ขออนุญาตเล่ายาวนิดนึง:
- เราอยู่เดียวตั้งแต่สมัยเรียนจบเพราะที่บ้านเลิกกันและเรื่องค่อนข้างแรง เราโดนผู้ใหญ่ (ผู้ให้กำเนิด, ขออนุญาติไม่ใช้คำว่าพ่อ/แม่เพื่อความเป็นส่วนตัว) ไล่ออกจากบ้านเพราะผู้ใหญ่ฝั่งนึงเห็นว่าเราไม่เข้าข้างเค้า ไม่ช่วยเค้ากดดันผู้ใหญ่อีกฝั่งแบบรุนแรง เราหนีปัญหาเราไม่กดดันฝั่งไหนเลย (ตอนนั้นยังเรียนอยู่)
- เราลาออกจากงานด้วนเหตุผลบางอย่าง กลับมาอยู่บ้านกับผู้ใหญ่ที่มีแนวโน้มเป็น NPD (Narcissistic Personality Disorder โรคหลงตัวเอง)
- เราไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าเค้าเป็น NPD จนรอบนี้หลังจากย้ายกลับมาอยู่บ้าน คนในครอบครัวพึ่งมาบอกเราว่าอาการมันคล้าย NPD ซึ่งเราเช็คแล้วอาการหลักๆมันตรงเยอะมาก
- ย้ายกลับมาครั้งนี้ตั้งใจว่าจะดูแลผู้ใหญ่ที่เคยไล่เราออกจากบ้านคนนี้เนื่องจากตอนนี้เค้าเริ่มมีปัญหาทางกายภาพ และมีแนวโน้มจะแย่ลงจนถึงขั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แบบ 100% เราจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้ในการตั้งตัว และกลับมาดูแลตอบแทนคนที่เคยดูแลเราด้วย
- แต่กลับมาบ้านรอบนี้เราไม่เหมือนเมื่อก่อนเพราะเมื่อก่อนเราอยู่ใต้อำนาจ ยอมทุกอย่าง ผิดทุกอย่าง เชื่อฟังแบบเด็กน้อย แต่รอบนี้กลับมาเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราจึงไม่ยอมทุกเรื่องเหมือนเมื่อก่อน
- เรายอมรับว่าเรามีความเครียดกดดันตัวเองมากอยู่แล้วทุกวันนี้เรื่องการเงิน (รายรับยังน้อยกว่ารายจ่ายระดับนึง) แต่ผู้ใหญ่คนนี้ก็ไม่เคยให้เราต้องเดือดร้อนเรื่องเงินเลย ซึ่งเราก็ไม่เคยหวังมรดกเค้าเหมือนกัน เพราะเราอยากยืนให้ได้ด้วยตัวเองเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เราล้ม เราต้องการที่พักชั่วคราวเพื่อให้สามารถยืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง
- เราทำงานบ้านหลายอย่าง+งานครัววันละอย่างน้อย 1.5-2.5ชม. และเราก็ทำงานที่บ้านไปด้วย เวลาเหลือเท่าไหร่เราใส่กับงานนี้หมด
ประเด็นสำคัญ
- ผู้ใหญ่คนนี้ไม่เคยคิดว่างานบ้านที่เราทำทุกอย่างมันใช้เวลามาก เค้าคิดว่ามันคืองานกระจอก ใช้เวลาแปบเดียว มันทำให้เราอึดอัดในใจมากๆ เพราะเค้าแทบไม่เคยรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมันมีค่าเท่าไหร่เลย และเราไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เรามีสิทธิ์ก้มหน้าทำไปเท่านั้น ห้ามแสดงอาการหงุด ห้ามกระแทกของ ห้ามบ่นคนเดียว (เพราะถ้าบ่นดังหน่อยผู้ใหญ่คนนี้จะได้ยิน)
