ทำไมคนที่ใช้เงินฟุ่มเฟือย กลับมาประหยัดอีก ไม่ได้



1. Hedonic Adaptation — สมองชินกับความฟุ่มเฟือยแล้ว

พอเคยใช้ของแพง กินดี เที่ยวหรู สมองจะ “ตั้งมาตรฐานใหม่”

เมื่อกลับมาใช้แบบประหยัด = สมองรับรู้ว่า “แย่ลง” ถึงจริง ๆ มันแค่ “ปกติ”

เหมือน

> จาก 4K → 480p
แม้ 480p จะยังดูได้ แต่สมองบอกว่า “ภาพแตก”



นี่คือเหตุผลหลักที่สุด


---

2. Trade-off ที่คนมองไม่เห็น

ตอนใช้ฟุ่มเฟือย คุณกำลัง trade ระหว่าง:

• ความสุข “ทันที”
vs
• ความอิสระทางการเงิน “อนาคต”

สมองมนุษย์ เลือกปัจจุบันมากกว่าอนาคต เพราะอนาคต = ไม่แน่นอน = ไม่เห็นภาพ

การประหยัด = เจ็บตอนนี้ / ดีระยะยาว
การฟุ่มเฟือย = ดีตอนนี้ / เจ็บระยะยาว

มนุษย์ส่วนใหญ่แพ้ตรงนี้


---

3. Cognitive Bias ที่ทําลายการประหยัด

มีอย่างน้อย 5 ตัวหนัก ๆ:

▪ Present bias

“ซื้อเถอะ เดี๋ยวค่อยประหยัด” → แต่ “เดี๋ยว” ไม่เคยมาถึง

▪ Loss aversion

ประหยัด = รู้สึก “เสีย” บางอย่าง ทั้งที่จริงคือ “ได้คืนอนาคต”

▪ Sunk Cost Fallacy

“เคยใช้ขนาดนี้แล้ว จะกลับไปถูก ๆ ได้ยังไง”

▪ Social proof

เห็นคนรอบตัวใช้ → สมองคิดว่าต้องใช้ตาม

▪ Identity bias

ตัวเองเริ่มผูกความ ‘มีค่า’ กับของแพง = ถ้าใช้ธรรมดา = รู้สึกด้อย


---

4. Compound Effect ของนิสัย

การใช้เงิน = ดอกเบี้ยทบต้น แต่เป็นหนี้

กาแฟวันละ 150 = เดือนละ 4,500
ปีละ 54,000
10 ปี = 540,000

แต่ที่น่ากลัวกว่าคือ

> สมองเรียนรู้ว่า “เราเป็นคนใช้แบบนี้”

ตัวตนเริ่มถูกล็อกด้วยนิสัย

.


5. Dopamine – ยาเสพติดขาวที่ชื่อ “ช้อปปิ้ง”

การซื้อของ = โดปามีนพุ่งเร็ว หยุด = Withdrawal (รู้สึกขาด)

มันทำงานเหมือน addiction เลย จึงเลิกยาก ไม่ใช่เพราะคนอ่อนแอ


---

สรุปสั้นแบบตรง:

เหตุผลที่คนฟุ่มเฟือยแล้วกลับมาประหยัดยาก เพราะ:

✅ สมองตั้งมาตรฐานใหม่
✅ Bias หลอกเรา
✅ นิสัยทบต้น
✅ ฮอร์โมนเสพติด
✅ สิ่งแวดล้อมสนับสนุนการใช้

ไม่ใช่เพราะโง่หรือขี้เกียจเลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่