เลิกช็อป เลิกเอฟ เลิกตุน เพราะของมันต้องมีหนี้มันต้องมา

สารภาพตรงๆ เลยว่า เลิกช็อปเลิกเอฟเลิกตุน เป็นเรื่องยากมากกกกค่ะ
นี่กว่าจะเพลาๆ ลงไปได้ ก็ปาเข้าไปอายุ 30 กว่าๆ
ตั้งแต่วัยรุ่น คือช็อปเก่ง ถ้าเป็น Sephora ต้อง Gold Member
ถ้าเป็น Shopee ก็ต้องเป็น Platinum

ปัจจุบันนี้ ซื้ออะไรบ้าง เลิกซื้ออะไรบ้าง
- เลิกซื้อเสื้อผ้า 99% เลิกซื้อกระเป๋า 100%
- ซื้อรองเท้าได้ก็ต่อเมื่อคู่เก่าพัง เป้าหมายคือมีรองเท้าทุกประเภท 14 คู่เท่านั้น
- อายแชโดว์พาเลตต์ ได้ปีละ 1 ตลับ
- ไม่ใช้สกินแคร์กระจัดกระจาย มีตัวหลักๆ 3-4 ตัวที่ซื้อประจำ
- พยายามจำกัดพื้นที่ ให้ของอยู่แต่ในห้องของเรา เสื้อผ้าอยู่ในตู้
รองเท้าอยู่ในชั้น ถ้าเกินแสดงว่าของเราเยอะจนเกินไป

ผลพลอยได้ของการเลิกช็อป เลิกเอฟ เลิกตุน
- เราไม่มีทางเต็มอิ่มเพราะการช็อปค่ะ ความฟินมันมาวูบเดียวก็หายไป
- ใช้ของทันวันหมดอายุ ไม่ต้องเร่ง ไม่ต้องแจกคนอื่น
- มีเงินเหลือเยอะขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ข้อนี้สำคัญสุด

เห็นหลายคนยังออกจากภาวะเสพติดการช็อปไม่ได้
นี่เข้าใจ เพราะกว่าจะตกผลึกได้ก็นาน
บางคนเป็นหนี้เป็นสิน บางคนมีไลฟ์สไตล์ผ่อนส้มตำลิปมันกันแดด
ซึ่งจะนำไปสู่หนี้บริโภคก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ
ของมันต้องมี หนี้มันต้องมา หายนะต้องเจอ

แนบรูปตัวอย่างของฝากนักช็อป เคยตุนหลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือกันแดด
บางตัวต้องยกให้คนในครอบครัวช่วยใช้ เพราะไม่ชอบบ้าง ใช้ไม่ทันบ้าง
สมมติเล่นๆ ว่ากองนี้คือของหมดอายุ คือเกินครึ่งหมื่นเน้อ
เราเก็บเงินได้ก้อนนึง เพราะหยุดตุนของนี่แหละค่ะ

ใครที่กำลังเลิกนิสัยช็อปปิ้งเยอะจนเกินไป เป็นกำลังใจให้นะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่