ยาสีพันกัมมันตภาพรังสี

.
 
.
Doramad Radioactive Toothpaste
©  Museum of Radium
.
ในช่วงปลายปี ค.ศ. 1943
ขณะที่โครงการ Manhattan Project
กำลังเดินหน้าอยู่ ทีมสายลับสหรัฐอเมริกา
ก็ถูกส่งตัวไปยังยุโรป เพื่อรวบรวมข้อมูลว่า
พวกนาซีเยอรมันพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์
คืบหน้าไปถึงไหน/อย่างไรบ้าง

.
 
.
สมาชิกทีมสายลับ Alsos mission
สืบเสาะอยู่ไม่นานก็รู้ถึงความผิดปกติ
มีบริษัทเคมีสัญชาติเยอรมัน
ชื่อ Auergesellschaft ได้จัดส่ง Thorium
จำนวนมหาศาลไปยังเยอรมนี
ข่าวกรองดังกล่าวทำให้ฝ่ายพันธมิตรหวาดกลัว
เพราะคาดว่าการวิจัยปรมาณูของเยอรมัน
คงก้าวหน้าไปไกลกว่าที่คาดคิดไว้
เพราะ Thorium สามารถนำมาใช้ใน
โครงการระเบิดปรมาณูได้
ถ้างานวิจัยก้าวหน้าของพวกนาซีเยอรมัน
ก้าวหน้าไปสู่ระดับสูงแล้ว
.
 
.
 
.
ทีมนักวิจัยสหราชอาณาจักรกับสหรัฐอเมริกา
ในยุทธการ Alsos Mission กำลังตรวจสอบ
เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ของเยอรมัน
ในโครงการ  Haigerloch
.
 
.
 
.
 
.
ในที่สุดสายลับสหรัฐอเมริกา
ก็จับตัวแทนของบริษัทเคมีของเยอรมัน
ชื่อ Herr Doktor Petersen
(Herr นาย Doktor แพทย์ Petersen)
พร้อมกับกระเป๋าเดินทาง/เอกสาร
ทีมสายลับ Alsos รู้สึกรื่นเริงมาก

“ นี่คือนักโทษ Alsos Mission
ตัวจริงเสียงจริงคนแรกของเรา
เราตั้งความหวังไว้สูงว่า ในที่สุด
เราก็พบใครสักคนที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ
โครงการยูเรเนียมของเยอรมัน ”
Samuel Goudsmit  นักฟิสิกส์ชาวดัตช์
สมาชิกทีมสายลับ Alsos กล่าวเรื่องนี้
.
 
.
พวกสายลับอเมริกันยังสอบสวนเหยื่อรายสำคัญ
กินเวลาหลายชั่วโมงในห้องพักโรงแรมที่ปารีส
แต่ประสบความสำเร็จเพียงเล็กน้อย
“ เขาอาจซ่อนอะไรบางอย่างไว้
หรือไม่ก็ไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไร ”
Samuel Goudsmit เขียนระบุไว้

เมื่อรู้สึกผิดหวังกับการสอบสวน
ที่ไม่มีอะไรคืบหน้าเลย
Samuel Goudsmit  จึงเริ่มศึกษา
เอกสารจำนวนมากในกระเป๋าเดินทางของ
Herr Doktor Petersen 
ซึ่งก็เหมือนกับชาวเยอรมันส่วนใหญ่
ที่มักเป็นคนที่มีเจ้าระบบระเบียบมาก
มีการบันทึกทุกอย่างไว้ในช่วงเดินทาง
ทั้งยังพบ ตั๋วรถรางแสดงให้เห็นว่า
Petersen เคยอยู่ที่เบอร์ลินเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
และใบเสร็จโรงแรมแสดงให้เห็นว่า
Petersen เคยเดินทางไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ของ
Hechingen ทางตอนใต้ของเยอรมนี
ซึ่งสถาบันฟิสิกส์ Kaiser Wilhelm
ถูกย้ายไปที่นั่นในปี 1943
เพื่อหลบหนีการทิ้งระเบิดของฝ่ายศัตรู
.
 
.
 
