TITLE: **"The Eternaut (2020)" - หนังอินดี้ไซไฟที่อาจทำให้คุณอึ้ง! ไม่ได้ดีที่สุด แต่โคตรน่าจดจำ!**
สวัสดีครับชาวพันทิปทุกคน วันนี้ผมมีหนังไซไฟอินดี้เรื่องนึงมาเล่าสู่กันฟังครับ ชื่อเรื่องว่า "The Eternaut" (2020) ครับ จริงๆ ดูมาสักพักแล้ว แต่เพิ่งมีอารมณ์อยากมานั่งพิมพ์รีวิวให้ฟังกัน คือต้องบอกก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้มันไม่ใช่หนังฟอร์มยักษ์ทุนหนาอะไรนะครับ เป็นหนังอินดี้ที่ทำออกมาได้แบบดิบๆ มีสไตล์ของตัวเองมากๆ ใครคาดหวังเอฟเฟกต์อลังการ ฉากแอ็คชั่นระเบิดภูเขาเผากระท่อม อาจจะต้องทำใจหน่อยครับ แต่ถ้าใครชอบหนังไซไฟที่เน้นเรื่องราว ปรัชญา หรือบรรยากาศลึกลับ ผมว่าเรื่องนี้น่าจะโดนใจได้ไม่ยากเลยครับ
เรื่องย่อๆ ของ "The Eternaut" ก็คือ มันเล่าถึงชายคนหนึ่งที่อยู่โดดเดี่ยวในโลกที่ล่มสลายครับ โลกที่เคยมีมนุษย์อยู่เต็มไปหมด ตอนนี้กลับกลายเป็นดินแดนร้างที่เต็มไปด้วยอันตราย และดูเหมือนว่าจะมีสิ่งมีชีวิตลึกลับบางอย่างคอยคุกคามอยู่เสมอ ตัวเอกของเราก็ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปวันๆ หาอาหาร หาที่พัก และที่สำคัญที่สุดคือ พยายามจะติดต่อกับมนุษย์คนอื่นๆ ที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่ครับ หนังจะพาเราไปสำรวจโลกที่พังทลายนี้ ผ่านสายตาของเขา การเดินทางของเขาเต็มไปด้วยความอ้างว้าง ความหวัง และความสิ้นหวังที่ปะปนกันไปครับ
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจใน "The Eternaut" อย่างแรกเลยคือ บรรยากาศของหนังครับ มันสร้างความรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง และกดดันได้ดีมากๆ เลยครับ ภาพที่ออกมามันดูสวยงามในความหม่นหมอง สภาพแวดล้อมที่ถูกทิ้งร้าง สิ่งก่อสร้างที่ผุพัง มันเล่าเรื่องราวของอดีตที่เคยรุ่งเรืองแต่บัดนี้ได้กลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง เสียงประกอบก็มีส่วนสำคัญมากๆ ครับ มันไม่ได้มีเพลงประกอบที่ดังกระหึ่มตลอดเวลา แต่จะใช้เสียงบรรยากาศ เสียงลม เสียงความเงียบ ที่ทำให้เรารู้สึกเข้าไปอยู่ในโลกเดียวกับตัวละครจริงๆ บางทีเสียงเงียบๆ ก็หลอนกว่าเสียงอะไรทั้งสิ้นครับ
ในส่วนของการแสดง อันนี้ต้องยกนิ้วให้เลยครับ นักแสดงนำ (ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้จริงๆ ครับ ขออภัยด้วย) เขาถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้สุดยอดมากๆ ครับ ความเหนื่อยล้า ความหวัง ความกลัว ความโดดเดี่ยว มันดูสมจริงจนเราอินตามไปด้วย คือหนังมันไม่ได้มีบทสนทนาเยอะแยะอะไรมากมายนักครับ ส่วนใหญ่คือการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่งบอกถึงสภาพจิตใจของเขา มันเลยวัดฝีมือการแสดงกันจริงๆ ตรงนี้เลยครับ
