แฟนมาอยู่ที่บ้าน5ปี ถึงวัยที่พ่อแม่กดดันให้แต่งงาน แต่แฟนไม่ช่วยออกค่าใช้จ่ายและไม่ช่วยทำงานบ้าน

คบกับแฟนมา5ปีกว่า เค้าย้ายมาอยู่ที่บ้านเราตั้งแต่ปีแรก ปกติไม่มีปัญหาทะเลาะกันรุนแรงเลย แต่ในใจเราเริ่มสะสมปัญหาเล็กๆมาเรื่อยๆจนมันเริ่มใหญ่แล้วค่ะ จะบอกว่าเป็นโพสระบายความในใจก็ได้ค่ะ แต่อยากได้ความเห็นจากทุกคนด้วย เริ่มจากส่วนที่เค้าออกมาตลอดเลยคือ
เค้าช่วยจ่ายค่าไฟเดือนละ1000บาท (ซึ่งเท่ากับค่าไฟหารด้วยจำนวนคนในบ้าน)
ให้ค่าขนมเรา500บาทต่อเดือน
ค่าน้ำมันเวลาออกไปกินข้าว,เที่ยวในเมือง (ขับรถ10-30นาที) ถ้าไปเที่ยวตจวหารสอง

ค่าข้าวเค้าจะหารสองให้ตลอดทุกบาททุกสตางค์ ถ้าเค้าออกเค้าจะจดตลอด แต่ถ้าเราออกไปก่อนเค้าจะมีลืมจดบ้าง (ซึ่งเราไม่ได้ซีเรียสเรื่องหารสองเท่าไหร่ แต่เราไม่ชอบทวงตังใครเลย)
เลี้ยงข้าวเราแค่วันสำคัญคือวันเกิดกับวันครบรอบ ปีนึงไม่เกินสองครั้ง
เค้าไปไหนซื้อข้าว,ขนมน้ำกลับมาฝากเราแบบนับครั้งได้ปีนึงไม่เกิน10ครั้ง รวมที่ซื้อมาง้อเวลาเรางอนด้วย
เวลาไปห้างด้วยกัน เราซื้อขนมมาฝากที่บ้าน เค้ากินด้วย เราไปตลาดซื้อผลไม้,อาหารทะเลมากินกับที่บ้าน เค้าก็กินด้วยแต่ไม่ช่วยออก
เค้าจะช่วยมื้อพิเศษบางครั้งที่พี่สาวเราจ่าย กับเวลาไปเที่ยวแล้วตั้งใจซื้อของฝากที่บ้าน หารสอง

ค่าใช้จ่ายในบ้านส่วนกลางจะเป็นพี่สาวกับเราเอง (อาหารสด,เครื่องปรุง,อุปกรณ์ทำความสะอาด,อื่นๆ)
แต่ของใช้ส่วนตัว ของห้องเราสองคน เราเป็นคนออกคนเดียว เพราะเราสั่งของออนไลน์มาตลอด
ทั้งสบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน แชมพู เราเข้าใจว่าเค้าคงเลือกซื้อให้ไม่ถูก แต่เค้าไม่เคยเอ่ยปากจะช่วยออกอะไรเลย
เวลามีของอะไรหมด จะแค่บอกเราว่าหมดแล้วนะ เฉยๆและรอให้เราซื้อเข้ามา
เหตุการณ์ล่าสุดคือเราพึ่งแยกสบู่กันใช้ เราซื้อแบบแก้ผื่นคันมา เค้าใช้อันเก่าจนหมด เค้าก็บอกเราเหมือนเดิม เราบอกให้ไปซื้อเอง เค้าก็อิดออดบอกลืมซื้อแล้วใช้ของเรามาอีกเกือบอาทิตย์ จนซื้อมาได้

ที่บ้านมีแม่บ้าน มาไม่ทุกวันและไม่ได้ทำทุกอย่าง งานที่เหลือจะเป็นแม่และเรา แฟนเราปกติไม่ทำงานบ้านและไม่เคยช่วยออกค่าแม่บ้านด้วย
แฟนเราจะช่วยซ่อมของในบ้าน เจาะ แขวน ล้างแอร์ เปลี่ยนหลอดไฟ ซึ่งบางครั้งลืมต้องเตือนแล้วเตือนอีก เหมือนเราไปขอร้องรบกวนเค้าให้ช่วยทำ
ของที่เอามาเปลี่ยนมาซ่อมบางทีเค้าขับรถพาไปซื้อ แต่เราจ่ายคนเดียว เค้ามีหน้าที่เปลี่ยนให้
เสื้อผ้าของเค้า เราเป็นคนซักเอง ยกเว้นเสื้อขาวจะซักรวมกับผ้าปูที่นอนผ้าห่ม(ของเรา2คน)ที่ร้านซักอบหยอดเหรียญ ถ้างานยุ่งก็จะซักทั้งเสื้อเค้าทั้งหมดและผ้าปู ค่าซักอบแรกๆไปด้วยกันหารกัน หลังๆเราออกคนเดียว เพราะเราเอาไปซักตอนที่เค้าไปทำงาน กลับมาช่วยปูที่นอน แต่ไม่จ่ายตัง น้ำยาซักของที่บ้านที่เราซื้อเองอยู่แล้ว
บางครั้งเรางานยุ่งไม่ได้ซัก เค้าจะแค่พูดว่าเสื้อหมดแล้ว พรุ่งนี้ไม่มีอะไรจะใส่ พอถามไปซักร้านด้วยกันมั้ย เค้าก็บอกไม่เป็นไรใส่ซ้ำก็ได้
เสื้อผ้าก็จำนวนน้อยมากแรกๆที่คบกัน ต้องซักบ่อย เพราะเค้าไม่ค่อยซื้อ จนเราต้องซื้อเป็นของขวัญให้ในวันสำคัญ
มีดโกนหนวดตอนแรกเราก็ซื้อให้เป็นของขวัญ ใช้ไปจนหมดใบมีดที่เปลี่ยนได้ ก็ไม่ซื้อเอง มาบอกเราว่าหมดแล้ว

