👿👿👿
หากพูดถึงหนังแอ็คชั่น–ไซไฟระดับตำนานที่ครองใจแฟนทั่วโลกมานานกว่า 30 ปี ชื่อของ Predator คือหนึ่งในนั้น ตั้งแต่ภาคแรกในปี 1987 จนถึงวันนี้ จักรวาล Predator เติบโตจนมีทั้งภาคหลักและภาคแยกมากมาย เช่น
- Predator (1987) – ภาคขึ้นหิ้ง ไม่ว่าใครก็ยกเป็น “ที่สุดของที่สุด”
- Predator 2 (1990)
- Predators (2010)
- The Predator (2018)
- Prey (2022)
แล้วยังมีรวมภาคครอสโอเวอร์กับ Alien คือ AVP
- Alien vs. Predator (2004)
- Aliens vs. Predator: Requiem (2007)
ยังไม่รวมพวกที่ออกมาเป็นหนังแผ่นหรือหนังเกรดบีอีกนะ
จากจักรวาลที่เราคุ้นเคยกันในภาพจำเดิม ๆ ว่า Predator เป็น “นักล่าระดับสุดยอดของจักรวาล” คราวนี้ Predator: Bad Lands ทำสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนคือการเปลี่ยนผู้ล่าให้กลายเป็นผู้ถูกล่า
จนทำให้กระแสออกมาทั้ง “ทึ่ง” และ “งงแบบชื่นชม” ไปพร้อมกัน
👿👿👿
เรื่องเปิดบนดาวที่มีสภาพแวดล้อมโหดร้าย ถูกเรียกว่า Bad Lands ซึ่งเจ้านักรบ Predator ตัวเอกของเรื่องโดนเนรเทศออกมาจากดาวของตัวเพลง เพราะกำลังจะโดนกำจัดจากเผ่าพันธุ์ แต่แทนที่จะเป็นภารกิจล่าแบบเดิมๆ สิ่งที่รออยู่กลับเป็น เผ่าพันธุ์ประหลาดที่วิวัฒน์มาจากการกลายพันธุ์ ดุยิ่งกว่า รวดเร็วกว่า และไล่ฆ่าเป็นเรื่องธรรมดา จากนักล่าที่เคยล่าได้แทบทุกเผ่าพันธุ์ กลายเป็นการต้อง เอาชีวิตรอดแบบหัวซุกหัวซุน ทำให้เรื่องราวกลายเป็นเส้นทางเอาตัวรอดสุดหฤโหดแบบไม่มีที่ให้หายใจ
👿👿👿
จุดขายของทุกภาคที่ผ่านมา คือการเฝ้าดู Predator ล่าเหยื่อหมู่มนุษย์หรือเอเลียนอื่น ๆ
แต่ Bad Lands กลับเลือกเล่าในมุมที่ไม่เคยทำมาก่อน จากผู้ล่าอันดับหนึ่ง กลายเป็นเหยื่อที่ต้องหนีเป็นครั้งแรก Predator กลายเป็นตัวละครหลัก ต้องเผชิญกับสัตว์ประหลาดที่เหนือชั้นกว่า ซึ่งโครงเรื่องเน้น “เอาชีวิตรอด” มากกว่า “ล่า” อารมณ์คล้ายหนังเอาตัวรอดที่ Predator โดนลดชั้นความเป็นจ้าวนักล่า โดยมีแอนดรอยด์สาวน้อยน่ารักเป็นเพื่อนร่วมทาง บางคนก็บอกว่าเป็นการ “พลิกมุมมองที่กล้าหาญของหนัง” แต่ก็มีบางคนรู้สึกว่า มันทำให้ความน่าเกรงขามของ Predator ลดลงจนไม่เท่เหมือนเดิม
👿👿👿
จุดเด่นของหนังหลักๆ เลยคือฉาก แอ็คชั่นมันส์ทะลุจอ + CG โคตรอลัง แม้บทจะมีสะดุด แต่สิ่งที่แฟน ๆ ยอมรับแบบเอกฉันท์คือความมันส์ล้วน ๆ คือฉากแอ็คชั่นที่อัดแบบไม่ยั้ง ซึ่งหนังเปลี่ยนโทนจากไซไฟ–ทริลเลอร์มาเป็น แอ็คชั่นเพียว ๆ ฉากต่อสู้เน้นการปะทะแบบโหด เดือด ดิบ ฮาร์ดคอร์เทียบเท่าหนังเรตโหดในยุค 90–2000 แถมด้วย CG อลังการงานสร้าง งาน VFX รายละเอียดสูงแบบจัดเต็ม สัตว์ประหลาดดีไซน์ใหม่หลอนและทรงพลัง สภาพแวดล้อม Bad Lands ทำได้มีมิติและดุร้ายสมชื่อ หลายคนบอกว่า “นี่คือหนังที่ดูเพื่อความมันส์ ไม่ต้องคิดมาก และมันก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีมาก”
👿👿👿
จุดด้อยของเรื่องที่ทำให้ผมไม่ชอบเอาซะเลยคือ Predator ที่มันเคยเป็นตัวร้ายสุดโหดที่แสนจะน่าเกรงขาม กลายเป็นเหยื่อง๊องแง๊ง + คาแรกเตอร์เสียของ แม้หนังจะมันส์ แต่แฟนคลับหลายคนชี้จุดอ่อนเยอะเหมือนกัน Predator มันดูไม่เท่เหมือนเดิม เพราะในภาคนี้ Predator ต้องหนีตลอด ทำให้หลายคนรู้สึกว่า “จากเทพนักล่า กลายเป็นตัวละครที่โดนรุมตบไปหน่อย” แถมคาแรกเตอร์แต่ละตัวก็ยังขาดมิติความลึก แทนที่จะได้เห็นวิธีคิดเชิงนักล่าแบบลุ่มลึก กลับถูกทำให้เป็นผู้รอดชีวิตธรรมดาๆ ที่โดนระบบนิเวศจัดการอยู่เรื่อย ๆ และจากการที่โทนเรื่องเปลี่ยนไป ทำให้บางช่วงจังหวะเล่าเรื่องขาด ๆ เกิน ๆ เหมือนถูกเร่งเพื่อไปฉากต่อสู้ใหญ่
👿👿👿
Predator: Bad Lands คือภาคที่ “กล้า” แตกไลน์จักรวาลเดิมไปในรูปแบบใหม่
แอ็คชั่นมันส์สะใจ CG สวย เน้นความโหดแบบนั่งไม่ติด แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ภาพลักษณ์ Predator ที่เราเคยรักน้อยลง เพราะการกลายเป็นเหยื่อแทบทั้งเรื่อง “มันดูสนุก แต่ไม่ใช่ Predator ที่เราคุ้นเคย” ถ้ามองว่าเป็น หนังแอ็คชั่นโหด ๆ อีกเรื่องในจักรวาล Predator ก็ถือว่าทำได้มันมาก แต่ถ้ามองว่าเป็น ภาคต่อที่ควรรักษาศักดิ์ศรีนักล่า อาจจะรู้สึกแปลก ๆ อยู่ไม่น้อย
[CR] [#Review] Predator: Bad Lands – จากผู้ล่ากลายเป็นผู้ถูกล่า เมื่อจักรวาลสุดโหดสลับบทบาทครั้งใหญ่ แต่ผมกลับไม่ชอบ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้