ย้อนกลับไปดู Kingdom S2 อีกรอบ โคตรเดือด โคตรมันส์ สมศักดิ์ศรีซีรีส์ซอมบี้ฟอร์มยักษ์!
สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมขออนุญาตมาแชร์ความรู้สึกหลังรีวิวดู "Kingdom ซีซั่น 2" อีกรอบครับ หลังจากที่ซีซั่นแรกทิ้งปมไว้ให้เราลุ้นกันจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ซีซั่นสองนี่บอกเลยว่าจัดเต็มกว่าเดิมชนิดที่ว่าหายใจไม่ทันเลยทีเดียว ใครที่ยังไม่ได้ดู ต้องรีบไปดูนะครับ ส่วนใครที่ดูแล้ว มาคุยกันครับ
เปิดมาซีซั่น 2 ก็เดินหน้าต่อทันทีครับ ไม่มีออมมือให้กับปมต่างๆ ที่ค้างคาจากซีซั่นแรกเลย เราจะได้เห็นองค์ชายชาง กับพวกพ้อง ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ที่เพิ่มจำนวนขึ้นแบบทวีคูณ แถมยังต้องเผชิญหน้ากับอำนาจมืดทางการเมืองที่ยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก การต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์ และการรักษาชีวิตของประชาชนในโชซอน มันช่างตึงเครียดเสียจริงครับ
สิ่งที่ผมประทับใจมากในซีซั่นนี้ คือการขยายสเกลของเรื่องราวครับ ไม่ใช่แค่การเอาตัวรอดจากซอมบี้อย่างเดียว แต่เราจะได้เห็นการเมือง การเมืองที่ซับซ้อน การหักเหลี่ยมเฉือนคมของเหล่าขุนนาง ที่เล่นกับความเป็นความตายของประชาชนเป็นเรื่องสนุกสนาน การตัดสินใจของตัวละครแต่ละตัว มีผลกระทบใหญ่หลวงต่อสถานการณ์ทั้งหมด ผมชอบที่ผู้สร้างไม่ได้มองข้ามประเด็นนี้ไปเลย ทำให้เรื่องราวมีความลึกซึ้ง น่าติดตามมากกว่าแค่ฉากไล่ล่าซอมบี้ธรรมดาๆ
ฉากแอ็คชั่นนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ จัดเต็ม อลังการ และโหดดิบสมจริงมากครับ การออกแบบฉากการต่อสู้กับฝูงซอมบี้ในแต่ละครั้ง คือสร้างสรรค์และน่าตื่นเต้นมากๆ ครับ การใช้พื้นที่ต่างๆ ในการหลบหนีและต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นตามตรอกซอกซอยในเมือง หรือการป้องกันปราสาท มันทำให้เรารู้สึกร่วมไปกับตัวละครจริงๆ ยิ่งตอนที่ซอมบี้คลั่งในตอนกลางวันนี่คือที่สุดครับ ความเร็ว ความดุร้าย และความน่ากลัวของพวกมัน มันถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนบางทีแอบสะดุ้งตามไปด้วยเลย
นักแสดงทุกคนยังคงทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมครับ โดยเฉพาะ จูจีฮุน ในบทองค์ชายชาง ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครได้อย่างชัดเจน จากองค์ชายที่ดูอ่อนโยน กลายมาเป็นผู้นำที่ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเพื่อความอยู่รอดของอาณาจักร การแสดงออกทางสีหน้า แววตา รวมถึงการตัดสินใจที่ยากลำบากของเขา มันทำให้เราเชื่อว่านี่คือองค์ชายที่ต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่จริงๆ
อีกตัวละครที่ผมอยากชื่นชมคือ ซอบี รับบทโดย แบดูนา ครับ เธอยังคงเป็นแสงสว่างแห่งความหวังในการค้นหาวิธีหยุดยั้งโรคระบาด และการแสดงของเธอก็ยังคงเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งให้กับทุกคนได้เสมอครับ การทำงานร่วมกับองค์ชายชางของเธอมันลงตัวและน่าเชื่อถือมากๆ
ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันครับ การปรากฏตัวของตัวละครใหม่ๆ หรือการที่ตัวละครเก่าๆ ได้รับบทบาทที่เด่นชัดขึ้น ก็ช่วยเสริมให้เรื่องราวมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีกครับ การเมืองที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะการมีบทบาทของ ฮาซอน รับบทโดย คิมซองกยู ที่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ มันทำให้เกิดความขัดแย้งที่น่าติดตาม และเพิ่มมิติให้กับสงครามแย่งชิงอำนาจ
การดำเนินเรื่องของ Kingdom S2 ถือว่าทำได้ดีครับ แม้จะมีบางช่วงที่อาจจะรู้สึกว่าปมเยอะไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วมันเชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัวครับ ผู้สร้างสามารถสร้างความตึงเครียดได้อย่างต่อเนื่อง และค่อยๆ ปลดปล่อยปมต่างๆ ออกมาให้เราได้ลุ้นตาม การวางแผนการผลิตในแต่ละฉาก การถ่ายทำ การตัดต่อ และดนตรีประกอบ ล้วนแต่ส่งเสริมให้ซีรีส์เรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์แบบ
สิ่งที่ทำให้ Kingdom S2 แตกต่างและโดดเด่นกว่าซีรีส์ซอมบี้เรื่องอื่นๆ คือการผสมผสานระหว่างความเป็นประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง และเรื่องราวเหนือธรรมชาติได้อย่างลงตัวครับ มันไม่ใช่แค่ซอมบี้วิ่งไล่กัดกัน แต่เป็นการสะท้อนภาพสังคม การกดขี่ข่มเหง และความโหดร้ายของมนุษย์ที่น่ากลัวไม่แพ้ซอมบี้เลยทีเดียว การที่โรคระบาดนี้แพร่กระจายได้เร็วขึ้น และส่งผลกระทบต่อทุกชนชั้นในสังคม มันทำให้เรารู้สึกถึงความสิ้นหวัง และการต่อสู้ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต
ผมชอบการนำเสนอเรื่องราวของ "ความลับ" ต่างๆ ที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมาครับ ไม่ว่าจะเป็นที่มาของโรคระบาด หรือเบื้องหลังการเมืองที่ดำมืด มันทำให้เราอยากรู้ต่อไปเรื่อยๆ ว่าจะมีอะไรถูกเปิดเผยอีกบ้าง และตัวละครจะสามารถเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ไปได้อย่างไร
แม้ว่าซีซั่น 2 จะจบลงด้วยการทิ้งท้ายที่ทำให้เราต้องรอคอยซีซั่นต่อไปอีก แต่ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นการจบที่สมเหตุสมผล และทำให้เราอยากติดตามต่อมากๆ ครับ การต่อสู้ยังไม่จบ ปัญหาต่างๆ ยังคงมีอยู่ และยังมีภัยคุกคามอีกมากมายที่รออยู่ข้างหน้า
สรุปแล้วนะครับ Kingdom ซีซั่น 2 คือซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ สำหรับใครที่ชอบแนวแอ็คชั่น ดราม่า ระทึกขวัญ และชอบเรื่องราวที่เข้มข้น มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นี่คือคำตอบครับ การผลิตระดับโลก การแสดงที่ทรงพลัง และเนื้อหาที่น่าติดตาม ทำให้ Kingdom S2 กลายเป็นซีรีส์ซอมบี้ที่ผมยกให้เป็นอันดับต้นๆ ในใจเลยครับ
ใครที่ดูแล้วมีความเห็นยังไง มาแชร์กันได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าเพื่อนๆ คิดเห็นเหมือนผมหรือเปล่า หรือมีฉากไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษ มาพูดคุยกันได้เลยครับ แล้วเจอกันใหม่กับรีวิวอื่นๆ นะครับ สวัสดีครับ
ย้อนกลับไปดู Kingdom S2 อีกรอบ โคตรเดือด โคตรมันส์ สมศักดิ์ศรีซีรีส์ซอมบี้ฟอร์มยักษ์!
ย้อนกลับไปดู Kingdom S2 อีกรอบ โคตรเดือด โคตรมันส์ สมศักดิ์ศรีซีรีส์ซอมบี้ฟอร์มยักษ์!
สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมขออนุญาตมาแชร์ความรู้สึกหลังรีวิวดู "Kingdom ซีซั่น 2" อีกรอบครับ หลังจากที่ซีซั่นแรกทิ้งปมไว้ให้เราลุ้นกันจนนั่งไม่ติดเก้าอี้ ซีซั่นสองนี่บอกเลยว่าจัดเต็มกว่าเดิมชนิดที่ว่าหายใจไม่ทันเลยทีเดียว ใครที่ยังไม่ได้ดู ต้องรีบไปดูนะครับ ส่วนใครที่ดูแล้ว มาคุยกันครับ
เปิดมาซีซั่น 2 ก็เดินหน้าต่อทันทีครับ ไม่มีออมมือให้กับปมต่างๆ ที่ค้างคาจากซีซั่นแรกเลย เราจะได้เห็นองค์ชายชาง กับพวกพ้อง ต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดจากฝูงซอมบี้ที่เพิ่มจำนวนขึ้นแบบทวีคูณ แถมยังต้องเผชิญหน้ากับอำนาจมืดทางการเมืองที่ยิ่งเข้มข้นขึ้นไปอีก การต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์ และการรักษาชีวิตของประชาชนในโชซอน มันช่างตึงเครียดเสียจริงครับ
สิ่งที่ผมประทับใจมากในซีซั่นนี้ คือการขยายสเกลของเรื่องราวครับ ไม่ใช่แค่การเอาตัวรอดจากซอมบี้อย่างเดียว แต่เราจะได้เห็นการเมือง การเมืองที่ซับซ้อน การหักเหลี่ยมเฉือนคมของเหล่าขุนนาง ที่เล่นกับความเป็นความตายของประชาชนเป็นเรื่องสนุกสนาน การตัดสินใจของตัวละครแต่ละตัว มีผลกระทบใหญ่หลวงต่อสถานการณ์ทั้งหมด ผมชอบที่ผู้สร้างไม่ได้มองข้ามประเด็นนี้ไปเลย ทำให้เรื่องราวมีความลึกซึ้ง น่าติดตามมากกว่าแค่ฉากไล่ล่าซอมบี้ธรรมดาๆ
ฉากแอ็คชั่นนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ จัดเต็ม อลังการ และโหดดิบสมจริงมากครับ การออกแบบฉากการต่อสู้กับฝูงซอมบี้ในแต่ละครั้ง คือสร้างสรรค์และน่าตื่นเต้นมากๆ ครับ การใช้พื้นที่ต่างๆ ในการหลบหนีและต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นตามตรอกซอกซอยในเมือง หรือการป้องกันปราสาท มันทำให้เรารู้สึกร่วมไปกับตัวละครจริงๆ ยิ่งตอนที่ซอมบี้คลั่งในตอนกลางวันนี่คือที่สุดครับ ความเร็ว ความดุร้าย และความน่ากลัวของพวกมัน มันถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จนบางทีแอบสะดุ้งตามไปด้วยเลย
นักแสดงทุกคนยังคงทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมครับ โดยเฉพาะ จูจีฮุน ในบทองค์ชายชาง ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครได้อย่างชัดเจน จากองค์ชายที่ดูอ่อนโยน กลายมาเป็นผู้นำที่ต้องตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเพื่อความอยู่รอดของอาณาจักร การแสดงออกทางสีหน้า แววตา รวมถึงการตัดสินใจที่ยากลำบากของเขา มันทำให้เราเชื่อว่านี่คือองค์ชายที่ต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่จริงๆ
อีกตัวละครที่ผมอยากชื่นชมคือ ซอบี รับบทโดย แบดูนา ครับ เธอยังคงเป็นแสงสว่างแห่งความหวังในการค้นหาวิธีหยุดยั้งโรคระบาด และการแสดงของเธอก็ยังคงเข้มแข็ง เป็นที่พึ่งให้กับทุกคนได้เสมอครับ การทำงานร่วมกับองค์ชายชางของเธอมันลงตัวและน่าเชื่อถือมากๆ
