- ช่วงประมาณ 7–10 ปีก่อน ใครจำได้ไหมครับ?
- พนักงานออฟฟิศ และทุกวงการ ไปจนถึงพวกตัวแทนอาหารเสริมต่าง ๆ
ฮิตขาย “ผงคลอโรฟิลล์ชงน้ำ” กันมากกก แทบทุกคนต้องมีแก้วเขียว ๆ พกติดตัว ดื่มแล้วรู้สึกสุขภาพดีแบบเร่งด่วน
** ที่ทำงานผทแต่ก่อนฮิตชงใส่ขวดน้ำ 1 ลิตร อยู่ๆก็หายไปเหมือนกัน ***
แต่ผ่านมาไม่นาน…
กระแสดันเงียบแบบ
หายไปจากโลก 🫥
แทบไม่เห็นใครพูดถึงอีกเลย เลยอยากตั้งกระทู้ถาม + หาความรู้ว่า
มันเกิดอะไรขึ้น? มีประโยชน์จริงไหม? ใครยังดื่มอยู่บ้าง?
คลอโรฟิลล์ชงดื่มคืออะไร?
ส่วนมากเป็น
ผง/น้ำสกัดจากพืชสีเขียว เช่น อัลฟัลฟา ต้นอ่อนต่าง ๆ
เคลมกันว่าจะช่วยดีท็อกซ์ ล้างเลือด ผิวดี ลดกลิ่นตัว ฯลฯ ซึ่งฟังดูเว่อร์มากในยุคนั้น
แล้ว “มีประโยชน์จริงไหม?” (ตามงานวิจัย)
✔
ช่วยเรื่องขับถ่าย → จริงในบางคน เพราะมีใยอาหารและน้ำมากขึ้น
✔
ช่วยเรื่องกลิ่นตัว → มีรายงานว่า
คลอโรฟิลลิน (chlorophyllin) ลดกลิ่นได้ในบางกลุ่ม
✔
เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ → มีอยู่จริงตามธรรมชาติ
❌ แต่… “ดีท็อกซ์เลือด ล้างสารพิษ ล้างตับ” —
ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ชัดเจน
ร่างกายเราล้างสารพิษเองได้อยู่แล้ว (ตับ ไต ทำงานตรงนี้อยู่)
แล้วทำไมกระแสถึง “หายไปอย่างไว”?
1.
เจอคำเคลมเกินจริง
ล้างเลือด ผิวขาวทันที รักษาโรคสารพัด ทำให้กระทรวงตรวจเข้ม → ตลาดแผ่ว
2.
ผู้บริโภคเริ่มรู้ทัน
คนเริ่มศึกษามากขึ้นว่าคลอโรฟิลล์ = ไม่ได้มีพลังวิเศษอะไรขนาดนั้น ประโยชน์ส่วนใหญ่ “ดื่มน้ำเยอะขึ้นก็ได้ผลคล้ายกัน”
3.
สินค้าทดแทนมาแรงกว่า
ยุคหลังคนหันไปหา – น้ำผลไม้คั้นสด – กรีนสมูทตี้ – ผักปั่น – วิตามินรวม ซึ่ง “เห็นผลเร็วกว่า/รู้สึกได้ทันที”
4.
กระแสบิวตี้เปลี่ยนไว
สมัยก่อนฮิตดีท็อกซ์ ตอนนี้เทรนด์ไปที่ โปรไบโอติก / คอลลาเจน / ผงโปรตีน / น้ำด่าง / แกดเจ็ทสุขภาพ ฯลฯ
ผงคลอโรฟิลล์ชงดื่ม เคยฮิตทั้งบ้านทั้งเมือง… แล้วตอนนี้หายไปไหน? 🤔
- พนักงานออฟฟิศ และทุกวงการ ไปจนถึงพวกตัวแทนอาหารเสริมต่าง ๆ ฮิตขาย “ผงคลอโรฟิลล์ชงน้ำ” กันมากกก แทบทุกคนต้องมีแก้วเขียว ๆ พกติดตัว ดื่มแล้วรู้สึกสุขภาพดีแบบเร่งด่วน
** ที่ทำงานผทแต่ก่อนฮิตชงใส่ขวดน้ำ 1 ลิตร อยู่ๆก็หายไปเหมือนกัน ***
แต่ผ่านมาไม่นาน…
กระแสดันเงียบแบบ หายไปจากโลก 🫥
แทบไม่เห็นใครพูดถึงอีกเลย เลยอยากตั้งกระทู้ถาม + หาความรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้น? มีประโยชน์จริงไหม? ใครยังดื่มอยู่บ้าง?
คลอโรฟิลล์ชงดื่มคืออะไร?
ส่วนมากเป็น ผง/น้ำสกัดจากพืชสีเขียว เช่น อัลฟัลฟา ต้นอ่อนต่าง ๆ
เคลมกันว่าจะช่วยดีท็อกซ์ ล้างเลือด ผิวดี ลดกลิ่นตัว ฯลฯ ซึ่งฟังดูเว่อร์มากในยุคนั้น
แล้ว “มีประโยชน์จริงไหม?” (ตามงานวิจัย)
✔ ช่วยเรื่องขับถ่าย → จริงในบางคน เพราะมีใยอาหารและน้ำมากขึ้น
✔ ช่วยเรื่องกลิ่นตัว → มีรายงานว่า คลอโรฟิลลิน (chlorophyllin) ลดกลิ่นได้ในบางกลุ่ม
✔ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ → มีอยู่จริงตามธรรมชาติ
❌ แต่… “ดีท็อกซ์เลือด ล้างสารพิษ ล้างตับ” — ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ชัดเจน
ร่างกายเราล้างสารพิษเองได้อยู่แล้ว (ตับ ไต ทำงานตรงนี้อยู่)
แล้วทำไมกระแสถึง “หายไปอย่างไว”?
1. เจอคำเคลมเกินจริง
ล้างเลือด ผิวขาวทันที รักษาโรคสารพัด ทำให้กระทรวงตรวจเข้ม → ตลาดแผ่ว
2. ผู้บริโภคเริ่มรู้ทัน
คนเริ่มศึกษามากขึ้นว่าคลอโรฟิลล์ = ไม่ได้มีพลังวิเศษอะไรขนาดนั้น ประโยชน์ส่วนใหญ่ “ดื่มน้ำเยอะขึ้นก็ได้ผลคล้ายกัน”
3. สินค้าทดแทนมาแรงกว่า
ยุคหลังคนหันไปหา – น้ำผลไม้คั้นสด – กรีนสมูทตี้ – ผักปั่น – วิตามินรวม ซึ่ง “เห็นผลเร็วกว่า/รู้สึกได้ทันที”
4. กระแสบิวตี้เปลี่ยนไว
สมัยก่อนฮิตดีท็อกซ์ ตอนนี้เทรนด์ไปที่ โปรไบโอติก / คอลลาเจน / ผงโปรตีน / น้ำด่าง / แกดเจ็ทสุขภาพ ฯลฯ