ก่อนอรุณรุ่ง: หนังรักที่ทำให้ผมหลงรักการสนทนาไปเลยครับ


: ก่อนอรุณรุ่ง: หนังรักที่ทำให้ผมหลงรักการสนทนาไปเลยครับ

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังที่ดูแล้วรู้สึกว่ามัน "ใช่" จริงๆ มาแนะนำครับ เป็นหนังเก่าหน่อย ชื่อว่า Before Sunrise (1995) เป็นหนังที่อาจจะไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นตูมตาม ระเบิดภูเขาเผากระท่อมอะไรแบบนั้นนะครับ แต่ถ้าใครชอบหนังที่เน้นบทสนทนา เน้นความรู้สึกของตัวละคร ผมว่าเรื่องนี้ตอบโจทย์มากๆ เลยครับ

เรื่องย่อก็ง่ายๆ ครับ พระเอกชื่อเจสซี่ เป็นนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน เดินทางไปยุโรปด้วยรถไฟ ระหว่างทางบนรถไฟนี่แหละครับ เขาเจอกับนางเอกชื่อเซลีน เป็นนักศึกษาชาวฝรั่งเศส ทั้งสองคนคุยกันถูกคอมากๆ เหมือนรู้จักกันมานาน ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก พอถึงเวียนนา เจสซี่ต้องลงรถไฟ แต่เขาก็ตัดสินใจทำอะไรบ้าๆ ครับ ชวนเซลีนลงจากรถไฟไปด้วยกัน แล้วก็ใช้เวลาทั้งคืนเดินคุยกันไปเรื่อยๆ ในเมืองเวียนนา จนกระทั่งพระอาทิตย์จะขึ้นในวันรุ่งขึ้น

สิ่งที่ผมประทับใจมากๆ ในหนังเรื่องนี้คือ "บทสนทนา" ครับ มันไม่ใช่บทสนทนาที่แบบว่า "วันนี้อากาศดีเนอะ" อะไรแบบนั้นนะครับ แต่เป็นการคุยกันแบบลึกซึ้งมากๆ คุยกันทุกเรื่องเลยครับ ตั้งแต่เรื่องความฝัน ความกลัว ความรัก ชีวิต ครอบครัว ไปจนถึงเรื่องปรัชญาต่างๆ คือสองคนนี้คุยกันไปเรื่อยๆ ไม่หยุด เหมือนน้ำที่ไหลไม่ขาดสาย บางทีก็หัวเราะ บางทีก็เถียงกันนิดๆ หน่อยๆ บางทีก็มีช่วงที่เงียบไป แต่เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความรู้สึก ผมชอบตรงที่บทสนทนามันดูเป็นธรรมชาติมากๆ ครับ ไม่ได้ดูประดิษฐ์ หรือพยายามจะให้ฉลาดอะไรขนาดนั้น แต่มันคือการเปิดใจคุยกันจริงๆ

นักแสดงนำสองคน คือ อีธาน ฮอว์ค (Ethan Hawke) ที่เล่นเป็นเจสซี่ กับ จูลี่ เดลพี (Julie Delpy) ที่เล่นเป็นเซลีน คือแสดงได้สุดยอดมากครับ เคมีของทั้งสองคนนี่เข้ากันมากๆ ผมดูแล้วเชื่อเลยว่าสองคนนี้กำลังตกหลุมรักกันจริงๆ แบบที่ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ การแสดงของพวกเขาดูเรียลมากๆ ครับ บางทีก็มีอาการเขินอาย เก้อเขิน ไม่กล้าสบตา แต่ก็พยายามจะแสดงความเป็นตัวเองออกมา คือมันไม่ใช่การแสดงที่แบบว่า "ฉันกำลังแสดงเป็นคนตกหลุมรัก" แต่มันคือ "ฉันกำลังตกหลุมรัก" จริงๆ

