จอร์เจีย...ที่เริ่มจะ...จอแจ...EP4

กระทู้สนทนา

บันทึกนักเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ นักท่องเที่ยว ประเทศจอร์เจีย เที่ยวต่างประเทศ

Day 4 : Svan House – Zagari Pass – Ushguli Village – La Maria Church – City Walk

9 โมงเช้า ป้าๆ เตรียมพร้อมออกเดินทาง

เกือบไม่ทันเพราะตื่นมาน้ำไม่ไหล กว่าจะไหล 8 โมงเช้า ไม่รู้ล่วงหน้าด้วย

น้ำในขวดที่ซื้อมา ต้องเอามาล้างหน้าแปรงฟันเกือบหมด

ที่เที่ยววันนี้ก็สวยงามอีกนั่นแหละ

เค้าบอกว่าต้อง 4WD ป้าก็เลยเช่า 4WD อีกวัน

แต่พอไปจริงๆ จากประสบการณ์ขับรถเที่ยวของป้า

ป้าว่ารถธรรมดา ที่กำลังเครื่องดีหน่อยก็ได้แล้วไม่ต้อง 4WD

จุดแรกที่แวะคือ Svan House

อยู่ระหว่างทางผ่านไปหมู่บ้าน Ushguli

Svan House เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ของเอกชน

จัดแสดงวิถีชีวิตของชาว Svaneti (ชื่อเรียกพื้นที่บริเวณนี้แต่โบราณ)

มีเครื่องใช้โบราณที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ มองเห็นยอดเขา Ushba ชัดเจน (ภูเขาที่มียอดน้ำแข็งที่มุมซ้ายของภาพ)

ยอดเขานี้ถือเป็น Matterhorn of Caucasus

ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายของนักปีนเขาทั่วโลก

ระหว่างทางไปหมู่บ้าน Ushguli วิวสวย ดีงามมาก

ไปต่อกันที่ Zagari Pass

เป็นเขตชายแดนของจอร์เจียติดกับรัสเซีย

เพื่อนป้าไปเจอในรีวิว คนพื้นที่เท่านั้นที่รู้จัก

อยู่เลยไปจากหมู่บ้าน Ushguli ประมาณ 5 กม.

ที่นี่ไม่มีช่องทางออกไปรัสเซีย เพราะเป็นภูเขาสูงชัน

ไม่สามารถเดินถึงกันได้ง่ายๆ

แถมยังมี Shkhara Glacier ขวางกั้นอีก

ทางขึ้นแยกออกจากทางหลักเป็นทางดิน ประมาณ 500 เมตร

จะพบจุดชมวิว มีโบสถ์เล็กๆ และวิวพาโนรามาสวยงาม

จริงๆ ตรงนี้ไม่มีอะไรมาก แต่ขอบอกเลยว่า โคตรสวย

ว่าในรูปสวยแล้ว ของจริงสวยกว่าเป็นร้อยเท่าเลยหละ

ดอกไม้สวยมากอยากถ่ายรูป แต่มันเป็นดอกเล็กๆ ถ่ายให้สวยยากมาก ป้าเลยถ่ายเป็นคลิปเลยละกัน

จุดที่ 3 หมู่บ้าน Ushguli

ได้รับการจดทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก เมื่อปี 1996

ในชื่อ Upper Svaneti ถือเป็นชุมชนมรดกโลกที่อยู่สูงที่สุดในยุโรป

(2,100 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล)

ระหว่างทางจาก Mestia มีหมู่บ้านเล็กๆ และเกสต์เฮ้าส์มาเรื่อยๆ

เพราะมีนักปีนเขาเดินมาจาก Mestia เพื่อไปหมู่บ้าน Ushguli นี่แหละ

ฤดูหนาวน่าจะเข้าถึงได้ยากเพราะหิมะหนา คงต้องใช้ 4WD จริงๆ

ลักษณะบ้านที่นี่เป็นป้อมปราการแบบ Svan Tower ในเมือง Mestia

ฉากหลังของเมืองเป็นเทือกเขาคอเคซัส ที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี อลังการงานสร้างมาก

อีกด้านหนึ่งของเมือง

มีโบสถ์สำคัญคือ Lamaria

ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงที่สุดในชุมชน

มองเห็นได้จากทุกมุมในชุมชน

โบสถ์ Lamaria มองจากชุมชนฉากหลังเป็นเทือกเขาคอเคซัส

ภายในรั้วของโบสถ์ Lamaria หน้าร้อนก็จะเขียวๆ หน่อย

พรีเซนเตอร์ของโบสถ์ น้องเดินตาม ยิ้มพิมพ์ใจมาก

ที่นี่ป้าได้เจอปรากฏการณ์ที่เจอได้ยาก เค้าเรียกว่า "ปรากฎการณ์รุ้งไฟ" (Fire Rainbow)
เลยเอามาลงให้ดูเล่นๆ สวยดี และเกิดนานเป็น 10 นาทีเลย
รุ้งไฟเกิดจากแสงอาทิตย์ตกกระทบผลึกน้ำแข็งในบรรยากาศของกลุ่มเมฆเซอรัส (เมฆขนนก)
ทำให้เกิดการหักเหแสงเป็นสีรุ้งคล้ายเปลวไฟจึงได้ชื่อว่ารุ้งไฟ
โดยมักพบในฤดูร้อนของพื้นที่ที่อากาศหนาวจัด
และเมฆต้องทำมุม 58 องศากับดวงอาทิตย์ พอดิบพอดี
ดูเผินๆ เหมือนป้าเข้าไปอยู่ในหนัง ID4 เลย