เรื่องราวเกิดจากมีเพื่อนบ้านที่เป็นญาติห่างๆมายืมรถของที่บ้าน ตอนแรกจะยืมรถกระบะคันเก่า แต่พ่อกลัวว่าจะเสียระหว่างทาง จึงให้ยืมรถเก๋งของแม่ (เป็นรถเก๋งอายุประมาณ 15 ปี แม่เอาไว้ใช้ไปธุระภายในอำเภอ ไม่ได้ขับไกลๆ เราจึงทำประกันชั้น 3 ไว้ให้แม่) เหตุผลที่เค้ายืมเนื่องจากตัวเค้าเป็นมะเร็งจะต้องไปรับการรักษาที่รพ.ในเมือง (บ้านเราห่างจากรพ.ในเมืองประมาณ 90 กิโล โดยปกติมีรถตู้เข้าเมืองทุกวัน) เค้าให้เหตุผลว่าบางทีจะต้องได้รับคีโมนาน จึงกลับเย็น แล้วกลัวว่ารถตู้จะหมด จึงมาขอยืมรถ พ่อกับแม่เราจึงให้ยืม
จากนั้นเค้ายืมรถแม่เราเดือนละ 1-2 ครั้ง มานานประมาณ 8-9 เดือน จนมาเดือนที่ผ่านมา เกิดรถชน ตำรวจตัดสินว่าฝั่งคนที่ยืมรถแม่เป็นฝ่ายผิด ประกันรับผิดชอบแก่คู่กรณี ส่วนรถของแม่เราจะต้องเสียค่าซ่อมเอง รวมค่ารถยกที่แม่เราจ่ายเป็นจำนวน 58,000 บาท ซึ่งทางฝั่งที่ยืมไม่ได้ชดใช้เลยจนถึงวันนี้เรามีความไม่สบายใจมาก ณ วันที่เกิดเหตุ เราจึงปรึกษากับพี่ว่าจะทำสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย (ค่าซ่อม+ค่ายกรถ) ตอนแรกพ่อไม่อยากให้ทำ เราคิดว่าเพราะพ่อสงสารเค้า แต่สุดท้ายก็ยอมเพราะเงินทั้งหมดที่ออกเป็นเงินของแม่ แม่ก็อยากให้ทำ สุดท้ายเราจึงได้ทำสัญญา โดยระบุว่าจะชดใช้ภายในระยะเวลา 7 ปี (คนที่ยืมเป็นมะเร็งกำลังรักษาตัวอยู่ไม่มีอาชีพ สามีก็ไม่มีอาชีพ)
พ่อแม่เราสงสารเค้า ไม่อยากคาดคั้นเค้า แต่เราในฐานะลูก สงสารแม่มากๆ เรารู้สึกว่าพ่อกับแม่อายุก็มากแล้ว หลังจากเกษียณอยากให้เค้าใข้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่เครียด แต่อยู่ดีๆก็มีคนมาทำให้พ่อแม่เดือดร้อน เรากับพี่ไม่เคยทำให้พ่อแม่ต้องเดือดร้อนเลย
จนผ่านมา 1 เดือน เราคิดว่าเงิน 58,000 บาทนี้ เค้าไม่น่าจะสามารถชดใช้ให้แม่เราได้แน่ๆ ไม่ว่าจะ 3 ปี หรือ 7 ปี คิดวาไม่ได้แน่ๆ เราแค่อยากขอวิธีคิดที่จะทำให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ (พ่อแม่เค้าไม่ค่อยแสดงออก แต่เราคิดว่าลึกๆแม่ก็คงเสียดายเงินจำนวนนี้มาก เพราะมันเป็นจำนวนที่เยอะสำหรับเค้ามากๆเหมือนกัน)
***** ณ วันที่เรารู้ว่ามีคนยืมรถแม่ เราก็ไม่สบายใจ ไม่อยากให้ยืม กลัวว่าจะเอารถไปชน พูดกับพ่อแม่แล้ว แต่พ่อกับแม่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ สงสารเค้า แต่ในใจพ่อกับแม่ก็คงกลัวเหมือนเรานั่นแหละ
มีคนยืมรถแม่ไปแล้วชน ไม่รับผิดชอบ
จากนั้นเค้ายืมรถแม่เราเดือนละ 1-2 ครั้ง มานานประมาณ 8-9 เดือน จนมาเดือนที่ผ่านมา เกิดรถชน ตำรวจตัดสินว่าฝั่งคนที่ยืมรถแม่เป็นฝ่ายผิด ประกันรับผิดชอบแก่คู่กรณี ส่วนรถของแม่เราจะต้องเสียค่าซ่อมเอง รวมค่ารถยกที่แม่เราจ่ายเป็นจำนวน 58,000 บาท ซึ่งทางฝั่งที่ยืมไม่ได้ชดใช้เลยจนถึงวันนี้เรามีความไม่สบายใจมาก ณ วันที่เกิดเหตุ เราจึงปรึกษากับพี่ว่าจะทำสัญญาชดใช้ค่าเสียหาย (ค่าซ่อม+ค่ายกรถ) ตอนแรกพ่อไม่อยากให้ทำ เราคิดว่าเพราะพ่อสงสารเค้า แต่สุดท้ายก็ยอมเพราะเงินทั้งหมดที่ออกเป็นเงินของแม่ แม่ก็อยากให้ทำ สุดท้ายเราจึงได้ทำสัญญา โดยระบุว่าจะชดใช้ภายในระยะเวลา 7 ปี (คนที่ยืมเป็นมะเร็งกำลังรักษาตัวอยู่ไม่มีอาชีพ สามีก็ไม่มีอาชีพ)
พ่อแม่เราสงสารเค้า ไม่อยากคาดคั้นเค้า แต่เราในฐานะลูก สงสารแม่มากๆ เรารู้สึกว่าพ่อกับแม่อายุก็มากแล้ว หลังจากเกษียณอยากให้เค้าใข้ชีวิตแบบสบายๆ ไม่เครียด แต่อยู่ดีๆก็มีคนมาทำให้พ่อแม่เดือดร้อน เรากับพี่ไม่เคยทำให้พ่อแม่ต้องเดือดร้อนเลย
จนผ่านมา 1 เดือน เราคิดว่าเงิน 58,000 บาทนี้ เค้าไม่น่าจะสามารถชดใช้ให้แม่เราได้แน่ๆ ไม่ว่าจะ 3 ปี หรือ 7 ปี คิดวาไม่ได้แน่ๆ เราแค่อยากขอวิธีคิดที่จะทำให้ผ่านเรื่องนี้ไปได้ (พ่อแม่เค้าไม่ค่อยแสดงออก แต่เราคิดว่าลึกๆแม่ก็คงเสียดายเงินจำนวนนี้มาก เพราะมันเป็นจำนวนที่เยอะสำหรับเค้ามากๆเหมือนกัน)
***** ณ วันที่เรารู้ว่ามีคนยืมรถแม่ เราก็ไม่สบายใจ ไม่อยากให้ยืม กลัวว่าจะเอารถไปชน พูดกับพ่อแม่แล้ว แต่พ่อกับแม่ก็ไม่กล้าปฏิเสธ สงสารเค้า แต่ในใจพ่อกับแม่ก็คงกลัวเหมือนเรานั่นแหละ