จอร์เจีย...ที่เริ่มจะ...จอแจ...EP6

กระทู้สนทนา

สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ ประเทศจอร์เจีย นักท่องเที่ยว

Day 6 : Russia Border - Gergeti Trinity Church - Truso Valley
.

วันที่ 6 ของการเดินทาง

ตื่นเช้ามาด้วยวิวหน้าบ้านที่อลังการของ Gergeti Trinity Church อยู่บนยอดเขา กลางเมือง Kazbegi

วิวบ้านป้าเป็นวิวเดียวกับโรงแรมชื่อดัง Rooms Kazbegi เลย

สายหน่อยก็เขียวมากขึ้น

ตอนเช้าคนขับรถพาป้าๆ ไปชายแดนจอร์เจีย - รัสเซีย เอ้า...ไปก็ไป

จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไร ไม่เหมือนบ้านเราที่มีตลาดชายแดน

มีแต่คิวรถรอเข้ารัสเซียยาวเป็น 10 ก.ม.

ป้าลองถ่ายคลิปดูจนเมื่อยแขน ความยาว 5 นาที ยังเหลือหางแถวอีกยาว

คนขับบอกว่ารถเหล่านี้มาจาก ตุรกี อาร์เมเนีย และอาเซอร์ไบจาน

ผ่านจอร์เจีย ไปรัสเซีย ถือเป็นรายได้สำคัญของประเทศ

สังเกตแถวรถในภาพ ยาวสุดลูกหูลูกตา ภาพนี้ถ่ายตอนขากลับ

เส้นทางไปชายแดนลัดเลาะเขา ด้านข้างมีแม่น้ำสวย แต่ถ้าเทียบกับฝั่ง Mestia ป้าว่าฝั่ง Mestia สวยกว่าเยอะ

ชายแดนรัสเซีย

จุดแรกที่แวะ เป็นโบสถ์ติดชายแดน

มีร้านขายไวน์ที่ (เค้าบอกว่า) ขึ้นชื่อของจอร์เจีย แต่ป้าไม่ได้ซื้อหรอก

(คาดว่าคนขับรถคงได้ Commission)

ภายในโบสถ์ ที่นี่โบสถ์เยอะ เหมือนวัดในไทยนั่นแหละ

ใกล้โบสถ์มีน้ำตกเล็กๆ

ไปต่อกันที่ Gergeti Trinity Church มหาวิหารที่ใครมาจอร์เจียก็ต้องมา

เพราะที่นี่จะมองเห็นวิวเทือกเขาคอเคซัสได้ 360 องศา

ช่วงที่ป้าไปเกอร์เกติซ่อม มุงด้วยสแลนสีเขียว

แต่เข้าไปดูข้างในได้

มุมมหาชนของโบสถ์เกอร์เกติ และภายในโบสถ์

คนขับรถบอกว่าต้องใช้ 4WD ซึ่งพอไปจริงๆ แล้ว

ป้าว่ารถธรรมดาก็ขึ้นได้อีกนั่นแหละ

แต่ Truso Valley ที่ไปในตอนบ่าย ต้องใช้ 4WD จริงๆ

ด้านหน้าโบสถ์ มีป้าขายดอกไม้ อารมณ์เหมือนขายดอกไม้ธูปเทียนบ้านเรา

พูดถึงเกอร์เกติ ว่าด้วยประวัติศาสตร์นิดนึง

จอร์เจียเป็นประเทศที่ 2 ที่รับศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประจำชาติ

(ประเทศแรกคืออาร์เมเนีย)

โดยเป็นคริสตศาสนานิกายจอร์เจียออโธดอกซ์

ผู้นำศาสนาคริสต์มาสู่จอร์เจียคือ นักบุญนีโน (Saint Nino) เป็นผู้หญิงนะ

เรื่องก็มีอยู่ว่า นักบุญนีโน

นิมิตว่าพระแม่มารีย์มอบหมายพันธกิจให้เดินทางไปยังดินแดนไอบีเรีย

หรือจอร์เจียในปัจจุบันเพื่อเผยแพร่ศาสนา

โดยมอบ “กางเขนเถาองุ่น” ให้กับนักบุญนีโน่

ถ้าสังเกตจะเห็นว่ากางเขนของนิกายจอร์เจียออโธดอกซ์

จะต่างจากกางเขนของศาสนาคริสต์นิกายอื่น

ซึ่งก็คือกางเขนเถาองุ่นที่พระแม่มารีย์ประทานมาให้นั่นเอง

นักบุญนีโน่เป็นคนสำคัญที่ทำให้คริสต์ศาสนาลงหลักปักฐานในจอร์เจีย

จึงได้รับการนับถือเสมอด้วยอัครสาวก

เพราะในสมัยนั้นคริสต์ศาสนาถูกกีดกัน

ผู้ที่นับถือคริสต์จะถูกประณามว่าเป็นพวก “นอกรีด”

