...การตีความเอาเองด้วยการใช้จินตนาการ นึกๆไป จะเกิดความ วิปลาส หลงผิด สติปัญญาเลอะเทอะ ไปได้ง่ายๆ แบบกู่ไม่กลับ เช่น บางคนที่เข้าใจว่า มีจิตเข้าไปอยู่ในนิพพาน ได้ .. โดยตีความเอาจากสำนวนโวหาร อุปมาอุปมัยเปรียบ ต่างๆนานา จากในตำราบางส่วน เช่น จากพระสูตร หรือ อื่นๆ
...เช่น พวกกระทู้ จิตในนิพพาน เป็นต้น ...
...เคยเตือนหลายครั้งแล้วว่า ข้อความในพระสูตรหรือพระวินัย จะมีข้อความแนวสำนวนโวหาร เปรียบเทียบ อุปมาอุมัย มากมาย ซึ่งไม่อาจจะตีความตรงๆได้ คนที่ตีความตรงๆตามข้อความ ก็จะกลายเป็นคนหลงเลอะเทอะ มีทิฏฐิวิปลาสขึ้นมา ซึ่งปรากฏออกมาเรื่อยๆๆ บ่อยๆๆ
...เช่น สำนวนว่า โน้มจิตเข้าสู่นิพพาน ..ก็ไม่อาจจะตีความตรงๆว่า จิตสามารถเข้าไปอยู่ในนิพพานได้... ที่แท้ สำนวนนี้ หมายถึงการนึกโน้มหน่วงเอานิพพานมาเป็นอารมณ์ของจิต หรือ ให้จิตรู้ แค่นั้นเอง ไม่ใช่หมายถึงทำให้จิตเข้าไปสิ่งสู่ในนิพพาน
...
เพราะว่า จิตเป็นสิ่งปรุงแต่ง หรือ เป็นสังขาร หรือ เป็นสังขตะ แต่ นิพพานไม่ใช่สิ่งปรุงแต่ง หรือ เป็น วิสังขาร หรือเป็น อสังขตะ..ซึ่งไม่อาจจะผสมกันได้เลย ถ้านิพพานสามารถผสมกับจิตได้ นิพพานก็จะกลายเป็นสังขารไป ต้องตกอยู่ใต้กฏไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่สิ่งคงที่ เป็น นิจจัง เป็นอมตะ ได้อีกต่อไป...คราวนี้ก็จะ เอวัง จบ กันเลย ไม่ต้องฝึกปฏิบัติธรรมให้เหนื่อยยากอีก ไร้สาระเปล่าๆ
...ข้อความโวหารอุปมาอุปมัยเปรียบเทียบจากพระสูตร ยังมีอีกมากมาย ที่ไม่อาจจะตีความตรงๆได้ ..เคยยกตัวอย่างมาแล้ว บ่อยๆ เช่น
-- ข้อความจาก เถรีคาถา บางส่วน ว่า .." เราเป็นบุตรสาวที่เกิดจากทรวงอกของพระพุทธเจ้า ".. คนงี่เง่าปัญญาอ่อน อาจจะตีความสำนวนนี้ว่า พระพุทธเจ้าคลอดเด็กทารกหญิงออกมาจากทรวงอกของพระองค์ ..
-- หรือ สำนวนว่า "นิพพานเมืองแก้ว" ซึ่งหลายสำนักเช่น พวกสำนักทำมะโกย เอาไปตีความว่า นิพพานเหมือนเมืองสวรรค์ มีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายเข้าไปอาศัยอยู่เต็มไปหมด
-- หรือ ในระดับอรรถกถา บางเล่ม ที่บอกว่า พระพุทธเจ้าสมณโคตมศรีศากยมุนี พระองค์ล่าสุดนี้ มีพระวรกายสูง 18 ศอก (หรือ 9 เมตร)
-- และยังมีสำนวนอุปมาอุปมัย ที่เป็นโวหารเปรียบเทียบอีกมากมาย... ฯลฯ ... ที่ปรากฏในตำรา ทุกๆระดับ ตั้งแต่ ระดับ บาลี อรรถกถา ฯ ลงมา
จงระวังมากๆ ในการตีความข้อความจากพระสูตรหรือพระวินัยแบบตรงๆ
$$ ชอบใช้จินตาการตีความสำนวนเทียบเคียงอุปมาอุปมัยในตำรา จะเกิดอาการเลอะเทอะหลงทาง วิปลาส เช่น เข้าใจว่าในนิพพานมีจิต $$
...เช่น พวกกระทู้ จิตในนิพพาน เป็นต้น ...
