.
นิด้าโพลเผย ‘เท้ง’ คะแนนนำบุคคลที่ ปชช.สนับสนุนให้เป็นนายกฯ อีกกว่า 40% ยังไม่รู้เลือกใคร
.
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจ เรื่อง “การสำรวจคะแนนนิยมทางการเมืองรายไตรมาส ครั้งที่ 4/2568” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 4-12 ธันวาคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,500 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับคะแนนนิยมทางการเมือง การสำรวจอาศัยการสุ่มตัวอย่างโดยใช้ความน่าจะเป็นจากบัญชีรายชื่อฐานข้อมูลตัวอย่างหลัก (Master Sample) ของ “นิด้าโพล” สุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Sampling) เก็บข้อมูลด้วยวิธีการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ โดยกำหนดค่าความคลาดเคลื่อนไม่เกิน 0.05 ที่ระดับความเชื่อมั่น ร้อยละ 97.0
.
จากการสำรวจเมื่อถามถึงบุคคลที่ประชาชนจะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 40.60 ระบุว่า ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 17.20 ระบุว่าเป็น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน) อันดับ 3 ร้อยละ 12.32 ระบุว่าเป็น นายอนุทิน ชาญวีรกูล (พรรคภูมิใจไทย) อันดับ 4 ร้อยละ 10.76 ระบุว่าเป็น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (พรรคประชาธิปัตย์) อันดับ 5 ร้อยละ 6.28 ระบุว่าเป็น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 6 ร้อยละ 3.88 ระบุว่าเป็น พลเอกรังษี กิติญาณทรัพย์ (พรรคเศรษฐกิจ) อันดับ 7 ร้อยละ 3.12 ระบุว่าเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย) อันดับ 8 ร้อยละ 1.40 ระบุว่าเป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) อันดับ 9 ร้อยละ 1.28 ระบุว่าเป็น พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ 2.28 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ (พรรคพลังประชารัฐ) ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (พรรคไทยก้าวใหม่) นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ (พรรคโอกาสใหม่) นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม (พรรคไทยภักดี) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา (พรรคประชาชาติ) นายเทวัญ ลิปตพัลลภ (พรรคชาติพัฒนา) พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง (พรรคประชาชาติ) ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ (พรรคกล้าธรรม) นายวราวุธ ศิลปอาชา (พรรคภูมิใจไทย) นายชาดา ไทยเศรษฐ์ (พรรคภูมิใจไทย) นายกรณ์ จาติกวณิช (พรรคประชาธิปัตย์) และไม่ประสงค์ลงคะแนน (Vote No) และร้อยละ 0.88 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
.
ท้ายที่สุดเมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่ประชาชนจะสนับสนุนในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 32.36 ระบุว่า ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 25.28 ระบุว่าเป็น พรรคประชาชน อันดับ 3 ร้อยละ 11.80 ระบุว่าเป็น พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 4 ร้อยละ 11.04 ระบุว่าเป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 5 ร้อยละ 9.92 ระบุว่าเป็น พรรคภูมิใจไทย อันดับ 6 ร้อยละ 2.76 ระบุว่าเป็น พรรคเศรษฐกิจ อับดับ 7 ร้อยละ 2.32 ระบุว่าเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อับดับ 8 ร้อยละ 2.00 ระบุว่าเป็น พรรคไทยสร้างไทย อับดับ 9 ร้อยละ 1.12 ระบุว่าเป็น พรรคพลังประชารัฐ ร้อยละ 1.36 ระบุอื่น ๆ ได้แก่ พรรคประชาชาติ พรรคไทยภักดี พรรคโอกาสใหม่ พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคกล้าธรรม พรรคไทยก้าวใหม่ พรรคชาติพัฒนา พรรคเสรีรวมไทย และไม่ประสงค์ลงคะแนน (Vote No) และร้อยละ 0.04 ระบุว่า ไม่ตอบ/ไม่สนใจ
.
