สวัสดีคะทุกคน เราอยากมาแชร์ประสบการณ์การตกเครื่องที่ตะวันออกกลาง เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลให้หลายๆคน ถ้าหากวันนึงประสบพบเจอเหตุการณ์แบบเรา และเลือกความคุ้มครองของประกันภัยการเดินทางที่เหมาะกับเหตุการณ์นี้
เริ่มเลย.....
เหตุเกิดตุลาคม 2025 ดิฉันเดินทางไปหาคุณแฟนที่เนเธอร์แลนด์ โดยสายการบินแห่งนึงในตะวันออกกลาง ออกจากไทย 10.05 น. ถึงอาบูดาบี 13.05 น. และต่อเครื่องไปอัมสเตอร์ดัม 14.05 น.ใช้เวลาในการ Transfer 1 ชั่วโมง และความสนุกก็ได้เริ่มขึ้น....
เครื่อง take off จากไทยตรงเวลา ดิฉันก็กิน นอน หลับๆตื่นๆ และตื่นอีกครั้งตอนเครื่องลดระดับลงและกัปตันประกาศให้นั่งประจำที่ เตรียมตัวทำการลงจอด สะลืมสะลือยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู 13.15 น. เหย!!! Boarding time ไฟล์ทต่อไป 13.10 น. เครื่องยังไม่ได้ลงจอดเลย ตอนนั้นตกใจ หันไปดูรอบข้าง ทุกคนก็เริ่มขยับ เลิ่กลั่ก มองออกไปนอกหน้าต่าง และเครื่องก็ได้ลงจอด 13.23 น. เสียงปลดเข็มขัดก็ดังขึ้นพร้อมกัน แต่! เครื่องบินก็ยังคงวิ่งอยู่บนรันเวย์ ทุกคนเริ่มมองไปที่ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ เวลา 13.34 น.เครื่องจอดสนิทและประตูเปิด จากนั้น 13.37 น.ทุกคนวิ่ง เครื่องจอดที่ gate A แต่เครื่องที่ต้องต่อจอดที่ C 29 บอกเลยคะว่าวิ่งไกลมากและเหนื่อยมาก และจาก A ไป C ต้องผ่าน security check 1 จุด(เป็นตัวถ่วงเวลาที่ดี ผู้โดยสารหลายคนต้องเสียเวลาที่จุดนี้เป็นจำนวนมาก) มีหนุ่มน้อยฝรั่งวิ่งไปถึงก่อน ดิฉันวิ่งไปถึงตอน 13.47 น. แต่ไม่มีใครสามารถขึ้นเครื่องที่จอดอยู่ตรงหน้าได้เพราะ gate ปิดตั้งแต่ 13.35 น. ทุกอย่างก็เริ่มวุ่นวาย ฝรั่งส่วนมากก็โวยวาย เราเองก็ยืนงง ทุกคนอยู่ในความช็อค จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่พาผู้โดยสารที่ตกเครื่องทั้งหมดไปที่ transfer service
กลายเป็นว่าผู้โดยสารที่มาต่อเครื่องทั้งหมดตกเครื่อง ของเราต้องรอไฟล์ทต่อไปอีก 24 ชั่วโมง มีพี่คนไทยจะไปปารีสกับโรม รอไฟล์ทต่อไปอีก 10 ชั่วโมง ทางสายการบินเสนอให้ไปพักที่โรงแรม แต่พวกพี่ๆเลือกที่จะรอที่สนามบิน ของเราไม่มีทางเลือก ต้องไปพักที่โรงแรมเท่านั้น
หลังจากเคลมตั๋วใหม่ได้แล้ว ผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางยุโรป ก็ทยอยออกไปที่โรงแรมกัน แต่หนังสือเดินทางไทย ต้องรอวีซ่าเข้าเมืองนะจ๊ะ รอตั้งแต่ 14.00 น. รอไปเรื่อยๆ ระหว่างที่รอวีซ่าออก ทางสายการบินก็แนะนำให้ไปทานอาหารรอ ก็มีให้เลือกหลายร้านคะ
คิดในใจว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ ก็คงต้องกินย้อมใจ ก็เลยเลือกร้าน Todd English ซึ่งทั้งหมดนี้สายการบินเป็นผู้รับผิดชอบ โดยใช้ตั๋วโดยสารเก่าและใหม่ยื่นให้ทางร้านสแกนสิทธิ
พอกินเสร็จ ก็เดินกลับมานั่งรอ เอนรอ ยืนรอ เดินรอที่ transfer service
รอจนถึง 19.00 น. ก็มีเจ้าหน้าที่เดินนำหนังสือเดินทางมาให้ และก็โชว์หน้าจอโทรศัพท์ให้เราอ่าน ในใจนึกว่า "ยังไม่จบขั้นตอนใช่ไหมแบบนี้"