- ทุกวันนี้เราแทบไม่อยากเข้าครัวหรือทำงานบ้านแล้ว เรารู้สึกหนักใจมากๆ เพราะสิ่งที่เราทำเค้าไม่เคยเห็นคุณค่าเลยทั้งๆที่เราเอาเวลาที่เราจะต้องใช้ถีบตัวเองเพื่อให้รอดมาดูแลบ้านและผู้ใหญ่ด้วย แต่มันเลอะเทอะเกือบทุกวัน แล้วแต่วันว่ามากหรือน้อย เนื่องจากปัญหาทางกายภาพ และนิสัยส่วนตัวของผู้ใหญ่คนนี้ ซึ่งเคยพูดว่าให้ช่วยระวังหรือปรับโน้นนี้หน่อย แต่เราจะโดนด่ากลับซะส่วนมาก
- เราเป็น OCD (ย้ำคิดย้ำทำ) ในเรื่องความสะอาด หรือสิ่งของที่มันดูไม่เข้าที่เข้าทาง ถึงแม้ส่วนใหญ่จะไม่มีผลกับการใช้งาน แต่เราต้องจัด และทำความสะอาดตลอดเพราะเรารู้สึกมันรกสายตาไปหมด ยิ่งเจอนิสัยส่วนตัวของผู้ใหญ่คนนี้ที่ค่อนข้างไม่รักสะอาดเลย และใช้ของทิ้งๆขว้างๆไม่เก็บให้เป็นระเบียบ มันทำให้เราหงุดหงิดพอสมควรเลย เพราะเราต้องมานั่งเสียเวลาจัดของพวกนี้ และเราไม่สามารถบอกเค้าได้ด้วยเพราะเค้าจะด่ากลับ
ทุกวันนี้เราทำแบบแค่เท่าที่ทำได้ด้วยเพราะยอมรับว่าถ้ามานั่งทำทุกอย่างวันนึงเราแทบไม่ต้องทำอะไรแล้ว
--- เค้าไม่ให้เราจ้างแม่บ้านมาทำให้เค้าด้วย เหตุผลคือเค้าสามารถทำเองได้ (เหมือน ego อยากเอาชนะว่า gu ไม่ใช่ภาระ meung)
- ถ้าเราแสดงอาการอะไรที่ไม่ถูกใจเค้าจะเก็บ เค้าจะไม่เคลียกับเราเดี๋ยวนั้น เพราะถ้าเคลียเดี๋ยวนั้นเลย มันจะไม่เจ็บเท่าไหร่ เค้าจะรอให้เราทำอะไรไม่ถูกใจอีกอย่างน้อย 1เรื่อง แล้วจะขุดเรื่องเก่าที่ยังไม่ได้ชำระแค้น หรือเรื่องที่เคยเคลียกันจบไปแล้ว ก็จะขุดเอาขึ้นมาด่าอีก เพื่อให้มันเจ็บมากๆทีเดียว
และเวลาผู้ใหญ่คนนี้ด่าจะด่าแรงมาก
- เวลาเราทำอะไรผิด เค้าจะด่าเราเสมอว่าเรามันลูกชั่วมีเชื้อเลวจากผู้ใหญ่อีกฝั่ง อกตัญญู เนรคุณ เดรัจฉาน
- เราเรียนรู้แล้วว่าเราไม่ควรแสดงความคิดเห็นของเรา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เพราะผู้ใหญ่คนนี้จะเก็บข้อมูล และเอามาใช้เป็นเครื่องมือด่าทำร้ายจิตใจเราภายหลัง
- ตอนทะเลาะเราต้องอัดเสียงไว้เสมอเพื่อเป็นหลักฐานป้องกันตัวเอง ว่าเราไม่ได้พูดในสิ่งที่เค้าบอกว่าเราพูด
