ขออวดหน่อยเหอะ

สวัสดีครับ SIlver Gaze ครับ

วันนี้เรามากันในหัวข้อที่เกี่ยวกับเกม ซึ่งประเภทของเกมที่ผมเล่น ณ ช่วงนี้ ก็คงหนีไม่พ้นเกม Gacha ต่างๆ ในโทรศัพท์มือถือ เพราะต้องยอมรับจริงๆ ว่าการจะไปเปิดคอมมานั่งเล่นเกมไปเรื่อยเหมือนแต่ก่อน มันช่างเป็นอะไรที่ยากเสียเหลือเกินสำหรับคุณลุงในวัยทำงานอย่างผม 

ซึ่งหลังจากที่ผมย้อนกลับมาเล่นเกมมือถือ Gacha เนี้ย ผมก็ได้เห็นหนึ่งในวัฒนธรรมที่น่าสนใจของคนเล่นเกมมือถือที่ดูเหมือนว่าวัฒนธรรมนี้จะไม่ตายจากไปสักที แม้ผมจะหายหน้าหายตาไปจากวงการเกม Gacha ไปนาน อย่างวัฒนธรรมการ ‘ขออวดหน่อยเหอะ’ ที่มักจะมีคนนำความโชคดีของตนเองมาโชว์ รวมไปถึงการเอาไอดีของตัวเองมาโชว์ว่าตัวเองมีตัวอะไรมากมายขนาดไหน

แน่นอนครับ ว่าสำหรับผมในสมัยก่อน วัฒนธรรมนี้มันโคตรจะน่ารำคาญเลย
แต่พอมีอายุขึ้นมาหน่อย ความรู้สึกของผมเกี่ยวกับวัฒนธรรมนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยครับ 

เพราะเราเริ่มเข้าใจมากขึ้น ถึงต้นเหตุของพฤติกรรมเหล่านี้ ว่าจริงๆ แล้ว มันเป็นพฤติกรรมที่เกิดจากต้นตอที่น่าเศร้าพอสมควรเลยทีเดียว

คือถ้าคุณอายุเข้าวัยทำงาน แล้วพาตัวเองกลับไปสู่การออกกำลังกายอีกครั้ง คุณจะรู้สึกรำคาญนิดๆ แต่ก็รู้สึกนับถืออีกฝ่าย หากเพื่อนของคุณอัพคลิปวีดีโอโชว์ว่ามันสามารถเดินได้ด้วยแขน เพราะพอคุณเข้าวัยทำงานแล้วเนี่ย การออกกำลังกายนี่ยิ้มโคตรยาก อย่างผมเงี้ยะ ออกแทบตาย ตื่นมาแขนเหลวเหมือนเดิม เราเลยจะเข้าใจได้เลยว่าการที่เพื่อนเราสามารถเดินด้วยแขนได้ มันหมายถึงการ Spend ทรัพยากรต่างๆ ทั้งความพยายาม เงิน เวลา และสิ่งต่างๆ ไปมากขนาดไหน มันถึงสามารถอัดคลิปวีดีโอแบบนั้นได้

เราเลยจะรู้สึกว่า ‘โอเค อยากอวดแหละ แต่ถึงจะหมั่นไส้หน่อยๆ แต่กูก็ยอมรับว่าสิ่งที่ทำยิ้มอวดได้จริงๆ’

เพราะสิ่งที่มันทำได้ มันมาจากการออกกำลังกายอย่างหนัก อาหารการกินที่เหมาะสม การพักผ่อนที่ดี และเรื่องอื่นๆ จำนวนมาก ที่ทำให้เราเข้าใจเลยว่าเรื่องที่มันทำมันยากจริงๆ 

ทีนี้พอเราเอาทฤษฏีการ Spend ทรัพยากรจำนวนมากมาใช้กับเรื่องเกมเนี้ย ถ้าเราเอาตรงตัวเลย เราก็น่าจะรู้สึกหมั่นไส้หน่อยๆ แต่ก็ยอมรับอีกฝ่าย หากอีกฝ่ายมานั่งอวดว่าตัวเองเปิด Gacha ได้นู่นได้นี่ ถูกไหมครับ ? แต่พอเอาเข้าจริง เรากลับรู้สึกมากกว่าหมั่นไส้ แต่นับถืออีกฝ่ายเวลาคนมาอวด Gacha เสียอย่างนั้น

คำถามคือ…ทำไมถึงเป็นแบบนั้นกันล่ะ ?