เมื่อพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 8.52 มีภูมิลำเนาอยู่กรุงเทพฯ ร้อยละ 18.68 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคกลาง ร้อยละ 17.80 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคเหนือ ร้อยละ 33.28 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 13.84 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคใต้ และร้อยละ 7.88 มีภูมิลำเนาอยู่ภาคตะวันออก โดยตัวอย่าง ร้อยละ 47.96 เป็นเพศชาย และร้อยละ 52.04 เป็นเพศหญิง
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 12.16 อายุ 18-25 ปี ร้อยละ 17.80 อายุ 26-35 ปี ร้อยละ 17.96 อายุ 36-45 ปี ร้อยละ 26.36 อายุ 46-59 ปี และร้อยละ 25.72 อายุ 60 ปีขึ้นไป โดยตัวอย่าง ร้อยละ 95.60 นับถือศาสนาพุทธ ร้อยละ 3.40 นับถือศาสนาอิสลาม และร้อยละ 1.00 นับถือศาสนาคริสต์ และศาสนาอื่น ๆ
ตัวอย่าง ร้อยละ 37.88 สถานภาพโสด ร้อยละ 59.64 สมรส และร้อยละ 2.48 หม้าย หย่าร้าง แยกกันอยู่ โดยตัวอย่าง ร้อยละ 0.72 ไม่ได้รับการศึกษา ร้อยละ 17.84 จบการศึกษาประถมศึกษา ร้อยละ 34.00 จบการศึกษามัธยมศึกษาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 10.72 จบการศึกษาอนุปริญญาหรือเทียบเท่า ร้อยละ 32.12 จบการศึกษาปริญญาตรีหรือเทียบเท่า และร้อยละ 4.60 จบการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 9.04 ประกอบอาชีพข้าราชการ/ลูกจ้าง/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 17.92 ประกอบอาชีพพนักงานเอกชน ร้อยละ 22.76 ประกอบอาชีพเจ้าของธุรกิจ/อาชีพอิสระ ร้อยละ 10.28 ประกอบอาชีพเกษตรกร/ประมง ร้อยละ 15.24 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป/ผู้ใช้แรงงาน ร้อยละ 19.28 เป็นพ่อบ้าน/แม่บ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน และร้อยละ 5.48 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
.
ตัวอย่าง ร้อยละ 19.96 ไม่มีรายได้ ร้อยละ 3.32 รายได้เฉลี่ยต่อเดือนไม่เกิน 5,000 บาท ร้อยละ 14.40 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,001-10,000 บาท ร้อยละ 35.20 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 10.52 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 20,001-30,000 บาท ร้อยละ 4.40 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 30,001-40,000 บาท ร้อยละ 3.12 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 40,001-50,000 บาท ร้อยละ 1.32 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 50,001-60,000 บาท ร้อยละ 0.48 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 60,001-70,000 บาท ร้อยละ 0.20 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 70,001-80,000 บาท ร้อยละ 0.88 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 80,001 บาทขึ้นไป และร้อยละ 6.20 ไม่ระบุรายได้
.
.
“ปิยบุตร” เล่าเบื้องหลัง MOA ภูมิใจไทย เกมเสี่ยงดันแก้รัฐธรรมนูญ แม้เหลวแต่ได้ลอง
https://www.thairath.co.th/news/politic/2901741
.
“ปิยบุตร” เล่าฉากหลังพรรคประชาชนเซ็น MOA ภูมิใจไทย ดันแก้รัฐธรรมนูญ ชี้ เป็นการทดลอง แม้โอกาสริบหรี่ สุดท้ายผลลัพธ์คือล้มเหลว มองฉากทัศน์หน้าเกมเสี่ยง ปลุกประชาชนไปกาประชามติให้ถล่มทลาย
วันที่ 13 ธันวาคม 2568 ที่สนามหญ้า มศว ประสานมิตร พรรคประชาชน (ปชน.) จัดกิจกรรม “ปิกนิกพรรคประชาชนพบประชาชน” โดยนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ตอบคำถามเรื่องความคาดหวังในการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตอนหนึ่งว่า เห็นตนหน้าตาดูหงอยๆ ซึมๆ ยอมรับตามตรงเลยว่าน่าจะเป็นคนอันดับต้นๆ ที่เสียใจมาก ที่กระบวนการแก้รัฐธรรมนูญไม่ผ่านรอบนี้ หลายท่านอาจบอกว่าทำไปทำไม ไม่มีประโยชน์หรอก เรารู้อยู่แล้วว่าเดี๋ยวเขาก็เบี้ยว ทำไปรัฐธรรมนูญจะออกมาดีหรือไม่อย่างไร
.