ที่ต้องเล่าเรื่องนักบุญนีโน่มาก่อนก็เพราะ

โบสถ์เกอเกติ เคยเป็นที่เก็บรักษา “กางเขนเถาองุ่น” ของนักบุญนีโน่

ปัจจุบันกางเขนเถาองุ่นถูกเก็บรักษาไว้ที่ Sioni Cathedral ใน Tbilisi

โบสถ์นี้มีอายุเก่าแก่กว่า 600 ปี

สร้างหลังจากจอร์เจียเป็นอิสระจากการปกครองของมองโกล

การอยู่บนยอดเขามีนัยยะสำคัญคือ

การได้อยู่ใกล้ชิดกับสวรรค์และพระเจ้า

ช่วงที่จอร์เจียอยู่ภายใต้การปกครองระบอบคอมมิวนิสต์ของรัสเซีย

ศาสนาถือเป็นสิ่งต้องห้าม

โบสถ์จึงกลายเป็นที่พักของนักปีนเขา

และเมื่อจอร์เจียได้รับเอกราชในปี 1991

โบสถ์เกอร์เกติจึงกลับมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาอีกครั้ง

มองจากโบสถ์ลงมาที่ลานจอดรถ

แล้วก็เดิน เดิน เดิน ไปเพื่อถ่ายรูปมุมมหาชนของโบสถ์ อากาศเย็น แดดแรง เลยไม่ค่อยร้อน ไม่รู้ตัวเลยว่า "ดำ" ไปเยอะ

ที่ต่อมาที่ป้าไป ถือเป็นอีกแห่งที่ป้า “ว้าว” มาก

เพื่อนไปเจอในรีวิวอีกนั่นแหละ

เป็นหุบเขามีแม่น้ำไหลผ่านชื่อว่า Truso Valley

เป็นเป้าหมายของนักเดินเทรลหลายคน

ระหว่างทางจะพบนักเดินเทรลจำนวนมาก

ทั้งมาเดี่ยว มาคู่ มากลุ่ม

เดินเข้ามาชมความงามใน Truso Valley

ภายใน Truso Valley มี บ่อน้ำแร่ หลายบ่อ ที่ต้องเดินเขาไป

ระยะทางตั้งแต่ 700 เมตร ถึง 4 ก.ม. แล้วแต่จะพอใจ

จุดตัดสินใจ ว่าจะเดินหรือนั่งรถต่อไป

ซ้ายนั่งรถไป ขวาขึ้นเขาเขียวๆ ที่เห็นในรูปนั่นแหละ พวกชอบปีนเขาก็ไปทางซ้าย มีบ่อน้ำแร่ ส่วนป้าๆ คงเดาได้นะว่าป้าไม่ชอบเดิน

ทางรถก็ขนานไปกับทางเขาตลอดนั่นแหละ และก็เดินได้ง่ายกว่าด้วย

วิวสวยงามในหุบเขา

ป้าเดินตามทางรถมาเรื่อยๆ ประมาณ 500 เมตร ก็อยู่ตรงข้ามกับบ่อน้ำแร่ บ่อแรกแล้วไม่เห็นต้องปีนเขาให้เหนื่อย

วิวในหุบเขาสวยมาก เหมือนอยู่ต่างดาว มองเห็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ และนักปีนเขากระจัดกระจายอยู่ทั่วไป

ไกด์พาทัวร์หุบเขา น้องเป็นหมาหรือแกะ 555

ภูเขา ทุ่งหญ้า ดอกไม้เล็กๆ สวย แต่ก็นั่นแหละ ถ่ายรูปดอกไม้ไม่สวย

เขียวอะไรขนาดนี้ เหมือนเป็นกำมะหยี่ไปหมดเลย

เดินพอเนื่อยก็นั่งรถต่อไปที่หมู่บ้านเล็กๆ มีลำธารไหลผ่าน น้ำที่ไหลผ่านเป็นน้ำแรเชียวนะ

เลยหมู่บ้านไปมีโบสถ์เล็กๆ และเกสต์เฮ้าส์

ขนาดฤดูร้อน เข้ามาในนี้ยังเย็นมาก แล้วฤดูหนาวเค้าอยู่กันได้ยังไง

ที่นี่แม่ชีเอาน้ำผลไม้มาให้ป้าๆ อร่อยมาก

ถ้าชอบใจก็ซื้อกลับได้ แต่วันนั้น หมดแล้ว...อด

เกสต์เฮ้าส์ และโบสถ์เล็กๆ สวย

ที่นี่ (ประเทศจอร์เจีย) น้ำผลไม้อร่อยมากอยากซื้อกลับเมืองไทยมากแต่มันหนัก

ระหว่างทางมีเลี้ยงผึ้งด้วย

ออกจาก Truso Valley ได้แป๊บเดียวฝนตกหนัก

ดีนะที่ออกมาก่อนไม่งั้นคงลำบากเพราะทางเป็นดิน ถ้าฝนตกน่าจะเป็นโคลน

ตอนแรกป้าๆ คิดว่าจะไปนั่งชิวกินอาหารเย็นดูวิวที่โรงแรม Rooms Kazbegi

แต่พอฝนตกหนัก ดูแล้วไม่น่าเห็นวิวอะไร

แวะซุปเปอร์ซื้อของกลับมาทำอาหารกินที่บ้านดีกว่า

เมื่อวานได้รูปตัวพ่อ วันนี้ได้รูปตัวแม่กับตัวลูก ตัวลูกน่ารักมาก นุ่มนิ่ม จนอยากเอาใส่กระเป๋ากลับมาเมืองไทย
แต่การนำสัตว์เข้า-ออกประเทศมันมีขั้นตอนเยอะมาก ไม่ไหว

จบวันด้วยโบสถ์เกอร์เกติและเมือง Kazbegi ยามค่ำคืน (แสงไฟซ้ายบน คือโบสถ์เกอร์เกติ)