ผมว่าตรงนี้เราสามารถอธิบายได้ 2 แบบครับ 

แบบแรกคือ เราไม่ได้อินกับเรื่องนั้นหรือมีข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมากพอ ประมาณว่าถ้าเราไม่ได้ออกกำลังกาย เราก็จะไม่เข้าใจเลยว่าการเดินด้วยแขนได้เนี่ย มันต้องออกกำลังกายหนักขนาดไหน ในขณะที่ถ้าเราไม่ได้ Spend เงินจำนวนมากไปกับการเปิด Gacha มาอวดคนอื่น เราก็จะไม่ได้เข้าใจมากเท่าไหร่ ว่ายอดเงินที่เขา Spend ไปจริงๆ เพื่อผลลัพท์ดังกล่าวมันมากเท่าไหร่

การรับรู้ของเราและคนที่ Spend เงินเพื่อเปิด Gacha จึงแตกต่างกันมาก แบบคนเปิดเสียเกือบแสน คนคิดคิดหลักหมื่นหลักพัน อะไรแบบนั้น หรือพูดง่ายๆ ก็คล้ายๆ กับการวาดภาพด้วย AI นั่นแหละครับ

แบบที่สองคือ โดยหลักความเป็นจริงแล้วการเปิดกาชา มันก็ไม่ได้ยากนี่หว่า ก็แค่ไปเติมเงินแล้วก็กดๆ อ่ะ ตรงนี้แหละครับ ที่ผมมองว่าน่าจะเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เรารู้สึกมากกว่าหมั่นไส้ แถมยังไม่ยอมรับในการขี้อวดของคนเปิด Gacha เพราะผลลัพท์ที่เกิดขึ้นในมุมมองของเรา มันก็ไม่ได้เกิดขึ้นยากอะไรเลย หากคุณมีเงิน เติมเงิน แล้วก็กดๆ ซึ่งเป็นอะไรที่แตกต่างจากไปออกกำลังกายทุกวันเพื่อถ่ายคลิปเดินด้วยแขนแบบสุดๆ 

ยกตัวอย่างก็คล้ายๆ กับการเห็นเพื่อนคนหนึ่งเดินเข้ามาในโรงเรียน พร้อมของเล่นจำนวนมากที่สามารถใช้เงินซื้อได้ที่ร้านหน้าโรงเรียน ซึ่งทำให้เรารู้สึกหมั่นไส้สุดๆ แตกต่างจากการได้เห็นเพื่อนอีกคนหนึ่งที่เอาสมุดสะสมสแตมป์สถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศมาอวด ที่ทั้งๆ ที่เรารู้ว่ามันเอามาอวด เราก็ยังยอมรับในตัวมันและยอมให้มันอวดต่อไปอยู่ดีนั่นเอง

สรุปก็คือ ยิ่งสิ่งที่อีกฝ่ายนำมาอวดดูจะทำได้ง่ายมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งรู้สึกลบกับการกระทำนั้นมากขึ้นนั่นเอง

ทีนี้เรามามองอีกมุมครับ ว่าถ้าเป็นแบบนั้น แล้วทำไมยังมีคนนำเรื่องง่ายๆ อย่างการเปิด Gacha มาอวดอีกล่ะ เราก็สามารถอธิบายได้ 3 แบบครับ

