เวอร์จิเนีย ฮอลล์ เป็นสายลับอเมริกันหญิงคนแรกที่ได้รับมอบหมายปฏิบัติการลับหลังแนวรบในฝรั่งเศส (Occupied France) โดยเธอทำงานให้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษของอังกฤษ (SOE - Special Operations Executive) และหน่วย OSS ของสหรัฐฯ แม้เธอจะมีความพิการทางร่างกายก็ตาม
.
1. ความมุ่งมั่นเหนือร่างกาย
เวอร์จิเนียประสบอุบัติเหตุล่าสัตว์ในช่วงก่อนสงคราม ทำให้เธอต้อง สูญเสียขาซ้าย และต้องใช้ขาเทียมไม้ ซึ่งเธอตั้งชื่อเล่นให้ว่า "คัทเบิร์ต" (Cuthbert)
กองทัพและหน่วยงานหลายแห่งปฏิเสธเธอเนื่องจากความพิการ แต่เธอมีความมุ่งมั่นแรงกล้า เธอจึงได้รับการฝึกฝนพิเศษและถูกส่งไปยังฝรั่งเศสที่ถูกนาซียึดครองในปี 1941
.
2. การสร้างเครือข่ายใต้ดิน (The "Hekto" Network)
เธอแฝงตัวเป็นนักข่าวของ New York Post ในขณะเดียวกันเวอร์จิเนีย ฮอลล์ สร้างเครือข่ายใต้ดินขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพในฝรั่งเศสตอนใต้ เธอทำหน้าที่หน้าอย่าง เช่น จัดหาบ้านพักปลอดภัย และซ่อนตัวให้แก่สายลับและนักบินที่ถูกยิงตก วางแผนหลบหนี ให้แก่เชลยศึกและสายลับที่ตกอยู่ในอันตราย และส่งข้อมูลข่าวกรองสำคัญไปยังลอนดอน
เธอเป็นที่รู้จักกันในนาม "มาดาม" (La Dame) และเป็นที่รักของชาวฝรั่งเศสต่อต้านนาซีที่เธอช่วยเหลือ
.
3. การไล่ล่าที่ดุเดือด
หน่วยต่อต้านข่าวกรองของเยอรมนี (Gestapo) รู้ว่ามีสายลับหญิงคนหนึ่งที่พิการแต่มีประสิทธิภาพสูงกำลังก่อปัญหาอย่างหนัก พวกเขาทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดเพื่อตามล่าเธอ
เกสตาโปตั้งฉายาให้เธอว่า "ผู้หญิงขาเป๋" (The Limping Lady) และ Klaus Barbie (เจ้าหน้าที่เกสตาโปผู้โหดเหี้ยม) ถึงกับออกคำสั่งภายในว่า "เธอเป็นสายลับฝ่ายสัมพันธมิตรที่อันตรายที่สุดที่เรามี เธอจะต้องถูกค้นพบและถูกจับในทันที"
เมื่อสถานการณ์อันตรายเกินไปในปี 1942 เวอร์จิเนียตัดสินใจหลบหนีโดย เดินข้ามเทือกเขาพิเรนีส (Pyrenees) ที่เต็มไปด้วยหิมะเพื่อเข้าสู่สเปน การเดินทางข้ามภูเขาในฤดูหนาวด้วยขาเทียมไม้นั้นเป็นภารกิจที่ยากลำบากอย่างยิ่ง แต่เธอก็ทำสำเร็จ
.
4. กลับสู่สนามรบ
ในปี 1944 เธอได้รับการฝึกและกลับเข้าสู่ฝรั่งเศสอีกครั้งภายใต้การดูแลของ OSS โดยปลอมตัวเป็นหญิงชราเลี้ยงวัว
เธอมีบทบาทสำคัญในช่วง D-Day โดยกลับมาสร้างเครือข่ายใหม่และฝึกฝนกองกำลังต่อต้านฝรั่งเศส (Maquis) ให้พร้อมสำหรับการสนับสนุนการบุกนอร์มังดี เธอรับผิดชอบในการลอบทำลายเส้นทางรถไฟและสะพาน เพื่อขัดขวางการเคลื่อนกำลังเสริมของเยอรมนี
.
เวอร์จิเนีย ฮอลล์ ได้รับเหรียญ Distinguished Service Cross (DSC) ซึ่งเป็นเหรียญกล้าหาญสูงสุดอันดับสองของกองทัพสหรัฐฯ และเธอเป็นพลเรือนหญิงเพียงคนเดียวที่ได้รับเหรียญนี้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าความพิการทางกายไม่ใช่ข้อจำกัดในการเป็นวีรบุรุษครับ
วีรกรรมของเวอร์จิเนีย ฮอลล์ น่าทึ่งมากครับ
ขอขอบคุณเพจตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่องจากเฟซบุ๊คที่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลนะครับ
ตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่อง
👩🦰 วีรสตรีผู้พิการ: เวอร์จิเนีย ฮอลล์ (Virginia Hall - The Limping Lady)
.