--- การที่ตะคอกด่าเราแรงๆ ในหลายๆครั้ง มันทำให้เราคิดว่าเค้าทำแบบนี้เพื่อกดดันให้เราออกจากบ้านหรือเปล่า เค้าหลอกใช้จังหวะที่เราต้องการย้ายเข้ามาอยู่แล้วต้องซ่อมบ้าน ให้เรามาช่วยดูแลเรื่องซ่อมบ้าน (คิดว่าน่าจะเพราะเค้าดูเองไม่ได้แล้ว และไว้ใจใครไม่ได้ด้วย)
ดูแลบ้านให้ใหม่ แล้วพอเราทำอะไรไม่ถูกใจหรือแสดงอาการหงุดหงิดก็ตะคอกเรา ด่าเราแรงๆ ให้เราทนไม่ไหวออกไปเอง จะได้ให้แฟนใหม่มาอยู่แทนเราหรือเปล่า
(เรามีข้อมูลว่าเค้ามีแฟนใหม่ แต่เราไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเค้า เราแค่รับทราบ)
- การกดดันเราก็มีหลายแบบ เทอาหารที่เราเตรียมให้ทิ้ง (แต่เคยทำได้ครั้งเดียวเพราะไม่ยอม เราระเบิดเลย เพราะเราไม่เด็กน้อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว) ถ้าหนักๆเข้าก็จะไม่กินข้าวที่เราเตรียม หมกตัวอยู่แต่ในห้อง สั่งของมากิน ทำให้ห้องตัวเองรกๆสกปรกๆ ทำให้เรารับรู้ว่า gu ไม่ต้องพึ่ง meung
- เราคิดจนตกผลึกและมั่นใจแล้วว่าเราไม่ได้แย่นะ เรามั่นใจว่าเราเป็นลูกที่ทำหน้าที่ได้ดีระดับนึงเลย บ้านที่เคยสกปรกมากๆ เรามาอยู่ก็สะอาดเลย แถมผู้ใหญ่กินดี สารอาหารครบ อะไรที่ขาดเพราะโรคทางกายภาพเราก็หาข้อมูลและหามาเสริมให้
- จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย ท้อแท้กับโรคทางกายภาพ เราก็จัดที่ให้ออกกำลังกาย ชวนให้ออกมาทำอะไรนอกห้องบ้าง จนสำเร็จ เค้ากลับมาออกกำลังกายได้สม่ำเสมอ
- เรารู้สึกเหมือนโลกนี้ไม่มีที่อยู่ให้เราอีกต่อไปแล้ว เราโดนจนใจเราชาไปหมดแล้ว เราไม่รู้สึกอะไรแล้วตอนที่เค้าด่าถึงผู้ใหญ่อีกฝั่งตอนเราทำอะไรไม่ถูกใจเค้า และคำว่าเลว ชั่ว อกตัญญู ที่เค้าด่า เราก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วเพราะใจเรามันตายด้านหมดแล้วจริงๆ เราแทบไม่มีน้ำตาเหลืออีกแล้ว
- ทุกวันนี้เวลาทะเลาะแรงๆเราแทบไม่อยากอยู่บ้านแล้วเพราะเรารู้สึกไม่ปลอดภัย กลุ้มใจ และเครียดบ่อยว่าจะมีเรื่องทะเลาะกันแรงๆมากๆ อีกเมื่อไหร่ เพราะเวลาทะเลาะกันทีนึงเราใช้เวลาพักฟื้นใจหลายวัน เรารู้สึกเหมือนการย้ายกลับมาอยู่บ้านครั้งนี้เราไม่ได้แค่อยู่กับที่ เราเดินถอยหลังด้วยซ้ำ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสภาพการเงินเราตอนนี้มันไม่อำนวย