เราต้องเดินไปที่ชั้น 3 ตรงเคาท์เตอร์ ใกล้กับ Row C เพื่อติดต่อเรื่อง Taxi จากสนามบินไปส่งที่โรงแรม Cristal Hotel Abu Dhabi โดยที่ไม่สามารถเอากระเป๋าเดินทางออกไปด้วยได้ ทางสายการบินบอกว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถูกส่งไปรอที่ไฟล์ทใหม่ในวันพรุ่งนี้
พอไปถึงก็นั่งรอเจ้าหน้าที่เขียนเอกสารส่งตัว ประมาณ 20 นาที ต้องถือใบนี้ไปยื่นให้กับ Taxi สีดำเท่านั้น เขากำชับว่าสีดำ 😁
พอได้เอกสารมาแล้ว ก็ดิ่งไปที่ Taxi สีดำทันที มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือตลอดเส้นทาง ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนคือ เจ้าหน้าที่ในสนามบินนี้มีจำนวนมากและให้ความช่วยเหลือตลอด ถามอะไรก็ตอบหมด
จากสนามบินไปที่โรมแรม Cristal Hotel Abu Dhabi ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที คุณพระช่วย! คนขับซิ่งมาก ใช้ความเร็ว 140-150 km/h หัวใจจะวาย
และแล้วก็ได้เข้าห้องพัก ตอน 20.50 น. 7 ชั่วโมงแห่งการรอคอยที่แสนจะยาวนานได้จบลง พอหัวถึงหมอนก็หลับในทันที วันรุ่งขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ทุกคนก็ลงมารอที่ล็อบบี้ เวลา 11.00 น. ทางสายการบินก็ได้ส่งรถบัสมารับ เตรียมตัวบินสู่จุดหมายปลายทางของเรา
ความพีคได้เริ่มต้นขึ้น เราได้ส่งขอความช่วยเหลือจากสายการบิน เรื่องขอใบยืนยันการดีเลย์ โดยระบุว่าเราจะไปเคลมกับประกันภัยการเดินทางของเราที่ประเทศไทย ส่งไปตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม จนกระทั่งเดินทางกลับถึงไทย วันที่ 5 พฤศจิกายน ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ แต่ในระหว่างที่อยู่ที่เนเธอร์แลนด์ก็ให้คุณฝรั่งช่วยส่งเมลล์ขอเอกสารให้อีกทาง แต่ก็ยังเงียบอยู่ ใจมันเริ่มร้อน เพราะต้องรีบส่งเอกสารเคลมให้ประกัน เลยโทรไปที่ call center ของสายการบิน โทรไป 4 ครั้ง ได้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าให้เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของสายการบิน เลื่อนลงไปที่ล่างสุดแล้วคลิ๊ก feedback เลือก flight delayed ระบุว่าขอเอกสารยืนยันจากสายการบิน เพื่อเคลมประกันที่ไทย ส่งไป 3 รอบ กลัวเขาไม่ใส่ใจ ในระหว่างที่รอเอกสารจากสายการบินก็ส่งเอกสารตัวอื่นๆไปให้กับประกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางเราเลือกความคุ้มครอง flight delay 1,000 บาท ทุกๆ 6 ชั่วโมง แต่ดันไม่เลือก missed connecting flight
3-4 วันต่อมา ได้รับการตอบกลับจากการส่งเมลล์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ในข้อความตอบกลับประมาณว่า "ขอโทษที่ทำให้การเดินทางของคุณต้องหยุดชะงัก ทางเราไม่สามารถจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับคุณได้ เราได้ทำการดูแลผู้โดยสารตามสิทธิพื้นฐานที่ต้องได้รับ ให้คุณไปเรียกร้องค่าชดเชยต่างๆกับทางประกันเอง" ทางเราก็งงหนักมาก ก็แจ้งไปว่าขอเอกสารเพื่อจะไปเคลมกับประกันที่ไทย ไม่ได้ต้องการค่าชดเชยจากสายการบินเพราะรู้ว่าเรียกไม่ได้แน่ๆ ก็เลยตั้งสติ สูดลมหายใจให้เต็มปอด แล้วตอบกลับไปอย่างใจเย็นและอธิบายแบบละเอียดยิบว่า
Dear Etihad Airways Customer Service,
Thank you for your response.