นายปิยบุตร กล่าวว่า ต้องไล่กันมาก่อนว่าพรรคนี้ 3 พรรคแล้วที่ตั้งกันมา (พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล พรรคประชาชน) จุดเริ่มต้นของการมีพรรคนี้สัมพันธ์กับเราต้องการมาจัดการรัฐธรรมนูญปี 2560 ถ้าไม่มีรัฐธรรมนูญปี 2560 ก็ไม่มีพรรคนี้ ที่ตั้งพรรคนี้เพราะรู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มันแก้ยากมากๆ แล้วเราจะทำอย่างไรให้ใช้การเมืองในระบบ ใช้พรรคการเมืองในระบบที่ลงจากการเลือกตั้ง แล้วค่อยๆ พยายามเปลี่ยนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ได้ทีละเล็กละน้อย
.
“ถ้าสังเกตแต่ต้นเราชูธงเรื่องนี้ พอเข้าสภาฯ ไปสมัยอนาคตใหม่ 81 เสียง เรายื่นร่างแก้รัฐธรรมนูญเองไม่ได้ เพราะเสียงไม่ครบ 100 เราก็หาวิธีทางต่างๆ นานา พอมาก้าวไกล เสียงเราเยอะมาก เราก็ยื่นได้เอง แต่ก็จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาไปไม่ได้เลยสักฉบับ เคยแก้ได้ครั้งเดียวคือเรื่องระบบเลือกตั้งเท่านั้นเอง”
.
ดังนั้นครั้งนี้เป็นโอกาส เราก็ชั่งน้ำหนักว่าระหว่างการที่เราจะไม่สนใจอะไรเลย เดี๋ยวรออย่างน้อยเอาคำถามประชามติคำถามที่ 1 ก่อน หรือรอลุ้นสักหน่อย ไปได้ เผื่อได้ร่างแก้ไขเพิ่มเติมฉบับนี้มา เผื่อมี 2 คำถามพร้อมกันในการเลือกตั้งมาถึง ต่อไปไม่ต้องง้อสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เขาอีก คือง้อเขาครั้งนี้ครั้งเดียวให้ผ่านวาระ 3 ให้ได้ แต่ในที่สุดไปไม่ได้แล้ว ดังนั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ อีกนิดเดียวจะถึงเส้นชัยอยู่แล้ว
...
นายปิยบุตร กล่าวต่อ เล่าให้ฟังอย่างนี้ ให้ลองดูรัฐธรรมนูญปี 2560 แก้ยากมาก หลายคนเชื่อว่าชีวิตนี้ไม่ได้แก้หรอก วิธีการเปลี่ยนรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เผลอๆ ต้องใช้วิธีพิสดาร เช่น มีการยึดอำนาจแล้วฉีก อะไรแบบนี้ หรือมี People Revolution ออกมาแล้วเปลี่ยนรัฐธรรมนูญได้ ในระบบนี้อย่าไปฝันเลย เพราะคุณไม่สามารถหา 67 เสียง สว.ได้ เราก็ลองวาดฉากต่างๆ นานาให้เปลี่ยนได้ภายใต้ข้อจำกัด พูดให้ฟังอย่างนี้ว่า มันมีกลุ่มพลังที่อยากแก้รัฐธรรมนูญ คือคนอย่างพวกเราในที่นี้ อีกกลุ่มคือพวกไม่อยากแก้ ก็แสดงออกผ่านโหวตเตอร์กลุ่มนั้น พรรคนั้น ผ่านองค์กรอิสระ ผ่านนั่นผ่านนี่เต็มไปหมด กลุ่มคนไม่อยากแก้มีวิธีคิดง่ายๆ คือ ทำอย่างไรให้มันแก้ไม่ได้ เดี๋ยวร้องศาล ให้ศาลสั่ง เดี๋ยวไปเรื่องนั้น ติดเรื่องนี้ เต็มไปหมด และมี สว. 1 ใน 3 ต้องหาให้ได้
.