--- มันเหมือนพลังบวกและความสุขที่เราเคยมีมันโดนพลังลบกลบจนแทบหมด จากตอนที่เราอยู่คนเดียวเราร่าเริง หัวเราะง่าย ยิ้มง่าย มีความสุขกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่พอเราย้ายกลับมาอยู่บ้าน เราแทบไม่ได้ยิ้มเลยวันๆ หัวเราะแทบไม่ต้องพูดถึง
--- เราพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ปราศจากอารมณ์ หรือไม่ปล่อยตัวเองให้ทำไปตามอารมณ์ เราศึกษาศาสนาพุทธ เราพอเข้าใจหลักการ พยายามฝฝึกดึงสติมาอยู่กับปัจจุบันเสมอถึงแม้ไม่มีเรื่อง แต่บางครั้งมันทำยากมากจริงๆที่จะไม่ให้มีหลุดเลย เราเป็นมนุษย์เราไม่ใช่หุ่นยนต์ เรามีหลุดบ้างเรายอมรับ โดยเฉพาะวันที่เราเหนื่อยมากๆ แต่เราก็คิดว่าเราไม่น่าจะต้องเจอเหยียบย่ำทางอารมณ์ซ้ำๆแบบนี้
--- เราตรวจสุขภาพมาปีนี้มันมีผลตรวจบางอย่างที่เริ่มกระทบสุขภาพเราแล้ว ผลออกเบาๆ เราก็ไม่แน่ใจว่าถ้าอยู่ต่อไปมันจะมากกว่านี้หรือไม่ แต่ถ้าผลตรวจรอบหน้าเราออกมาเริ่มน่าเป็นห่วง เราคิดว่าเราคงต้องย้ายออกจริงๆ
สุดท้ายนี้
เราขอบคุณจริงๆที่รับฟังและอ่านมาถึงตรงนี้
- สิ่งที่เราทำ การแสดงอาการหงุดหงิด กระแทกของ บ่นคนเดียวที่บางครั้งอาจจะดังจนเค้าได้ยิน เราทำเกินไปหรือไม่
- มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่เค้าทำแบบนี้เพื่อบีบให้เราออกจากบ้านเพื่อให้แฟนใหม่มาอยู่แทน
- เราควรต้องไปพบจิตแพทย์มั้ย
ขอบคุณมากๆ
[สุขภาพจิต] อยู่กับผู้ใหญ่ที่มีแนวโน้มเป็น NPD, รู้สึกเหมือนโลกนี้ไม่มีที่ให้เราอยู่แล้ว ควรทำยังไงกับชีวิตต่อ
- เราอยู่เดียวตั้งแต่สมัยเรียนจบเพราะที่บ้านเลิกกันและเรื่องค่อนข้างแรง เราโดนผู้ใหญ่ (ผู้ให้กำเนิด, ขออนุญาติไม่ใช้คำว่าพ่อ/แม่เพื่อความเป็นส่วนตัว) ไล่ออกจากบ้านเพราะผู้ใหญ่ฝั่งนึงเห็นว่าเราไม่เข้าข้างเค้า ไม่ช่วยเค้ากดดันผู้ใหญ่อีกฝั่งแบบรุนแรง เราหนีปัญหาเราไม่กดดันฝั่งไหนเลย (ตอนนั้นยังเรียนอยู่)
- เราลาออกจากงานด้วนเหตุผลบางอย่าง กลับมาอยู่บ้านกับผู้ใหญ่ที่มีแนวโน้มเป็น NPD (Narcissistic Personality Disorder โรคหลงตัวเอง)
- เราไม่เคยสังเกตมาก่อนว่าเค้าเป็น NPD จนรอบนี้หลังจากย้ายกลับมาอยู่บ้าน คนในครอบครัวพึ่งมาบอกเราว่าอาการมันคล้าย NPD ซึ่งเราเช็คแล้วอาการหลักๆมันตรงเยอะมาก
- ย้ายกลับมาครั้งนี้ตั้งใจว่าจะดูแลผู้ใหญ่ที่เคยไล่เราออกจากบ้านคนนี้เนื่องจากตอนนี้เค้าเริ่มมีปัญหาทางกายภาพ และมีแนวโน้มจะแย่ลงจนถึงขั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้แบบ 100% เราจึงตัดสินใจใช้โอกาสนี้ในการตั้งตัว และกลับมาดูแลตอบแทนคนที่เคยดูแลเราด้วย