บรรยากาศของเมืองเวียนนาในหนังก็มีส่วนสำคัญมากๆ ครับ เมืองนี้สวยงาม โรแมนติก มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ มีแม่น้ำดานูบ คือทุกอย่างมันส่งเสริมให้เรื่องราวของเจสซี่กับเซลีนดูน่าหลงใหลยิ่งขึ้นไปอีก การที่พวกเขาเดินไปเรื่อยๆ ในเมืองยามค่ำคืน มันให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังร่วมเดินทางไปกับพวกเขาด้วยครับ เราได้เห็นมุมต่างๆ ของเมืองผ่านสายตาของพวกเขา ได้เห็นความรู้สึกของพวกเขาที่ค่อยๆ เปลี่ยนไป

หนังเรื่องนี้มันทำให้ผมคิดถึงเรื่อง "เวลา" ครับ เวลาที่เรามีจำกัด เวลากับคนที่เรารู้สึกดีด้วย มันมีค่ามากแค่ไหน บางทีเราก็ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ได้สังเกต หรือไม่ได้ใช้มันให้คุ้มค่า แต่ในหนังเรื่องนี้ เจสซี่กับเซลีนรู้ดีว่าพวกเขามีเวลาแค่คืนเดียว พวกเขาเลยพยายามใช้เวลานั้นให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ มันเป็นความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ก็ลึกซึ้งมากๆ ครับ

สิ่งที่ทำให้ผมชอบหนังเรื่องนี้มากๆ ก็คือมันไม่ได้พยายามจะตัดสินอะไรครับ มันไม่ได้บอกว่าความรักแบบนี้ดีหรือไม่ดี มันแค่เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น เหมือนเรากำลังแอบมองชีวิตของคนสองคน มันเปิดโอกาสให้คนดูอย่างเราได้คิด ได้ตีความความสัมพันธ์ของพวกเขาเอง บางคนอาจจะมองว่ามันโรแมนติกเกินไป บางคนอาจจะมองว่ามันดูไม่สมจริง แต่นั่นแหละครับคือเสน่ห์ของมัน

ผมว่า Before Sunrise เป็นหนังที่เหมาะกับคนที่กำลังค้นหาความหมายของความสัมพันธ์ หรือคนที่กำลังรู้สึกเหงาๆ อยากได้อะไรมาเติมเต็มหัวใจครับ มันไม่ใช่หนังที่จะทำให้คุณหัวเราะจนท้องแข็ง หรือร้องไห้จนตาบวม แต่มันจะค่อยๆ ซึมเข้าสู่หัวใจของคุณครับ ทำให้คุณรู้สึกอบอุ่น รู้สึกดี และอาจจะทำให้คุณอยากออกไปหาใครสักคนมานั่งคุยกันยาวๆ เหมือนเจสซี่กับเซลีนก็ได้

หลังจากดูเรื่องนี้จบ ผมรู้สึกว่าอยากจะลองไปเดินเล่นในเมืองที่ไม่คุ้นเคยตอนกลางคืนดูบ้างครับ หรืออาจจะอยากลองคุยกับคนแปลกหน้าที่เจอโดยบังเอิญแบบเปิดใจมากๆ ดูบ้าง มันเป็นหนังที่จุดประกายอะไรบางอย่างในตัวเราจริงๆ ครับ

ถ้าใครยังไม่เคยดูเรื่องนี้ ผมอยากแนะนำให้ลองหามาดูกันนะครับ อาจจะไม่ได้ชอบในทันที แต่อยากให้ลองเปิดใจให้มันสักหน่อยครับ ลองปล่อยตัวเองไปกับบทสนทนาที่ไหลลื่น และความรู้สึกที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นระหว่างสองตัวละคร ผมว่าคุณอาจจะเจออะไรดีๆ ที่ซ่อนอยู่ในหนังเรื่องนี้ก็ได้ครับ

สำหรับผม Before Sunrise เป็นหนังที่ผมจะเก็บไว้ในใจไปอีกนานเลยครับ เป็นหนังรักที่เรียบง่าย แต่ทรงพลังมากๆ ครับ ขอบคุณที่อ่านรีวิวจนจบนะครับ หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ นะครับ สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่