4 อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ควรกินคู่กับ "ถั่วลิสง" เสี่ยงทำลายสุขภาพ ข้อ 2 คนไทยชอบทำกันมาก
หลายคนมีนิสัยชอบดื่มเบียร์คู่กับถั่วลิสงคั่วโดยไม่รู้ว่า การรวมกันนี้อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อสุขภาพได้
ถั่วลิสง (หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ถั่วแห่งอายุยืน") เป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งโปรตีน กรดไขมันไม่อิ่มตัว วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจ กล้ามเนื้อ และสมอง
แต่การจับคู่ถั่วลิสงกับอาหารบางชนิดที่ไม่เข้ากัน อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดูดซึมสารอาหาร เพิ่มภาระให้ระบบย่อยอาหาร หรือแม้แต่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้
อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ควรรับประทานคู่กับถั่วลิสง
1. อาหารที่มีไขมันสูง
ถั่วลิสงมีไขมันสูงอยู่แล้ว หากรับประทานร่วมกับอาหารไขมันสูงอื่นๆ เช่น เนื้อติดมัน หรือของทอด จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับถุงน้ำดีและตับอ่อนอย่างมาก
สำหรับผู้ที่มีภาวะนิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีอักเสบ หรือตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง การรวมกันนี้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดท้องเฉียบพลัน และทำให้อาการป่วยทรุดลงได้ง่าย
1. อาหารที่มีไขมันสูง
ถั่วลิสงมีไขมันสูงอยู่แล้ว หากรับประทานร่วมกับอาหารไขมันสูงอื่นๆ เช่น เนื้อติดมัน หรือของทอด จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับถุงน้ำดีและตับอ่อนอย่างมาก
สำหรับผู้ที่มีภาวะนิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีอักเสบ หรือตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง การรวมกันนี้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดท้องเฉียบพลัน และทำให้อาการป่วยทรุดลงได้ง่าย
2. เบียร์
บนโต๊ะอาหารหลายคนมักมีถั่วลิสงคั่วเกลือคู่กับเบียร์เย็นๆ แต่เกลือในถั่วลิสงร่วมกับเบียร์ อาจทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำได้
ยิ่งไปกว่านั้น การผสมผสานระหว่างอาหารร้อนและเย็น อาหารมันเยิ้ม (ถั่วลิสง) และเครื่องดื่มเย็น (เบียร์) ในกระเพาะอาหารและลำไส้ สามารถกระตุ้นทางเดินอาหารได้ นำไปสู่ภาวะอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องร่วง
3. แตงกวา
หลายครอบครัวอาจเคยรับประทานแตงกวาคู่กับถั่วลิสงในฤดูร้อน แต่การผสมผสานนี้ไม่เป็นไปตามหลักโภชนาการ แตงกวามีรสหวานและมีฤทธิ์เย็น (ตามศาสตร์แพทย์จีน) ในขณะที่ถั่วลิสงมีไขมันสูง
การรวมอาหารที่มีฤทธิ์เย็นเข้ากับอาหารที่มีไขมันสูง อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ จึงไม่เหมาะที่จะรับประทานร่วมกัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีระบบทางเดินอาหารไม่ดี
4. ปู
ปูเป็นอาหารทะเลที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่หากรับประทานปูคู่กับถั่วลิสง อาจนำไปสู่อาการท้องร่วงได้ เนื่องจากทั้งปูและถั่วลิสงต่างก็เป็นอาหารที่มี "ฤทธิ์เย็น" (Cold nature) ตามศาสตร์จีน
กลุ่มคนที่ควรระมัดระวังในการรับประทานถั่วลิสง
นอกเหนือจากการหลีกเลี่ยงการจับคู่อาหารที่ไม่เหมาะสมแล้ว กลุ่มบุคคลต่อไปนี้ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการบริโภคถั่วลิสง:
ผู้ป่วยโรคเกาต์: ถั่วลิสงมีปริมาณพิวรีนในระดับปานกลางถึงสูง ซึ่งอาจเพิ่มความเข้มข้นของกรดยูริกในร่างกาย และกระตุ้นให้เกิดโรคเกาต์เฉียบพลันตามข้อต่อได้
ผู้มีปัญหาถุงน้ำดี: ถั่วลิสงมีไขมันสูงและต้องใช้ดี (Bile) ในการย่อย ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดถุงน้ำดีออกไปแล้ว หรือมีภาวะถุงน้ำดีอักเสบ อาจไม่สามารถจัดการกับไขมันได้ดี การรับประทานถั่วลิสงจะทำให้อาการกำเริบ
ผู้ป่วยแผลในกระเพาะอาหาร/กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง: ถั่วลิสงย่อยยากและไขมันในถั่วอาจกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องและกรดไหลย้อนแย่ลง
ผู้ที่มีอาการแพ้: ถั่วลิสงเป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยที่สุด ในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้เกิดอาการบวมที่คอ (บวมน้ำในกล่องเสียง) ภาวะช็อก และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก: ถั่วลิสงมีปริมาณแคลอรี่สูง ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจึงควรบริโภคในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น
การทำความเข้าใจคุณสมบัติของถั่วลิสงและการจับคู่กับอาหารต่างๆ อย่างถูกต้อง จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก "ถั่วแห่งอายุยืน" นี้ และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพโดยรวมได้
ที่มา :