.
ทีมงาน Alsos เชื่อว่า Herr Doktor Petersen
เดินทางไปที่ Hechingen เพื่อเยี่ยมชม
โครงการวิจัยนิวเคลียร์ของเยอรมัน
แต่ Herr Doktor Petersen สาบานว่า
ได้ไปที่นั่นเพื่อเยี่ยมแม่ของตนเท่านั้น
ผลการสอบสวนก็พบว่าแม่ของเชลย
อาศัยอยู่ใน Hechingen จริง ๆ

ทีมสายลับ Alsos ยังไม่พอใจจึงซักถามเพิ่มเติม
และศึกษาเอกสารอย่างระมัดระวังมากขึ้น
ในที่สุด การทำงานอย่างหนักของทีมสายลับ
ก็ได้รับผลตอบแทนเป็นรางวัล
และค้นพบเหตุผลที่แท้จริงว่า
ทำไม Auergesellschaft จึงส่ง Thorium
จำนวนมากไปยังเยอรมนี
ทั้งนี้เพื่อผลิตยาสีฟัน

เจ้าหน้าที่ของบริษัทตระหนักรู้ดีว่า
สงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้จะสิ้นสุดลง
และเริ่มกังวลว่าจะไม่สามารถสร้างรายได้
จากการผลิตอุปกรณ์ในยามสงคราม
เช่น หน้ากากป้องกันแก๊สพิษ
หรือคาร์บอนสำหรับไฟฉาย อีกต่อไป
จึงได้ข้อสรุปว่า หลังจากสงครามสิ้นสุดลง
ชาวบ้านจะใช้เงินจำนวนมากใช้จ่ายไปกับ
เครื่องสำอางและสินค้าอุปโภคบริโภค

เจ้าหน้าที่ของ Auergesellschaft
จึงวางแผนที่จะผลิตยาสีฟันผสม Thorium
จากข้อมูลของ Samuel Goudsmit ระบุว่า
บริษัทประทับใจวิธีการโฆษณาแบบอเมริกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโปรโมตยาสีฟัน
Pepsodent ซึ่งโฆษณาว่า
ยาสีฟันมีส่วนผสมของ Irium
แต่ที่มีในวิทยาศาสตร์คือ Iridium

แม้ว่า Pepsodent จะมีการเปิดเผย
ในภายหลังว่าไม่มีส่วนผสม Irium เลย
เพื่อให้แน่ใจว่ากิจการจะประสบความสำเร็จ
บริษัท Auergesellschaft จึงพยายาม
ที่จะผูกขาดแร่ Thorium ทั้งหมด
โดยจัดซื้อจัดหามาให้ได้มากที่สุด
เพื่อใช้ผลิตยาสีฟัน Thorium
นั้นคือ คำตอบว่า Thorium
ทั้งหมดของฝรั่งเศสไปอยู่ที่ใด
.
 
.
©  Suit/Wikimedia
.
 
.
 
.
ยาสีฟัน Thorium ที่บริษัทผลิตขึ้นมา
มีเครื่องหมายการค้าว่า
Doramad Radioactive Toothpaste
เพราะมีส่วนผสมกัมมันตภาพรังสี
มีคุณสมบัติ ใช้ในการบำรุงรักษา
และเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
รวมถึง การต้านเชื้อแบคทีเรีย
และมีส่วนร่วมในการเสริมสร้าง
การป้องกันฟันและเหงือก

ในเวลานั้นคนเรายังไม่เข้าใจถึง
อันตรายของกัมมันตภาพรังสี
กัมมันตภาพรังสีมักได้รับการส่งเสริม
ใช้เป็นยารักษาโรคทุกประเภท
มักจะนำมาผลิตยา/การบำบัดรักษา
โดยใช้กัมมันภาพรังสี
มีสินค้าที่ผลิตออกมาหลายชนิด
เช่น น้ำดื่มที่ผสม Radon และ Radithor
ซึ่ง Ebenezer Byers ผู้เคราะห์ร้าย
ใช้เวลาดื่มกินนาน 3 ปีกว่า
ก่อนพบว่า กรามจะหลุดออกมา
เพราะพิษภัยของกัมมันตภาพรังสี
.
.
.
.
.
กัมมันตภาพรังสีกลายเป็นวาระแห่งชาติ
ทำให้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจำนวนมาก
หายไปจากท้องตลาดแล้วในทุกวันนี้

ในรายงานปี 2021
BBC เผยแพร่ว่าทางการเนเธอร์แลนด์
พบสร้อยคอป้องกัน 5 G จำนวนหนึ่ง
ที่ปล่อยรังสี Ionizing radiation
ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพคนใช้
สร้อยคอเหล่านี้เป็นที่นิยมกันมาก
ในหมู่นักเคลื่อนไหวที่ต่อต้าน 5G
ต่างสวมใส่ไว้ประจำตัว
เพื่อต่อสู้กับรังสีที่เป็นอันตรายของ
ผู้ให้บริการมือถือ/เครือข่าย 5G
ซึ่งบรรดาผู้ประท้วง 5G
ช่างคิดช่างประชดประชันดีเหลือเกิน
 .
.
.
.
เรียบเรียง/ที่มา

https://bit.ly/3CcjSIZ


.
เรื่องเดิม
.
.
.

.
.
.

.
.
.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่