I would like to clarify that I am not requesting compensation from Etihad Airways. My travel insurance provider requires an official letter from the airline confirming the delay, including:
The actual delay duration of flight EY405 on 10 October 2025
The reason for the delay (e.g., air traffic restrictions)
This document is necessary for me to proceed with my insurance claim.
I would be grateful if you could issue a formal confirmation letter (PDF or email) that includes the above details.
Thank you very much for your assistance, and I look forward to your reply.
Kind regards
แล้วก็รอแบบใจจดใจจ่อ อีกสัปดาห์ต่อมาก็มี PDF file จากสายการบินส่งมา ดีใจแทบบ้า เปิดอ่านแล้วแทบเป็นลม ในจดหมายระบุสาเหตุของเที่ยวบินล่าช้า คือ Air traffic restrictions ในใจนึกว่าประกันจะมองยังไงนะ จะให้มั้ยนะ ไอ้เราก็ไม่อยากจะถึงเนเธอร์แลนด์ช้า แม้ว่าจะได้กินหรูอยู่ฟรี แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากจะบินต่อทันที ไม่ต้องการของฟรีแบบนี้
พอส่งไปให้ประกันปุ๊บ ได้เอกสารกลับมาปั๊บว่า ไม่เข้าเงื่อนไขผลประโยชน์การล่าช้าของเที่ยวบิน คอตกเลยคะ ในใจเกิดคำถามว่า ฉันผิดตรงไหน ฉันอยากไปหาผู้ชาย ไม่ได้อยากเป็นมาดาม UAE ฉันไม่ได้อยากได้กินหรูอยู่ฟรี ฉันเสียเวลาลั๊นล๊ากับผู้ชาย 24 ชั่วโมงเต็มๆ ตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ในใจไม่ยอมแพ้ เตรียมหาข้อมูลคำนิยามของ Air traffic restrictions เพื่อจะอุทธรณ์กับประกันอีกครั้ง
2 วันต่อมา ปรากฏว่าประกันส่งเมลล์มาบอกว่า ผู้บริหารพิจารณาอนุโลมจ่ายในผลประโยชน์เที่ยวบินล่าช้าให้แก่ท่าน กรี๊ดซิคะ รออะไร ดีใจเหมือนถูกหวย และก็ได้รับเงินโอนในวันถัดไป โอนไวมากๆ
เรื่องนี้ได้อะไร?
1. ได้เห็นการรับผิดชอบของสายการบินที่ดำเนินการให้กับผู้โดยสารที่ตกเครื่อง
2. ระบบหลังบ้านของสายการบิน ถ้าอยากได้เอกสารจากเขา ต้องทำอย่างไร
3. ถ้าคุณเลือก transfer 1-1.30 ชั่วโมง คุณควรเลือกความคุ้มครองการล่าช้าของเครื่องบินและการพลาดการต่อเครื่อง
4. ได้ประสบการณ์ที่จะจำไปตลอดชีวิต
ประสบการณ์การตกเครื่องที่ตะวันออกกลาง กับสิ่งที่ได้รับจากสายการบิน และการเคลมประกันภัยการเดินทาง
เริ่มเลย.....
