สวัสดีครับทุกคน ผมขอตั้งกระทู้นี้เพื่อแชร์ประสบการณ์และรีวิวการสอบใบประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม (กว.) สาขาวิศวกรรมเครื่องกลที่พึ่งสอบไปเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมานี้ครับ โดยผมเคยโพสต์ในกลุ่มสอบ กว. ใน Facebook ไปแล้วรอบหนึ่ง แต่ผมอยากมาโพสต์ในพันทิปอีกทางหนึ่งเพื่อให้รุ่นพี่หรือรุ่นน้องทุกคนที่จะสอบหาอ่านได้ง่าย ๆ ครับ
ต้องขออนุญาตเล่าก่อนว่า เนื่องจากสาขาของผมเป็นวิศวกรรมที่จัดอยู่ในหมวดวิศวกรรมควบคุม ประกอบกับผมและที่บ้านเห็นตรงกันว่าควรสอบใบประกอบเอาไว้ก่อน เผื่อต้องใช้ในอนาคต ผมจึงตัดสินใจสอบครับ
ผมเรียนจบปริญญาตรีเมื่อสักเดือนพฤษภาคม พักและจัดการเรื่องส่วนตัวอะไรนิดหน่อยอยู่สองสามเดือน ก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบนี้เลยครับ กว่าจะได้เริ่มทบทวนจริงจังก็ปาไปช่วงปลายเดือนกันยายนแล้ว ต้องบอกก่อนนะครับว่าการสอบ กว. ของเครื่องกลต้องสอบทั้งหมด 8 วิชาด้วยกัน คือ
วิชาพื้นฐาน: Computer Programming, Engineering Materials, Engineering Drawings และ Engineering Mechanics
วิชาเฉพาะบังคับ: Heat Transfer, Mechanics of Machinery และ Machine Design
วิชาเฉพาะเลือก: ผมเลือก Power Plant Engineering ไปครับ โดยสามารถเลือกได้อีกจากสามวิชาคือ Refrigeration and Air Conditioning, Internal Combustion Engines และ Automatic Control ครับ
โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมใช้การทวนผ่านระบบของ EnGenius ครับ เพราะเห็นว่าที่นี่มีโจทย์และเฉลยพร้อมแทบทุกวิชาทั้งพื้นฐานและวิชาเฉพาะของภาค โดยทำการซื้อเวลา ชีตสรุป และเฉลยละเอียดจากทางเว็บไว้ครับ ซึ่ง ณ ตอนที่ผมทวน ในระบบขาดแค่เฉลยละเอียดของวิชา Power Plant จึงต้องซื้อเพิ่มจากแหล่งอื่น ซึ่งผมเลือกทาง Coesolution ครับ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับทวนพาร์ตสอบภาคี ที่ EnGenius 1,647 บาท และที่ Coesolution อีก 450 บาท รวมเป็น 2,097 บาทครับ โดยของผมที่บ้านเป็นผู้สนับสนุนให้ ส่วนตัวข้อสอบ pdf สามารถหาได้ฟรีทั่วไปตามอินเทอร์เน็ตเลยครับ
ทำการทวนอยู่ประมาณสองเดือนเศษ ผมเริ่มรู้สึกว่าอยากที่จะสอบแล้ว จึงสมัครสมาชิกสภาวิศวกร และจองรอบสอบภาคีวิศวกรไปในวันที่ 3 ธันวาคม 2568 ทั้งเช้าและบ่ายครับ โดยเอกสารที่ใช้จะมีรูปถ่าย ไฟล์รูปลายเซ็น และไฟล์ Transcript ภาษาอังกฤษที่ระบุวันสำเร็จการศึกษา ในส่วนนี้จะต้องมีการเสียค่าสมัครสมาชิก และค่าสมัครสอบอีกอย่างละ 1,500 บาทครับ
ระบบการสอบของทางสภาวิศวกร ณ ตอนที่ผมสอบ (และผมเข้าใจว่าถึงปีหน้าอย่างน้อย ๆ ) ยังคงเป็นการสอบในรูปแบบออนไลน์อยู่ โดยสอบผ่านระบบของสภาวิศวกร และคุมสอบผ่าน Zoom ครับ
ก่อนวันสอบหนึ่งวัน ผู้ที่จะสอบทุกคนจะต้องอัปโหลดรูปถ่ายตนเองถือบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน ก่อนที่จะเข้าห้องสอบในวันสอบจริง เวลาประมาณ 8:15 ในรอบเช้า และ 13:00 ในรอบบ่ายครับ ตอนสอบต้องใช้บัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้งด้วยนะครับ
ข้อสอบของสภาจะมีทั้งหมดหมวดวิชาละ 100 ข้อ (พื้นฐาน และเฉพาะ) โดยแบ่งเป็นวิชาละ 25 ข้อครับ มีเวลาทำทั้งหมด 3 ชั่วโมง เกณฑ์การสอบผ่านอยู่ที่ร้อยละ 60 ของคะแนนทั้งหมดครับ ก่อนที่จะเข้าสอบภาคเช้าบอกเลยว่า ไม่มั่นใจเอามาก ๆ เลยครับ ถึงขั้นต้องพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ฮึบเข้าสอบไปได้ครับ และผลการสอบออกมาคือ......
