ปวดขา เส้นเลือดปูด ระวัง!! เส้นเลือดขอด เช็กอาการ การป้องกันและการรักษา



เส้นเลือดขอดคืออะไร

เส้นเลือดขอด (Varicose Veins) คือ ภาวะที่หลอดเลือดดำขยายตัวและโป่งพองขึ้นผิดปกติ โดยมักเกิดที่ขา เนื่องจากเป็นจุดที่ต้องรับน้ำหนักและต้านแรงโน้มถ่วงของโลกอยู่ตลอดเวลา

ปกติแล้ว หลอดเลือดดำมีหน้าที่นำเลือดกลับสู่หัวใจและมีลิ้นกั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลย้อนกลับ แต่หากลิ้นเหล่านี้เสื่อมสภาพหรือผนังหลอดเลือดอ่อนแอลง เลือดจะคั่งอยู่บริเวณนั้น ส่งผลให้เส้นเลือดขยายตัวและเกิดเป็นเส้นเลือดขอด

สัญญาณเตือนของเส้นเลือดขอด

เส้นเลือดขอดไม่ได้มีเพียงแค่เส้นเลือดปูดที่มองเห็นได้ชัดเจนเท่านั้น แต่ยังมีอาการอื่น ๆ ที่อาจถูกมองข้าม เช่น

- ขาหนักเหมือนมีน้ำหนักถ่วง
- ปวดเมื่อยขา โดยเฉพาะหลังจากยืนนาน ๆ
- ขาบวมช่วงเย็นหรือหลังจากเดินนาน ๆ
- ตะคริวกินขาบ่อย โดยเฉพาะตอนกลางคืน
- คันหรือแสบ ๆ ร้อน ๆ บริเวณขา
- มีเส้นเลือดฝอยแตกเป็นร่างแหเล็ก ๆ ที่ขา

หากมีอาการเหล่านี้บ่อยครั้ง ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินอาการและเลือกแนวทางรักษาที่เหมาะสม

ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นเส้นเลือดขอด

เส้นเลือดขอดสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่บางกลุ่มมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่น ได้แก่

1. กรรมพันธุ์
หากมีประวัติคนในครอบครัวเป็นเส้นเลือดขอด โอกาสที่คุณจะเป็นก็สูงขึ้น
2. การยืนหรือนั่งนาน ๆ
อาชีพที่ต้องยืนนาน เช่น ครู พนักงานขาย หรือพนักงานออฟฟิศที่นั่งทำงานทั้งวัน มีความเสี่ยงสูง
3. อายุที่เพิ่มขึ้น
เมื่ออายุมากขึ้น ลิ้นในหลอดเลือดดำและผนังหลอดเลือดจะเสื่อมลง
4. น้ำหนักเกิน
น้ำหนักตัวที่มากขึ้นทำให้แรงดันในหลอดเลือดดำเพิ่มขึ้น และเลือดไหลเวียนได้ไม่ดี
5. การตั้งครรภ์
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้หลอดเลือดขอดเกิดได้ง่ายขึ้น
6. ขาดการออกกำลังกาย
การไม่ขยับตัวเป็นเวลานานทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

วิธีป้องกันเส้นเลือดขอด
แม้ว่าปัจจัยบางอย่าง เช่น กรรมพันธุ์และอายุจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เราสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

- ขยับตัวบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการนั่งหรือยืนนานเกินไป
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เช่น เดิน ว่ายน้ำ หรือโยคะ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- ควบคุมน้ำหนัก เพื่อลดแรงกดดันที่ขา
- ใส่ถุงน่องทางการแพทย์ เพื่อช่วยพยุงหลอดเลือดและลดอาการบวม
- ยกขาสูงเวลาพักผ่อน เพื่อช่วยให้เลือดไหลกลับสู่หัวใจได้ง่ายขึ้น
- หลีกเลี่ยงรองเท้าส้นสูงหรือรองเท้าที่บีบรัดเกินไป

หากเริ่มมีอาการเส้นเลือดขอด การป้องกันตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะช่วยชะลอการลุกลามของโรคได้

แนวทางการรักษาเส้นเลือดขอด
หากเส้นเลือดขอดเริ่มรุนแรงขึ้น ควรเข้ารับการรักษาทางการแพทย์ โดยแพทย์อาจเลือกใช้วิธีการรักษาตามระดับความรุนแรงของโรค

1. ฉีดยา (Sclerotherapy)
เหมาะสำหรับเส้นเลือดขอดขนาดเล็ก แพทย์จะฉีดสารเข้าไปเพื่อทำให้เส้นเลือดแฟบลง
2. เลเซอร์ (EVLT – Endovenous Laser Therapy)
ใช้พลังงานเลเซอร์ทำให้เส้นเลือดผิดปกติยุบตัว เหมาะกับเส้นเลือดขอดขนาดกลาง
3. จี้ด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RFA – Radiofrequency Ablation)
ใช้คลื่นความร้อนทำลายเส้นเลือดขอด เป็นทางเลือกที่ช่วยลดอาการได้ดีและมีระยะพักฟื้นสั้น
4. ผ่าตัด (Vein Stripping / Phlebectomy)
เหมาะสำหรับกรณีที่เส้นเลือดขอดรุนแรงและเกิดภาวะแทรกซ้อน

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นหากปล่อยเส้นเลือดขอดไว้
แม้เส้นเลือดขอดอาจดูเหมือนไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย เช่น

- แผลเรื้อรังจากการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดี
- ลิ่มเลือดอุดตัน (DVT – Deep Vein Thrombosis) ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
- หลอดเลือดดำอักเสบ ทำให้เกิดอาการปวด บวม และแดง

เส้นเลือดขอดเป็นภาวะที่พบได้บ่อย แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ดูแล อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ การป้องกันและดูแลตั้งแต่ระยะแรกเป็นวิธีที่ดีที่สุด

หากคุณเริ่มมีอาการ ขาหนัก ปวด บวม หรือเส้นเลือดปูด ควรรีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับคำปรึกษาและเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสม เพราะการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะช่วยให้ผลลัพธ์ดีกว่า ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และช่วยให้คุณกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจมากขึ้น

ติดตามสาระความรู้เกี่ยวกับสุขภาพดี ๆ ได้ที่ > รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่