”ช็อกสุขุมวิท! กุ๊ยนอร์เวย์ป่วนกลางกรุง — คำถามใหญ่: ไทยเปิดประเทศง่ายไปหรือไม่?“ ⁉️

🚨🔥 "ช็อกสุขุมวิท! กุ๊ยนอร์เวย์ป่วนกลางกรุง — คำถามใหญ่: ไทยเปิดประเทศง่ายไปหรือไม่?" กับวีซ่าฟรี 60 วัน เทียบกับออสเตรเลียที่เข้มจนโหดแม้หลักฐานในการขอวีซ่าครบถ้วนแต่ก็ผ่านยากเหลือเกิน

กรุงเทพฯ กลายเป็นฉากแอ็กชันไม่ตั้งใจอีกครั้ง เมื่อชายชาวนอร์เวย์วัย 33 ปีถูกตำรวจทองหล่อรวบตัวกลางสุขุมวิท หลังไล่ก่อเหตุโกลาหลตั้งแต่จี้ตุ๊กตุ๊กไปจนถึงผลักหญิงไทยล้มทั้งรถหวังชิงจักรยานสีแดง!

เหตุการณ์นี้กลายเป็น “ไฟลุก” บนโซเชียล เพราะมันสะท้อนปัญหาที่ใหญ่กว่า… ไทยกำลังเปิดประเทศกว้างแบบไร้ตัวกรองในยุคฟรีวีซ่า 60 วัน

---

🔥 เหตุการณ์ระทึก "จากซอย 25 ถึงซอย 55 — เส้นทางป่วนของฝรั่งคลั่ง"

เริ่มต้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ชายรายนี้กระโจนขึ้นตุ๊กตุ๊กแถวสุขุมวิท 25 พยายามยึดพวงมาลัย แต่โชเฟอร์ไทยไหวพริบดี หักเกมด้วยการชักกุญแจออกเหมือนฉากหนัง ทำให้การปล้นล่มทันที!

แต่เรื่องไม่จบ… เขากลับเดินลุยต่อไปถึงซอย 43 ผลักหญิงที่กำลังปั่นจักรยานจนล้มคว่ำ ก่อนชิงจักรยานสีแดงแล้วหนีต่อเหมือนกำลังเล่นเกม GTA เวอร์ชันกรุงเทพฯ

ตำรวจทองหล่อระดมกำลังตามสัญญาณและข้อมูลพยาน ไล่ลากจนสกัดจับได้หน้าโรงแรม Nikko บนสุขุมวิท 55 พร้อมของกลางครบถ้วน

---

🇹🇭⚡ ไทยเปิดประเทศง่ายเกินไป? ประเด็นใหญ่ที่คนเริ่มพูดดังขึ้น

คดีนี้กลายเป็น “ตัวอย่างสด” ของคำถามใหญ่ที่ประชาชนตั้งมานาน — นโยบายเปิดฟรีวีซ่า 60 วันกำลังนำปัญหามากกว่าความคึกคักหรือไม่?

ไทยตอนนี้เข้าเมืองง่ายระดับ

> “ถ้าซื้อตั๋วได้ ก็เข้ามาได้แทบทุกคน”

ไม่มี (หรือมีก็ไม่ดีเพียงพอเพราะมีฝรั่งหรือคนต่างชาติกุ้ยๆแบบนี้เข้ามาสร้างปัญหาในเมืองไทยบ่อยมากๆ)....ทั้งเรื่อง...

การตรวจประวัติอาชญากรรมล่วงหน้า

การตรวจงบการเงิน

ระบบคัดกรองก่อนเครื่องขึ้นแบบประเทศพัฒนาแล้ว

ทำให้เกิดกระแสกังวลว่า ไทยกำลังดึงทั้งนักท่องเที่ยวดี และ นักท่องเที่ยวคุณภาพต่ำเข้ามาปะปนกันมากขึ้นเรื่อยๆ และที่สุดจะทำให้นักท่องเที่ยวคุณภาพดีหลีกหนีประเทศไทยเพราะไม่อยากไปเจอสภาพแบบนี้

---

🇦🇺💥 เทียบกับออสเตรเลีย — เข้มจนคนยังบอกว่า "โหด" แม้หลักฐานในการขอวีซ่าจะครบถ้วน หรือแม้แต่มีประวัติที่ดีเคยไปเที่ยวมาแล้วทั่วโลก แต่เมื่อมาขอวีซ่าเข้าออสเตรเลียก็ยังยากเย็นแสนเข็ญและถูกปฏิเสธเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในช่วงนี้ โดยเฉพาะวีซ่าท่องเที่ยวและวีซ่านักเรียน