ผ่าน... ถือว่าโล่งมาได้เปาะหนึ่งครับ
พอมาถึงภาคบ่าย เครียดกว่าเดิมอีกครับเพราะว่าผ่านเช้ามาแล้ว ใจก็อยากให้สอบให้ผ่านให้จบ ๆ ไปทีเดียวเลย กลัวจะทำไม่ได้ แต่ก็ฮึบเข้าไปสอบดูสักตั้งหนึ่ง อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด สุดท้ายแล้วนั้น....
ผ่านมาได้อีกรอบนึง โล่งไปแล้ว 50% ครับ (ขออภัยที่ภาพแตกนะครับ ตอนนั้นตื่นเต้นเกิน เลยลืมแคปมาแบบดี ๆ 555555)
มาถึงจุดนี้ผมขออนุญาตแชร์แนวข้อสอบที่ตัวผมเจอในแต่ละวิชานิดนึงครับ แต่ต้องขอแจ้งเล็กน้อยนะครับว่าโจทย์หรือแนวที่ให้มา อิงจากเฉพาะรอบที่ผมสอบเท่านั้น ทุกคนจะได้ข้อสอบไม่เหมือนกันนะครับ
**หมายเหตุ: กระทู้นี้มิได้มีเจตนาหรือเกิดจากการคัดลอกนำข้อสอบของทางสภามาเผยแพร่แต่อย่างใด เจตนาของผู้เขียนมีเพื่อแชร์เนื้อหาที่ออกสอบเท่านั้น ผู้เขียนจะพยายามเลี่ยงหรือปรับคำให้ไม่ตรงกับข้อสอบจริงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้**
หมวดวิชาพื้นฐาน
1. วิชา Computer Programming
โดยรวมสำหรับวิชาคอมโปร ข้อสอบใหม่หมดเลย แต่ขอบเขตเนื้อหาค่อนข้างคล้ายคลึงกับในข้อสอบเก่าครับ มีทั้งทฤษฎีพื้นฐาน และการถอดคำสั่ง ที่พอจำได้มีคร่าว ๆ คือ (การใช้คำศัพท์เทคนิคอาจไม่ถูกต้อง 100% นะครับ)
- Operator สำหรับการหาคำตอบต่าง ๆ เช่น คำนวณยกกำลัง หรือการหาจำนวนเฉพาะ
- Increment x++, ++x ซึ่งโจทย์จะให้ค่าตัวแปรมาเป็นค่าเริ่มต้น แล้วมีการป้อนคำสั่งคำนวณพวกนี้ไปสัก 4-5 บรรทัด แล้วให้หาว่าค่าของแต่ละบรรทัดเป็นอย่างไร หรือค่าสุดท้ายของตัวแปรเป็นอย่างไร สำหรับคนที่งงหรือจำสลับ ข้อนี้มีตัวอย่างการใช้มาให้ครับ ค่อนข้างใช้เวลานานครับ ถ้าไม่ทัน แนะนำให้ข้ามครับ
- Operator ปรกติ +, -, *, / ตัวแปร a, b, c มีค่าเริ่มต้นให้ และมีกระบวนการคำนวณ 5-6 บรรทัด แล้วหาค่าสุดท้ายของตัวแปร ข้อนี้ไม่ยากครับ
- If…else ออกแน่ ๆ ครับ ที่ผมเจอจะเป็นแนวหาค่าเกณฑ์ BMI จากข้อมูลเบื้องต้น การแสดงค่าเป็นข้อความแทนเลขแต่ละค่า ประมาณนี้ครับ ไม่ยากเท่าไรสำหรับข้อพวกนี้
- While…do หรือ for-loop ค่อนข้างหลายข้อครับ อันที่จริงตัวมันเฉย ๆ เนี่ย ไม่ยากเท่าไรเลย แต่มักจะชอบมาคู่กับข้อด้านล่าง ซึ่งจะรีวิวต่อไปครับ
