เราเรียน ม.ดังที่หนึ่ง มีเพื่อนสนิทที่เจอกันตอนปี 1 เป็นเพื่อนคนแรก ไว้ใจและสนิทกันมาก ตอนนั้นรู้สึกดีมากที่มีเพื่อนที่ดีแบบนี้ ส่วนตัวเราเป็นคนไว้ใจคนง่าย สนิทกันคนอื่นได้ไว จนมีเหตุการณ์หนึ่งที่เพื่อนเราแอบทำลับหลังเรา คือเรียนวิชาสาขาด้วยกันวิชานึง แล้วอาจารย์ปล่อยฟรีสไตล์จะมาทำตอนไหนก็ได้ ตามที่เราสะดวก ซึ่งเราสะดวกตอนช่วงกลางวัน หรือคาบว่าง แต่เพื่อนสนิทของเราชอบมาทำตอนกลางคืน (ส่วนใหญ่เพื่อนคนอื่นชอบมาทำกลางคืนกัน แต่มียุงเยอะเราเลยมาทำกลางวันกับเพื่อนอีกคน) แค่เหตุการณ์ที่เราไม่มาทำงานพร้อมกันแค่นี้ ซึ่งเราบอกเหตุผลกับเพื่อนไปแล้วว่าเราไม่สะดวก ต่อหน้าเพื่อนเข้าใจ พอลับหลังเรากลับนินทาเรา พูดให้เพื่อนอีกกลุ่มฟังว่าเรามาทำงานไม่เคยรอ กลับก่อนไม่สนใจเพื่อน พอเรารู้เรื่อง เราไปถามตรงๆกับเพื่อน ก็บอกว่าน้อยใจเราเฉยๆ แต่เหตุการณ์นั้นทำให้เพื่อนในห้องมองเราแย่มาก มีงานกลุ่ม ก็ไม่อยากให้เราอยู่ด้วย บทสนทนาน้อยลง แต่ตอนนั้นเราไม่โกรธเพื่อนเลยคิดว่าเพื่อนน้อยใจจริงๆ แต่เรียนมาเรื่อยๆเริ่มรู้สึก เพื่อนๆรังเกียจเรามาก ตอนนั้นเลยรู้สึกแค้นเพื่อนขึ้นมา จนขึ้นปี 4 เราเขียนรายงานเพื่อน เพราะงานวิจัยของเพื่อนไม่ผ่านกระบวนการขั้นตอนที่ถูกต้อง เรื่องถึงขั้นคณะบดี มีการประชุมใหญ่ เรานั่งฝั่งตรงข้ามกับเพื่อนสนิท เรานั่งมองสีหน้า และการกระทำทุกอย่างที่เขาควรได้รับ มันเป็นการเขียนรายงานที่ค่อนข้างรุนแรง เพื่อนอาจจะไม่จบการศึกษาได้ ตอนนั้นเป็นประเด็นใหญ่มาก เราไม่รู้สึกเสียใจเลยที่เขียนรายงานไป รู้สึกสะใจยิ่งกว่า เพื่อนยิ่งกระวนกระวาย หาทางออก แก้ปัญหาไม่ได้ เป็นขี้ปากคนอื่นของคนในคณะเรายิ่งรู้สึกว่าเราทำถูก ในใจเราคือ เราแก้แค้นได้สมน้ำสมเนื้อกว่าที่เพื่อนทำกับเรา ให้เขาได้รู้ว่าการไม่มีเพื่อนมันเป็นยังไง เพื่อนๆคิดว่ายังไงกันบ้างคะ มองเห็นต่างได้ค่ะ
ปล.การเขียนรายงานเพื่อน เป็นเรื่องการงานวิจัยที่ไม่ถูกต้อง แต่อาจารย์ปล่อยผ่าน ซึ่งผิดมากๆ การที่จะผลิตบัณฑิตที่ดีคนนึงออกมาได้ ต้องผ่านกระบวนการที่ถูกต้องและยุติธรรมเท่านั้น
ทำแบบนี้กับเพื่อนสนิทที่หักหลังกัน ถูกต้องแล้วมั้ย
ปล.การเขียนรายงานเพื่อน เป็นเรื่องการงานวิจัยที่ไม่ถูกต้อง แต่อาจารย์ปล่อยผ่าน ซึ่งผิดมากๆ การที่จะผลิตบัณฑิตที่ดีคนนึงออกมาได้ ต้องผ่านกระบวนการที่ถูกต้องและยุติธรรมเท่านั้น