ดราม่าเด็กถูกพ่อแม่บังคับซ้อมปั่นจักรยาน สะท้อนความรุนแรงในครอบครัวและการเปรียบเทียบกับนักกีฬาที่มีชีวิตคล้ายกัน

จากกรณีดราม่าที่นักกีฬาทีมชาติบังคับลูกซ้อมจักรยานจนเด็กร้องไห้ และนักกีฬาทีมชาติผู้เป็นพ่อได้ขู่ลูกว่าหากไม่ทำตามที่เขาบอกจะลงโทษด้วยการนำประตูหลังรถยนต์หนีบขา ซึ่งวีดีโอนี้ได้ถูกเผยแพร่ออกไปในแพลตฟอร์ม x และมีชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของคุณพ่อคนนี้เป็นอย่างมาก ว่าการเลี้ยงลูกของพ่อคนนี้บังคับลูกมากเกินกว่าที่เด็กวัยนี้จะรับได้ ​โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ที่เป็นตากล้องคอยอัดคลิป ได้ comment ตอบกลับชาวเน็ตเชิงประมาณว่าเด็ก 2 ขวบเลือกอะไรไม่ได้อยู่แล้วเพราะพ่อแม่เป็นคนเลือกให้ ซึ่งชาวเน็ตได้วิเคราะห์พฤติกรรมของคุณแม่และคุณพ่อว่า ชอบบังคับลูกเหมือนกัน​ ​แต่แล้วในบางแพลตฟอร์ม มีชาวเน็ตส่วนหนึ่งได้เปรียบเทียบชีวิตของนักกีฬาระดับโลกที่มีชีวิตคล้ายๆกันโดยมีเจตนาที่จะทำให้เด็กหวาดกลัวและชินชากับการแพ้ไม่เป็น รวมถึงได้อ้างว่าถ้าหากไม่เลี้ยงดูแบบบังคับเด็กอาจจะไม่มีความอดทนและไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นอะไรที่น่ากลัวมาก ​ล่าสุดเมื่อวีดีโอถูกเผยแพร่ออกไปทางนักกีฬาได้ปิดโปรไฟล์ tiktok ของเจ้าตัวเป็นส่วนตัว เราก็อยากจะบอกว่าถ้ามีหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือเด็กคงจะดี หรือถ้าเป็นข่าวกันเยอะๆ อาจจะออกมาชี้แจงเหมือนคนดังหลายคนที่มีดราม่าแล้วกลายเป็นข่าว ทุกคนคิดยังไงกับพ่อแม่ประเภทนี้และคนที่ออกมาสนับสนุนการกดดันเด็กอายุ 2 ขวบ มาเล่าสู่กันฟังค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้