ส่วนเรื่องราวของหนังเอง ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนักครับ มันคือการเดินทางเอาชีวิตรอด การตามหาความหวัง แต่สิ่งที่หนังพยายามจะสื่อสารมากกว่านั้น คือเรื่องของความเป็นมนุษย์ครับ การที่ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสีย การสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมี ความหมายของการมีชีวิตอยู่เมื่อไม่มีใครเหลือให้เห็นอีกแล้ว มันชวนให้คิดตามนะครับ ว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นจริงๆ เราจะทำยังไง เราจะยังมีความหวังอยู่ไหม หรือเราจะยอมแพ้ไปเลย
ทีนี้มาถึงจุดที่อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับบางคนนะครับ อย่างที่บอกไปตอนต้น หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นหวือหวาอะไรครับ สิ่งมีชีวิตลึกลับที่ว่า มันก็ไม่ได้ออกมาโชว์ตัวชัดเจนอะไรมากมายนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการบอกใบ้ การสร้างบรรยากาศให้เรารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่รอบตัวมากกว่าครับ ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ หรือไม่ลุ้นพอ แต่สำหรับผม มันกลับทำให้หนังดูมีมิติมากขึ้นนะ มันเหมือนเป็นการสำรวจสภาพจิตใจของตัวละครมากกว่าจะเป็นหนังแอ็คชั่นเอาตัวรอดเต็มรูปแบบ
อีกอย่างที่ต้องเตือนคือ หนังอาจจะดำเนินเรื่องช้าหน่อยนะครับ กว่าจะเข้าเรื่อง กว่าจะเห็นอะไรชัดเจนมันต้องใช้เวลาหน่อย ใครที่ชอบหนังที่เดินเรื่องเร็วๆ อาจจะต้องอดทนหน่อยครับ แต่ถ้าผ่านช่วงแรกไปได้แล้ว ผมว่ามันจะค่อยๆ ดึงเราเข้าไปในโลกของหนังได้เรื่อยๆ ครับ
โดยรวมแล้ว "The Eternaut" (2020) เป็นหนังไซไฟอินดี้ที่ผมว่าน่าสนใจมากๆ ครับ มันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง ไม่ได้มีทุกอย่างที่หนังฟอร์มยักษ์มี แต่สิ่งที่มันทำได้ดี คือการสร้างบรรยากาศ การถ่ายทอดอารมณ์ และการกระตุ้นความคิดครับ ถ้าใครกำลังมองหาหนังไซไฟที่แตกต่างออกไป หนังที่ไม่ได้มีแค่เอฟเฟกต์ แต่มีเรื่องราว มีความหมายแฝง ผมแนะนำให้ลองหามาดูกันครับ อาจจะไม่ได้ทำให้คุณอึ้งไปกับฉาก แต่จะทำให้คุณอึ้งกับความรู้สึกที่หนังทิ้งไว้แน่นอนครับ
สำหรับผม ถือว่าเป็นหนังที่คุ้มค่าแก่การเสียเวลาดูครับ แม้จะไม่ได้ทำให้ผมร้องว้าวในทุกวินาที แต่ก็เป็นประสบการณ์การดูหนังที่น่าจดจำอีกเรื่องนึงครับ หวังว่ารีวิวของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ชาวพันทิปที่กำลังมองหาหนังดูนะครับ ถ้าใครดูแล้ว มาคุยกันได้นะครับ อยากรู้ความเห็นของคนอื่นๆ เหมือนกันครับ ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ!
