"ใช้สติกำหนดลมหายใจอย่างเดียว
แม้จิตใจจะคิดไปเรื่องอื่นก็พยายามดึงกลับมา
ทิ้งเรื่องอื่นๆ ทั้งหมด โดยไม่พยายามคิดถึงมัน
รู้ให้ทันกับความคิด นั้นๆ...
เมื่อทำเข้าบ่อยๆ จิต จะสงบลงเรื่อยๆ
เมื่อจิตสงบตั้งมั่นแล้ว ถอยจิตนั้นมาพิจารณาร่างกาย
ร่างกาย คือขันธ์ ๕ ได้แก่รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ให้เห็นเป็นของไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ หาตัวตนไม่ได้ มีแต่ธรรมชาติ ไหลไปตามเหตุ ตามปัจจัยเท่านั้น สิ่งทั้งปวงตกอยู่ในลักษณะที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั้งนั้น
ความยึดมั่นต่างๆ จะน้อยลงๆ
เพราะเรารู้เท่าทันมัน เรียกว่าเกิดปัญญาขึ้น"
โอวาทธรรมคำสอน
พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕)
🙇🏻สิริธมฺโม📖🖋️
อยู่กับลมหายใจพอแล้ว
แม้จิตใจจะคิดไปเรื่องอื่นก็พยายามดึงกลับมา
ทิ้งเรื่องอื่นๆ ทั้งหมด โดยไม่พยายามคิดถึงมัน
รู้ให้ทันกับความคิด นั้นๆ...
เมื่อทำเข้าบ่อยๆ จิต จะสงบลงเรื่อยๆ
เมื่อจิตสงบตั้งมั่นแล้ว ถอยจิตนั้นมาพิจารณาร่างกาย
ร่างกาย คือขันธ์ ๕ ได้แก่รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ให้เห็นเป็นของไม่เที่ยง
เป็นทุกข์ หาตัวตนไม่ได้ มีแต่ธรรมชาติ ไหลไปตามเหตุ ตามปัจจัยเท่านั้น สิ่งทั้งปวงตกอยู่ในลักษณะที่เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทั้งนั้น
ความยึดมั่นต่างๆ จะน้อยลงๆ
เพราะเรารู้เท่าทันมัน เรียกว่าเกิดปัญญาขึ้น"
โอวาทธรรมคำสอน
พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภทฺโท)
วัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
(พ.ศ.๒๔๖๑-๒๕๓๕)
🙇🏻สิริธมฺโม📖🖋️