“ส่วนกลุ่มที่อยากแก้ก็แบ่งออกเป็น กลุ่มแรก มองว่าจะทำอะไรดี ถ้าตอนนี้ทำไม่ได้ ก็ลองหาคำถามประชามติหรือไม่ กับอีกกลุ่มที่มองว่าใช้โอกาสนี้ที่เราพอจะมีอำนาจต่อรองเล็กๆ น้อยๆ จาก MOA นี้ เพื่อลองแก้ดู ก็ประเมินกันแล้ว ตัดสินใจกันแล้วว่า เอาวะ ลองสักนิดหนึ่ง อาจไม่ถูกใจทุกท่านในที่นี้ แต่อย่างน้อยได้ทดลอง 1 ครั้ง วันนี้ผลการทดลองออกมาแล้ว ล้มเหลว แต่ถ้าเราไม่เริ่มทดลองเลย เราไม่รู้ว่าได้หรือไม่ ถ้าเราไม่เริ่มทดลอง ผลลัพธ์คือไม่ได้แน่ แต่ถ้าเริ่มทดลอง ผลออกมาว่าไม่ได้ อย่างน้อยก็ยอมรับ อย่างน้อยเอาคำถามประชามติคำถามแรกมาให้ได้ ก็ไปร่วมกันรณรงค์”
.
พร้อมเผยอีกว่า ตอนนั้นมีความคิดว่าทำไมถึงอยากได้คำถามที่ 2 มาด้วย เพราะคำถามที่ 1 เราต้องขอให้ประชาชนทำประชามติให้ถล่มทลาย แล้วกดดัน สว.ต่อ เพราะถ้าได้คำถามแรกเสร็จ ต้องแก้ในรัฐสภาต่ออีก มีข้อจำกัดต่างๆ นานา ต้องไปแก้ตรงนั้นอีก และขอเขาอีก 67 คนเป็นอย่างน้อย ต่อให้ประชามติถล่มทลายก็กลับไปแก้ที่รัฐสภาอีก เราก็คิดว่าอย่ากระนั้นเลย ขอคุยกับเขาให้รู้เรื่องดีหรือไม่ เราก็เลยขอลองดูว่า ถ้าได้งวดนี้มา งวดหน้าไม่ต้องขอร้องแล้ว แต่สุดท้ายเราก็ไม่ได้ พอไม่ได้ก็ต้องกลับมาสู่คำถามแรก ไปกดดันกันต่อในครั้งหน้า
.
ฉากทัศน์เป็นอย่างนี้ การแก้รัฐธรรมนูญเรายังมีความหวังหรือไม่ ทีละขั้นทีละตอน ตอนนี้คือให้วันประชามติไปตรงกับวันเลือกตั้ง เพื่อที่จะได้ไม่เปลืองงบประมาณแผ่นดิน ในการจัดคูหา 2 ครั้ง ให้การรณรงค์หาเสียงครั้งนี้ นอกจากเลือกรัฐบาลแล้ว คือการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ ต้องขอแรงประชาชนออกไปใช้เสียงให้ถล่มทลาย ครั้งนี้เดิมพันสุดๆ คิดดูว่ารัฐธรรมนูญปี 2560 ประชามติเมื่อปี 2559 เขาได้เสียงข้างมากมา เขาอ้างทุกครั้งว่าผ่านประชามติมา สมมติกุมภาพันธ์ 2569 ไปทำประชามติอีกว่า จะแก้หรือไม่ ถ้าฝ่ายแก้แพ้ ฝ่ายอยากให้มีฉบับใหม่แพ้ เท่ากับฉบับนี้มัดตราสังข์แข็งแกร่งมากเลย จะยิ่งแก้ไม่ได้อีก เกมเสี่ยงที่สุดที่เราเข้าไป เพื่อเอาฉันทามติของประชาชนมาให้ได้ ต้องขอแรงประชาชนให้ได้ 70-80% ของความเห็นอยากทำรัฐธรรมนูญใหม่
.[/left
JJNY : นิด้าโพลเผย ‘เท้ง’คะแนนนำ│“ปิยบุตร” เล่าเบื้องหลัง MOA│ฐานทหารเขมรบนแผ่นดินไทย│เตือน 29 จว.ฝนตกหนัก ไทยตอนบนเย็น
https://www.matichon.co.th/politics/news_5503407
.
นิด้าโพลเผย ‘เท้ง’ คะแนนนำบุคคลที่ ปชช.สนับสนุนให้เป็นนายกฯ อีกกว่า 40% ยังไม่รู้เลือกใคร
.
.
.