ปฏิบัติ​สมาธิ​แบบ​ไม่หวังผล​ให้​คิดแบบ​นี้​

"การปฏิบัติสมาธินี่!
ถ้าหากว่าไม่หวังผล ปฏิบัติอย่างไม่หวังผล
แต่ต้องปฏิบัติถูกต้องตามแนวทาง
ไม่ต้องคิดหวังผลใดๆ ทั้งนั้น ในขั้นแรก
เรานึกว่า...เราภาวนาเอาบุญ มันจะเกิดผลอะไรหรือไม่

เราไม่สำคัญ...
ถ้าปล่อยความรู้สึกเป็นอย่างนี้แล้ว
การภาวนา จะก้าวหน้าได้เร็ว
พอนั่งลงปั๊บเมื่อไร  จิต จะสงบเมื่อไร
จะรู้ จะเห็นละ! ก็ไม่ได้  
มันต้องทำ ถ้ามีหน้าที่บริกรรม ยุบหนอ
พองหนอๆ ก็ยุบหนอ-พองหนอ อยู่...นั่นแหละ
ไม่ต้องไปนึกว่า เมื่อไร...จิต จะสงบ
เมื่อไร จะรู้จะเห็นอะไรทำนองนี้ไม่ต้องไปนึก
หน้าที่ของเรา ภาวนา...อย่างเดียว

การภาวนา นี่!  จุดมุ่งหมายอยู่...ที่การสร้าง
สติ ให้มีพลังเข้มแข็งเป็นมหาสติ
เพื่อ...ทำจิตให้บริสุทธิ์สะอาด เท่านั้น
เรื่องอิทธิฤทธิ์ หรือรู้เห็นอะไรต่างๆ เป็นผล
พลอยได้

การรู้ธรรม เห็นธรรม
ก็คือ เห็นความจริง ของจิตเราเอง
เช่นอย่างสมมติ ว่าเราปล่อยให้จิตของเรา
คิดไปๆ ปรุงไป เราตาม...รู้ไป รู้ไป
บางที เราเกิดมาเราอาจจะหัวดื้อ หัวรั้น
กับอุปปัชฌาย์ อาจารย์ของเรา
พอมันไปนึกถึงตรงนั้น...ถ้าจิตมันยอมรับ
หรือรู้จริงแล้ว มันจะนึกขึ้นมาว่า...อ้อ! สิ่งนี้
เจ้าเคยทำผิดต่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์มาแล้ว
ต่อไปเจ้าอย่าทำอีก

อันนี้ คือ...
การรู้ธรรมเห็นธรรม ตามความเป็นจริง."

------------------------------------------------------------------
ที่มา : หนังสือ สว่าง หน้า ๔๐ - ๔๑
พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่