**"The Eternaut (2020)" - หนังอินดี้ไซไฟที่อาจทำให้คุณอึ้ง! ไม่ได้ดีที่สุด แต่โคตรน่าจดจำ!**
TITLE: **"The Eternaut (2020)" - หนังอินดี้ไซไฟที่อาจทำให้คุณอึ้ง! ไม่ได้ดีที่สุด แต่โคตรน่าจดจำ!**
สวัสดีครับชาวพันทิปทุกคน วันนี้ผมมีหนังไซไฟอินดี้เรื่องนึงมาเล่าสู่กันฟังครับ ชื่อเรื่องว่า "The Eternaut" (2020) ครับ จริงๆ ดูมาสักพักแล้ว แต่เพิ่งมีอารมณ์อยากมานั่งพิมพ์รีวิวให้ฟังกัน คือต้องบอกก่อนเลยว่าหนังเรื่องนี้มันไม่ใช่หนังฟอร์มยักษ์ทุนหนาอะไรนะครับ เป็นหนังอินดี้ที่ทำออกมาได้แบบดิบๆ มีสไตล์ของตัวเองมากๆ ใครคาดหวังเอฟเฟกต์อลังการ ฉากแอ็คชั่นระเบิดภูเขาเผากระท่อม อาจจะต้องทำใจหน่อยครับ แต่ถ้าใครชอบหนังไซไฟที่เน้นเรื่องราว ปรัชญา หรือบรรยากาศลึกลับ ผมว่าเรื่องนี้น่าจะโดนใจได้ไม่ยากเลยครับ
เรื่องย่อๆ ของ "The Eternaut" ก็คือ มันเล่าถึงชายคนหนึ่งที่อยู่โดดเดี่ยวในโลกที่ล่มสลายครับ โลกที่เคยมีมนุษย์อยู่เต็มไปหมด ตอนนี้กลับกลายเป็นดินแดนร้างที่เต็มไปด้วยอันตราย และดูเหมือนว่าจะมีสิ่งมีชีวิตลึกลับบางอย่างคอยคุกคามอยู่เสมอ ตัวเอกของเราก็ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดไปวันๆ หาอาหาร หาที่พัก และที่สำคัญที่สุดคือ พยายามจะติดต่อกับมนุษย์คนอื่นๆ ที่อาจจะยังหลงเหลืออยู่ครับ หนังจะพาเราไปสำรวจโลกที่พังทลายนี้ ผ่านสายตาของเขา การเดินทางของเขาเต็มไปด้วยความอ้างว้าง ความหวัง และความสิ้นหวังที่ปะปนกันไปครับ
สิ่งที่ทำให้ผมประทับใจใน "The Eternaut" อย่างแรกเลยคือ บรรยากาศของหนังครับ มันสร้างความรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง และกดดันได้ดีมากๆ เลยครับ ภาพที่ออกมามันดูสวยงามในความหม่นหมอง สภาพแวดล้อมที่ถูกทิ้งร้าง สิ่งก่อสร้างที่ผุพัง มันเล่าเรื่องราวของอดีตที่เคยรุ่งเรืองแต่บัดนี้ได้กลายเป็นเพียงซากปรักหักพัง เสียงประกอบก็มีส่วนสำคัญมากๆ ครับ มันไม่ได้มีเพลงประกอบที่ดังกระหึ่มตลอดเวลา แต่จะใช้เสียงบรรยากาศ เสียงลม เสียงความเงียบ ที่ทำให้เรารู้สึกเข้าไปอยู่ในโลกเดียวกับตัวละครจริงๆ บางทีเสียงเงียบๆ ก็หลอนกว่าเสียงอะไรทั้งสิ้นครับ
ในส่วนของการแสดง อันนี้ต้องยกนิ้วให้เลยครับ นักแสดงนำ (ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้จริงๆ ครับ ขออภัยด้วย) เขาถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้สุดยอดมากๆ ครับ ความเหนื่อยล้า ความหวัง ความกลัว ความโดดเดี่ยว มันดูสมจริงจนเราอินตามไปด้วย คือหนังมันไม่ได้มีบทสนทนาเยอะแยะอะไรมากมายนักครับ ส่วนใหญ่คือการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง การกระทำเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่งบอกถึงสภาพจิตใจของเขา มันเลยวัดฝีมือการแสดงกันจริงๆ ตรงนี้เลยครับ