แบบแรก ก็ในมุมกูมันยากอ่ะ อันนี้ขอไม่อธิบายเพิ่มแล้วกันนะครับ 

แบบสอง เพราะเขาไม่รู้จะไปอวดกับใคร อันนี้ก็ง่ายๆ เลยครับ ก็เกมนี้ที่เขาเล่นมันไม่มีใครเล่นด้วยอ่ะ เขาก็เลยไม่รู้จะนำความสำเร็จนี้ไปอวดกับใครดี
 
แบบที่สาม เพราะเขาต้องการคำชื่นชมเหมือนพนักงานเงินเดือนต้องการน้ำหวาน 

แบบที่สามนี่แหละครับที่ผมอยากพูดถึงมากที่สุด เพราะผมว่ามันคือสิ่งที่อธิบายพฤติกรรมหลายๆ อย่างของคนในสังคมเราได้แบบไม่ยากเย็นนัก ไล่ตั้งแต่เด็กแว้นซ์ คนอวดเกม Gacha ไปยังสาวที่ต้องใช้ของแบรน์แนมทุกชิ้นจนชีวิตพัง เพราะทั้งหมดที่เขาทำลงไป ก็มาจากเหตุผลง่ายๆ อย่างการที่มนุษย์เป็นสัตว์สังคมที่ต้องการความสนใจ แต่ไม่ใช่ว่ามนุษย์ทุกคนจะสามารถประสบความสำเร็จ หรือใช้ชีวิตแบบคนปกติ แล้วได้รับความสนใจจากคนอื่นๆ ในสังคมได้ พฤติกรรมของพวกเขาส่วนใหญ่จึงมาจากเหตุผลง่ายๆ อย่างการพยายามเรียกร้องความสนใจนั่นเอง

ถึงแบบนั้นสิ่ง ที่น่าเศร้าจริงๆ ก็คือการที่เขามองว่าตนเองไม่สามารถใช้วิถึทางปกติเพื่อได้รับความสนใจจากสังคมนี่แหละครับ เพราะถ้าเป็นเรื่องเกม แล้วคุณมั่นใจในการเล่นของตัวเอง แต่ก็อยากได้รับความสนใจ คุณก็อาจจะทำไกด์การเล่น โชว์เล่นสด หรืออะไรพวกนั้นจริงไหมครับ ? 

แต่พอเป็นการอวด Gacha ที่สิ่งที่ทำก็แค่การ Spend ทรัพยากรจำนวนมากเข้าไป กดไปเรื่อยๆ จากนั้นก็นำผลลัพท์ไปโพสอวด มันก็สามารถบ่งบอกได้พอสมควร ว่าเรามีมุมมองต่อความสามารถของตนเองมากเท่าไหร่ เช่นเดียวกันกับการเป็นเด็กแว็นซ์ขับรถเสียงดัง และการพยายามทำตัวแพงด้วยการใส่ของแพงๆ 

คือถ้าสมองของตัวเราเองสรุปผลออกมา ว่าเราต้องใช้วิธีนี้เพื่อดึงดูดความสนใจจากสังคม ผมว่ามันน่าเศร้าเสียยิ่งกว่าการถูกสังคมลืมเลือนอีกนะ

ถึงแบบนั้น มนุษย์บางคนก็ปรารถนาความสนใจจากสังคมยิ่งกว่าสิ่งใด 

และเพราะแบบนั้นแล้ว ผมจึงมองว่าถ้ามันไม่เหนือบ่ากว่าแรง การใจดีกับคนที่มาอวด Gacha เสียหน่อยก็อาจจะไม่ใช่เรื่องแย่ขนาดนั้นก็ได้นะครับ 

เพราะเราไม่มีทางรู้เลย ว่า ณ ขณะนั้นเขากำลังต้องการความสนใจมากขนาดไหน 

แถมถ้าเรื่องดังกล่าวมันเป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆ การร่วมยินดีกับการประสบความสำเร็จของคนอื่น ก็ถือเป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่แสดงในเห็นว่าเราเติบโตขึ้นด้วยเช่นกัน

หวังว่าเราจะได้พบกันอีก
Silver Gaze
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่