- การจัด Array และ Matrix เนื้อหาส่วนนี้มีข้อสอบอยู่สองแบบคือ หาค่า a[x][y] แล้วมา operate กันเฉย ๆ อันนี้ง่ายครับ แต่จะมีอีกแบบคือ เอามันมายำรวมกับ for-loop สองสามชั้น แล้วจัดรูปตัวเลขใน array ใหม่ อันนี้ใช้เวลานานพอสมควรครับ ส่วนตัวผมข้ามครับ 55555
- ทฤษฎีทั่วไป พวกประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ หรือสิ่งใดมีหรือไม่มีส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ประมาณนี้ครับ
2. วิชา Engineering Materials
โดยรวมถือว่าขอบเขตเนื้อหาเหมือนกับข้อสอบเก่าเลยครับ มีเพิ่มมาเล็กน้อย เท่าที่พอจำได้คือ
- หาความเค้นทางวิศวกรรม ความเค้นจริง และนิยาม
- ให้กราฟ Stress-Strain มา แล้วให้หาสมบัติของวัสดุ หรือลักษณะการวิบัติของวัสดุ
- Phase Diagram นำมาคำนวณเพื่อหาอัตราส่วนร้อยละ หรือปริมาณของธาตุแต่ละตัวในโลหะผสม
- ให้ภาพของลักษณะเกรนหรือโครงสร้างของเหล็กกล้ามา พร้อมกับ Phase Diagram แล้วให้หาว่าอัตราส่วนของคาร์บอนที่ผสมอยู่ในเหล็กชิ้นนี้อยู่ในย่านใด
- การขึ้นรูปต่าง ๆ ที่ผมเจอคือ พอลิเมอร์ ผลิตภัณฑ์แบบไหน ต้องขึ้นรูปด้วยวิธีใด หรือจะเป็นการขึ้นรูปเซรามิกแบบไหนที่มีลักษณะเป็นพิเศษ เป็นต้นครับ
- การเติมสารใด ๆ เพื่อเสริมคุณภาพของวัสดุต่าง ๆ เช่น แก้ว หรือโลหะ
- ตำหนิ (defects) ที่เกิดขึ้นโดยกระบวนการขึ้นรูปต่าง ๆ เช่น ตำหนินี้ของชิ้นงานหลังหล่อเสร็จเกิดจากอะไร
- กล้องจุลทรรศน์แบบต่าง ๆ กับการใช้งานในแต่ละกรณี
- ที่สำคัญที่สุดครับ ที่ผมเจอมีข้อซ้ำถึง 2 ข้อด้วยกัน จึงต้องทวนไปให้ครอบคลุมมาก ๆ เพราะถ้าไม่ได้เลยคือคะแนนหายคูณสอง ถ้าได้คือคะแนนฟรีครับ
3. วิชา Engineering Drawings
ขอบเขตการออกข้อสอบที่ผมเจอสำหรับวิชานี้ บอกเลยครับว่าแทบจะเหมือนที่เคยทำข้อสอบเก่าเลย ที่ไม่เหมือนบางข้อก็เป็นสิ่งที่เคยเรียนแน่ ๆ ครับ เท่าที่พอจำได้นะครับ
- การเขียนแบบบอกขอบมุมต่าง ๆ ต้องกำหนดอย่างไร เช่นพวก Chamfer พวก Fillet เป็นต้นครับ
- หาพื้นที่ผิวของระนาบจากภาพ Isometric (มีอัตราส่วนมาให้)
- การเขียนลักษณะของระนาบในรูปสามมิติ เช่นขนาดพื้นที่ รูปทรงของวงกลมบนระนาบต่าง ๆ ว่าจะออกมาลักษณะแบบไหน
- การจับคู่แต่ละระนาบในมุมมองต่าง ๆ ของ Orthographic Drawing
- Tolerance ของมิติต่าง ๆ รวมถึงการหาค่าสูงสุด/ต่ำสุด ของแต่ละตัวแปร Dimension จาก Tolerance ที่ให้
- การจับคู่ภาพ Orthographic กับภาพสามมิติ มีสองรูปแบบครับ คือให้ Orthographic มาแล้วหารูปสามมิติ หรือถามย้อนกลับ