ส่วนตัวละครอื่นๆ ก็มีบทบาทสำคัญไม่แพ้กันครับ การปรากฏตัวของตัวละครใหม่ๆ หรือการที่ตัวละครเก่าๆ ได้รับบทบาทที่เด่นชัดขึ้น ก็ช่วยเสริมให้เรื่องราวมีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีกครับ การเมืองที่เข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะการมีบทบาทของ ฮาซอน รับบทโดย คิมซองกยู ที่เข้ามาเป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญ มันทำให้เกิดความขัดแย้งที่น่าติดตาม และเพิ่มมิติให้กับสงครามแย่งชิงอำนาจ
การดำเนินเรื่องของ Kingdom S2 ถือว่าทำได้ดีครับ แม้จะมีบางช่วงที่อาจจะรู้สึกว่าปมเยอะไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วมันเชื่อมโยงกันได้อย่างลงตัวครับ ผู้สร้างสามารถสร้างความตึงเครียดได้อย่างต่อเนื่อง และค่อยๆ ปลดปล่อยปมต่างๆ ออกมาให้เราได้ลุ้นตาม การวางแผนการผลิตในแต่ละฉาก การถ่ายทำ การตัดต่อ และดนตรีประกอบ ล้วนแต่ส่งเสริมให้ซีรีส์เรื่องนี้ออกมาสมบูรณ์แบบ
สิ่งที่ทำให้ Kingdom S2 แตกต่างและโดดเด่นกว่าซีรีส์ซอมบี้เรื่องอื่นๆ คือการผสมผสานระหว่างความเป็นประวัติศาสตร์ สังคม การเมือง และเรื่องราวเหนือธรรมชาติได้อย่างลงตัวครับ มันไม่ใช่แค่ซอมบี้วิ่งไล่กัดกัน แต่เป็นการสะท้อนภาพสังคม การกดขี่ข่มเหง และความโหดร้ายของมนุษย์ที่น่ากลัวไม่แพ้ซอมบี้เลยทีเดียว การที่โรคระบาดนี้แพร่กระจายได้เร็วขึ้น และส่งผลกระทบต่อทุกชนชั้นในสังคม มันทำให้เรารู้สึกถึงความสิ้นหวัง และการต่อสู้ที่ต้องแลกมาด้วยชีวิต
ผมชอบการนำเสนอเรื่องราวของ "ความลับ" ต่างๆ ที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมาครับ ไม่ว่าจะเป็นที่มาของโรคระบาด หรือเบื้องหลังการเมืองที่ดำมืด มันทำให้เราอยากรู้ต่อไปเรื่อยๆ ว่าจะมีอะไรถูกเปิดเผยอีกบ้าง และตัวละครจะสามารถเอาชีวิตรอดจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ไปได้อย่างไร
แม้ว่าซีซั่น 2 จะจบลงด้วยการทิ้งท้ายที่ทำให้เราต้องรอคอยซีซั่นต่อไปอีก แต่ผมก็รู้สึกว่ามันเป็นการจบที่สมเหตุสมผล และทำให้เราอยากติดตามต่อมากๆ ครับ การต่อสู้ยังไม่จบ ปัญหาต่างๆ ยังคงมีอยู่ และยังมีภัยคุกคามอีกมากมายที่รออยู่ข้างหน้า
สรุปแล้วนะครับ Kingdom ซีซั่น 2 คือซีรีส์ที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ครับ สำหรับใครที่ชอบแนวแอ็คชั่น ดราม่า ระทึกขวัญ และชอบเรื่องราวที่เข้มข้น มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย นี่คือคำตอบครับ การผลิตระดับโลก การแสดงที่ทรงพลัง และเนื้อหาที่น่าติดตาม ทำให้ Kingdom S2 กลายเป็นซีรีส์ซอมบี้ที่ผมยกให้เป็นอันดับต้นๆ ในใจเลยครับ
ใครที่ดูแล้วมีความเห็นยังไง มาแชร์กันได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าเพื่อนๆ คิดเห็นเหมือนผมหรือเปล่า หรือมีฉากไหนที่ประทับใจเป็นพิเศษ มาพูดคุยกันได้เลยครับ แล้วเจอกันใหม่กับรีวิวอื่นๆ นะครับ สวัสดีครับ