- แต่กลับมาบ้านรอบนี้เราไม่เหมือนเมื่อก่อนเพราะเมื่อก่อนเราอยู่ใต้อำนาจ ยอมทุกอย่าง ผิดทุกอย่าง เชื่อฟังแบบเด็กน้อย แต่รอบนี้กลับมาเราเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราจึงไม่ยอมทุกเรื่องเหมือนเมื่อก่อน
- เรายอมรับว่าเรามีความเครียดกดดันตัวเองมากอยู่แล้วทุกวันนี้เรื่องการเงิน (รายรับยังน้อยกว่ารายจ่ายระดับนึง) แต่ผู้ใหญ่คนนี้ก็ไม่เคยให้เราต้องเดือดร้อนเรื่องเงินเลย ซึ่งเราก็ไม่เคยหวังมรดกเค้าเหมือนกัน เพราะเราอยากยืนให้ได้ด้วยตัวเองเหมือนเมื่อก่อน แต่ตอนนี้เราล้ม เราต้องการที่พักชั่วคราวเพื่อให้สามารถยืนได้ด้วยตัวเองอีกครั้ง
- เราทำงานบ้านหลายอย่าง+งานครัววันละอย่างน้อย 1.5-2.5ชม. และเราก็ทำงานที่บ้านไปด้วย เวลาเหลือเท่าไหร่เราใส่กับงานนี้หมด
ประเด็นสำคัญ
- ผู้ใหญ่คนนี้ไม่เคยคิดว่างานบ้านที่เราทำทุกอย่างมันใช้เวลามาก เค้าคิดว่ามันคืองานกระจอก ใช้เวลาแปบเดียว มันทำให้เราอึดอัดในใจมากๆ เพราะเค้าแทบไม่เคยรู้สึกว่าสิ่งที่เราทำมันมีค่าเท่าไหร่เลย และเราไม่สามารถพูดอะไรได้เลย เรามีสิทธิ์ก้มหน้าทำไปเท่านั้น ห้ามแสดงอาการหงุด ห้ามกระแทกของ ห้ามบ่นคนเดียว (เพราะถ้าบ่นดังหน่อยผู้ใหญ่คนนี้จะได้ยิน)
- ทุกวันนี้เราแทบไม่อยากเข้าครัวหรือทำงานบ้านแล้ว เรารู้สึกหนักใจมากๆ เพราะสิ่งที่เราทำเค้าไม่เคยเห็นคุณค่าเลยทั้งๆที่เราเอาเวลาที่เราจะต้องใช้ถีบตัวเองเพื่อให้รอดมาดูแลบ้านและผู้ใหญ่ด้วย แต่มันเลอะเทอะเกือบทุกวัน แล้วแต่วันว่ามากหรือน้อย เนื่องจากปัญหาทางกายภาพ และนิสัยส่วนตัวของผู้ใหญ่คนนี้ ซึ่งเคยพูดว่าให้ช่วยระวังหรือปรับโน้นนี้หน่อย แต่เราจะโดนด่ากลับซะส่วนมาก
- เราเป็น OCD (ย้ำคิดย้ำทำ) ในเรื่องความสะอาด หรือสิ่งของที่มันดูไม่เข้าที่เข้าทาง ถึงแม้ส่วนใหญ่จะไม่มีผลกับการใช้งาน แต่เราต้องจัด และทำความสะอาดตลอดเพราะเรารู้สึกมันรกสายตาไปหมด ยิ่งเจอนิสัยส่วนตัวของผู้ใหญ่คนนี้ที่ค่อนข้างไม่รักสะอาดเลย และใช้ของทิ้งๆขว้างๆไม่เก็บให้เป็นระเบียบ มันทำให้เราหงุดหงิดพอสมควรเลย เพราะเราต้องมานั่งเสียเวลาจัดของพวกนี้ และเราไม่สามารถบอกเค้าได้ด้วยเพราะเค้าจะด่ากลับ
ทุกวันนี้เราทำแบบแค่เท่าที่ทำได้ด้วยเพราะยอมรับว่าถ้ามานั่งทำทุกอย่างวันนึงเราแทบไม่ต้องทำอะไรแล้ว