- ค่า Clearance ต่าง ๆ ว่าตามแบบนั้นจะเป็นแบบ Transition หรือ Interference fit
- ภาพตัด (Section) ต่าง ๆ ถามว่าการเขียนภาพตัดแบบไหนถูกหรือเหมาะสมครับ
4. วิชา Engineering Mechanics
วิชานี้แหละครับที่จะแตกต่างจากข้อสอบเดิมที่สุด ทั้งคำถามและขอบเขตการออกเลย โดยรวมแล้วถือว่าข้อสอบที่ออกมาสุ่มได้แต่ผมถนัดน้อยที่สุดเลยครับ 55555 แต่อันที่จริงผมว่าวิชานี้ควรใช้เป็นวิชาเก็บคะแนนได้เลยถ้าใครไหว เพราะตัวเนื้อหาจำน้อยมากครับ แค่เข้าใจและรู้วิธีการแก้ก็สามารถทำได้หลายข้อ (ถ้าดวงสุ่มข้อสอบดีนะครับ 5555) เนื้อหาคร่าว ๆ ก็จะมี
- การเขียนเวกเตอร์หน่วย อันนี้ออกชัวร์ ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นโดยตรง หรือใช้ในการหาแรงลัพธ์
- การเขียน Free Body Diagram ส่วนนี้ผมเจอเกินสามข้อแน่ ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นแบบมีแรงเสียดทาน หรือไม่มีแรงเสียดทาน
- การหาขนาดแรงลัพธ์ในระบบสองมิติ และสามมิติ มีทั้งแบบหาได้เลยตรง ๆ และต้องใช้การกำหนดสองตัวแปร สองสมการเพื่อแก้ครับ
- การหาแรงปฏิกิริยาที่จุดรองรับ ตัวนี้ก็มีเยอะครับ มีข้อที่เหมือนในตัวอย่างท้าย ๆ เช่นเดียวกัน
- การหาค่าเวกเตอร์แรงด้วย Sine/Cosine Law ก็ออกเหมือนกันครับ แนะนำว่าจำพื้นฐานตัวนี้ไปเลย
- การหาจุด Centroid โดยแบ่งรูปหน้าตัดเป็นหลาย ๆ ส่วนมีด้วยหนึ่งข้อครับ ที่ผมเจอ
- หา Two-force Member และ Zero-force Member
- หาแรงผลักน้อยสุดเพื่อต้านแรงเสียดทานให้วัตถุขยับ
- สุดท้ายครับ ตัวนี้เลยที่ออกมาเยอะกว่าในข้อสอบเก่าแน่ ๆ คือการหาแรงในชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของ Truss และ Frame ซึ่งเจอทั้งหมดมากกว่า 4 ข้อด้วยกัน และบังเอิญเป็นหัวข้อที่ผมทวนไปน้อยสุดด้วย เลยต้องเดาและข้ามไปหลายข้อครับ
สำหรับวิชาเฉพาะ และพาร์ตสอบอบรม จะมาต่อในคอมเมนต์นะครับ
แชร์ประสบการณ์ สอบ กว. วิศวกรรมเครื่องกล ธันวาคม 2568
ต้องขออนุญาตเล่าก่อนว่า เนื่องจากสาขาของผมเป็นวิศวกรรมที่จัดอยู่ในหมวดวิศวกรรมควบคุม ประกอบกับผมและที่บ้านเห็นตรงกันว่าควรสอบใบประกอบเอาไว้ก่อน เผื่อต้องใช้ในอนาคต ผมจึงตัดสินใจสอบครับ
