ค้างคาว Bonin Pipistrelle Pat หรือที่รู้จักในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pipistrellus sturdeei (และชื่อสามัญภาษาอังกฤษอื่นๆ เช่น Sturdee's pipistrelle, Japanese bat หรือ Ogasawara oil bat) เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดล่าสุดที่ได้ถูกประกาศว่าที่ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว รายละเอียดของค้างคาวชนิดนี้มีดังต่อไปนี้...
ถิ่นที่อยู่อาศัยและการค้นพบ
ค้างคาว Bonin pipistrelle เป็นสัตว์เฉพาะถิ่น (endemic) ของญี่ปุ่น มีถิ่นที่อยู่จำกัดมาก คาดว่าอาศัยอยู่บนเกาะฮาฮะจิมะ (Haha-jima Island) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโบนิน (Bonin Islands หรือ Ogasawara Islands)
นักวิทยาศาสตร์มีข้อมูลเกี่ยวกับค้างคาวชนิดนี้น้อยมาก เนื่องจากมีการเก็บตัวอย่างต้นแบบ (holotype) เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ซึ่งถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) และปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในลอนดอน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นค้างคาวชนิดนี้อีกเลย
taxonomically) อย่างไรก็ตาม มีการถกเถียงกันในหมู่นักวิชาการบางคนว่าตัวอย่างที่เก็บได้อาจมีที่มาจากที่อื่นที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น แต่หลักฐานส่วนใหญ่ยังคงชี้ว่ามันเป็นสัตว์ประจำถิ่นของหมู่เกาะโบนิน
ลักษณะทางกายภาพ
เนื่องจากมีเพียงตัวอย่างเดียวที่ถูกเก็บรักษาไว้ ทำให้รายละเอียดทางกายภาพมีจำกัด แต่จากข้อมูลพบว่ามันมีขนาดเล็ก คล้ายกับค้างคาวบ้านญี่ปุ่น (Japanese house bat) ชนิดอื่นๆ
น้ำหนัก - ประมาณ 5.6–8.7 กรัม
ความยาวปลายแขน - ประมาณ 30.8–34.2 มิลลิเมตร
มีลักษณะที่แตกต่างจากค้างคาวชนิดอื่นในสกุลเดียวกันที่สำคัญคือลักษณะของกระดูกอวัยวะเพศผู้ (baculum) ซึ่งสั้นและค่อนข้างตรง
สถานะการสูญพันธุ์
สหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ได้ประเมินสถานะของค้างคาวชนิดนี้มาหลายครั้ง โดยในช่วงแรกจัดให้อยู่ในสถานะสูญพันธุ์ระหว่างปี 1996 ถึง 2004 และต่อมาในปี 2020 ได้เปลี่ยนสถานะอย่างเป็นทางการเป็นสูญพันธุ์ (Extinct) ในบัญชีแดง IUCN Red List
สาเหตุของการสูญพันธุ์นั้นไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากข้อมูลประชากรเดิมมีน้อยมาก แต่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติบนเกาะที่มีขนาดจำกัด
นอกจากนี้ยังมีสัตว์และพืชอีก 21 ชนิดที่ถูกประกาศให้สูญพันธุ์ในครั้งนี้ด้วย ได้แก่
นก 10 สายพันธุ์
- นกกระจิบของบาคแมน (Bachman's warbler - Vermivora bachmanii): เคยอาศัยอยู่ในแถบภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา
- นกตาขาวหงอนขาว (Bridled white-eye - Zosterops conspicillatus conspicillatus): เป็นนกประจำถิ่นบนเกาะกวม
- นกอะคิอะโลอาเกาะคาวาย (Kauai akialoa - Akialoa stejnegeri)
- นกนุกูปูอูเกาะคาวาย (Kauai nukupuu - Hemignathus hanapepe)
- นกโอโอเกาะคาวาย (Kaua'i 'o'o - Moho braccatus)
- นกเดินดงใหญ่เกาะคาวาย (Large Kauai thrush - Myadestes myadestinus)
- นกอาเคปาเกาะมาอูอี (Maui ākepa - Loxops coccineus ssp. coccineus)
- นกนุกูปูอูเกาะมาอูอี (Maui nukupu'u - Hemignathus affinis)
- นกปีนต้นไม้โมโลไก (Molokai creeper - Paroreomyza flammea)
- นกโพโออูลี (Poouli - Melamprosops phaeosoma)
หอยสองฝา 8 สายพันธุ์
- หอยพิกโทแบน (Flat pigtoe)
- หอยมุกดอกเขียว (Green-blossom pearly mussel)
- หอยเซาเทิร์นอะคอนเชลล์ (Southern acornshell)
- หอยสติรรับเชลล์ (Stirrupshell)
- หอยมุกดอกปุ่ม (Tubercled-blossom pearly mussel)
- หอยมุกดอกโป่ง (Turgid-blossom pearly mussel)
- หอยอัปแลนด์คอมบ์เชลล์ (Upland combshell)
- หอยมุกดอกเหลือง (Yellow-blossom pearly mussel)
ปลา 2 สายพันธุ์
- ปลาแกมบูเซียซานมาร์คอส (San Marcos gambusia - Gambusia georgei)
- ปลาไซโอโตแมดทอม (Scioto madtom - Noturus trautmani)