--- เค้าไม่ให้เราจ้างแม่บ้านมาทำให้เค้าด้วย เหตุผลคือเค้าสามารถทำเองได้ (เหมือน ego อยากเอาชนะว่า gu ไม่ใช่ภาระ meung)
- ถ้าเราแสดงอาการอะไรที่ไม่ถูกใจเค้าจะเก็บ เค้าจะไม่เคลียกับเราเดี๋ยวนั้น เพราะถ้าเคลียเดี๋ยวนั้นเลย มันจะไม่เจ็บเท่าไหร่ เค้าจะรอให้เราทำอะไรไม่ถูกใจอีกอย่างน้อย 1เรื่อง แล้วจะขุดเรื่องเก่าที่ยังไม่ได้ชำระแค้น หรือเรื่องที่เคยเคลียกันจบไปแล้ว ก็จะขุดเอาขึ้นมาด่าอีก เพื่อให้มันเจ็บมากๆทีเดียว
และเวลาผู้ใหญ่คนนี้ด่าจะด่าแรงมาก
- เวลาเราทำอะไรผิด เค้าจะด่าเราเสมอว่าเรามันลูกชั่วมีเชื้อเลวจากผู้ใหญ่อีกฝั่ง อกตัญญู เนรคุณ เดรัจฉาน
- เราเรียนรู้แล้วว่าเราไม่ควรแสดงความคิดเห็นของเรา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม เพราะผู้ใหญ่คนนี้จะเก็บข้อมูล และเอามาใช้เป็นเครื่องมือด่าทำร้ายจิตใจเราภายหลัง
- ตอนทะเลาะเราต้องอัดเสียงไว้เสมอเพื่อเป็นหลักฐานป้องกันตัวเอง ว่าเราไม่ได้พูดในสิ่งที่เค้าบอกว่าเราพูด
--- การที่ตะคอกด่าเราแรงๆ ในหลายๆครั้ง มันทำให้เราคิดว่าเค้าทำแบบนี้เพื่อกดดันให้เราออกจากบ้านหรือเปล่า เค้าหลอกใช้จังหวะที่เราต้องการย้ายเข้ามาอยู่แล้วต้องซ่อมบ้าน ให้เรามาช่วยดูแลเรื่องซ่อมบ้าน (คิดว่าน่าจะเพราะเค้าดูเองไม่ได้แล้ว และไว้ใจใครไม่ได้ด้วย) ดูแลบ้านให้ใหม่ แล้วพอเราทำอะไรไม่ถูกใจหรือแสดงอาการหงุดหงิดก็ตะคอกเรา ด่าเราแรงๆ ให้เราทนไม่ไหวออกไปเอง จะได้ให้แฟนใหม่มาอยู่แทนเราหรือเปล่า
(เรามีข้อมูลว่าเค้ามีแฟนใหม่ แต่เราไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเค้า เราแค่รับทราบ)
- การกดดันเราก็มีหลายแบบ เทอาหารที่เราเตรียมให้ทิ้ง (แต่เคยทำได้ครั้งเดียวเพราะไม่ยอม เราระเบิดเลย เพราะเราไม่เด็กน้อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว) ถ้าหนักๆเข้าก็จะไม่กินข้าวที่เราเตรียม หมกตัวอยู่แต่ในห้อง สั่งของมากิน ทำให้ห้องตัวเองรกๆสกปรกๆ ทำให้เรารับรู้ว่า gu ไม่ต้องพึ่ง meung
- เราคิดจนตกผลึกและมั่นใจแล้วว่าเราไม่ได้แย่นะ เรามั่นใจว่าเราเป็นลูกที่ทำหน้าที่ได้ดีระดับนึงเลย บ้านที่เคยสกปรกมากๆ เรามาอยู่ก็สะอาดเลย แถมผู้ใหญ่กินดี สารอาหารครบ อะไรที่ขาดเพราะโรคทางกายภาพเราก็หาข้อมูลและหามาเสริมให้