เหตุเกิดตุลาคม 2025 ดิฉันเดินทางไปหาคุณแฟนที่เนเธอร์แลนด์ โดยสายการบินแห่งนึงในตะวันออกกลาง ออกจากไทย 10.05 น. ถึงอาบูดาบี 13.05 น. และต่อเครื่องไปอัมสเตอร์ดัม 14.05 น.ใช้เวลาในการ Transfer 1 ชั่วโมง และความสนุกก็ได้เริ่มขึ้น....
เครื่อง take off จากไทยตรงเวลา ดิฉันก็กิน นอน หลับๆตื่นๆ และตื่นอีกครั้งตอนเครื่องลดระดับลงและกัปตันประกาศให้นั่งประจำที่ เตรียมตัวทำการลงจอด สะลืมสะลือยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู 13.15 น. เหย!!! Boarding time ไฟล์ทต่อไป 13.10 น. เครื่องยังไม่ได้ลงจอดเลย ตอนนั้นตกใจ หันไปดูรอบข้าง ทุกคนก็เริ่มขยับ เลิ่กลั่ก มองออกไปนอกหน้าต่าง และเครื่องก็ได้ลงจอด 13.23 น. เสียงปลดเข็มขัดก็ดังขึ้นพร้อมกัน แต่! เครื่องบินก็ยังคงวิ่งอยู่บนรันเวย์ ทุกคนเริ่มมองไปที่ช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ เวลา 13.34 น.เครื่องจอดสนิทและประตูเปิด จากนั้น 13.37 น.ทุกคนวิ่ง เครื่องจอดที่ gate A แต่เครื่องที่ต้องต่อจอดที่ C 29 บอกเลยคะว่าวิ่งไกลมากและเหนื่อยมาก และจาก A ไป C ต้องผ่าน security check 1 จุด(เป็นตัวถ่วงเวลาที่ดี ผู้โดยสารหลายคนต้องเสียเวลาที่จุดนี้เป็นจำนวนมาก) มีหนุ่มน้อยฝรั่งวิ่งไปถึงก่อน ดิฉันวิ่งไปถึงตอน 13.47 น. แต่ไม่มีใครสามารถขึ้นเครื่องที่จอดอยู่ตรงหน้าได้เพราะ gate ปิดตั้งแต่ 13.35 น. ทุกอย่างก็เริ่มวุ่นวาย ฝรั่งส่วนมากก็โวยวาย เราเองก็ยืนงง ทุกคนอยู่ในความช็อค จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่พาผู้โดยสารที่ตกเครื่องทั้งหมดไปที่ transfer service
กลายเป็นว่าผู้โดยสารที่มาต่อเครื่องทั้งหมดตกเครื่อง ของเราต้องรอไฟล์ทต่อไปอีก 24 ชั่วโมง มีพี่คนไทยจะไปปารีสกับโรม รอไฟล์ทต่อไปอีก 10 ชั่วโมง ทางสายการบินเสนอให้ไปพักที่โรงแรม แต่พวกพี่ๆเลือกที่จะรอที่สนามบิน ของเราไม่มีทางเลือก ต้องไปพักที่โรงแรมเท่านั้น
หลังจากเคลมตั๋วใหม่ได้แล้ว ผู้โดยสารที่ถือหนังสือเดินทางยุโรป ก็ทยอยออกไปที่โรงแรมกัน แต่หนังสือเดินทางไทย ต้องรอวีซ่าเข้าเมืองนะจ๊ะ รอตั้งแต่ 14.00 น. รอไปเรื่อยๆ ระหว่างที่รอวีซ่าออก ทางสายการบินก็แนะนำให้ไปทานอาหารรอ ก็มีให้เลือกหลายร้านคะ
คิดในใจว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ ก็คงต้องกินย้อมใจ ก็เลยเลือกร้าน Todd English ซึ่งทั้งหมดนี้สายการบินเป็นผู้รับผิดชอบ โดยใช้ตั๋วโดยสารเก่าและใหม่ยื่นให้ทางร้านสแกนสิทธิ
พอกินเสร็จ ก็เดินกลับมานั่งรอ เอนรอ ยืนรอ เดินรอที่ transfer service
รอจนถึง 19.00 น. ก็มีเจ้าหน้าที่เดินนำหนังสือเดินทางมาให้ และก็โชว์หน้าจอโทรศัพท์ให้เราอ่าน ในใจนึกว่า "ยังไม่จบขั้นตอนใช่ไหมแบบนี้"
เราต้องเดินไปที่ชั้น 3 ตรงเคาท์เตอร์ ใกล้กับ Row C เพื่อติดต่อเรื่อง Taxi จากสนามบินไปส่งที่โรงแรม Cristal Hotel Abu Dhabi โดยที่ไม่สามารถเอากระเป๋าเดินทางออกไปด้วยได้ ทางสายการบินบอกว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถูกส่งไปรอที่ไฟล์ทใหม่ในวันพรุ่งนี้