พืช 1 สายพันธุ์
- ต้นอะโคโกะ ('akoko, ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chamaesyce kuwaleana)
ที่มา : Wikipedia, Google, Gemini
ความรู้รอบตัว - EP1 : Bonin Pipistrelle Bat ค้างคาวสายพันธุ์ล่าสุดที่ถูกประกาศให้สูญพันธุ์
ถิ่นที่อยู่อาศัยและการค้นพบ
ค้างคาว Bonin pipistrelle เป็นสัตว์เฉพาะถิ่น (endemic) ของญี่ปุ่น มีถิ่นที่อยู่จำกัดมาก คาดว่าอาศัยอยู่บนเกาะฮาฮะจิมะ (Haha-jima Island) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะโบนิน (Bonin Islands หรือ Ogasawara Islands)
นักวิทยาศาสตร์มีข้อมูลเกี่ยวกับค้างคาวชนิดนี้น้อยมาก เนื่องจากมีการเก็บตัวอย่างต้นแบบ (holotype) เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น ซึ่งถูกค้นพบเมื่อปี พ.ศ. 2432 (ค.ศ. 1889) และปัจจุบันถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติในลอนดอน หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นค้างคาวชนิดนี้อีกเลย
taxonomically) อย่างไรก็ตาม มีการถกเถียงกันในหมู่นักวิชาการบางคนว่าตัวอย่างที่เก็บได้อาจมีที่มาจากที่อื่นที่ไม่ใช่ญี่ปุ่น แต่หลักฐานส่วนใหญ่ยังคงชี้ว่ามันเป็นสัตว์ประจำถิ่นของหมู่เกาะโบนิน
ลักษณะทางกายภาพ
เนื่องจากมีเพียงตัวอย่างเดียวที่ถูกเก็บรักษาไว้ ทำให้รายละเอียดทางกายภาพมีจำกัด แต่จากข้อมูลพบว่ามันมีขนาดเล็ก คล้ายกับค้างคาวบ้านญี่ปุ่น (Japanese house bat) ชนิดอื่นๆ
น้ำหนัก - ประมาณ 5.6–8.7 กรัม
ความยาวปลายแขน - ประมาณ 30.8–34.2 มิลลิเมตร
มีลักษณะที่แตกต่างจากค้างคาวชนิดอื่นในสกุลเดียวกันที่สำคัญคือลักษณะของกระดูกอวัยวะเพศผู้ (baculum) ซึ่งสั้นและค่อนข้างตรง
สถานะการสูญพันธุ์
สหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ได้ประเมินสถานะของค้างคาวชนิดนี้มาหลายครั้ง โดยในช่วงแรกจัดให้อยู่ในสถานะสูญพันธุ์ระหว่างปี 1996 ถึง 2004 และต่อมาในปี 2020 ได้เปลี่ยนสถานะอย่างเป็นทางการเป็นสูญพันธุ์ (Extinct) ในบัญชีแดง IUCN Red List
สาเหตุของการสูญพันธุ์นั้นไม่ชัดเจนนัก เนื่องจากข้อมูลประชากรเดิมมีน้อยมาก แต่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับการสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติบนเกาะที่มีขนาดจำกัด
นอกจากนี้ยังมีสัตว์และพืชอีก 21 ชนิดที่ถูกประกาศให้สูญพันธุ์ในครั้งนี้ด้วย ได้แก่
นก 10 สายพันธุ์
- นกกระจิบของบาคแมน (Bachman's warbler - Vermivora bachmanii): เคยอาศัยอยู่ในแถบภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา
- นกตาขาวหงอนขาว (Bridled white-eye - Zosterops conspicillatus conspicillatus): เป็นนกประจำถิ่นบนเกาะกวม
- นกอะคิอะโลอาเกาะคาวาย (Kauai akialoa - Akialoa stejnegeri)
- นกนุกูปูอูเกาะคาวาย (Kauai nukupuu - Hemignathus hanapepe)
- นกโอโอเกาะคาวาย (Kaua'i 'o'o - Moho braccatus)
- นกเดินดงใหญ่เกาะคาวาย (Large Kauai thrush - Myadestes myadestinus)
- นกอาเคปาเกาะมาอูอี (Maui ākepa - Loxops coccineus ssp. coccineus)
- นกนุกูปูอูเกาะมาอูอี (Maui nukupu'u - Hemignathus affinis)
- นกปีนต้นไม้โมโลไก (Molokai creeper - Paroreomyza flammea)
- นกโพโออูลี (Poouli - Melamprosops phaeosoma)
หอยสองฝา 8 สายพันธุ์
- หอยพิกโทแบน (Flat pigtoe)
- หอยมุกดอกเขียว (Green-blossom pearly mussel)
- หอยเซาเทิร์นอะคอนเชลล์ (Southern acornshell)
- หอยสติรรับเชลล์ (Stirrupshell)
- หอยมุกดอกปุ่ม (Tubercled-blossom pearly mussel)
- หอยมุกดอกโป่ง (Turgid-blossom pearly mussel)
- หอยอัปแลนด์คอมบ์เชลล์ (Upland combshell)
- หอยมุกดอกเหลือง (Yellow-blossom pearly mussel)
ปลา 2 สายพันธุ์
- ปลาแกมบูเซียซานมาร์คอส (San Marcos gambusia - Gambusia georgei)
- ปลาไซโอโตแมดทอม (Scioto madtom - Noturus trautmani)
พืช 1 สายพันธุ์
- ต้นอะโคโกะ ('akoko, ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Chamaesyce kuwaleana)
ที่มา : Wikipedia, Google, Gemini