ผมเรียนจบปริญญาตรีเมื่อสักเดือนพฤษภาคม พักและจัดการเรื่องส่วนตัวอะไรนิดหน่อยอยู่สองสามเดือน ก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการสอบนี้เลยครับ กว่าจะได้เริ่มทบทวนจริงจังก็ปาไปช่วงปลายเดือนกันยายนแล้ว ต้องบอกก่อนนะครับว่าการสอบ กว. ของเครื่องกลต้องสอบทั้งหมด 8 วิชาด้วยกัน คือ
โดยส่วนตัวผมแล้ว ผมใช้การทวนผ่านระบบของ EnGenius ครับ เพราะเห็นว่าที่นี่มีโจทย์และเฉลยพร้อมแทบทุกวิชาทั้งพื้นฐานและวิชาเฉพาะของภาค โดยทำการซื้อเวลา ชีตสรุป และเฉลยละเอียดจากทางเว็บไว้ครับ ซึ่ง ณ ตอนที่ผมทวน ในระบบขาดแค่เฉลยละเอียดของวิชา Power Plant จึงต้องซื้อเพิ่มจากแหล่งอื่น ซึ่งผมเลือกทาง Coesolution ครับ รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดสำหรับทวนพาร์ตสอบภาคี ที่ EnGenius 1,647 บาท และที่ Coesolution อีก 450 บาท รวมเป็น 2,097 บาทครับ โดยของผมที่บ้านเป็นผู้สนับสนุนให้ ส่วนตัวข้อสอบ pdf สามารถหาได้ฟรีทั่วไปตามอินเทอร์เน็ตเลยครับ
ทำการทวนอยู่ประมาณสองเดือนเศษ ผมเริ่มรู้สึกว่าอยากที่จะสอบแล้ว จึงสมัครสมาชิกสภาวิศวกร และจองรอบสอบภาคีวิศวกรไปในวันที่ 3 ธันวาคม 2568 ทั้งเช้าและบ่ายครับ โดยเอกสารที่ใช้จะมีรูปถ่าย ไฟล์รูปลายเซ็น และไฟล์ Transcript ภาษาอังกฤษที่ระบุวันสำเร็จการศึกษา ในส่วนนี้จะต้องมีการเสียค่าสมัครสมาชิก และค่าสมัครสอบอีกอย่างละ 1,500 บาทครับ
ระบบการสอบของทางสภาวิศวกร ณ ตอนที่ผมสอบ (และผมเข้าใจว่าถึงปีหน้าอย่างน้อย ๆ ) ยังคงเป็นการสอบในรูปแบบออนไลน์อยู่ โดยสอบผ่านระบบของสภาวิศวกร และคุมสอบผ่าน Zoom ครับ
ก่อนวันสอบหนึ่งวัน ผู้ที่จะสอบทุกคนจะต้องอัปโหลดรูปถ่ายตนเองถือบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน ก่อนที่จะเข้าห้องสอบในวันสอบจริง เวลาประมาณ 8:15 ในรอบเช้า และ 13:00 ในรอบบ่ายครับ ตอนสอบต้องใช้บัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตนอีกครั้งด้วยนะครับ
ข้อสอบของสภาจะมีทั้งหมดหมวดวิชาละ 100 ข้อ (พื้นฐาน และเฉพาะ) โดยแบ่งเป็นวิชาละ 25 ข้อครับ มีเวลาทำทั้งหมด 3 ชั่วโมง เกณฑ์การสอบผ่านอยู่ที่ร้อยละ 60 ของคะแนนทั้งหมดครับ ก่อนที่จะเข้าสอบภาคเช้าบอกเลยว่า ไม่มั่นใจเอามาก ๆ เลยครับ ถึงขั้นต้องพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์เลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็ฮึบเข้าสอบไปได้ครับ และผลการสอบออกมาคือ......