พอไปถึงก็นั่งรอเจ้าหน้าที่เขียนเอกสารส่งตัว ประมาณ 20 นาที ต้องถือใบนี้ไปยื่นให้กับ Taxi สีดำเท่านั้น เขากำชับว่าสีดำ 😁
พอได้เอกสารมาแล้ว ก็ดิ่งไปที่ Taxi สีดำทันที มีเจ้าหน้าที่คอยช่วยเหลือตลอดเส้นทาง ข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนคือ เจ้าหน้าที่ในสนามบินนี้มีจำนวนมากและให้ความช่วยเหลือตลอด ถามอะไรก็ตอบหมด
จากสนามบินไปที่โรมแรม Cristal Hotel Abu Dhabi ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที คุณพระช่วย! คนขับซิ่งมาก ใช้ความเร็ว 140-150 km/h หัวใจจะวาย
และแล้วก็ได้เข้าห้องพัก ตอน 20.50 น. 7 ชั่วโมงแห่งการรอคอยที่แสนจะยาวนานได้จบลง พอหัวถึงหมอนก็หลับในทันที วันรุ่งขึ้นหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ ทุกคนก็ลงมารอที่ล็อบบี้ เวลา 11.00 น. ทางสายการบินก็ได้ส่งรถบัสมารับ เตรียมตัวบินสู่จุดหมายปลายทางของเรา
ความพีคได้เริ่มต้นขึ้น เราได้ส่งขอความช่วยเหลือจากสายการบิน เรื่องขอใบยืนยันการดีเลย์ โดยระบุว่าเราจะไปเคลมกับประกันภัยการเดินทางของเราที่ประเทศไทย ส่งไปตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม จนกระทั่งเดินทางกลับถึงไทย วันที่ 5 พฤศจิกายน ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ แต่ในระหว่างที่อยู่ที่เนเธอร์แลนด์ก็ให้คุณฝรั่งช่วยส่งเมลล์ขอเอกสารให้อีกทาง แต่ก็ยังเงียบอยู่ ใจมันเริ่มร้อน เพราะต้องรีบส่งเอกสารเคลมให้ประกัน เลยโทรไปที่ call center ของสายการบิน โทรไป 4 ครั้ง ได้คำแนะนำเพิ่มเติมว่าให้เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ของสายการบิน เลื่อนลงไปที่ล่างสุดแล้วคลิ๊ก feedback เลือก flight delayed ระบุว่าขอเอกสารยืนยันจากสายการบิน เพื่อเคลมประกันที่ไทย ส่งไป 3 รอบ กลัวเขาไม่ใส่ใจ ในระหว่างที่รอเอกสารจากสายการบินก็ส่งเอกสารตัวอื่นๆไปให้กับประกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางเราเลือกความคุ้มครอง flight delay 1,000 บาท ทุกๆ 6 ชั่วโมง แต่ดันไม่เลือก missed connecting flight
3-4 วันต่อมา ได้รับการตอบกลับจากการส่งเมลล์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ในข้อความตอบกลับประมาณว่า "ขอโทษที่ทำให้การเดินทางของคุณต้องหยุดชะงัก ทางเราไม่สามารถจ่ายเงินค่าชดเชยให้กับคุณได้ เราได้ทำการดูแลผู้โดยสารตามสิทธิพื้นฐานที่ต้องได้รับ ให้คุณไปเรียกร้องค่าชดเชยต่างๆกับทางประกันเอง" ทางเราก็งงหนักมาก ก็แจ้งไปว่าขอเอกสารเพื่อจะไปเคลมกับประกันที่ไทย ไม่ได้ต้องการค่าชดเชยจากสายการบินเพราะรู้ว่าเรียกไม่ได้แน่ๆ ก็เลยตั้งสติ สูดลมหายใจให้เต็มปอด แล้วตอบกลับไปอย่างใจเย็นและอธิบายแบบละเอียดยิบว่า
Dear Etihad Airways Customer Service,
Thank you for your response.
