เอาตัวเทอร์โบดีไหม?

ผมมีแผนจะเปลี่ยนเครื่องรถที่บ้าน เบนซ์ W124 220E ครับ เนื่องจากเครื่องเดิมพังเพราะขาดน้ำมันเครื่อง ทีนี้เครื่องติดรถมันต้องโอเวอร์ฮอลล์ราคาค่อนข้างสูง เปลี่ยนเครื่องมือสองรุ่นนี้ช่างก็บอกว่าต้องเปิดฝาสูบมาเปลี่ยนปะเก็นอยู่ดี เพราะเครื่องรุ่นนี้ปะเก็นจะไปตามอายุ ไม่ว่าจะวิ่งน้อยแค่ไหนก็ตาม ดังนั้นจึงคิดว่าไม่คุ้ม บวกกับค่าน้ำมันก็ไม่ประหยัดเท่าไหร่ (ประมาณ 7-8 กม./ลิตร ในเมือง) จะวางเครื่อง 6 สูบอย่าง E 280 ก็ยิ่งกินเข้าไปใหญ่ครับ

จึงไปดูเครื่องทดแทน เป็นดีเซล 3.0 ลิตร 6 สูบ ตรงรุ่น จาก W124 300D รหัส OM603 ครับ โดยเครื่องรุ่นนี้จะมี 2 แบบคือ แบบธรรมดาและแบบเทอร์โบ ซึ่งผมตั้งใจว่ายังไงก็จะติดเทอร์โบและใส่อินเตอร์คูลเลอร์อย่างแน่นอนเนื่องจากสภาพอากาศเมืองไทยค่อนข้างร้อน แต่ตัวเทอร์โบจากโรงงานจะไม่มีอินเตอร์มาให้ คือยิงตรงจากเทอร์โบเข้าท่อร่วมไอดีเลย

ผมมีความลังเลว่า ควรจะเลือกตัวเทอร์โบหรือไม่เทอร์โบดี ถ้าเอาตัวเทอร์โบ ราคาจะสูงกว่าตัวธรรมดาอยู่ 20,000 บาทครับ แต่ยังไงก็ต้องมีค่าติดตั้งอินเตอร์คูลเลอร์และจูนปั๊มเพิ่มอยู่ดี ถ้าเอาตัวธรรมดาก็เหลือเงินอีก 20,000 บาท ไปทำอย่างอื่นได้

อัตราส่วนกำลังอัดทั้ง 2 เครื่องเท่ากันที่ 22.0:1 ครับ และสิ่งที่ตัวธรรมดาไม่มี แต่ตัวเทอร์โบมี คือ หัวฉีดน้ำมันเครื่องเข้าที่ใต้ลูกสูบ (Oil Jet Spray) กับฝาปั๊มเทอร์โบครับ อยากทราบว่าตัว Oil Jet Spray นั้นจำเป็นหรือไม่? เครื่องดีเซลที่ใช้ในรถกระบะคอมมอนเรลมีกันทุกรุ่นไหมครับ? ผมเข้าใจว่าถ้าหากติดอินเตอร์คูลเลอร์แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ Oil Jet Spray ก็ได้เพราะอุณหภูมิไอเสียคงไม่สูงเกินไปแล้ว ผมเข้าใจถูกไหมครับ?

อีกเรื่องคือเรื่องฝาปั๊ม ผมไปคุยกับร้านทำปั๊มดีเซลมา เฮียแกบอกว่าไม่ต้องใส่เพิ่มก็ได้สำหรับเครื่องตัวนี้ (OM603) แกมีวิธีทำของแก แต่ตอนที่บูสต์ยังไม่มา อาจมีควันดำเล็กน้อย จริงหรือเปล่า? ดังนั้น Oil Jet Spray กับ ฝาปั๊มเทอร์โบ ยังคงสำคัญอยู่หรือไม่ครับ?

สรุป เอาเครื่องตัวไหนดีครับ (N/A หรือ Turbo)?

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่