- Operator สำหรับการหาคำตอบต่าง ๆ เช่น คำนวณยกกำลัง หรือการหาจำนวนเฉพาะ
- Increment x++, ++x ซึ่งโจทย์จะให้ค่าตัวแปรมาเป็นค่าเริ่มต้น แล้วมีการป้อนคำสั่งคำนวณพวกนี้ไปสัก 4-5 บรรทัด แล้วให้หาว่าค่าของแต่ละบรรทัดเป็นอย่างไร หรือค่าสุดท้ายของตัวแปรเป็นอย่างไร สำหรับคนที่งงหรือจำสลับ ข้อนี้มีตัวอย่างการใช้มาให้ครับ ค่อนข้างใช้เวลานานครับ ถ้าไม่ทัน แนะนำให้ข้ามครับ
- Operator ปรกติ +, -, *, / ตัวแปร a, b, c มีค่าเริ่มต้นให้ และมีกระบวนการคำนวณ 5-6 บรรทัด แล้วหาค่าสุดท้ายของตัวแปร ข้อนี้ไม่ยากครับ
- If…else ออกแน่ ๆ ครับ ที่ผมเจอจะเป็นแนวหาค่าเกณฑ์ BMI จากข้อมูลเบื้องต้น การแสดงค่าเป็นข้อความแทนเลขแต่ละค่า ประมาณนี้ครับ ไม่ยากเท่าไรสำหรับข้อพวกนี้
- While…do หรือ for-loop ค่อนข้างหลายข้อครับ อันที่จริงตัวมันเฉย ๆ เนี่ย ไม่ยากเท่าไรเลย แต่มักจะชอบมาคู่กับข้อด้านล่าง ซึ่งจะรีวิวต่อไปครับ
- การจัด Array และ Matrix เนื้อหาส่วนนี้มีข้อสอบอยู่สองแบบคือ หาค่า a[x][y] แล้วมา operate กันเฉย ๆ อันนี้ง่ายครับ แต่จะมีอีกแบบคือ เอามันมายำรวมกับ for-loop สองสามชั้น แล้วจัดรูปตัวเลขใน array ใหม่ อันนี้ใช้เวลานานพอสมควรครับ ส่วนตัวผมข้ามครับ 55555
- ทฤษฎีทั่วไป พวกประสิทธิภาพของคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ หรือสิ่งใดมีหรือไม่มีส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์ ประมาณนี้ครับ
2. วิชา Engineering Materials
โดยรวมถือว่าขอบเขตเนื้อหาเหมือนกับข้อสอบเก่าเลยครับ มีเพิ่มมาเล็กน้อย เท่าที่พอจำได้คือ
- หาความเค้นทางวิศวกรรม ความเค้นจริง และนิยาม
- ให้กราฟ Stress-Strain มา แล้วให้หาสมบัติของวัสดุ หรือลักษณะการวิบัติของวัสดุ
- Phase Diagram นำมาคำนวณเพื่อหาอัตราส่วนร้อยละ หรือปริมาณของธาตุแต่ละตัวในโลหะผสม
- ให้ภาพของลักษณะเกรนหรือโครงสร้างของเหล็กกล้ามา พร้อมกับ Phase Diagram แล้วให้หาว่าอัตราส่วนของคาร์บอนที่ผสมอยู่ในเหล็กชิ้นนี้อยู่ในย่านใด
- การขึ้นรูปต่าง ๆ ที่ผมเจอคือ พอลิเมอร์ ผลิตภัณฑ์แบบไหน ต้องขึ้นรูปด้วยวิธีใด หรือจะเป็นการขึ้นรูปเซรามิกแบบไหนที่มีลักษณะเป็นพิเศษ เป็นต้นครับ
- การเติมสารใด ๆ เพื่อเสริมคุณภาพของวัสดุต่าง ๆ เช่น แก้ว หรือโลหะ
- ตำหนิ (defects) ที่เกิดขึ้นโดยกระบวนการขึ้นรูปต่าง ๆ เช่น ตำหนินี้ของชิ้นงานหลังหล่อเสร็จเกิดจากอะไร
- กล้องจุลทรรศน์แบบต่าง ๆ กับการใช้งานในแต่ละกรณี
- ที่สำคัญที่สุดครับ ที่ผมเจอมีข้อซ้ำถึง 2 ข้อด้วยกัน จึงต้องทวนไปให้ครอบคลุมมาก ๆ เพราะถ้าไม่ได้เลยคือคะแนนหายคูณสอง ถ้าได้คือคะแนนฟรีครับ
3. วิชา Engineering Drawings