และแม้แต่การต่อวีซ่านักเรียนในประเทศออสเตรเลียเองก็มีข่าวโดนปฏิเสธมาเป็นจำนวนมากในช่วงนี้เช่นกัน

ในขณะที่ไทยเปิดกว้างสุดๆ ออสเตรเลียกลับอยู่สุดขั้วตรงกันข้ามแบบชัดมาก

🇦🇺 ออสเตรเลียตรวจเข้าประเทศแบบ “ยิบถึงรากขน”

ตรวจประวัติอาชญากรรมทุกคน

cross-check กับฐานข้อมูลสากล

ประเมินพฤติกรรมตั้งแต่เดินเข้าช่อง ตม.

คนที่ดูเสี่ยงจะโดนสอบทันที

แค่หน้าเครียดผิดจังหวะ คุณโดนเรียกห้องด้านหลังได้เลย

แม้แต่ข่าวชาวจีน 6 คนที่เพิ่งโผล่มาในชุมชนห่างไกล WA เมื่อไม่กี่วันก่อนยังถูก Border Force ล็อกตัวทันที พร้อมทีมกู้ภัย–ทหารลงพื้นที่ภายในไม่กี่ชั่วโมง

นี่คือ "มาตรการสูงสุด" ที่ออสซี่ใช้ปกป้องประเทศ

ตรงข้ามกับไทยที่ตอนนี้กลายเป็น “หลุมเปิด” แบบไม่ตั้งใจ

---

⚠️ ปัญหาเริ่มเห็นชัด: นักท่องเที่ยวคุณภาพต่ำไหลเข้ามาง่ายเกินไป

ชกต่อย

ชิงทรัพย์

ทำร้ายร่างกาย

ทำงานผิดกฎหมาย

แต่งตัวแปลก มึนเมา ก่อกวน

หลบหนีคดีจากประเทศตัวเอง

คดีฝรั่งป่วนสุขุมวิทเป็นเพียง หนึ่งในหลายเหตุการณ์ล่าสุด

คนเริ่มตั้งคำถามว่า…

> ไทยกำลังจ่ายราคากับ “การเปิดประเทศแบบไม่กรอง” หรือไม่?

---

🛡️ ทางแก้ที่ไทยสมควรเริ่มทำทันที (ตามโมเดลออสเตรเลีย)

1️⃣ Pre-screening ก่อนขึ้นเครื่อง

ใครเสี่ยงไม่ให้ขึ้นตั้งแต่ต้นทาง

2️⃣ ใช้ blacklist ร่วมกับประเทศพันธมิตร

เหมือนที่ออสเตรเลียทำกับสหรัฐ–สหราชอาณาจักร

3️⃣ ตรวจเข้มเป็นพิเศษในกลุ่มวีซ่าฟรี

ไม่ใช่ปล่อยผ่านทุกคน

4️⃣ ลดฟรีวีซ่าจาก 60 วันเป็น 30 วันสำหรับบางประเทศ

5️⃣ เพิ่มกำลัง Tourist police ใน hotspot ของฝรั่งรงมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นๆที่ สุขุมวิท, พัทยา, ภูเก็ต, เชียงใหม่

---

⭐ บทสรุปแบบไม่อ้อมค้อม

คดีนี้ไม่ใช่ “แค่ฝรั่งเมาคลั่ง” แต่มันคือสัญญาณเตือนว่าระบบควบคุมคนเข้าเมืองของไทยกำลังบางเกินไปสำหรับประเทศที่ต้อนรับคน 30–40 ล้านคนต่อปี

ถ้าไทยอยากได้
✔ นักท่องเที่ยวดี
❌ ไม่อยากได้คนสร้างปัญหา

ต้องรีบเข้มให้เร็ว… ก่อนจะมีเหตุการณ์ “สุขุมวิทคลั่ง 2” ตามมาอีก!

เครดิตภาพข่าวจากเดลินิวส์, PPTV และเพจ I Love Thailand (ภาพต้นฉบับเบลอหน้ามาแล้ว)
CR https://www.facebook.com/share/p/1FhSDofPPf/?mibextid=wwXIfr


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่