1. ความมุ่งมั่นเหนือร่างกาย
เวอร์จิเนียประสบอุบัติเหตุล่าสัตว์ในช่วงก่อนสงคราม ทำให้เธอต้อง สูญเสียขาซ้าย และต้องใช้ขาเทียมไม้ ซึ่งเธอตั้งชื่อเล่นให้ว่า "คัทเบิร์ต" (Cuthbert)
กองทัพและหน่วยงานหลายแห่งปฏิเสธเธอเนื่องจากความพิการ แต่เธอมีความมุ่งมั่นแรงกล้า เธอจึงได้รับการฝึกฝนพิเศษและถูกส่งไปยังฝรั่งเศสที่ถูกนาซียึดครองในปี 1941
.
2. การสร้างเครือข่ายใต้ดิน (The "Hekto" Network)
เธอแฝงตัวเป็นนักข่าวของ New York Post ในขณะเดียวกันเวอร์จิเนีย ฮอลล์ สร้างเครือข่ายใต้ดินขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพในฝรั่งเศสตอนใต้ เธอทำหน้าที่หน้าอย่าง เช่น จัดหาบ้านพักปลอดภัย และซ่อนตัวให้แก่สายลับและนักบินที่ถูกยิงตก วางแผนหลบหนี ให้แก่เชลยศึกและสายลับที่ตกอยู่ในอันตราย และส่งข้อมูลข่าวกรองสำคัญไปยังลอนดอน
เธอเป็นที่รู้จักกันในนาม "มาดาม" (La Dame) และเป็นที่รักของชาวฝรั่งเศสต่อต้านนาซีที่เธอช่วยเหลือ
.
3. การไล่ล่าที่ดุเดือด
หน่วยต่อต้านข่าวกรองของเยอรมนี (Gestapo) รู้ว่ามีสายลับหญิงคนหนึ่งที่พิการแต่มีประสิทธิภาพสูงกำลังก่อปัญหาอย่างหนัก พวกเขาทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดเพื่อตามล่าเธอ
เกสตาโปตั้งฉายาให้เธอว่า "ผู้หญิงขาเป๋" (The Limping Lady) และ Klaus Barbie (เจ้าหน้าที่เกสตาโปผู้โหดเหี้ยม) ถึงกับออกคำสั่งภายในว่า "เธอเป็นสายลับฝ่ายสัมพันธมิตรที่อันตรายที่สุดที่เรามี เธอจะต้องถูกค้นพบและถูกจับในทันที"
เมื่อสถานการณ์อันตรายเกินไปในปี 1942 เวอร์จิเนียตัดสินใจหลบหนีโดย เดินข้ามเทือกเขาพิเรนีส (Pyrenees) ที่เต็มไปด้วยหิมะเพื่อเข้าสู่สเปน การเดินทางข้ามภูเขาในฤดูหนาวด้วยขาเทียมไม้นั้นเป็นภารกิจที่ยากลำบากอย่างยิ่ง แต่เธอก็ทำสำเร็จ
.
4. กลับสู่สนามรบ
ในปี 1944 เธอได้รับการฝึกและกลับเข้าสู่ฝรั่งเศสอีกครั้งภายใต้การดูแลของ OSS โดยปลอมตัวเป็นหญิงชราเลี้ยงวัว
เธอมีบทบาทสำคัญในช่วง D-Day โดยกลับมาสร้างเครือข่ายใหม่และฝึกฝนกองกำลังต่อต้านฝรั่งเศส (Maquis) ให้พร้อมสำหรับการสนับสนุนการบุกนอร์มังดี เธอรับผิดชอบในการลอบทำลายเส้นทางรถไฟและสะพาน เพื่อขัดขวางการเคลื่อนกำลังเสริมของเยอรมนี
.
เวอร์จิเนีย ฮอลล์ ได้รับเหรียญ Distinguished Service Cross (DSC) ซึ่งเป็นเหรียญกล้าหาญสูงสุดอันดับสองของกองทัพสหรัฐฯ และเธอเป็นพลเรือนหญิงเพียงคนเดียวที่ได้รับเหรียญนี้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นการพิสูจน์ว่าความพิการทางกายไม่ใช่ข้อจำกัดในการเป็นวีรบุรุษครับ
วีรกรรมของเวอร์จิเนีย ฮอลล์ น่าทึ่งมากครับ
ขอขอบคุณเพจตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่องจากเฟซบุ๊คที่อนุญาตให้เผยแพร่ข้อมูลนะครับ
ตู้หนังสือเก่าเล่าเรื่อง