https://www.sanook.com/news/9857834/
4 อาหาร-เครื่องดื่ม ที่ไม่ควรกินคู่กับ "ถั่วลิสง" แต่ข้อ 2 คนไทยชอบทำกันมาก
4 อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ควรกินคู่กับ "ถั่วลิสง" เสี่ยงทำลายสุขภาพ ข้อ 2 คนไทยชอบทำกันมาก
หลายคนมีนิสัยชอบดื่มเบียร์คู่กับถั่วลิสงคั่วโดยไม่รู้ว่า การรวมกันนี้อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อสุขภาพได้
ถั่วลิสง (หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ถั่วแห่งอายุยืน") เป็นแหล่งอาหารที่อุดมด้วยคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งโปรตีน กรดไขมันไม่อิ่มตัว วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจ กล้ามเนื้อ และสมอง
แต่การจับคู่ถั่วลิสงกับอาหารบางชนิดที่ไม่เข้ากัน อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดูดซึมสารอาหาร เพิ่มภาระให้ระบบย่อยอาหาร หรือแม้แต่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้
อาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ควรรับประทานคู่กับถั่วลิสง
1. อาหารที่มีไขมันสูง
ถั่วลิสงมีไขมันสูงอยู่แล้ว หากรับประทานร่วมกับอาหารไขมันสูงอื่นๆ เช่น เนื้อติดมัน หรือของทอด จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับถุงน้ำดีและตับอ่อนอย่างมาก
สำหรับผู้ที่มีภาวะนิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีอักเสบ หรือตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง การรวมกันนี้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดท้องเฉียบพลัน และทำให้อาการป่วยทรุดลงได้ง่าย
1. อาหารที่มีไขมันสูง
ถั่วลิสงมีไขมันสูงอยู่แล้ว หากรับประทานร่วมกับอาหารไขมันสูงอื่นๆ เช่น เนื้อติดมัน หรือของทอด จะเป็นการเพิ่มภาระให้กับถุงน้ำดีและตับอ่อนอย่างมาก
สำหรับผู้ที่มีภาวะนิ่วในถุงน้ำดี ถุงน้ำดีอักเสบ หรือตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง การรวมกันนี้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดท้องเฉียบพลัน และทำให้อาการป่วยทรุดลงได้ง่าย
2. เบียร์
บนโต๊ะอาหารหลายคนมักมีถั่วลิสงคั่วเกลือคู่กับเบียร์เย็นๆ แต่เกลือในถั่วลิสงร่วมกับเบียร์ อาจทำให้ร่างกายอยู่ในภาวะขาดน้ำได้
ยิ่งไปกว่านั้น การผสมผสานระหว่างอาหารร้อนและเย็น อาหารมันเยิ้ม (ถั่วลิสง) และเครื่องดื่มเย็น (เบียร์) ในกระเพาะอาหารและลำไส้ สามารถกระตุ้นทางเดินอาหารได้ นำไปสู่ภาวะอาหารไม่ย่อย ท้องอืด ท้องร่วง
3. แตงกวา
หลายครอบครัวอาจเคยรับประทานแตงกวาคู่กับถั่วลิสงในฤดูร้อน แต่การผสมผสานนี้ไม่เป็นไปตามหลักโภชนาการ แตงกวามีรสหวานและมีฤทธิ์เย็น (ตามศาสตร์แพทย์จีน) ในขณะที่ถั่วลิสงมีไขมันสูง
การรวมอาหารที่มีฤทธิ์เย็นเข้ากับอาหารที่มีไขมันสูง อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วงได้ จึงไม่เหมาะที่จะรับประทานร่วมกัน โดยเฉพาะในผู้ที่มีระบบทางเดินอาหารไม่ดี
4. ปู
ปูเป็นอาหารทะเลที่อร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่หากรับประทานปูคู่กับถั่วลิสง อาจนำไปสู่อาการท้องร่วงได้ เนื่องจากทั้งปูและถั่วลิสงต่างก็เป็นอาหารที่มี "ฤทธิ์เย็น" (Cold nature) ตามศาสตร์จีน
กลุ่มคนที่ควรระมัดระวังในการรับประทานถั่วลิสง
นอกเหนือจากการหลีกเลี่ยงการจับคู่อาหารที่ไม่เหมาะสมแล้ว กลุ่มบุคคลต่อไปนี้ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการบริโภคถั่วลิสง:
ผู้ป่วยโรคเกาต์: ถั่วลิสงมีปริมาณพิวรีนในระดับปานกลางถึงสูง ซึ่งอาจเพิ่มความเข้มข้นของกรดยูริกในร่างกาย และกระตุ้นให้เกิดโรคเกาต์เฉียบพลันตามข้อต่อได้
ผู้มีปัญหาถุงน้ำดี: ถั่วลิสงมีไขมันสูงและต้องใช้ดี (Bile) ในการย่อย ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดถุงน้ำดีออกไปแล้ว หรือมีภาวะถุงน้ำดีอักเสบ อาจไม่สามารถจัดการกับไขมันได้ดี การรับประทานถั่วลิสงจะทำให้อาการกำเริบ
ผู้ป่วยแผลในกระเพาะอาหาร/กระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง: ถั่วลิสงย่อยยากและไขมันในถั่วอาจกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องและกรดไหลย้อนแย่ลง
ผู้ที่มีอาการแพ้: ถั่วลิสงเป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ที่พบบ่อยที่สุด ในกรณีที่รุนแรง อาจทำให้เกิดอาการบวมที่คอ (บวมน้ำในกล่องเสียง) ภาวะช็อก และเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก: ถั่วลิสงมีปริมาณแคลอรี่สูง ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจึงควรบริโภคในปริมาณที่จำกัดเท่านั้น
การทำความเข้าใจคุณสมบัติของถั่วลิสงและการจับคู่กับอาหารต่างๆ อย่างถูกต้อง จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดจาก "ถั่วแห่งอายุยืน" นี้ และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่อระบบย่อยอาหารและสุขภาพโดยรวมได้
ที่มา : https://www.sanook.com/news/9857834/