เอาเข้าจริงๆ คำว่า"บางกอก"... เค้าหมายถึง"ฝั่งธนบุรี"ตะหาก
บางกอก... ฝรั่งมังค่ากุลาหน้าขาวผู้โล้สำเภามาล่าเมืองขึ้นต่างเรียกเมืองนี้ว่าBANGKOKออกเสียงเป็น"แบงค๊อก" มีหลายท่านเสนอความคิดเห็นว่า บางกอกคือผืนที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพปัจจุบัน อันกินพื้นที่เขตบางกอกน้อยและบางกอกใหญ่นั้น ชื่อของภูมิสถานล้วนมีที่มาจากคำว่า"บางมะกอก" หมายถึง พื้นที่ราบลุ่มอันมีลำน้ำสาขาหล่อเลี้ยงอุดมไปด้วยต้นมะกอก" แปลได้ยาวดีจัง...หลักฐานยืนยันก็ดูเอาสิ วัดอรุณราชวรารามที่ทัวร์จีนทัวร์ฝรั่งไปยื่นหน้าสลอนถ่ายรูปคัตเอ้าท์ไม้อัดนางละครชาตรีนั่นแหละ แต่เดิมวัดนี้ก็ชื่อ"วัดมะกอกนอก... ส่วนถัดลึกเข้าไปแถวในสวนก็มีวัดนวลนรดิศ เค้าก็เรียกกันว่า"วัดมะกอกใน" นอก-ใน เค้าใช้ทำเลที่ตั้งจากแม่น้ำเป็นตัวกำหนด
บางมะกอก ไม่น่าจะเป็นชื่อแรกสุดของบางกอก แต่น่าจะเป็นชื้อที่เพี้ยนมาจากเหตุการณ์ๆนึงในหน้าประวัติศาสตร์ไทยยุคกรุงศรีอยุธยานั่นคือการขุดคลองลัดสายนึงในสมัยพระไชยราชานั่นเอง
นับแต่โปรตุเกส เสนอหน้าเข้ามาขายปืนไฟและยุทธบริการให้กับราชสำนักในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่2 การค้าขายของสยามก็ไม่ได้ผูกพันอยู่กับอาแป๊ะจากซัวเถาอีกต่อไป มิสเตอร์โน่นนี่นั่นต่างทยอยเข้ามานำสินค้าชั้นดีจากตะวันตกเข้าสู่ราชสำนัก(เชื่อสิต้องมีย้อมแมวมาแหกตาคนเอเซียบ้างหละ) เรือสำเภาจีนที่ชินตาคนอยุธยาก็ปรากฎมีสำเภาหน้าตาแปลกๆเข้าเทียบท่าป้อมเพชรมากขึ้นทุกทีๆ การค้าขายคึกครื้นประชาชนคึกคักไม่ต่างจากพ.ศ.นี้เลยจริงๆพับผ่า แต่เอาน่ะเศรษฐกิจกำลังไปได้สวย ว่าแต่ปัจจัยนึงที่น่าจะช่วยให้การค้าขายสะดวกคล่องตัวมากกว่านี้
เออ... ว่ะ แม่น้ำบ้านเรายิ่งใกล้ทะเล ยิ่งไหลโค้งตามกฏธรรมชาติ ของเหลวไหลลงพื้นที่ที่ต่ำกว่า แต่ที่ราบลุ่มภาคกลางระดับความสูงต่ำมันใกล้เคียงกันมาก สายน้ำจึงพยายามหาที่ๆต่ำกว่าเพื่อแวกพื้นดินทะลุลงทะเล ไปตรงมันสูงกูก็อ้อมมันซะเลย อ้อมไปอ้อมมาน่าปวดกบาล ใครนึกไม่ออกดูภาพประกอบหรือดูโค้งบางกระเจ้านั่นแหละ ก็ปรากฏว่าพระไชยราชาท่านคงเหล็งเห็นว่าแม่น้ำเจ้าพระยาจุดนึงมันโค้งวกอ้อมไปตะวันตกจนน่าหยิก ถึงขนาดมีเรื่องเล่าตลกร้ายเรื่องนึงว่า
เรือสินค้าล่องมาจากอยุธยา พอถึงโค้งน้ำที่ว่านี้ลูกเรือบางส่วนกระโดดลงแล้วเดินไปหาซื้อเสบียงในชุมชนย่านนั้นแล้วเดินตัดสวนมารอโค้งน้ำฝั่งตรงข้ามเสียนาน เรือก็ยังไม่โผล่มา
ตลกร้ายมั้ย...แต่พระไชยราชาคงไม่ตลกด้วย ท่านเลยโปรดให้ขุดคลองลัดตัดเชื่อมสองโค้งน้ำจากโค้งน้ำหน้าสถานีรถไฟบางกอกน้อยทะลุโค้งน้ำตรงพระราชวังเดิมเพื่อลดระยะเวลาการเดินเรือ ด้วยเมกกะโปรเจคนี้ทำให้พื้นที่ส่วนในที่ถูกโค้งแม่น้ำอ้อมและคลองลัดใหม่นี้โอบไว้จึงมีลักษณะเป็นเกาะ...จึงมีมูลเหตุให้เกิดการเรียกพื้นที่โซนนี้ว่า"บางเกาะ"ในสมัยต่อมา
หลังจากนั้นคลองสายนี้ก็ทำหน้าที่เป็นคลองลัดมาเรื่อยจนกระทั่งวันเวลาทำหน้าที่เปลี่ยนแปลงโลก กระแสน้ำไหลตรงจากเหนือล่องลงใต้ก็กัดเซาะตลิ่งโค่นพังด้วยแรงน้ำ คลองลัดน้อยๆก็ขยายออกกว้างขึ้นๆ ขณะที่แม่น้ำอ้อมหรือแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่าก็ตื้นเขินเข้าไปทุกทีๆจนมีสภาพเป็นคลองบางกอกน้อยและคลองบางกอกใหญ่ในทุกวันนี้
จึงเชื่อว่าคำว่าบางกอกอันหมายถึงพื้นที่ฝั่งตะวันตกของกรุงเทพนั้น น่าจะมากจากการเพี้ยนเสียงจากคำว่า"บางเกาะ" มากกว่าการกร่อนเสียงจากคำว่า"บางมะกอก" มากกว่าเพราะเชื่อสิว่าพื้นที่แถบนี้มะกอกไม่ได้เป็นสิ่งเชิดหน้าชูตาจนกระทั่งสมควรมาอ้างเอ่ยเป็นชื่อบ้านนามเมืองได้ขนาดนั้น ลองไปหาจดหมายเหตุลาลูร์แบร์ดูนะ อีตานั้นชื่นชมทุเรียนบางกอกจนออกนอกหน้าจนพาลคิดว่า ถ้าออกญาวิชาเยนทร์ยึดราชบัลลังค์อยุธยาได้อย่างที่พระเพทราชากลัว แล้วแกทะลึ่งแต่งตั้งให้ฝรั่งมังค่าอย่างลาลูร์แบร์เป็นเจ้าเมืองบางกอก ลาลูร์แบร์อาจจะเปลี่ยนชื่อเมืองเป็น.."บางดูเลี่ยน" ก็ได้ใครจะรู้
โพสต์ของ เกร็ดประวัติศาสตร์ v 2
รู้ไว้ใช่ว่า ไม่ต้องแบกไม่ต้องหาม เค้าว่ามาว่า... เอาเข้าจริงๆ คำว่า"บางกอก"... เค้าหมายถึง"ฝั่งธนบุรี"
โพสต์ของ เกร็ดประวัติศาสตร์ v 2