...เคยเตือนหลายครั้งแล้วว่า ข้อความในพระสูตรหรือพระวินัย จะมีข้อความแนวสำนวนโวหาร เปรียบเทียบ อุปมาอุมัย มากมาย ซึ่งไม่อาจจะตีความตรงๆได้ คนที่ตีความตรงๆตามข้อความ ก็จะกลายเป็นคนหลงเลอะเทอะ มีทิฏฐิวิปลาสขึ้นมา ซึ่งปรากฏออกมาเรื่อยๆๆ บ่อยๆๆ
...เช่น สำนวนว่า โน้มจิตเข้าสู่นิพพาน ..ก็ไม่อาจจะตีความตรงๆว่า จิตสามารถเข้าไปอยู่ในนิพพานได้... ที่แท้ สำนวนนี้ หมายถึงการนึกโน้มหน่วงเอานิพพานมาเป็นอารมณ์ของจิต หรือ ให้จิตรู้ แค่นั้นเอง ไม่ใช่หมายถึงทำให้จิตเข้าไปสิ่งสู่ในนิพพาน
...เพราะว่า จิตเป็นสิ่งปรุงแต่ง หรือ เป็นสังขาร หรือ เป็นสังขตะ แต่ นิพพานไม่ใช่สิ่งปรุงแต่ง หรือ เป็น วิสังขาร หรือเป็น อสังขตะ..ซึ่งไม่อาจจะผสมกันได้เลย ถ้านิพพานสามารถผสมกับจิตได้ นิพพานก็จะกลายเป็นสังขารไป ต้องตกอยู่ใต้กฏไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อยๆ ไม่ใช่สิ่งคงที่ เป็น นิจจัง เป็นอมตะ ได้อีกต่อไป...คราวนี้ก็จะ เอวัง จบ กันเลย ไม่ต้องฝึกปฏิบัติธรรมให้เหนื่อยยากอีก ไร้สาระเปล่าๆ
...ข้อความโวหารอุปมาอุปมัยเปรียบเทียบจากพระสูตร ยังมีอีกมากมาย ที่ไม่อาจจะตีความตรงๆได้ ..เคยยกตัวอย่างมาแล้ว บ่อยๆ เช่น
-- ข้อความจาก เถรีคาถา บางส่วน ว่า .." เราเป็นบุตรสาวที่เกิดจากทรวงอกของพระพุทธเจ้า ".. คนงี่เง่าปัญญาอ่อน อาจจะตีความสำนวนนี้ว่า พระพุทธเจ้าคลอดเด็กทารกหญิงออกมาจากทรวงอกของพระองค์ ..
-- หรือ สำนวนว่า "นิพพานเมืองแก้ว" ซึ่งหลายสำนักเช่น พวกสำนักทำมะโกย เอาไปตีความว่า นิพพานเหมือนเมืองสวรรค์ มีพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายเข้าไปอาศัยอยู่เต็มไปหมด
-- หรือ ในระดับอรรถกถา บางเล่ม ที่บอกว่า พระพุทธเจ้าสมณโคตมศรีศากยมุนี พระองค์ล่าสุดนี้ มีพระวรกายสูง 18 ศอก (หรือ 9 เมตร)
-- และยังมีสำนวนอุปมาอุปมัย ที่เป็นโวหารเปรียบเทียบอีกมากมาย... ฯลฯ ... ที่ปรากฏในตำรา ทุกๆระดับ ตั้งแต่ ระดับ บาลี อรรถกถา ฯ ลงมา