ตอนคบกันแรกๆช่วงโควิดมาใหม่ๆ อยู่บ้านช่วยกันทำสวนปลูกผัก ซื้อต้นไม้เข้าบ้าน พอเค้าได้ทำงานประจำ เราทำสวนแต่งกิ่งอยู่คนเดียว ถามแล้วก็บอกว่าทำงานมาเหนื่อยอยากพักอยากทำอะไรที่อยากทำ เราก็โอเคถือว่าเป็นสิ่งที่เราอยากทำเองแล้วกัน
เคยซักรองเท้าให้เค้า1ครั้ง เอามาซักทุกคู่ตอนกลางวันพอตกเย็นฝนตกรองเท้าไม่แห้ง และรองเท้าที่เค้าใส่ไปทำงานก็เปียกด้วย เค้าหงุดหงิดว่าไม่มีรองเท้าใส่พรุ่งนี้ ไม่ขอบคุณเราสักคำ หลังจากนั้นเราไม่เคยซักรองเท้าให้อีกเลย จนตอนหลังเค้าเอาไปซักร้านเอง
เวลาเราไปทำงานถ้าเค้าว่างจะไปรับไปส่งที่สถานีรถไฟฟ้า แต่งานเราไปหลายที่และกลับดึก ส่วนใหญ่จะเรียกรถในแอพไปกลับเอง ถ้าไกลกว่ารถไฟฟ้า 90%เค้าจะไม่ไปรับส่งถึงแม้จะเป็นวันหยุดเค้า และถึงจะเป็นตี3-4 ที่กลับคนเดียวก็ตาม เราเคยรีบจะไปทำงานมากๆจนบอกให้เค้าไปส่งที่ทำงานหน่อยให้100 เค้าบอกว่าค่าทางด่วนยังไม่พอเลย อย่างน้อยก็ต้องเท่าในแอพ หลังจากนั้นเราเลี่ยงที่จะพูดให้เค้ามารับส่ง ให้เค้าพูดมาก่อนเอง
ค่าซ่อมบ้านเช่นประตูรั้วรีโมตกับที่จอดรถ เป็นความเห็นของที่บ้านเราว่าจะซ่อม แต่เค้าก็ไม่ได้พูดเรื่องค่าใช้จ่ายเลยสักนิดทั้งที่ใช้งานเยอะที่สุดคือรถเค้า

ภายนอกเค้าเป็นคนดีมาก พูดเพราะ อ่อนโยน ตั้งใจทำงาน ไม่มีปัญหาเรื่องเหล้า/บุหรี่/ผญเลย นอกจากเรื่องเงินแล้ว เคยมีปัญหาเรื่องอารมณ์ซึมเศร้านิดหน่อยแต่ตอนหลังดีขึ้นเยอะแล้ว เราเคยพยายามพูดเรื่องปัญหาการเงินนี้กับเค้านานแล้ว  เรื่องเค้าเลี้ยงข้าวเราปีละสองครั้งและไม่ค่อยซื้ออะไรมาฝาก เค้าร้องไห้ฟูมฟายปวดหัวเวียนหัวดราม่ารู้สึกผิดที่เป็นแฟนที่แย่ เราก็รู้สึกแย่กับผลลัพธ์จากที่เราพูดความในใจ หลังจากนั้นเหมือนเดิมทุกอย่าง จนเราไม่อยากพูดความในใจออกมาเพราะไม่อยากเจอดราม่า เหนื่อยที่จะทะเลาะ ไม่อยากที่จะมาต้องปลอบเค้าอีก เคยอยากห่างกันสักพักให้เค้ากลับบ้านแต่เค้าก็ร้องไห้ไม่ยอมกลับ

เหตุการณ์ล่าสุดป่วยพร้อมกันเจ็บคอเหมือนกัน เราพยายามกินยาที่มีที่บ้านไปก่อนแบ่งกันกิน อีกวันอาการไม่ดีขึ้นออกไปทำงานทั้งคู่ ขากลับเค้าซื้อยาจากเภสัชมากินคนเดียว ไม่ได้ถามอาการเราด้วยซ้ำ นึกว่าเรามียากินที่บ้านแล้ว

เงินเดือนเค้าได้ปานกลางและคงที่ ส่วนเราทำงานเป็นจ๊อบที่ดูจากคนนอกน่าจะได้มากกว่าเค้า แต่เราไม่ได้มีงานตลอด
ฝั่งครอบครัวทั้งคู่เคยเจอกันหลายครั้ง มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน คอยถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน ทั้งสองบ้านมีผู้สูงวัย อยากให้รีบทำพิธีแต่ง อยู่ด้วยกันมาขนาดนี้แล้ว ตอนนี้เราไม่มั่นใจเลยค่ะ อยากได้ความคิดเห็นจากทุกคนเราควรจะทำยังไงต่อไปดีคะ  ขอบคุณทุกคนล่วงหน้าค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่