I would like to clarify that I am not requesting compensation from Etihad Airways. My travel insurance provider requires an official letter from the airline confirming the delay, including:
The actual delay duration of flight EY405 on 10 October 2025
The reason for the delay (e.g., air traffic restrictions)
This document is necessary for me to proceed with my insurance claim.
I would be grateful if you could issue a formal confirmation letter (PDF or email) that includes the above details.
Thank you very much for your assistance, and I look forward to your reply.
Kind regards
แล้วก็รอแบบใจจดใจจ่อ อีกสัปดาห์ต่อมาก็มี PDF file จากสายการบินส่งมา ดีใจแทบบ้า เปิดอ่านแล้วแทบเป็นลม ในจดหมายระบุสาเหตุของเที่ยวบินล่าช้า คือ Air traffic restrictions ในใจนึกว่าประกันจะมองยังไงนะ จะให้มั้ยนะ ไอ้เราก็ไม่อยากจะถึงเนเธอร์แลนด์ช้า แม้ว่าจะได้กินหรูอยู่ฟรี แต่ถ้าเลือกได้ก็อยากจะบินต่อทันที ไม่ต้องการของฟรีแบบนี้
พอส่งไปให้ประกันปุ๊บ ได้เอกสารกลับมาปั๊บว่า ไม่เข้าเงื่อนไขผลประโยชน์การล่าช้าของเที่ยวบิน คอตกเลยคะ ในใจเกิดคำถามว่า ฉันผิดตรงไหน ฉันอยากไปหาผู้ชาย ไม่ได้อยากเป็นมาดาม UAE ฉันไม่ได้อยากได้กินหรูอยู่ฟรี ฉันเสียเวลาลั๊นล๊ากับผู้ชาย 24 ชั่วโมงเต็มๆ ตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ได้ แต่ในใจไม่ยอมแพ้ เตรียมหาข้อมูลคำนิยามของ Air traffic restrictions เพื่อจะอุทธรณ์กับประกันอีกครั้ง
2 วันต่อมา ปรากฏว่าประกันส่งเมลล์มาบอกว่า ผู้บริหารพิจารณาอนุโลมจ่ายในผลประโยชน์เที่ยวบินล่าช้าให้แก่ท่าน กรี๊ดซิคะ รออะไร ดีใจเหมือนถูกหวย และก็ได้รับเงินโอนในวันถัดไป โอนไวมากๆ
เรื่องนี้ได้อะไร?
1. ได้เห็นการรับผิดชอบของสายการบินที่ดำเนินการให้กับผู้โดยสารที่ตกเครื่อง
2. ระบบหลังบ้านของสายการบิน ถ้าอยากได้เอกสารจากเขา ต้องทำอย่างไร
3. ถ้าคุณเลือก transfer 1-1.30 ชั่วโมง คุณควรเลือกความคุ้มครองการล่าช้าของเครื่องบินและการพลาดการต่อเครื่อง
4. ได้ประสบการณ์ที่จะจำไปตลอดชีวิต