- จากคนที่ไม่เคยออกกำลังกาย ท้อแท้กับโรคทางกายภาพ เราก็จัดที่ให้ออกกำลังกาย ชวนให้ออกมาทำอะไรนอกห้องบ้าง จนสำเร็จ เค้ากลับมาออกกำลังกายได้สม่ำเสมอ
- เรารู้สึกเหมือนโลกนี้ไม่มีที่อยู่ให้เราอีกต่อไปแล้ว เราโดนจนใจเราชาไปหมดแล้ว เราไม่รู้สึกอะไรแล้วตอนที่เค้าด่าถึงผู้ใหญ่อีกฝั่งตอนเราทำอะไรไม่ถูกใจเค้า และคำว่าเลว ชั่ว อกตัญญู ที่เค้าด่า เราก็ไม่รู้สึกอะไรแล้วเพราะใจเรามันตายด้านหมดแล้วจริงๆ เราแทบไม่มีน้ำตาเหลืออีกแล้ว
- ทุกวันนี้เวลาทะเลาะแรงๆเราแทบไม่อยากอยู่บ้านแล้วเพราะเรารู้สึกไม่ปลอดภัย กลุ้มใจ และเครียดบ่อยว่าจะมีเรื่องทะเลาะกันแรงๆมากๆ อีกเมื่อไหร่ เพราะเวลาทะเลาะกันทีนึงเราใช้เวลาพักฟื้นใจหลายวัน เรารู้สึกเหมือนการย้ายกลับมาอยู่บ้านครั้งนี้เราไม่ได้แค่อยู่กับที่ เราเดินถอยหลังด้วยซ้ำ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้เพราะสภาพการเงินเราตอนนี้มันไม่อำนวย
--- มันเหมือนพลังบวกและความสุขที่เราเคยมีมันโดนพลังลบกลบจนแทบหมด จากตอนที่เราอยู่คนเดียวเราร่าเริง หัวเราะง่าย ยิ้มง่าย มีความสุขกับเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่พอเราย้ายกลับมาอยู่บ้าน เราแทบไม่ได้ยิ้มเลยวันๆ หัวเราะแทบไม่ต้องพูดถึง
--- เราพยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ปราศจากอารมณ์ หรือไม่ปล่อยตัวเองให้ทำไปตามอารมณ์ เราศึกษาศาสนาพุทธ เราพอเข้าใจหลักการ พยายามฝฝึกดึงสติมาอยู่กับปัจจุบันเสมอถึงแม้ไม่มีเรื่อง แต่บางครั้งมันทำยากมากจริงๆที่จะไม่ให้มีหลุดเลย เราเป็นมนุษย์เราไม่ใช่หุ่นยนต์ เรามีหลุดบ้างเรายอมรับ โดยเฉพาะวันที่เราเหนื่อยมากๆ แต่เราก็คิดว่าเราไม่น่าจะต้องเจอเหยียบย่ำทางอารมณ์ซ้ำๆแบบนี้
--- เราตรวจสุขภาพมาปีนี้มันมีผลตรวจบางอย่างที่เริ่มกระทบสุขภาพเราแล้ว ผลออกเบาๆ เราก็ไม่แน่ใจว่าถ้าอยู่ต่อไปมันจะมากกว่านี้หรือไม่ แต่ถ้าผลตรวจรอบหน้าเราออกมาเริ่มน่าเป็นห่วง เราคิดว่าเราคงต้องย้ายออกจริงๆ
สุดท้ายนี้
เราขอบคุณจริงๆที่รับฟังและอ่านมาถึงตรงนี้
- สิ่งที่เราทำ การแสดงอาการหงุดหงิด กระแทกของ บ่นคนเดียวที่บางครั้งอาจจะดังจนเค้าได้ยิน เราทำเกินไปหรือไม่
- มีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่เค้าทำแบบนี้เพื่อบีบให้เราออกจากบ้านเพื่อให้แฟนใหม่มาอยู่แทน
- เราควรต้องไปพบจิตแพทย์มั้ย
ขอบคุณมากๆ