ขอบเขตการออกข้อสอบที่ผมเจอสำหรับวิชานี้ บอกเลยครับว่าแทบจะเหมือนที่เคยทำข้อสอบเก่าเลย ที่ไม่เหมือนบางข้อก็เป็นสิ่งที่เคยเรียนแน่ ๆ ครับ เท่าที่พอจำได้นะครับ
- การเขียนแบบบอกขอบมุมต่าง ๆ ต้องกำหนดอย่างไร เช่นพวก Chamfer พวก Fillet เป็นต้นครับ
- หาพื้นที่ผิวของระนาบจากภาพ Isometric (มีอัตราส่วนมาให้)
- การเขียนลักษณะของระนาบในรูปสามมิติ เช่นขนาดพื้นที่ รูปทรงของวงกลมบนระนาบต่าง ๆ ว่าจะออกมาลักษณะแบบไหน
- การจับคู่แต่ละระนาบในมุมมองต่าง ๆ ของ Orthographic Drawing
- Tolerance ของมิติต่าง ๆ รวมถึงการหาค่าสูงสุด/ต่ำสุด ของแต่ละตัวแปร Dimension จาก Tolerance ที่ให้
- การจับคู่ภาพ Orthographic กับภาพสามมิติ มีสองรูปแบบครับ คือให้ Orthographic มาแล้วหารูปสามมิติ หรือถามย้อนกลับ
- ค่า Clearance ต่าง ๆ ว่าตามแบบนั้นจะเป็นแบบ Transition หรือ Interference fit
- ภาพตัด (Section) ต่าง ๆ ถามว่าการเขียนภาพตัดแบบไหนถูกหรือเหมาะสมครับ
4. วิชา Engineering Mechanics
วิชานี้แหละครับที่จะแตกต่างจากข้อสอบเดิมที่สุด ทั้งคำถามและขอบเขตการออกเลย โดยรวมแล้วถือว่าข้อสอบที่ออกมาสุ่มได้แต่ผมถนัดน้อยที่สุดเลยครับ 55555 แต่อันที่จริงผมว่าวิชานี้ควรใช้เป็นวิชาเก็บคะแนนได้เลยถ้าใครไหว เพราะตัวเนื้อหาจำน้อยมากครับ แค่เข้าใจและรู้วิธีการแก้ก็สามารถทำได้หลายข้อ (ถ้าดวงสุ่มข้อสอบดีนะครับ 5555) เนื้อหาคร่าว ๆ ก็จะมี
- การเขียนเวกเตอร์หน่วย อันนี้ออกชัวร์ ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นโดยตรง หรือใช้ในการหาแรงลัพธ์
- การเขียน Free Body Diagram ส่วนนี้ผมเจอเกินสามข้อแน่ ๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็นแบบมีแรงเสียดทาน หรือไม่มีแรงเสียดทาน
- การหาขนาดแรงลัพธ์ในระบบสองมิติ และสามมิติ มีทั้งแบบหาได้เลยตรง ๆ และต้องใช้การกำหนดสองตัวแปร สองสมการเพื่อแก้ครับ
- การหาแรงปฏิกิริยาที่จุดรองรับ ตัวนี้ก็มีเยอะครับ มีข้อที่เหมือนในตัวอย่างท้าย ๆ เช่นเดียวกัน
- การหาค่าเวกเตอร์แรงด้วย Sine/Cosine Law ก็ออกเหมือนกันครับ แนะนำว่าจำพื้นฐานตัวนี้ไปเลย
- การหาจุด Centroid โดยแบ่งรูปหน้าตัดเป็นหลาย ๆ ส่วนมีด้วยหนึ่งข้อครับ ที่ผมเจอ
- หา Two-force Member และ Zero-force Member
- หาแรงผลักน้อยสุดเพื่อต้านแรงเสียดทานให้วัตถุขยับ
- สุดท้ายครับ ตัวนี้เลยที่ออกมาเยอะกว่าในข้อสอบเก่าแน่ ๆ คือการหาแรงในชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของ Truss และ Frame ซึ่งเจอทั้งหมดมากกว่า 4 ข้อด้วยกัน และบังเอิญเป็นหัวข้อที่ผมทวนไปน้อยสุดด้วย เลยต้องเดาและข้ามไปหลายข้อครับ
สำหรับวิชาเฉพาะ และพาร์ตสอบอบรม จะมาต่อในคอมเมนต์นะครับ