที่จะฟัง ทั้งที่คนพูดมันไม่มีมารยาท