ส่วนเรื่องราวของหนังเอง ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากนักครับ มันคือการเดินทางเอาชีวิตรอด การตามหาความหวัง แต่สิ่งที่หนังพยายามจะสื่อสารมากกว่านั้น คือเรื่องของความเป็นมนุษย์ครับ การที่ต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสีย การสูญสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยมี ความหมายของการมีชีวิตอยู่เมื่อไม่มีใครเหลือให้เห็นอีกแล้ว มันชวนให้คิดตามนะครับ ว่าถ้าเราอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นจริงๆ เราจะทำยังไง เราจะยังมีความหวังอยู่ไหม หรือเราจะยอมแพ้ไปเลย
ทีนี้มาถึงจุดที่อาจจะเป็นข้อเสียสำหรับบางคนนะครับ อย่างที่บอกไปตอนต้น หนังเรื่องนี้ไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นหวือหวาอะไรครับ สิ่งมีชีวิตลึกลับที่ว่า มันก็ไม่ได้ออกมาโชว์ตัวชัดเจนอะไรมากมายนัก ส่วนใหญ่จะเป็นการบอกใบ้ การสร้างบรรยากาศให้เรารู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่รอบตัวมากกว่าครับ ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่ามันน่าเบื่อ หรือไม่ลุ้นพอ แต่สำหรับผม มันกลับทำให้หนังดูมีมิติมากขึ้นนะ มันเหมือนเป็นการสำรวจสภาพจิตใจของตัวละครมากกว่าจะเป็นหนังแอ็คชั่นเอาตัวรอดเต็มรูปแบบ
อีกอย่างที่ต้องเตือนคือ หนังอาจจะดำเนินเรื่องช้าหน่อยนะครับ กว่าจะเข้าเรื่อง กว่าจะเห็นอะไรชัดเจนมันต้องใช้เวลาหน่อย ใครที่ชอบหนังที่เดินเรื่องเร็วๆ อาจจะต้องอดทนหน่อยครับ แต่ถ้าผ่านช่วงแรกไปได้แล้ว ผมว่ามันจะค่อยๆ ดึงเราเข้าไปในโลกของหนังได้เรื่อยๆ ครับ
โดยรวมแล้ว "The Eternaut" (2020) เป็นหนังไซไฟอินดี้ที่ผมว่าน่าสนใจมากๆ ครับ มันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบไปทุกอย่าง ไม่ได้มีทุกอย่างที่หนังฟอร์มยักษ์มี แต่สิ่งที่มันทำได้ดี คือการสร้างบรรยากาศ การถ่ายทอดอารมณ์ และการกระตุ้นความคิดครับ ถ้าใครกำลังมองหาหนังไซไฟที่แตกต่างออกไป หนังที่ไม่ได้มีแค่เอฟเฟกต์ แต่มีเรื่องราว มีความหมายแฝง ผมแนะนำให้ลองหามาดูกันครับ อาจจะไม่ได้ทำให้คุณอึ้งไปกับฉาก แต่จะทำให้คุณอึ้งกับความรู้สึกที่หนังทิ้งไว้แน่นอนครับ
สำหรับผม ถือว่าเป็นหนังที่คุ้มค่าแก่การเสียเวลาดูครับ แม้จะไม่ได้ทำให้ผมร้องว้าวในทุกวินาที แต่ก็เป็นประสบการณ์การดูหนังที่น่าจดจำอีกเรื่องนึงครับ หวังว่ารีวิวของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ชาวพันทิปที่กำลังมองหาหนังดูนะครับ ถ้าใครดูแล้ว มาคุยกันได้นะครับ อยากรู้ความเห็นของคนอื่นๆ เหมือนกันครับ ขอบคุณครับที่อ่านจนจบ!